ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 407 โกลาหล(กลาง)

ตอนที่ 407 โกลาหล(กลาง)

ทาง​ด้าน​สือ​อี​เหนียง​ ​ทุกวันนี้​นาง​ยังคง​ไร้​เรี่ยวแรง​ ​มี​เพียง​การกิน​และ​การ​นอน​ ​ไม่มีเวลา​มา​ห่วง​กังวล​00​เรื่อง​ใด​ ​ไท่ฮู​หยิน​ปรึกษา​กับ​ป้า​ตู้​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​ปีนี​้​ไม่ต้อง​มี​การแสดง​งิ้ว​แล้ว​ ​แค่​เชิญ​อาจารย์​หญิง​สอง​สาม​คน​มา​เล่านิทาน​ก็​พอแล้ว​ ​เด็ก​ๆ​ ​จะ​ได้​ไม่​ตื่นตระหนก​”

“​เป็นความ​คิด​ที่​ดีเจ​้า​ค่ะ​”​ ​แต่​ป้า​ตู้​กลับ​กังวล​เรื่อง​อื่น​ ​“​เพียงแต่ว่า​ทาง​ด้านฮู​หยิน​สี่​ ​เมื่อถึง​เวลา​แล้ว​ไม่ได้​มาร​่ว​มงาน​ ​ต้อง​คิด​หา​ข้ออ้าง​เตรียม​ไว้​ให้​นาง​เจ้าค่ะ​”

“​มัน​ยาก​ตรงไหน​กัน​เล่า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พวกเรา​เชิญ​แค่​สกุล​ที่​ไปมาหาสู่​กัน​บ่อยๆ​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​บอก​ไป​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบาย​ ​หาก​พวก​นาง​เป็นห่วง​ก็​แค่​ให้​ไป​เยี่ยม​สักหน่อย​ ​เมื่อ​อาจารย์​เริ่ม​เล่านิทาน​แล้ว​ทุกคน​ก็​จะ​มารวม​ตัว​กันที่​โถง​เตี่ยน​ชุน​ ​นาง​ก็​จะ​ได้​พักผ่อน​ของ​นาง​ไป​ ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​อัน​ใด​”

ป้า​ตู้​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เชิญ​มา​แค่​งานเลี้ยง​ใน​วันที่​สาม​เดือน​สาม​วัน​เดียว​ ​ไป​ทานอาหาร​กลางวัน​ที่​ห้องโถง​บุปผา​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ฟัง​เรื่องเล่า​ ​เมื่อถึง​เวลา​จุด​โคมไฟ​ก็​แยกย้าย​กัน​ไป​เจ้าค่ะ​”

“​อืม​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​พูดถึง​เรื่อง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​คิดไม่ถึง​ว่านาง​จะ​มี​อาการ​เช่นนี้​หลังจาก​ตั้งครรภ์​ ​หาก​เจ้า​ไม่มี​อะไร​ทำ​ก็​ควรจะ​ไป​เยี่ยม​นาง​บ่อยๆ​ ​ให้​ป้า​ซ่ง​เตรียม​ของหวาน​และ​ของ​เปรี้ยว​ไป​ให้​เยอะ​ๆ​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​เจ้า​ไป​เรียก​ป้า​เถี​ยน​กับ​ป้า​ว่าน​เข้ามา​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ต้อง​ให้​พวก​นาง​ช่วย​ไป​ปรนนิบัติ​สือ​อี​เหนียง​สัก​สอง​สาม​วัน​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​พลาง​รับคำ​แล้วไป​จัดเตรียม​ตาม​ขั้นตอน​ ​เมื่อ​กลับมา​รายงาน​ก็​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​บอก​ให้​เก๋อ​จิน​ค้น​หีบ​ของ

“​ข้า​คำนวณ​ดูแล​้ว​คง​ประมาณ​ฤดูใบไม้ร่วง​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ชี้​ไป​ที่​ผ้าไหม​ซาน​ซัว​จาก​ซง​เจียง​สีขาว​ราวกับ​หยก​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​ทำ​ผ้าห่ม​เล็ก​ๆ​ ​สัก​สอง​ผืน​แล้ว​ทำ​ผ้าอ้อม​หลาย​ๆ​ ​ผืน​ ​ผ้า​ทั้ง​นุ่ม​ทั้ง​ละเอียด​และ​ยัง​ให้​ความอบอุ่น​ดี​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่​เกรง​ว่า​สอง​สาม​ผืน​จะ​ไม่พอ​ ​ข้า​จะ​ให้​อวี​้​ป่าน​ไป​เบิก​ของ​เพิ่ม​ที่​คลัง​ของ​ข้า​”

ทันใดนั้น​ ​ป้า​ตู้​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร

นี่​คือ​เครื่องบรรณาการ​ที่​ใน​วัง​พระราชทาน​ให้​ ​แต่​ทุก​ผืน​กลับ​ถูก​นำมา​ทำเป็น​ผ้าห่ม​และ​ผ้าอ้อม​ให้​กับ​เด็กน้อย​ที่​ยัง​ไม่ได้​เกิด​มา​เสียด​้วย​ซ้ำ​…

แต่​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กำลัง​มีความสุข​เป็นอย่างมาก​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ไม่​สามารถ​บอก​ตรงๆ​ ​ได้​ ​แต่​ก็​ยัง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​บ่าว​ว่า​หาก​จะ​ทำ​ผ้าห่ม​ ​ไม่​สู้​นำมา​ทำ​ชุด​ให้​เด็ก​จะ​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​…​”

ป้า​ตู้​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​โบกมือ​ ​“​เรื่อง​เสื้อผ้า​เด็ก​ให้​ใช้​ผ้าไหม​ของ​ซู​โจว​และ​หังโจว​…​”

ขณะที่​กำลัง​พูด​ ​อวี​้​ป่าน​ก็​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​สาวใช้​น้อย​สี่​ห้า​คนที​่​ถือ​ผ้า​อยู่​ใน​มือ

ไท่ฮู​หยิน​ให้​ป้า​ตู้​ไปดู​ ​“​เจ้า​ว่า​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ป้า​ตู้​เห็น​ว่า​มี​ผ้าฝ้าย​อู่​ชิง​ ​ผ้าไหม​ถัง​ชี​ ​ผ้าไหม​หวัง​เตี้ยน​ ​และ​ผ้าไหม​สำหรับ​ใช้​วาดภาพ​…​ทั้งหมด​ล้วน​สะอาดสะอ้าน​ ​เนื้อ​สัมผัส​ละเอียด​ยิ่งกว่า​ไข่ไก่​ ​รู้สึก​อด​เป็นกังวล​ไม่ได้​ ​ทั้ง​กลัว​ว่า​ครั้งนี้​จะ​วินิจฉัย​อาการ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ผิด​ ​ทั้ง​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ให้กำเนิด​บุตรสาว​…​แต่กลับ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ ​“​ท่าน​ควรจะ​เหลือ​ไว้​ให้​ตัวเอง​สัก​สอง​สาม​ผืน​ด้วย​นะ​เจ้า​คะ​”

“​ถึงอย่างไร​ก็​มีพ​ระ​ราช​ทานให้​ทุกปี​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​ใช้​ไหว​ได้​อย่างไร​”​ ​พูด​พลาง​เดิน​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน​ ​ให้​บรรดา​สาวใช้​นำ​ผ้า​ไป​เก็บ

ป้า​ตู้​รีบ​เดินตาม​ไป​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​เข้ามา​ ​บ่าว​ได้​ดู​อย่างละเอียด​แล้ว​ ​ผ้า​ที่นาย​หญิง​ใหญ่​ให้​เหล่านั้น​ล้วน​มีสีสัน​สดใส​แพรวพราว​ ​แต่กลับ​เป็น​วัสดุ​ที่​ใช้​สำหรับ​ทำ​เสื้อ​ตัว​นอก​ ​วัสดุ​ชั้นดี​ที่​ใช้​ทำ​เสื้อ​ด้านใน​กลับ​ไม่มี​สัก​ชิ้น​ ​บ่าว​ว่า​อาศัย​โอกาส​นี้​ช่วย​นาง​เตรียม​ไว้​สักหน่อย​จึง​จะ​ดีเจ​้า​ค่ะ​”

ในเมื่อ​เป็น​วัสดุ​ทำ​เสื้อ​ตัว​นอก​ก็​ย่อม​ต้อง​ทำ​เสื้อ​ตัว​นอก​จึง​จะ​ดูดี​ ​เวลา​คนอื่น​ถาม​จะ​ได้​ตอบ​ว่า​ ​‘​นี่​เป็น​สินเดิม​จาก​สกุล​เดิม​’​ ​วัสดุ​สำหรับ​ทำ​เสื้อ​ด้านใน​ไม่ว่า​จะ​เป็น​ชุดลำลอง​ ​ชุดชั้นใน​ ​ต่อให้​ดี​แค่ไหน​ก็​ไม่มี​คน​ถาม

อย่างไร​เสียนาย​หญิง​ใหญ่​ก็​เป็น​ท่าน​แม่​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ป้า​ตู้​จึง​ไม่กล้า​พูดมาก​ ​เพียงแค่​ยิ้ม​แล้ว​บอกว่า​ ​“​บ่าว​เห็น​ว่า​ท่าน​ไป​ค้น​ออกมา​กอง​ใหญ่​ ​ให้​บ่าว​กำชับ​พวก​นาง​เอา​ไป​เก็บ​ไว้​ใน​หีบ​ก่อน​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​ ​รอ​ให้​ทาง​ด้าน​นั้น​ได้รับ​การ​ยืนยัน​แล้ว​ค่อย​ส่ง​ไป​ ​”

“​ข้า​บอก​กับ​อวี​้​ป่าน​ไป​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ ​“​แล้วยัง​ต้อง​เลือก​ช่างเย็บ​ปัก​ที่​ฝีมือ​คล่องแคล่ว​และ​ละเอียดอ่อน​ให้​เริ่ม​ทำ​เสื้อ​เด็ก​ ​โดยเฉพาะ​กางเกง​ผ้าฝ้าย​ ​ต้อง​ทำ​ไว้​หลาย​ๆ​ ​ตัว​จึง​จะ​ดี​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​รับคำ​ ​เอา​หมอนอิง​ไป​วาง​ไว้​ด้านหลัง​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ยก​ถ้วยชามา​ ​“​พรุ่งนี้​บ่าว​จะ​ไป​เลือก​คน​ให้​เจ้าค่ะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​กับ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มาถึง​พอดี

ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​อุ้ม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​ให้​ป้า​ตู้​ไป​นำ​เค้ก​ดอก​บ๊วย​ที่​ได้รับ​พระราชทาน​จาก​ใน​วัง​เมื่อ​สอง​วันก่อน​มา

ฮู​หยิน​ห้าม​อง​ดู​สาวใช้​เยอะแยะ​มากมาย​ที่อยู่​ด้านนอก​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​กำลังจะ​ทำ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ราวกับว่า​จะ​ย้าย​เรือน​”

ไท่ฮู​หยิน​แบ่ง​เค้ก​ดอก​บ๊วย​เป็น​ชิ้น​เล็ก​ๆ​ ​แล้ว​ป้อน​ใส่​ปาก​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เอา​พวก​ของเก่า​ๆ​ ​ที่เก็บ​มา​หลาย​ปี​มาทำ​ความสะอาด​สักหน่อย​ ​สิ่ง​ที่​ควร​มอบ​เป็น​รางวัล​ก็​มอบ​ไป​แล้ว​ ​สิ่ง​ที่​ควร​แบ่ง​ก็​แบ่ง​ให้​พวก​เจ้า​แล้ว​”

ฮู​หยิน​ห้า​หัวเราะ​พลาง​กอด​แขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​นั่งลง​ ​“​ท่าน​มอบ​ผ้าไหม​สีแดง​เข้ม​เพื่อ​ทำ​เสื้อคลุม​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​ข้า​ได้​หรือไม่​”

“​นี่​พึ่ง​จะ​ฤดูใบไม้ผลิ​เอง​ ​เจ้า​คิด​ไป​ถึง​ฤดูหนาว​แล้ว​หรือ​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​เอา​นิ้ว​ไป​แตะ​ที่​หน้าผาก​ของ​นาง​เบา​ๆ​

ฮู​หยิน​ห้า​เอน​ศีรษะ​ไป​ตาม​แรง​พลาง​หัวเราะ​สดใส

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ที่​กำลัง​ทาน​เค้ก​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​ออกมา

ทันใดนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​กับ​คุณชาย​น้อย​สาม​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

“​รีบ​เข้ามา​เร็ว​ ​รีบ​เข้ามา​เร็ว​!​”​ ​เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​มองออก​ไป​ข้างนอก​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​ไม่ได้​บอกว่า​จะ​มาถึง​กลางเดือน​สาม​หรอก​หรือ​ ​เหตุใด​เพียงแค่​ปลายเดือน​สอง​ก็​มาถึง​แล้ว​”

ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ปล่อยไป​ตาม​ลม​ตามน้ำ​ก็​ย่อม​มา​เร็ว​ขึ้น​”

ทันทีที่​นาง​พูด​จบ​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​เปิดม่าน​แล้ว​เดิน​เข้ามา

ทั้งสอง​คน​สวม​เสื้อคลุม​ผ้าไหม​สีฟ้า​ลาย​ดอก​ ​เมื่อ​เทียบ​กับ​ตอนที่​พวกเขา​ออกจาก​เยี​่​ยน​จิง​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ที่​ยาม​นี้​อายุ​สิบ​เจ็ด​ปีก​็​ดูกำ​ยำ​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​สีหน้า​มีความสุขุ​มมาก​ขึ้น​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​อายุ​สิบ​สี่​ปีก​็​ใกล้​จะ​สูง​เท่า​สวี​ซื่อ​ฉิน​แล้ว​ ​ท่าทาง​ร่าเริง​แววตา​เต็มไปด้วย​ไหวพริบ​เช่นเคย

ทั้งสอง​คน​เข้ามา​คำนับ​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นรีบ​วิ่ง​เข้าไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​สุขภาพ​แข็งแรง​ดี​หรือไม่​ ​คิดถึง​ข้ามาก​เลย​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​!​”

ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​แล้วก็​หัวเราะ​ลั่น

“​อวี​้​เกอ​ก็​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​ครั้งนี้​พวก​เจ้า​จะ​ได้มา​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ด้วยกัน​แล้ว​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​เพียงแต่​ยืน​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​ลับ​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ตอนนี้​ข้า​โต​แล้ว​จะ​ทำ​เรื่อง​เช่นนั้น​ได้​อย่างไร​ ​หาก​พี่​สอง​อยาก​จะ​ก่อเรื่อง​วุ่นวาย​ ​ข้า​จะ​ช่วย​ห้ามปราม​ไม่​ให้​เขา​ซุกซน​อย่างแน่นอน​”

ทุกคน​ใน​ห้อง​ล้วน​พากัน​หัวเราะ​อย่าง​ครื้นเครง

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เห็น​เด็กหญิง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​ใส่​ชุด​สีชมพู​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​พลัน​รู้ทัน​ที​ว่า​เป็น​บุตรสาว​ของ​อาสะใภ้​ห้า​ ​ยิ้ม​พลาง​ชี้​ไป​ที่​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​นี่​คือ​น้อง​หญิง​สอง​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​”

เมื่อ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เห็น​คนแปลกหน้า​ก็​รีบ​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​มารดา​แล้ว​แอบมอง

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​บอก​กับ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​“​รีบ​เรียก​พี่​สาม​สิ​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​พูดตาม​ ​“​พี่​สาม​”​ ​จากนั้น​ก็​เอา​หัว​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของฮู​หยิน​ห้า​อีกครั้ง

สวี​ซื่อ​เจี่ย​นรู​้​สึก​สนุก​จึง​ดึง​นิ้ว​ของ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​“​นี่​คือ​พี่ใหญ่​!​”

ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ตกใจ​จึง​รีบ​ดึง​นิ้ว​กลับ​แล้ว​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​มารดา​โดย​ไม่สน​ใจ​เขา

สวี​ซื่อ​ฉิน​เห็น​ว่าฮู​หยิน​ห้า​ไม่ได้​บังคับ​ให้​เด็กน้อย​ทักทาย​ตัวเอง​จึง​รู้​ว่านาง​รัก​และ​เอ็นดู​บุตรสาว​คน​นี้​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​รีบ​ตำหนิ​น้องชาย​ ​“​โต​ขนาด​นี้​แล้วยัง​ทำตัว​เป็น​เด็ก​ต่อหน้า​ท่าน​ย่า​อยู่​อีก​!​”

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​มอง​ไป​ยัง​พี่ชาย​ของ​ตัวเอง​แล้ว​หัวเราะ

ฮู​หยิน​ห้า​พูด​เกลี้ยกล่อม​ให้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เอ่ย​ทักทาย​พี่ชาย​ ​แม้​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จะ​ไม่ยอม​เงยหน้า​แต่กลับ​เอ่ยปาก​ร้องเรียก​ ​“​พี่ชาย​ใหญ่​”​ ​อย่าง​ไม่เต็มใจ

สวี​ซื่อ​ฉิน​ไม่​อยาก​ให้​นาง​ต้อง​ลำบากใจ​จึง​รีบ​ยิ้ม​รับ

ไท่ฮู​หยิน​มอง​พลาง​ชี้​ไป​ที่​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​ที่​สาวใช้​น้อย​ยก​เข้ามา​ ​“​พวก​เจ้า​นั่งลง​คุย​กัน​ก่อน​เถิด​!​”

สอง​พี่น้อง​พากั​นนั​่ง​ลง​ ​บรรดา​สาวใช้​ยก​ชามา​วาง​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​เริ่ม​ซักถาม​ถึง​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​

สวี​ซื่อ​ฉิน​ตอบ​ทีละ​คำถาม​ ​บอกว่า​คุณชาย​สาม​รับราชการ​อยู่​ที่​ซาน​หยาง​ ​เป็น​ที่รัก​ของ​ราษฏร​ ​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​เบื้องบน​ ฮู​หยิน​สาม​เปิดร้าน​ข้าว​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ทั้ง​ได้​กำไร​และ​ขาดทุน​ ​แต่ว่า​ค่อนข้าง​ลำบาก​ดังนั้น​จึง​ปิด​ร้าน​ไป​เมื่อ​สอง​ปี​ที่แล้ว​ ​กาน​เหล่า​เฉวียน​เป็น​คน​ส่ง​พวกเขา​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​ ​ให้​ป้ายชื่อ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ ​จึง​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​ล่วงหน้า​อย่างราบรื่น​และ​ปลอดภัย​ตลอดทาง​…

ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า​ ​ถาม​พวกเขา​ว่า​ ​“​ได้​เจอ​กับ​อา​สี่​ของ​พวก​เจ้า​แล้ว​หรือยัง​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​ตอบ​อย่างนอบน้อม​ว่า​ ​“​พึ่ง​จะ​ลง​จาก​รถม้า​ก็​มาคา​รวะ​ท่าน​ย่า​เลย​ยัง​ไม่ได้​ไป​พบ​อา​สี่​ขอรับ​”

ตาม​หลัก​แล้ว​พวกเขา​ควรจะ​ไป​คารวะ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​เรือน​นอก​ก่อน​ ​เพื่อ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ได้​บอก​แผนการ​จัดการ​ของ​พวกเขา​ให้​แก่​พวกเขา​ ​แล้ว​พวกเขา​ค่อย​มาที​่​จวน​เพื่อ​คารวะ​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ป้า​และ​ท่าน​อา​ ​แต่​พ่อบ้าน​ไป๋​บอกว่า​หลาย​วัน​มานื​้​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบาย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​พวกเขา​ไม่ใช่​เด็ก​ที่​ไม่รู้​ความ​แล้ว​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ป่วย​เป็น​อะไร​ ​ไม่​อาจ​ตรง​ไป​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ ​จึง​มาหา​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​ ​หาก​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​ก็​กลัว​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​ที่​เรือน​สือ​อี​เหนียง​ใน​ตอนกลางวัน​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​จึง​ตอบกลับ​ไป​อย่าง​คลุมเครือ

ก็​คือ​บอกว่า​ยัง​ไม่ได้​พบ​!

เรื่อง​ที่​พวก​เด็ก​ๆ​ ​กลับมา​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคย​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​และ​ได้​วางแผน​จัดการ​ไว้​หมด​แล้ว​ ​แต่​อย่างไร​เสียนี​่​ก็​เป็นเรื่อง​ของ​บุรุษ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​สามารถ​ล้ำเส้น​ได้​ ​จึง​หันไป​กำชับ​ป้า​ตู้​ว่า​ ​“​เจ้า​พา​คุณชาย​น้อย​ทั้งสอง​ท่าน​ไป​พบ​ท่าน​โหว​!​”​ ​แล้ว​หันมา​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นว​่า​ ​“​ในเมื่อ​กลับมา​แล้วก็​ควรจะ​ไป​คารวะ​อา​สี่​และ​อา​หญิง​สี่​ ​อีก​ประเดี๋ยว​ค่อย​มาทา​นอา​หาร​เย็น​ที่​เรือน​ของ​ข้า​”

ทั้งสอง​โค้ง​คำนับ​แล้ว​ตอบ​ ​“​ขอรับ​”​ ​จากนั้น​ก็ตาม​ป้า​ตู้​ไป​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขยับตัว​สือ​อี​เหนียง​ที่​หลับ​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ก็​ตื่นขึ้น​มา

“​ฉิน​เกอ​กับ​เจี่ยน​เกอ​กลับมา​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ลูบ​หน้าผาก​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​กระซิบ​บอก​ ​“​ข้า​จะ​ไปดู​เสียหน่อย​แล้ว​จะ​รีบ​กลับมา​ทันที​”

สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​“​เด็ก​ๆ​ ​เดินทาง​มา​ไกล​ ​ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​ควรจะ​ไป​พบ​พวกเขา​สักหน่อย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ท่าทาง​ลังเล​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เพียงแค่​นั่ง​อยู่​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ให้​เด็ก​ๆ​ ​มาคา​รวะ​ข้า​ก็​พอแล้ว​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พยักหน้า​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​สวม​เสื้อแขนยาว​เสร็จ​แล้วก็​อุ้ม​นาง​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ที่​ห้องโถง

หู่​พั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​เข้ามา​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​หวี​ผม

สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​สอง​พี่น้อง​เข้ามา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง

“​ในที่สุด​พวก​เจ้า​ก็​กลับมา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​สำรวจ​ดู​สอง​พี่น้อง​ ​“​ไม่​เจอกัน​สอง​ปี​ ​โตกัน​หมด​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​มอง​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​“​น่าเสียดาย​ที่​น้อง​สี่​กับ​น้อง​ห้า​ของ​เจ้า​ไป​ที่​สำนัก​ศึกษา​แล้ว​ ​มิเช่นนั้น​ไม่รู้​ว่า​จะ​ดีใจ​แค่ไหน​!​”

สอง​พี่น้อง​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​พิง​หมอนอิง​อยู่​บน​เตียง​นั่ง​ ​แม้ว่า​จะ​มี​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ ​แต่​ก็​ยาก​ที่จะ​แอบซ่อน​ความเหนื่อย​ล้า​ได้​ ​ทั้งสอง​แอบ​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นคิด​ถึง​ตอนนั้น​ที่​สือ​อี​เหนียง​เคย​หยอกล้อ​เขา​ ​จึง​ไม่​คำนึงถึง​ความเกรงใจ​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​อา​หญิง​สี่​ ​ท่าน​เป็น​อะไร​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​อาย​เล็กน้อย​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​รู้สึก​ไม่​ค่อย​สบาย​”​ ​จากนั้น​ก็​เปลี่ยน​หัวข้อ​สนทนา​ ​ถามถึง​เรื่อง​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม

สวี​ซื่อ​ฉิน​กลัว​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​จะ​พูด​อะไร​ที่​ไม่เหมาะสม​ออกมา​อีก​จึง​จ้อง​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ตาเขม​็ง​ ​ส่งสัญญาณ​ไม่​ให้​เขา​พูดจา​มั่วซั่ว​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ตอบ​สือ​อี​เหนียง

สือ​อี​เหนียง​อด​น้ำตา​คลอ​ไม่ได้

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยังคง​เหมือนเดิม​ไม่​เปลี่ยน​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​กลับ​รู้จัก​วางตัว​มากกว่า​แต่ก่อน​มาก​

ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​นาง​ถึง​ได้​นึกถึง​การเปลี่ยนแปลง​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้

ทั้งสอง​คนพูด​คุย​กัน​ ​เมื่อ​รู้​ว่า​อยู่​ที่​ซาน​หยาง​พวกเขา​สบายดี​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ส่ง​คน​มาตาม​ให้​พวกเขา​ไป​ทานอาหาร​เย็น​ ​สือ​อี​เหนียง​เพียงแค่​ยิ้ม​แล้ว​ให้​สาวใช้​น้อย​นำ​ชามา​วาง

“​พอ​จุน​เกอ​กับ​เจี​้ย​เกอ​เลิกเรียน​แล้ว​ ​ข้า​ค่อย​ให้​ไป​พบ​พวก​เจ้า​”

สอง​พี่น้อง​ไม่​อาจ​อยู่นาน​ได้​ ​จึง​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท