ตอนที่ 351 การต่อสู้ของสองราชันจักรพรรดิ การเผชิญหน้าระหว่างสองยุคสมัย!
“ดี!”
เมื่อได้รับคำตอบจากจักรพรรดิสวรรค์ จักรพรรดิจุนก็ไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัว เพียงเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าอยากรู้ยิ่งนัก เจ้าฝ่ากฎแห่งตี้ลั่วและมายังโลกนี้ได้อย่างไร หากพูดตามเหตุผลนอกเสียจากเจ้าจะก้าวข้ามขอบเขตได้อย่างแท้จริง มิฉะนั้น นี่ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่จะออกจากยุคตี้ลั่ว!”
“เหอะเหอะ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ากังวลกับเรื่องนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จักรพรรดิสวรรค์ก็ส่ายศีรษะพลางยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าแค่ต้องรู้ว่าวันนี้ข้ายอมรับน้ำใจของหนิงฝานและช่วยเขา ข้าแนะนำให้เจ้าทำตามที่เขาบอก คืนภรรยาที่แท้จริงให้เขามาเสีย ไม่เช่นนั้น วันนี้ข้าไม่อาจรับรองได้ว่าหอเซียนของเจ้าจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่!”
“ฮ่าฮ่า งั้นหรือ!”
จักรพรรดิจุนเย้ยหยัน แสงในแววตาของเขาปะทุออก “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าจักรพรรดิสวรรค์เป็นจักรพรรดิองค์แรกก่อนยุคตี้ลั่วและที่นั่งนี้เป็นจักรพรรดิองค์แรกหลังยุคตี้ลั่ว วันนี้ข้าจะชี้แนะว่าเจ้าคู่ควรกับตำแหน่งจักรพรรดิองค์แรกหรือไม่!”
“คู่ควรหรือไม่ ลองดูก็รู้แล้ว!”
จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปาก นัยน์ตาก็ลึกล้ำขึ้นมาทันที ภายในนั้นสะท้อนภาพริบหรี่อันน่าสะพรึงกลัวของสุริยัน จันทรา ดวงดาราและจักรวาลพังพินาศ!
บึ้ม! บึ้ม!
ทันทีที่จักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์มองหน้ากันก็เกิดเป็นประกายไฟปะทะกันอย่างรุนแรง!
กลิ่นอายราชันจักรพรรดิบนร่างของพวกเขาทั้งสองค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เงาร่างขนาดใหญ่ของราชันจักรพรรดิเซียนสองคนก็ปรากฏขึ้นด้านหลังพวกเขาเช่นกัน!
ด้านหนึ่งจักรพรรดิสวรรค์ อีกด้านหนึ่งจักรพรรดิจุน แสดงถึงการเผชิญหน้าระหว่างสองยุคสมัยที่แตกต่างกัน!
“โอ้!”
“ทั้งสองยังไม่ถึงขอบเขตที่แท้จริงของราชันจักรพรรดิเซียนชัด ๆ แต่เหตุใดข้ากลับรู้สึกถึงพลังสองสายที่น่ากลัวยิ่งกว่าราชันจักรพรรดิเซียน!”
“ใช่แล้ว! จักรพรรดิสวรรค์ผู้นี้คือใครกัน? เขาถูกจักรพรรดิจุนเรียกว่าราชันจักรพรรดิองค์แรกก่อนยุคตี้ลั่ว!”
“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่อย่างไรก็เป็นราชันจักรพรรดิที่หาได้อ่อนแอกว่าจักรพรรดิจุนไม่ มิฉะนั้น ด้วยอุปนิสัยที่เย่อหยิ่งและเจ้าเล่ห์ของจักรพรรดิจุน ย่อมไม่มีทางเคร่งขรึมถึงเพียงนี้!”
“เหอะ ๆ สู้กันเถอะ ไม่ว่าใครจะอยู่หรือตาย ล้วนเป็นประโยชน์ต่อเราไม่มีเสียหาย!”
“…”
เมื่อเห็นพลังของจักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กองกำลังทั้งหมดที่ล่าถอยออกไปนอกประตูเซียนก็ส่งเสียงดังอีกครั้ง ดวงตาของผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดจับจ้องเหตุการณ์ไม่วางตา
บึ้ม!
หลังจากเสียงตูมตามดังขึ้น จักรพรรดิจุนเริ่มเคลื่อนไหวก่อน เพียงกระทืบเท้าหนัก ๆ ครั้งเดียว ความว่างเปล่าใต้เท้าก็พังทลายลงทันที และเขาก็กลายเป็นเงาร่างของราชันจักรพรรดิที่สว่างไสวพุ่งเข้าหาจักรพรรดิสวรรค์
ตู้ม!
ระหว่างทางเขาเหวี่ยงกำปั้นออกไป กำปั้นนั้นราวกับดวงดาวที่ส่องแสงมหึมา เหมือนว่าเขาต้องการผลักโลกทั้งสามพันใบให้ออกกลิ้ง!
“หึ!”
เมื่อเห็นพลังนี้ จักรพรรดิสวรรค์ย่อมไม่คิดยอมแพ้ เขาแค่นเสียงเย็นชา พลันพลังอันมหึมาของจักรพรรดิสวรรค์เติมเต็มเลือดเนื้อของหนิงฝาน ทำให้กลิ่นอายของเขาเกือบเทียบเท่ากึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเก้า!
ลมหายใจต่อมา เขาเหวี่ยงกำปั้นออกไปเช่นกัน พลังอันน่าสะพรึงกลัวของจักรพรรดิสวรรค์นั้นเกือบจะระเบิดโลกของหอเซียนทั้งใบ!
บึ้ม! บึ้ม!
ภายใต้สายตาของทุกคน จักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์พุ่งเข้าหากันราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่สองดวง!
ใกล้!
ใกล้แล้ว!
จนในที่สุดร่างของทั้งสองก็ปะทะกันอย่างดุเดือดในความว่างเปล่า
ปัง!
เพียงชั่วพริบตา ราวกับดวงอาทิตย์สองดวงชนกันหรือราวกับสองโลกชนกัน เสียงระเบิดอันน่าหวาดหวั่นที่ทำลายจักรวาลก็ดังกึกก้องในทันใด!
ผัวะ!
ช่วงเวลาที่กำปั้นของทั้งสองปะทะกัน โดยมีหมัดของทั้งสองเป็นศูนย์กลาง คลื่นพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมาทันที ไม่ว่าคลื่นพลังจะผ่านไปที่ใด ท้องฟ้า โลก จักรวาลทั้งหมดก็พังทลายลงในความว่างเปล่า
อีกด้าน ค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์เกิดสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและคล้ายจะพังทลายลง!
“น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
เมื่อเห็นพลังของหมัดนี้ ทุกคนก็หน้าถอดสีทันที!
ไม่มีใครหยุดยั้งพลังอำนาจชนิดนี้ได้นอกจากราชันจักรพรรดิเซียน!
ปัง! ปัง!
ทันใดนั้น เสียงอู้อี้สองเสียงดังมาจากเหนือความว่างเปล่า เป็นจักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์ที่ต่างฝ่ายต่างถอยออกไป
การโจมตีนี้ทัดเทียมกัน!
ทว่าหลังจากแยกจากกันชั่วครู่ จักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์ก็พุ่งเข้าปะทะกันอีกครั้ง
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
และลมหายใจต่อมา ทั้งสองก็เริ่มการต่อสู้ครั้งใหญ่ กำปั้นของพวกเขาปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่ปะทะกันจะมีเสียงตูมตามดังสนั่น ทำให้เกิดคลื่นทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว!
บึ้ม! ปัง! ปัง!
พลังทำลายล้างราวกับทะเลคลั่งที่โหมกระหน่ำ พุ่งเข้าใส่ค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเสียงระเบิดค่ายกลยักษ์ไม่รู้จบ!
กระทั่ง…เริ่มเห็นรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นในค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์
“แย่แล้ว รีบรักษาค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์ให้มั่นคง!”
เมื่อเห็นฉากน่าตะลึงนี้ จักรพรรดินีเสวียนหลิงจึงออกคำสั่งให้นำผู้ฝึกยุทธ์กึ่งราชันจักรพรรดิที่เหลืออีกห้าสิบกว่าคนรักษาเสถียรภาพค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์อย่างสุดกำลัง!
ไม่ว่าอย่างไร ค่ายกลเซียนเก้าสวรรค์ก็ไม่สามารถถูกทำลายได้ เพราะเมื่อถูกทำลายแล้ว โลกหอเซียนจะไม่สามารถต้านทานการเผชิญหน้าที่น่ากลัวนี้ได้อย่างแน่นอน!
ภายใต้สายตาของทุกคน จักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์เริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดมากขึ้น
สามร้อยกระบวนท่า!
ห้าร้อยกระบวนท่า!
แปดร้อยกระบวนท่า!
ในชั่วพริบตา จักรพรรดิจุนและจักรพรรดิสวรรค์ต่อสู้ไปแปดร้อยกระบวนท่า ต่อสู้กันจนท้องฟ้าเปลี่ยนสี สุริยันอัสดงและจันทราเผยโฉม ภายในค่ายกลเซียนได้กลายเป็นความว่างเปล่าชั่วนิรันดร์ไปนานแล้ว!
“จักรพรรดิสวรรค์ผู้นี้รับมือยากจริง ๆ สมแล้วที่เป็นจักรพรรดิองค์แรกก่อนยุคตี้ลั่ว!”
ในระหว่างการต่อสู้ ดวงตาของจักรพรรดิจุนทอประกายแวววาวอย่างน่าอัศจรรย์ ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเคร่งขรึมไร้ใดเปรียบ!
จักรพรรดิสวรรค์ก็เลิกคิ้วเช่นกัน “จักรพรรดิจุน! นามของเจ้า ราชันจักรพรรดิองค์แรกหลังยุคตี้ลั่วนับ
ว่าไม่เกินจริงแม้แต่น้อย!”
ตอนนี้ จักรพรรดิทั้งสองได้แต่ตกตะลึงกับความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้
ต้องรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิสวรรค์หรือจักรพรรดิจุน พวกเขาไม่เคยมีคู่แข่งในยุคของตน ทว่าตอนนี้พวกเขากลับทัดเทียมกัน!
“เฮือก!”
“จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!”
“สองคนนี้แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!”
“ใช่แล้ว แม้พวกเขาจะปล่อยกลิ่นอายของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้าออกมา ทว่าระหว่างสู้กันกลับให้ความรู้สึกเหมือนราชันจักรพรรดิเซียนสองคนกำลังต่อสู้กัน!”
“…”
เวลานี้ เมื่อเห็นการต่อสู้อันน่าพรั่นพรึงในความว่างเปล่า ผู้คนนับไม่ถ้วนอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านด้วยความสยดสยอง!
แม้แต่กลุ่มคนจากกองกำลังใหญ่ ๆ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
จักรพรรดิจุนแข็งแกร่งเกินไป แม้ตัวเขาจะยังไม่ฟื้นคืนสู่ความแข็งแกร่งไร้เทียมทานที่สามารถบัญชาสวรรค์และโลกได้ ทว่าเพียงเท่านี้ก็ยังนับว่าน่าสะพรึงกลัวเกินไปอยู่ดี!
พวกเขารู้ว่า แม้พวกเขาจะครอบครองสมบัติราชันจักรพรรดิอยู่ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้จักรพรรดิจุนได้!
ส่วนเหล่าราชันจักรพรรดิเซียนที่อยู่เบื้องหลังแต่ละกองกำลังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับจักรพรรดิจุนอยู่ดี เพราะสิ่งที่พวกเขาแบกรับคือเศษเสี้ยวชะตากรรมที่เป็นของจักรพรรดิจุนไว้ และจักรพรรดิจุนสามารถเอาชนะพวกเขาได้!
นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้จักรพรรดิจุนกล้าท้าทายฟ้า เอาชนะสวรรค์และโลกอีกครั้ง!
“ดี!”
“โชคดีที่หนิงฝานและจักรพรรดิสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นมาก่อน!”
“หากหนิงฝานและจักรพรรดิสวรรค์สามารถสังหารจักรพรรดิจุนได้ หอเซียนคิดจะเป็นใหญ่ในฟ้าดินอีกครั้งก็เป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝันแล้ว!”
“ฆ่า! ฆ่า! อาศัยช่วงเวลาคับขันนี้ พวกเราต้องร่วมด้วยช่วยกัน!”
“…”
ในเวลานี้เอง ผู้คนจากกองกำลังมากมายปรึกษาหารือกัน คิ้วของพวกเขาขมวดมุ่นยิ่ง!