รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 390 เด็ดขาดมาก คนผู้นี้มาจากที่ไหนกันแน่?

บทที่ 390 เด็ดขาดมาก คนผู้นี้มาจากที่ไหนกันแน่?

บทที่ 390 เด็ดขาดมาก คนผู้นี้มาจากที่ไหนกันแน่?

ลองดูว่าทำเช่นนี้จะรอดหรือไม่…

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนเริ่มเพ่งสมาธิ เพิ่มฉากการไล่ล่าสังหารลงไปในความทรงจำ เขาไม่ได้จินตนาการมันขึ้นมาจากอากาศ แต่นำมาจากประสบการณ์ที่เขาถูกตามล่าสังหารมาก่อน

ทว่าประสบการณ์ครั้งนั้นอยู่ในช่วงสมัยโบราณซึ่งห่างไกลเกินไป ไม่สามารถนำมันออกมาแสดงให้ดูโดยตรงได้ ความแตกต่างระหว่างสภาพแวดล้อมมีมากเกินไป ทันทีที่แสดงออกไปจะต้องถูกมองออกได้อย่างแน่นอน

ยิ่งกับต้นหลิวแล้วเจ้าก้อนหินที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ เขาไม่เชื่อว่าพวกมันจะสามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้ในยุคปัจจุบัน ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินน่าจะคงอยู่มานานมากแล้ว อย่างน้อยก็เคยผ่านสมัยโบราณ

แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฝึกฝนจนถึงขอบเขตสูงขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของยุคปัจจุบัน

เกรงว่าแม้กระทั่งกองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

กองกำลังระดับสูงของกองกำลังฮวงเฉวียนในปัจจุบัน ล้วนสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคโบราณกาลหรืออาจเก่าแก่กว่านั้น

เขารู้ดีว่าไม่สามารถแสดงความทรงจำช่วงที่ถูกสังหารในสมัยโบราณออกมาโดยตรง จึงปรับเปลี่ยนความทรงจำให้รอบด้านกลายเป็นยุคปัจจุบันจนยากจะแยกแยะว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ

“ในเมื่อสหายเต๋าทั้งสองท่านยืนกราน ข้าก็จะแสดงส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณให้ทั้งสองท่านได้ตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า”

เขากล่าวออกมาพร้อมแสดงความทรงจำที่ถูกปรับเปลี่ยนแล้ว

จริงเท็จยากแยกแยะ โอกาสจะทำสำเร็จมีอยู่สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเขาที่ขัดเกลาในด้านจิตวิญญาณมากจนแข็งแกร่งเหนือยิ่งกว่าขั้นมหาจักรพรรดิ อาจเทียบได้กับขั้นตี้หวงเสียด้วยซ้ำ

ยกเว้นเสียแต่ต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะมีขอบเขตสูงยิ่งกว่านั้น เขาจะไม่ถูกจับผิดได้

ทว่าเมื่อเขาเปิดเผยจิตวิญญาณที่มีความทรงจำที่ถูกปรับแต่ง ต้นหลิวก็โจมตีเขาจนกระเด็นทันที

“เจ้า!”

เขาที่โดนต้นหลิวโจมตีอย่างกะทันหันร้องออกมาด้วยความโกรธ

หรือว่าเขาจะถูกค้นพบ?

เป็นไปได้ไหมว่าขอบเขตของต้นหลิวและเจ้าก้อนหินจะสูงกว่าเขามาก อาจเป็นถึงขั้นตี้จวิน?

จริงผสมเท็จ เว้นแต่ตี้จินขึ้นไปที่สามารถตรวจพบกลอุบายได้อย่างง่ายดาย กระทั่งตี้หวงยังไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำหลายครั้ง

ความเย็นเยียบเกาะกุมหัวใจเขา หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เกรงว่าเขาจะต้องจบสิ้นลงที่นี่!

“ช่างกล้ากล่าวว่าพิสูจน์ความบริสุทธิ์!?”

ต้นหลิวตวาดออกมา “ใช้ความทรงจำปลอมมาหลอกพวกเรา เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่!?”

บริสุทธิ์ใจแล้วจะปลอมแปลงทำไม?

คนผู้นี้จะต้องไม่มาดีอย่างแน่นอน!

“ตายเสีย!”

เมื่อเรื่องราวเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็รู้แจ้งดีว่าไร้ประโยชน์จะกล่าวสิ่งใดอีก สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนผู้นี้จึงลงมือหมายสังหารต้นหลินและเจ้าก้อนหิน

เขาเก่งกาจในด้านการลอบสังหาร ร่างของเขาเลือนหายไปจากที่ตรงนั้นทันทีโดยไม่มีลมปราณเล็ดรอด

ทักษะการลอบสังหารเป็นทักษะที่กองกำลังฮวงเฉวียนเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก มีผู้แข็งแกร่งไม่รู้จำนวนเท่าใดที่สิ้นชีพด้วยการลอบสังหาร

โดยปกติแล้ว ทักษะการลอบสังหารของเขาสามารถต่อกรกับตี้หวงได้ และอาจถึงขนาดสังหารตี้หวงได้

น่าเสียดาย ที่เขาโชคร้ายมาพบกับต้นหลิวและก้อนหิน

ร่างของเขาหายตัวไป กระทั่งลมปราณก็ถูกซ่อน ทว่ากิ่งต้นหลิวกลับสามารถตามติดได้ราวกับเงา แทงทะลุหน้าอกเขาก่อนกระชากร่างของเขาออกมาจากความว่างเปล่าในทันที!

ตึง!

ก่อนที่ร่างของเขาจะทันได้ร่วงถึงพื้น เจ้าก้อนหินก็พุ่งกระแทกทำให้ร่างครึ่งหนึ่งแหลกทันที ร่างกายของมหาจักรพรรดิกลับดูเปราะบางประหนึ่งแก้ว

ขอบเขตมหาจักรพรรดิจะต้องสมบูรณ์ในทุกด้านทั้งหทัยเต๋า จิตวิญญาณ และร่างกาย

หากขาดสิ่งใดไปย่อมไม่อาจขึ้นเป็นมหาจักรพรรดิได้

ดังนั้นแล้ว ร่างกายของเขาเป็นขั้นมหาจักรพรรดิเช่นกัน ทว่ากลับไม่อาจต้านทานเจ้าก้อนหินได้แม้แต่น้อย มีความต่างชั้นมากเกินไป!

“บอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่? เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มที่มาก่อนหน้านี้!”

ต้นหลิวคาดคั้น กิ่งโบกพลิ้วไหวฉายภาพของพวกหานอู่หยาออกมา

“ข้า…”

สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนเอ่ยออกมา

แต่ระหว่างนั้นเอง ท่ามกลางความคาดไม่ถึงของต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน ร่างของสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนพลันลุกติดไฟขึ้นมาในทันที!

เปลวเพลิงสีดำลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง พริบตาต่อมาร่างของสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนก็ถูกเผาจนมอดไหม้ ไม่เหลือแม้กระทั่งวิญญาณ

นี่คือข้อห้ามซึ่งสลักเอาไว้ในร่างกายสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนทุกคน ใช้สำหรับฆ่าตัวตายในสถานการณ์ที่ไม่อาจพลิกพลันได้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลขององค์ฮวงเฉวียนรั่วไหลออกไป

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา แม้กระทั่งต้นหลิวและเจ้าก้อนหินก็ไม่ทันตั้งตัว กว่าพวกเขาจะตอบสนองได้สมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนผู้นั้นก็สิ้นชีพไปแล้ว

เหตุผลหลักเลยคือพวกมันไม่คาดคิดว่าสมาชิกกองกำลังฮวงเฉวียนจะเด็ดขาดเพียงนี้ ถึงขนาดเลือกจะฆ่าตัวตายโดยไม่มีความลังเล!

“จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มก่อนหน้าแน่!”

เจ้าก้อนหินกล่าว

“ใครกันที่กล้ามุ่งเป้าไปที่ท่านเซียน? คนกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา ข้ากับเจ้าจะต้องคอยระวังอยู่เสมอ!”

ต้นหลิวกล่าวออกมาอย่างจริงจัง

หลังจากนั้นพวกมันก็สลายมิติพิเศษ และคอยคุ้มกันเมืองชิงซานด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

ยอดเขาโดดเดี่ยวสูงตระหง่าอันเป็นที่ตั้งตำหนักแห่งหนึ่งของกองกำลังฮวงเฉวียน

“จ้าวตำหนักเก้า หนานเจี๋ยตายแล้ว…”

มีผู้หนึ่งเข้ามารายงานต่อจ้าวตำหนักเก้า

จ้าวตำหนักเก้าเป็นผู้ดูแลจัดการตำหนักแห่งนี้ ทั้งยังเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในงานครั้งนี้

“หนานเจี๋ยตายแล้วงั้นหรือ?”

หลังจากได้ยินคำรายงาน จ้าวตำหนักเก้าก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

หนานเจี๋ยเป็นสมาชิกที่โดดเด่นที่สุดในเครือข่ายข่าวสารระดับที่สาม เคยทำงานยากมากมายให้กับกองกำลังฮวงเฉวียน ข้อมูลที่สามารถละเอียดครอบคลุม ไม่มีข้อบกพร่อง ทั้งยังไม่เคยลงมือพลาดสักครั้ง

เหตุใดจึงตายลงไปอย่างรวดเร็ว?

“คนอื่นล่ะ?”

เขารีบถามออกมา

“คนที่เหลือต่างยังคงไม่เป็นอะไร กำลังปะปนเข้าไปอยู่ใกล้คนเหล่านั้นเพื่อสืบหาข้อมูล แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้ข่าวคราวอะไร แต่ถ้าสามารถแทรกซึมลึกเข้าไปได้ น่าจะพบบางสิ่ง”

คนผู้นั้นรายงาน

“เป้าหมายที่หนานเจี๋ยรับผิดชอบคือผู้ใด?”

จ้าวตำหนักเก้าถาม

“หลี่จิ่วเต้า เขาถูกสงสัยว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในหมู่คนเหล่านั้น ดังนั้นหนานเจี๋ยจึงรับผิดขอบในการสืบสวนเขา”

คนผู้นั้นตอบกลับ

“ดูเหมือนว่าหลี่จิ่วเต้าผู้นี้จะรับมือยากกว่าที่พวกเราคิดไว้…”

จ้าวตำหนักเก้าหรี่ตาลงพร้อมกล่าวออกมา “เรียกให้คนที่เหลือกลับมา หนานเจี๋ยตายไปแล้ว หากคนอื่น ๆ ไม่กลับมาตอนนี้ก็จะไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว”

หนานเจี๋ยที่เก่งที่สุดยังสิ้นชีพลง คนอื่น ๆ จะยังคงหลบซ่อนตัวได้อย่างไร?

อย่างที่เขาได้กล่าวเอาไว้ หากไม่กลับมาตอนนี้ ก็จะไม่สามารถกลับมาได้อีกแล้ว คงพากันตายหมดที่นั่น

“ไม่มีงานใดที่กองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเราทำไม่ได้!”

จ้าวตำหนักเก้าเค้นเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาหนึ่งคำ “เปลี่ยนคน เปลี่ยนให้คนจากเครือข่ายข่าวสารระดับที่สี่ไป!”

เขาวางแผนจะปลุกเครือข่ายข่าวสารระดับสี่ขึ้นมา!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท