รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 389 ขออภัย เจ้าปรากฏตัวขึ้นในเวลาไม่เหมาะสม

บทที่ 389 ขออภัย เจ้าปรากฏตัวขึ้นในเวลาไม่เหมาะสม

บทที่ 389 ขออภัย เจ้าปรากฏตัวขึ้นในเวลาไม่เหมาะสม

สิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกเมืองปุถุชนที่หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าล้วนต้องเกี่ยวข้องกับเขา

หัวใจของสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนหล่นวูบ พวกเขาคิดว่าตนเองประเมินหลี่จิ่วเต้าไว้สูงมากแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับปรากฏว่าพวกเขายังคงประเมินหลี่จิ่วเต้าต่ำไป

เครือข่ายข่าวสารระดับสามนั้นยังไม่เพียงพอที่จะสืบสวนหลี่จิ่วเต้า

หากต้องการจะตรวจสอบหลี่จิ่วเต้าอย่างละเอียดต้องใช้เครือข่ายข่าวสารระดับสี่เป็นอย่างน้อย หรือกระทั่ง…ใช้เครือข่ายข่าวสารระดับห้า!

‘ไร้สาระ จะใช้เครือข่ายข่าวสารระดับห้าได้อย่างไร! เครือข่ายข่าวสารระดับห้าถูกตระเตรียมไว้สำหรับสถานที่แห่งนั้น ไม่เคยใช้งานมาก่อน!’

เมื่อนึกถึงเครือข่ายข่าวสารระดับห้า เขาก็ปฏิเสธขึ้นมาในใจทันที

เครือข่ายข่าวสารระดับห้าคือเครือข่ายข่าวสารระดับสูงสุด สมาชิกภายในนั้นล้วนแต่มีความสามารถลึกล้ำยากหยั่งถึง

สามารถพูดได้เลยว่ากองกำลังฮวงเฉวียนไม่เคยเรียกใช้เครือข่ายข่าวสารระดับห้ามาก่อนตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง

เครือข่ายข่าวสารระดับห้าถูกสงวนเก็บไว้ใช้สำหรับอนาคต

แม้กระทั่งเครือข่ายข่าวสารระดับสี่ พวกเขาเองก็เรียกใช้น้อยครั้งได้ ขอบเขตงานที่เครือข่ายข่าวสารระดับสี่ทำได้นั้นสูงเกินไป น้อยครั้งที่พวกเขาจะรับงานถึงขั้นนั้น

ขณะที่เขากำลังขบคิดสิ่งต่าง ๆ ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาด้วยความเงียบงัน

ต้นหลิวหนึ่งต้นกับก้อนหินหนึ่งก้อน?

พวกมันเป็นคนย้ายเขาเข้ามาในมิติพิเศษหรือ?

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนผู้นั้นคิดขึ้นมาในใจ

“เจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงปลอมตัวเป็นปุถุชนเข้าเมือง?”

ต้นหลิวกล่าวออกมา

ในช่วงที่ผ่านมานี้ มีผู้ประสงค์ร้ายต้องการจะเข้าไปในเมืองชิงซาน ทั้งยังกล้ามุ่งเป้าไปที่ท่านเซียนอย่างไม่รู้จักกลัวตาย จึงถูกมันและเจ้าก้อนหินสังหารทิ้ง

ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น ผู้ฝึกตนท่าทางแปลก ๆ ที่ต้องการเข้าไปในเมืองชิงซานล้วนถูกพวกมันหยุดเอาไว้แล้วตรวจสอบอย่างละเอียด

“ปลอมตัว? ข้าน่ะหรือ?”

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนหัวเราะเบา ๆ “ข้าเพียงแค่เก็บลมปราณเข้าไป จะนับว่าปลอมตัวเป็นปุถุชนได้อย่างไร”

เขาไม่รู้ว่าด้านนอกเมืองชิงซานมีต้นหลิวและก้อนหินเช่นนี้อยู่ ไม่เคยได้รับข่าวคราวเรื่องนี้มาแม้แต่น้อย

จักรพรรดิหานเองก็ไม่รู้เรื่องนี้

พวกหานอู่หยาล้วนถูกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินสังหารทิ้งไปแล้ว ข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันจึงไม่เล็ดรอดออกมา

หากสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนผู้นี้รู้เรื่องราวมาก่อนหน้า คงจะต้องตรวจสอบต้นหลิวและเจ้าก้อนหินก่อนเป็นอย่างแรก ไม่มีทางเผชิญหน้าอย่างไร้การตั้งตัวเช่นนี้

นี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมการตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ

หากสามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดล่วงหน้า จะสามารถหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน และควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้

ตอนนี้สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนกำลังเผชิญผลร้ายจากการไม่รู้ข้อมูล ยังไม่ทันจะได้ตรวจสอบอะไรหลี่จิ่วเต้า เขาก็ถูกต้นหลิวและเจ้าก้อนหินหยุดเอาไว้เสียแล้ว

เขาได้แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาของต้นหลิวว่าแสร้งปลอมตัวเป็นปุถุชน เพื่อไม่ให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย

หากตัวตนของเขาถูกเปิดเผย เขาคงไร้หนทางรอด

หลี่จิ่วเต้าอาศัยอยู่ในเมืองปุถุชนแห่งนี้ ส่วนต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคอยปกป้องอยู่ด้านนอกเมือง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลี่จิ่วเต้าจะต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน

“เจ้ากำลังหลอกใครอยู่?”

เจ้าก้อนหินโพล่งขึ้นมา “เก็บลมปราณมันต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรืออย่างไร? ถึงกับต้องให้อาวุธวิเศษต่าง ๆ ปิดผนึกมันเอาไว้?“

หลังจากสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนได้ยินสิ่งที่เจ้าก้อนหินพูด หัวใจก็จมดิ่งลงไปทันที

มองออกหมดเลยหรือ?

สวรรค์! ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินอยู่ขอบเขตใดกันแน่!?

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว ต่อหน้าต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน เขาถูกมองผ่านจนทะลุปรุโปร่ง!

“เฮ้อ กล่าวด้วยความสัตย์จริงแล้ว ข้าแสร้งปลอมตัวเป็นปุถุชน เนื่องจากตอนนี้ข้ากำลังถูกไล่สังหาร จึงต้องใช้สมบัติอาวุธวิเศษต่าง ๆ เพื่อปกปิดหลบซ่อนพวกที่ไล่ตามข้ามา”

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนผู้นี้สงบนิ่งเป็นอย่างมาก ไม่แสดงอาการตื่นตระหนกใด ๆ ซ้ำยังแสร้งถอนหายใจแล้วเอ่ยเล่าออกมา พยายามใช้ข้ออ้างว่าหลบหนีการไล่ล่ามาหลอกต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน

เขาไม่กล้าและไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ถ้าหากถูกเปิดเผยเมื่อไร เขาย่อมต้องตายสถานเดียว

“จริงหรือ?”

เจ้าก้อนหินส่งเสียงถามด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก มันไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่คนจากกองกำลังฮวงเฉวียนเล่านัก

หากเป็นก่อนหน้านี้มันคงไม่สงสัยขนาดนี้ และปล่อยคนให้เข้าเมืองไป

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ต่างออกไป

ก่อนหน้านี้พวกมันเพิ่งสังหารเหล่าผู้ที่มุ่งเป้าใส่ท่านเซียน หลังจากผ่านมาไม่นาน ก็พบกับคนที่จงใจแสร้งปลอมเป็นปุถุชนเพื่อเข้าเมือง มันจะไม่เกิดความสงสัยได้อย่างไร?

“ไล่สังหาร?”

น้ำเสียงของต้นหลิวเองก็มีความสงสัยเป็นอย่างมาก

มันเองก็ไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่คนผู้นี้พูด

จะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า?

ถูกคนไล่สังหาร จนบังเอิญหนีเข้าไปในเมืองที่ท่านเซียนอยู่เช่นนั้นหรือ?

มันกลับยิ่งรู้สึกได้เสียด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มที่มันเคยสังหารไป ส่วนคนผู้นี้แสร้งปลอมเป็นปุถุชนหลอกพวกมันเพื่อที่จะได้เข้าเมือง

“เป็นเรื่องจริง มิเช่นนั้นข้าจะอยากเข้าไปในเมืองปุถุชนทำไมกัน!”

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนพูดขึ้นมาร้องหาความเป็นธรรม “ถ้าหากข้าไม่ได้ถูกไล่ล่าสังหาร เหตุใดข้าจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้ด้วย? ไม่มีความจำเป็นอันใดต้องทำเช่นนี้เลย!”

“ขออภัย เจ้าปรากฏตัวขึ้นในเวลาไม่เหมาะสม ก่อนหน้านี้พวกเราเพิ่งสังหารคนกลุ่มหนึ่งมาด้วยเจตนาร้าย หลังจากนั้นเจ้าก็มาถึง นับได้ว่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง”

ต้นหลิวกล่าว “ถ้าเช่นนั้น เจ้าก็แค่เปิดเผยจิตวิญญาณออกมาบางส่วนให้พวกเราตรวจสอบว่าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง”

“หากเจ้าเปิดเผยจิตวิญญาณออกมาแล้วพิสูจน์ได้ว่าทุกสิ่งที่เจ้าพูดเป็นความจริง พวกเราจะปล่อยเจ้าไป”

เจ้าก้อนหินกล่าวสมทบ

สมาชิกของกองกำลังฮวงเฉวียนรู้สึกหนักใจขึ้นมา

เขาจะเปิดเผยจิตวิญญาณออกมาได้อย่างไร?

หากทำเช่นนั้นตัวตนของเขาจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน!

หากแต่เห็นได้ชัดว่าต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินรับมือได้ยาก เขาอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้เสียด้วยซ้ำ หากไม่แสดงจิตวิญญาณออกมาให้ตรวจสอบ พวกมันจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน!

ตระกูลหานช่างสมควรตาย พวกมันคงทำอะไรมุทะลุไม่สนใจตรวจสอบสถานการณ์ก่อนลงมือ ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า แม้แต่เขายังติดร่างแหไปด้วย อาจจบสิ้นลงที่นี่!

เขาก่นด่าสาปแช่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ หากไม่ใช่ตระกูลหานลงมือไปก่อนหน้าพวกเขา ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินคงไม่ระมัดระวังตัวขนาดนี้ เขาเองก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

จักรพรรดิหานอธิบายเพียงแค่เหล่าคนที่เขาส่งมา ล้วนสิ้นชีพหมดไม่มีผู้ใดรอดกลับมา

ตอนนี้ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะถูกสังหารโดยต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน!

‘ข้อมูล ไม่ว่าเวลาไหนสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือข้อมูล! ทว่าพวกเจ้ากลับโง่งม ไม่หาข้อมูลให้กระจ่างค่อยลงมือ สมควรตายเสียให้หมด!’

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ภายในใจของเขาสาปแช่งยกใหญ่ไม่หยุด

‘มีเพียงแต่ต้องลอง มาดูกันว่าจะรอดไปได้หรือไม่!’

เขารีบสงบอารมณ์ลง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาด่าสาปแช่งตระกูลหาน เขาต้องหาทางหลอกต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน

เขาเองก็ไม่ได้ไร้ฝีมือ สามารถวางแผนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

เขาตั้งใจนึกถึงฉากการถูกไล่สังหารขึ้นมาแล้วเพิ่มเข้าไปข้างในความทรงจำ หวังว่าจะสามารถใช้สิ่งนี้สร้างความสับสนและหลอกต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินได้

หากทำไม่สำเร็จ เขาคงได้แต่ต่อสู้สุดชีวิตกับต้นหลิวและเจ้าก้อนหินแล้ว

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท