เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 403 ดูสิว่าผู้ใดเหี้ยมโหดกว่ากัน (3)

ตอนที่ 403 ดูสิว่าผู้ใดเหี้ยมโหดกว่ากัน (3)

ในสายตาของพวกนาง ผู้ที่ฐานันดรศักดิ์สูงส่ง ย่อมมีความน่าเกรงขาม

สิ่งนี้ทำให้หนิงเซ่าชิงดูหล่อเหลา มีรูปแบบและสง่าผ่าเผย

ภายในใจของทั้งสองเปี่ยมล้นไปด้วยความดีใจและความสุข กำลังเพ้อฝันว่าจะได้ตบแต่งเข้าตระกูลขุนนางใหญ่

คาดว่าเวลานี้ หนิงเซ่าชิงบอกให้พวกนางกินอุจจาระ พวกนางก็คงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“หัวหน้าตระกูลหนิง! วันนี้ข้าน้อยเชิญท่านมา เพราะอยากจะพูดคุยหับหัวหน้าตระกูลหนิง…พูดคุยเรื่องบทกวีครู่หนึ่งเท่านั้น”

คนที่พูดคือมั่วปี้หรุ่ย นางรู้ว่ามั่วปี้หรงมีความคิด ดังนั้นคำพูดในวันนี้ นางคัดลอกมา ความรักต่างๆ ล้วนเริ่มต้นจากบทกวีไม่ใช่หรือ

ส่วนมั่วปี้หรง เห็นชัดว่านางก็รู้ตัวดีว่าตนพูดไม่เก่งเท่ามั่วปี้หรุ่ย ดังนั้นจึงยินดีที่จะเป็นเพียงตัวประกอบ!

เป็นตัวประกอบอะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น ขอเพียงนางแต่งเข้าตระกูลมั่วได้ ให้นางได้อยู่เคียงข้างหัวหน้าตระกูลหนิง ไม่พูดถึงอนุภรรยา แม้จะให้นางเป็นสาวใช้ นางก็ยินดี!

บทกวีเช่นนั้นหรือ

หนิงเซ่าชิงหัวเราะเยือกเย็น…

เสียดายที่สองพี่น้องตระกูลมั่วไม่เห็นรอยยิ้มของเขา เพราะกระทั่งเวลานี้พวกนางสองคนยังคงเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหนิงเซ่าชิง!

“แม่นางทั้งสองช่างอารมสุนทรีย์ยิ่งนัก! แต่ว่าข้าไม่ใช่คนสง่าผ่าเผยเช่นนั้น ข้าไม่สนใจกลอนกวี หากไม่มีเรื่องอื่น ข้าขอตัวก่อน!”

เรื่องอะไรเขาต้องเสวนากับสตรีทั้งสองคนนี้ด้วย เมื่อมั่นใจในตัวตนของสตรีทั้งสองคนแล้ว หนิงเซ่าชิงหมุนตัวหันหลังหมายจะกลับไป เขากลัวว่าหากตนไม่ไป จะห้ามใจไม่ได้แล้วโยนสตรีที่น่ารังเกียจลงไปในสระบัวที่อยู่ไม่ไกล

สตรีที่น่ารังเกียจทั้งสองคนนี้ เขาอยากจะจัดการเสียตอนนี้!

แต่ว่า วันนี้เป็นพิธีปักปิ่นของเชียนเสวี่ย เขาไม่ควรทำอะไรเกินเลย มิเช่นนั้นอาจทำให้เชียนเสวี่ยวางตัวลำบาก

เห็นหนิงเซ่าชิงหมุนตัวหันหลังเดินไป ไม่หวั่นไหวกับพวกนางแม้แต่น้อย มั่วปี้หรุ่ยเริ่มร้อนใจ

“หัวหน้าตระกูลหนิงช้าก่อนเจ้าค่ะ! พี่เชียนเสวี่ยรับปากพวกเราแล้ว วันข้างหน้าหลังจากที่พี่เชียนเสวี่ยแต่งเข้าตระกูล พี่เชียนเสวี่ยจะพาพวกเราไปด้วย เมื่อถึงเวลานั้น…เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราสามคนพี่น้องจะช่วยกันดูแลรับใช้หัวหน้าตระกูลหนิงด้วยกันเจ้าค่ะ…”

ในความคิดของนาง เกรงว่าหัวหน้าตระกูลหนิงเป็นสุภาพบุรุษ เหตุเพราะเป็นกังวลเรื่องชื่อเสียงจึงไม่อยากอยู่กับพวกนางเป็นเวลานาน ขอเพียง นางพูดออกไปอย่างชัดเจน ภายใต้ความถูกทำนองคลองธรรม หัวหน้าตระกูลหนิงย่อมต้องมองพวกนางใหม่

หนิงเซ่าชิงหันกลับมา จ้องมองหญิงทั้งสองด้วยความเหลือเชื่อ

เขาไม่เข้าใจจริงๆ สมองของสตรีทั้งสองชักกระตุก หรือว่าเส้นประสาทในสมองเชื่อมผิด

เชียนเสวี่ยรับปากว่าจะรับพวกนางเข้าจวนหนิงเนี่ยนะ? นี่ไม่ต่างอะไรกับการฝันกลางวัน!

หนิงเซ่าชิงรู้จักมั่วเชียนเสวี่ยดี! ความคิดและแผนการของมั่วเชียนเสวี่ย เขากระจ่างชัดยิ่งนัก

แม้ดื่มสุราเมรัยจนเมามาย นางก็จะพูดแค่ว่า ‘หนิงเซ่าชิง หากท่านกล้ามีอนุภรรยา เช่นนั้นเราได้เห็นดีกัน’ นางต้องพูดประมาณนี้ ไม่มีทางบอกว่า ยอมแบ่งปันเขากับสตรีอื่น

ไม่ทราบว่า หญิงชั่วช้าทั้งสองคนพ่ายแพ้มั่วเชียนเสวี่ย แล้วอยากจะหาลู่ทางจากเขาหรือ

“หึ…” หนิงเซ่าชิงหัวเราะในลำคอ แกล้งทำเป็นมองพวกนางด้วยความตั้งใจ

แววตาของหนิงเซ่าชิงในสายตาของพวกนางกำลังฉายความสุขราวกับจะถูกเลือก!

พวกนางกล่าวไว้แล้ว เมื่อหนิงเซ่าชิงเห็นความงดงามของพวกนาง ต้องลุ่มหลงในรูปโฉมของพวกนางอย่างแน่นอน! มั่วเชียนเสวี่ยเป็นแค่ตัวอะไร…

แต่ว่า ความสุขมาเร็วเกินไป สิ่งที่ตามความสุขมาติดๆ คือข่าวร้าย เสมือนสายฟ้าฟาดลงมาในวันที่ท้องฟ้าสดใส!

“พวกเจ้าเป็นผู้ใด จึงคิดอยากจะเข้าตระกูลพร้อมกับเชียนเสวี่ย เข้าตระกูลหนิงไปทำอะไร ไปเป็นสาวใช้คอยรินน้ำชาให้เชียนเสวี่ยเช่นนั้นหรือ พวกเจ้าคู่ควรด้วยหรือ”

หนิงเซ่าชิงหัวเราะเยือกเย็นแล้วมองไปที่พวกนาง ไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าหญิงทั้งสองคนตรงหน้า จะรับคำพูดของตนได้หรือไม่!

สตรีที่ตระกูลมั่วส่งมาหมายความว่าอย่างไร มีหรือที่หนิงเซ่าชิงจะไม่รู้ เขาเพียงแกล้งทำเป็นไม่รู้เพื่อทำให้พวกนางอับอายเท่านั้น ชั่วชีวิตนี้สตรีเพียงคนเดียวที่เขาจะปกป้องมีเพียงมั่วเชียนเสวี่ยเท่านั้น

มารดาของเขา ล่วงลับไปแล้ว

มารดาเลี้ยงของเขา หน้าซื่อใจคดกับเขา วางแผนทำร้ายเขาอยู่ตลอดเวลา

ท่านย่าของเขา ท่านย่าของเขา…หลังจากที่เขาทราบเรื่องของตระกูลอวี่เหวิน ก็ไม่ควรค่าให้เขาปกป้องอีกแล้ว

หน้าประตูเรือนฉือหย่างในวันนั้น เขาตัดสินใจแล้วว่า ความอ่อนโยนทั้งหมดในชีวิตของเขาจะมอบให้มั่วเชียนเสวี่ยเพียงคนเดียวเท่านั้น

สตรีอื่น ในสายตาของเขาหนิงเซ่าชิง เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น! สำหรับเรื่องที่ว่าเป็นหญิงหรือเป็นชาย เขาไม่จำเป็นต้องแยกแยะ!

คำพูดที่ไร้เยื่อใยของหนิงเซ่าชิง ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นคำพูดที่ไร้ซึ่งความเกรงใจ ทำให้สองพี่น้องตระกูลมั่วตกตะลึง!

เดิมทีทั้งสองสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นเพื่อยั่วยวนหนิงเซ่าชิง เลือดที่เดือดพล่านในตอนแรก เวลานี้ถูกหนิงเซ่าชิงกระทำอย่างไร้เยื่อใย ร่วมกับอยู่ในป่าไผ่ ลมแรงอยู่แล้ว ทำให้ทั้งสองหนาวจนอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา…

“หัว…หัวหน้าตระกูลหนิง ไม่ใช่แบบนั้นเจ้าค่ะ…พวกเราไปตระกูลหนิงเพื่อปรนนิบัติรับใช้ท่าน…ปรนนิบัติรับใช้หัวหน้าตระกูลหนิง…”

“ปรนนิบัติรับใช้ข้า?”

หนิงเซ่าชิงพูดขัดมั่วปี้หรุ่ย ปรายตามองนางครู่หนึ่ง ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย “พวกเจ้าสองคนเนี่ยนะ ไม่คู่ควรแม้กระทั่งเป็นคนยกรองเท้าให้ข้า!”

ในเมื่อสองคนนี้โง่เขลา เช่นนั้นเขาก็ไม่ถือสาที่จะพูดให้หยาบคายมากยิ่งขึ้น

นี่ไม่ใช่คำว่าคู่ควรไม่คู่ควรคำแรกที่หนิงเซ่าชิงพูดในวันนี้แล้ว! การที่หนิงเซ่าชิงใช้เพียงคำพูดในการดูแคลนพวกนาง เพราะตอนนี้พวกนางยังไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเชียนเสวี่ย

ท่านอาจารย์เคยบอกว่า คนเราต้องเหลือทางให้ตนเอง เขาจำได้เสมอ เขาเพียงอยากทำให้พวกนางอับอายเล็กน้อยก็เท่านั้น ให้สตรีที่น่ารังเกียจทั้งสองยอมแพ้ อย่าคิดในสิ่งที่ไม่ควรคิดอีก หยุดรบกวนเชียนเสวี่ยของเขาก็พอแล้ว

คนเช่นนี้หรือคู่ควรจะเข้าเรือนหลังของตระกูลหนิง อย่าทำให้เชียนเสวี่ยอกแตกตาย! เชียนเสวี่ยของเขาล้ำค่าที่สุด เขาไม่อยากให้เชียนเสวี่ยแต่งงานกับเขา แล้วยังต้องปวดหัวกับสตรีอื่น

ไม่มีเหตุผลที่จะเสียเวลากับสตรีหัวกลวงเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะอยากจะช่วยมั่วเชียนเสวี่ยดึงสติหญิงทั้งสองที่โง่เขลา เขาไม่มีวันเสวนากับหญิงน่ารังเกียจสองคนนี้เด็ดขาด

ตอนนี้เขาพูดไปแล้ว ทั้งยังเตือนแล้ว! สำหรับเรื่องที่ว่าฟังหรือไม่นั้น เช่นนั้นก็เป็นเรื่องของพวกนางแล้ว!

หากเชื่อฟัง ไม่แน่ชีวิตในวันข้างหน้าอาจจะสุขสบายเล็กน้อย แต่หากไม่เชื่อฟัง…หึ

เขารับปากท่านอาจารย์แล้ว คนเราต้องเหลือทางให้ตนเอง แต่หากผู้อื่นทำเกินไป รนหาที่ตายเอง ก็ไม่อาจตำหนิเขาได้

……

องค์หญิงอวี้เหอมองมั่วเชียนเสวี่ยที่พูดคุยหัวเราะท่ามกลางผู้คนแล้วคับแค้นใจอย่างมาก!

คนบางคนก็เป็นเช่นนี้ เกิดมาก็ไม่ชอบอีกฝ่าย! ชีวิตนี้ไม่อาจเป็นเพื่อนกันได้ ไม่อาจเป็นคนแปลกหน้า เป็นได้เพียงศัตรู!

องค์หญิงอวี้เหอและมั่วเชียนเสวี่ยทั้งสองคน ชีวิตนี้ก็เป็นได้แค่ศัตรูเท่านั้น!

องค์หญิงอวี้เหอหัวเราะเยือกเย็น มองมั่วเชียนเสวี่ยที่พูดคุยกับคนอื่นๆ หลังจากที่นางหันหลังพูดกระซิบกระซาบกับบรรดาหญิงสาวที่นางสนิทสนม นางก็นั่งลงมอง พร้อมกับยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท