ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 419 คลื่นใต้น้ำ(กลาง)

ตอนที่ 419 คลื่นใต้น้ำ(กลาง)

​เรื่อง​ที่​มี​คน​ขอ​หู่​พั่ว​หมั้น​หมาย​ ​ซิ่ว​หยวน​ก็ได้​ยิน​มา​เช่นกัน

​แต่​นาง​ไม่ได้​เก็บ​เรื่อง​เหล่านี้​มา​ใส่ใจ​

บรรดา​คนที​่​อายุ​รุ่นราวคราวเดียวกัน​ ​หู่​พั่ว​เป็นสาว​ใช้​ข้าง​กาย​สือ​อี​เหนียง​ที่​มีอำนาจ​มาก​ที่สุด​ ​ใคร​ได้​แต่ง​กับ​หู่​พั่ว​ก็​จะ​สามารถ​ไต่เต้า​ตำแหน่ง​ได้​สบาย​ๆ​ ​ไม่รู้​ว่า​มีตั​้​งกี​่​คนที​่​กำลัง​จับตาดู​อยู่​ ​และ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​รัก​และ​เอ็นดู​หู่​พั่ว​เสมอมา​ ​หาก​เป็น​คนธรรมดา​ทั่วไป​เกรง​ว่า​จะ​ไม่​อนุญาต​ให้​หมั้น​หมาย​ ​ต้อง​เป็น​คนที​่​มี​อนาคต​สว่างไสว​ ​แต่​สำหรับ​หง​ซิ่ว​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่มี​ที่พึ่ง​ที่​แข็งแกร่ง​เหมือนกับ​หู่​พั่ว​ ​แต่​นาง​ก็​ทำงาน​อยู่​ใน​เรือน​หลัก​ ​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​หู่​พั่ว​และ​ชิว​หง​ ​เป็นสาว​ใช้​ข้าง​กาย​ของ​อี๋​เหนียง​เช่นกัน​ ​แต่​หู่​พั่ว​กับ​ชิว​หงก​ลับ​มี​ความแตกต่าง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​คนใน​จวน​ ​และ​เกิด​ใน​สกุล​เหวิน​เมือง​หยาง​โจว​ ​มีทรัพย์​สมบัติ​มากมาย​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่​สามารถ​อยู่​ใน​จวน​ต่อไป​ได้​ ​แต่​ก็​ยัง​สามารถ​ไป​ขอ​อาศัย​สกุล​เหวิน​ได้​ ​แต่ว่า​ตน​ไม่มีใคร​เป็น​ที่พึ่ง​ ​ไม่มี​เงินเก็บ​ ​ขนาด​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​ยัง​ถูก​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ไป​ปฏิบัติ​ที่​อาราม​เพราะ​ไม่เชื่อฟัง​ ​ใคร​จะ​กล้า​ไปล่​วง​เกิน​หู่​พั่ว​…​ไม่แน่​หาก​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​ไม่พอใจ​ ​อาจจะ​ต้อง​ให้​ชดใช้​โดย​การกลายเป็น​คนตาบอด​หรือ​คนพิการ​ก็​เป็นได้

​เมื่อ​คิดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​อด​รู้สึก​หงุดหงิด​ไม่ได้

​จู​หรุ​่ย​ชะเง้อ​มอง​อยู่​ที่​ประตู

​“​มี​อะไร​หรือ​”​ ​ซิ่ว​หยวน​วาง​เข็ม​กับ​ด้าย​ใน​มือ​ลง​ ​“​ไม่​เป็นโล้เป็นพาย​เลย​สัก​คน​”

​จู​หรุ​่ย​เดิน​เข้ามา​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม​เล็กน้อย​ ​“​พี่​ซิ่ว​หยวน​ ​วันนี้​อี๋​เหนียง​ทาน​โจ๊ก​แค่​ชาม​เดียว​กับ​ผัก​เครื่องเคียง​จาน​เล็ก​อีกแล้ว​”

​ซิ่ว​หยวน​ได้​ฟัง​แล้วก็​มีสี​หน้า​หม่นหมอง​ ​วาง​เข็ม​กับ​ด้าย​ใน​มือ​ลง​แล้วไป​ที่​ห้อง​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง

​ผม​สีดำ​ขลับ​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ถูก​มวย​ขึ้น​อย่างเรียบร้อย​ ​สวม​เสื้อแขนยาว​สีขาว​นวลจันทร์​ที่​ยัง​ดู​ใหม่​อยู่​ ​ท่าทาง​ซูบผอม​กว่า​ตอน​ตรุษจีน​เล็กน้อย​ ​เริ่ม​เห็น​โครงหน้า​ชัดเจน​ ​ดวงตา​กลม​โต​ดู​โดดเดี่ยว​ ​ทุกอย่าง​เปลี่ยนไป​อย่างรวดเร็ว

​อาหาร​ที่​เหลืออยู่​บน​โต๊ะ​ยัง​ไม่ได้​ถูก​เก็บ​ออก​ไป

​ซิ่ว​หยวน​เหลือบมอง​ ​ยิ้ม​พลาง​เดิน​เข้าไป​เรียก​นาง​ ​“​อี๋​เหนียง​”​ ​แล้ว​อุทาน​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​ไอ​๊​หยา​ ​วันนี้​บ่าว​ให้​ห้องครัว​ทำ​เต้าหู้​ใส่​ไข่​ให้ท่าน​โดยเฉพาะ​ ​ทำไม​ท่าน​ไม่​แตะ​เลย​สักนิด​เล่า​ ​หรือว่า​คนครัว​ทำ​มา​ไม่อร่อย​เจ้า​คะ​”

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​วาง​ชาม​ลง​ ​“​วันนี้​ไข่​มีกลิ่น​คาว​มาก​”

​สอง​วันก่อน​ก็​บอกว่า​เนื้อ​มีกลิ่น​แรง​ ​เมื่อวาน​ก็​บอกว่า​ปลา​มีกลิ่น​คาว​ ​วันนี้​แม้แต่​ไข่​ก็​มีกลิ่น​คาว​…​นาง​ครุ่นคิด​อยู่​ใน​ใจ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ให้​คนครัว​ตุ๋น​ไก่​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​!​”

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ไม่ได้​สนใจ​เรื่อง​นี้​เลย​สักนิด​ ​ลุกขึ้น​แล้วไป​ที่​ห้อง​ด้านใน

​“​ข้า​ขอ​ชา​สัก​ถ้วย​!​”​ ​นาง​กำชับ​ซิ่ว​หยวน​ ​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ ​เปิด​ดู​คัมภีร์​พระ​สูตร​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​อย่างตั้งใจ

​ซิ่ว​หยวน​วาง​ชา​ไว้​ข้าง​มือ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เบา​ๆ​ ​สายตา​ของ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​จับจ้อง​ไป​ที่​คัมภีร์​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​เงยหน้า​ขึ้น​มา

​จู​หรุ​่​ยม​อง​ซิ่ว​หยวน​ด้วย​ความกังวลใจ

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ไม่​แตะ​เนื้อสัตว์​มา​เกือบ​หนึ่ง​เดือน​แล้ว​ ​ทุกวัน​จะ​ตื่น​แต่เช้า​แล้ว​เข้านอน​แต่​หัวค่ำ​ ​เวลาว่าง​ก็​จะ​อ่าน​คัมภีร์​หรือไม่ก็​คัดลอก​คัมภีร์​ ​เหมือน​ผู้​ที่​ปฏิบัติธรรม​ใน​เรือน​ ​ทำให้​พวก​นาง​รู้สึก​ตกใจ

​ซิ่ว​หยวน​ก็​หมดปัญญา​จึง​ได้​ถอย​ออกมา​ ​ชิม​เต้าหู้​ใส่​ไข่​ด้วย​ความ​ไม่เชื่อ​ว่า​ไข่ไก่​มีกลิ่น​คาว

ทั้ง​นุ่ม​ทั้ง​ลื่น​ ​อร่อย​เป็นอย่างมาก​ ​ไม่เห็น​จะ​มีกลิ่น​คาว​เลย​สักนิด

​“​พี่​ซิ่ว​หยวน​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​!​”​ ​จู​หรุ​่ย​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​พูด​ด้วย​ความ​เป็นกังวล​ ​“​พวกเรา​พูด​เรื่อง​ใน​จวน​ดี​หรือไม่​ ​ไม่แน่​พอ​อี๋​เหนียง​ได้​ฟัง​อาจจะ​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มา​…​”

​“​เช่นนั้น​ไม่​สู้​ไม่​พูด​จะ​ดีกว่า​”​ ​ซิ่ว​หยวน​ไม่เห็นด้วย​ ​“​ป้า​เถา​ถูกฮู​หยิน​ให้​ไป​อยู่​ที่​หมู่บ้าน​ ​คนที​่​เคย​เป็น​ผู้ดูแล​ใน​เรือน​ของฮู​หยิน​สี่​คน​ก่อน​ถูก​เปลี่ยนเป็น​คน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ข้าวของเครื่องใช้​ก็​ถูก​เก็บ​จน​หมด​…​ไม่​พูด​จะ​ดีกว่า​ ​เกรง​ว่า​หาก​พูด​ให้​ฟัง​ใน​ใจ​ของ​อี๋​เหนียง​จะ​แย่​ลง​กว่า​เดิม​”

​“​ไม่ใช่​เรื่อง​นี้​!​”​ ​จู​หรุ​่​ยพูด​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​หมายถึง​ท่าน​โหว​…​”

​ซิ่ว​หยวน​ประหลาดใจ​ ​“​ท่าน​โหว​?​ ​ท่าน​โหว​เป็น​อะไร​”

​“​ข้า​ได้ยิน​ป้า​เถี​ยน​บอกว่า​ประมาณ​เดือน​หกฮู​หยิน​จะ​อาการ​ดีขึ้น​”​ ​จู​หรุ​่​ยพูด​เสียง​เบา​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ท่าน​โหวก​็​จะ​ไม่เอา​แต่​อยู่​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ทุกวัน​แล้ว​ ฮู​หยิน​ก็​ไม่ได้​หา​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​ให้ท่าน​โหว​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​อี๋​เหนียง​ของ​พวกเรา​ก็​จะ​มีโอกาส​!​”

​ซิ่ว​หยวน​ได้​ฟัง​ก็​ใจเต้น​แรง​ ​เงยหน้า​ขึ้น​กำลังจะ​ถาม​อย่างละเอียด​ ​กลับ​เห็น​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยืน​อยู่​หน้า​ผ้าม่าน​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไม่รู้​ว่านา​งมา​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ได้ยิน​ไปมาก​น้อย​แค่ไหน

​“​อี๋​เหนียง​!​”​ ​ซิ่ว​หยวน​กับ​จู​หรุ​่ย​หยุด​บทสนทนา​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​การแอบ​พูดลับหลัง​เช่นนี้​ทำให้​พวก​นาง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ใจ​เล็กน้อย

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​เดิน​ออก​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​“​ได้เวลา​ไป​คารวะฮู​หยิน​แล้ว​!​”

​จู​หรุ​่ย​ตอบรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​รีบ​ตาม​ไป

​ตอนที่​พวก​นาง​ไป​ถึง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​ต่าง​ก็​มาถึง​กัน​หมด​แล้ว

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​ไป​นั่ง​อยู่​ที่​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​ที่​เหลือ​ว่าง​ไว้​ให้​นาง​อย่าง​เงียบๆ​ ​ฟัง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง

​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​โหว​บอกว่า​พรุ่งนี้​จะ​ออกเดินทาง​ยาม​อิ​๋น​ ​ให้ท่าน​จัดหา​ป้า​รับใช้​ที่​ไหวพริบดี​ไว้​ข้าง​กาย​คุณชาย​น้อย​สี่​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​บ่าว​รับใช้​ถอย​ออก​ไป​อย่างนอบน้อม

​ฉิน​อี๋​เหนียง​นับวัน​ดูแล​้ว​ ​พรุ่งนี้​พิธี​ยี่สิบ​เอ็ด​วัน​ของ​หยวน​เหนียง​ก็​จะ​เสร็จสิ้น​ ​สวี​ซื่อ​จุน​จะ​ต้อง​ไป​จุด​ธูป​ให้​หยวน​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ป้า​ซ่ง​ไป

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ใช้เวลา​อยู่​ที่​วัด​ ​กระทั่ง​พลบค่ำ​กว่า​จะ​ได้​กลับ​จวน

​สวี​ซื่อ​จุน​ไป​ยัง​เรือน​เก่า​ของ​หยวน​เหนียง

​ใบ​ของ​ต้น​ตง​ชิง​ที่​ลาน​ทั้ง​หนา​และ​เขียวชอุ่ม​เช่นเคย​ ​แต่​ของมีค่า​อย่าง​ไข่มุก​และ​เครื่องประดับ​ระยิบระยับ​ใน​เรือน​นั้น​ได้​หาย​ไป​แล้ว​ ​เหลือ​เพียง​ข้าวของเครื่องใช้​สีดำ​และ​ชั้น​วาง​สมบัติ​สีดำ​ที่ว่างเปล่า​ ​ข้างๆ​ ​มี​ม่าน​สีน้ำเงิน​ที่​ยัง​ใหม่​อยู่​ถูก​ปลด​ลง​ ​ทำให้​ห้อง​ที่​เคย​สว่างไสว​ดู​มืดครึ้ม​ลง​ ​ไม่​เหมือน​ใน​อดีต​อีกต่อไป​ ​ทั้ง​ห้อง​ราวกับ​สาวงาม​ที่​ล้าง​เครื่อง​แต่งหน้า​ออก​ใน​ตอน​พลบค่ำ​ ​สูญเสีย​ความสว่าง​ไสว​และ​ดู​โทรม​ในทันที

​สวี​ซื่อ​จุน​ยืน​อยู่​กลาง​ห้องโถง​ ​เหม่อมอง​ห้อง​ที่ว่างเปล่า​ ​นิ่งเงียบ​อยู่​พักใหญ่

​ป้า​วัง​อธิบาย​เสียง​เบา​อยู่​ข้างๆ​ ​“ฮู​หยิน​สี่​บอกว่า​สิ่งของ​เหล่านั้น​มีค่า​เป็นอย่างมาก​ ​และ​เป็น​ของ​ที่​ท่าน​แม่​ของ​ท่าน​เหลือ​ทิ้ง​ไว้​ ​หาก​หาย​ขึ้น​มาชิ​้น​หนึ่ง​จะ​แย่​เอา​ได้​ ​จึง​ให้​พวกเรา​เก็บ​ไว้​ใน​คลัง​ ​รอ​ให้​ซื่อ​จื่อ​แต่งงาน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​มอบให้​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

ของดี​เช่นนี้​จะ​ต้อง​มี​คน​โลภ​อยากได้​อย่างแน่นอน

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​แต่​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ใน​ใจ​กลับ​รู้สึก​ทรมาน​เล็กน้อย

​เขา​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​รูปวาด​ครึ่งตัว​ของ​มารดา​อยู่นาน​ไม่ยอม​ขยับตัว​ไป​ไหน

​******

​หลังจาก​ทานอาหาร​เย็น​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​เรียบร้อย​ ​ทุกคน​ก็​ไป​นั่ง​ดื่ม​ชา​ที่​ห้อง​ปีก​ตะวันตก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดถึง​เรื่อง​ที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​จะ​ไป​ปีน​เขา​ ​“​…​ช่วงนี้​เป็นช่วง​ที่​ดอกไม้งาม​สะพรั่ง​ ​อวี​้​เกอ​ก็​มีเรื่อง​ดี​เช่นนี้​ ​การ​ที่​พวก​เจ้า​บรรดา​พี่น้อง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​การเฉลิมฉลอง​ก็​เหมือนกับ​เป็นการ​เพิ่ม​เรื่อง​มงคล​ ​เพียงแต่ว่า​ใน​บรรดา​พี่น้อง​อย่าง​พวก​เจ้า​มีทั​้ง​เด็กโต​และ​เด็กเล็ก​ ​สำหรับ​จุน​เกอ​กับ​เจี​้ย​เกอ​แล้ว​ ​การ​ปีน​เขา​นั้น​เหนื่อย​เกินไป​ ​ข้าว​่า​ให้​อาจารย์​จ้าว​ไป​เรือน​นอก​ที่​ซี​ซาน​เป็นเพื่อน​พวก​เจ้า​หนึ่ง​วัน​ก็​พอแล้ว​ ​ฉิน​เกอ​และ​คนอื่นๆ​ ​อยาก​จะ​ไป​ปีน​เขา​ก็​ไป​ปีน​เขา​ ​จุน​เกอ​กับ​เจี​้ย​เกอ​เด็กน้อย​สอง​คน​ก็​เล่น​อยู่​ใน​เรือน​”

​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​และ​ผิดหวัง​เล็กน้อย

​ที่​ประหลาดใจ​ก็​เพราะ​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้เรื่อง​นี้​ได้​อย่างไร​ ​ซ้ำ​ยัง​จัด​แผนการ​เดินทาง​อย่างเคร่งครัด​ ​เดิมที​พวกเขา​เตรียม​จะ​อ้างว่า​จะ​ไป​เยี่ยม​สหาย​ร่วม​ชั้นเรียน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​แล้ว​แอบ​ออก​ไปเที่ยว​เล่น​หนึ่ง​วัน​ ​แต่​ที่​ผิดหวัง​ก็​คือ​เรื่อง​นี้​ไม่​เพียงแค่​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​เข้า​ ​ซ้ำ​ยัง​จัดเตรียม​ให้​อาจารย์​จ้าว​ซึ่ง​เป็น​ผู้ให้​วิชา​ความรู้​ไปเป็นเพื่อน​พวกเขา​ด้วย​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ก็​ต้อง​อยู่​ใน​กฏ​ระเบียบ​ ​ยัง​จะ​มีอิสระ​อะไร​อีก​ ​แต่​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​เช่นนี้​ ​พวกเขา​จึง​ทำได้​เพียง​ก้มหน้า​ตอบ​ตกลง​ ​“​ขอรับ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​กลับ​รู้สึก​ปิติยินดี​ ​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​ตัวเอง​พูด​กับ​ท่าน​แม่นั​้น​ได้ผล​ ​ยัง​ไม่ทัน​รอ​ให้​คนที​่​ดื่ม​ชา​แยกย้าย​กัน​ไป​ ​เขา​ก็​แทบจะ​รอ​ไม่ไหว​ที่จะ​ไป​ส่ง​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​ลับ​เรือน​สือ​อี​เหนียง

​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​วันนี้​ท่าน​พ่อ​บอก​แล้ว​ว่า​พวกเรา​จะ​ได้​ไป​ที่​ซี​ซาน​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่ว่า​ไม่ได้​บอกว่า​ให้​พวกเรา​ย่าง​เนื้อ​ ​ท่าน​พูด​กับ​ท่าน​พ่อ​อีก​ได้​หรือไม่​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ให้​พวกเรา​ย่าง​เนื้อ​อยู่​ที่​ลาน​หลัง​เรือน​”

​“​ย่าง​เนื้อ​ได้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตอนนี้​เป็น​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​“​แต่ว่า​ต้อง​ทาน​แค่​หนึ่ง​ชิ้น​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ตอบ​ตกลง

​กระเพาะ​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​หาก​จะ​บอกว่า​ย่าง​เนื้อ​สำหรับ​ทาน​ไม่​สู้​บอกว่า​ย่าง​เนื้อ​เพื่อ​ความสนุก​สนาน​จะ​ดีกว่า

​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​กำชับ​เยี​่​ยน​หรง​ให้​ช่วย​จัดเตรียม​ให้​เจ้า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​รับปาก

​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่รู้​สึก​เสียใจ​แล้ว​ ​กลับ​เรือน​ไป​อย่าง​มีความสุข

​ระหว่างทาง​ได้​ผ่าน​เรือน​เก่า​ของ​หยวน​เหนียง

​ฝีเท้า​ของ​เขา​หยุด​ลง​โดยไม่รู้ตัว

​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ ​พวกเรา​รีบ​กลับ​ไป​กัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ฉา​เซียง​ไม่​ชอบ​เรือน​หลัง​นั้น​ ​นาง​ได้ยิน​มา​ว่าฮู​หยิน​สี่​คน​ก่อน​เสียชีวิต​ที่นั่น​ ​นาง​จึง​แอบ​ขนลุก​ ​“​ฟ้า​มืด​มาก​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​ยัง​จะ​ต้อง​ตื่น​ไป​เรียน​แต่เช้า​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ไม่สน​ใจคำ​พูด​ชักจูง​ของ​นาง​ ​เดิน​ไป​เคาะ​ประตู

​คนที​่​มา​เปิด​ประตู​เป็น​หญิง​ชรา​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เป็น​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​รีบ​กำชับ​ให้​คน​ไป​จุด​โคมไฟ​ที่​ใต้​ชายคา​เรือน​ ​ถือ​โคมไฟ​แปดเหลี่ยม​พา​จุน​เกอ​เข้าไป​ที่​ห้อง​ด้านใน

​จุน​เกอ​ยืน​อยู่​หน้า​ภาพวาด​ของ​มารดา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ไท่ฮู​หยิน

​เช้า​วันรุ่งขึ้น​เมื่อ​เขา​ไป​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ท่าทาง​ก็​ดู​หงอยเหงา​เล็กน้อย​ ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ป้า​เถา​จะ​กลับมา​เมื่อไร​หรือ​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

​ทั้ง​ห้อง​เต็มไปด้วย​ผู้คน​แต่กลับ​เงียบกริบ​ ​ราวกับ​ไม่มี​สิ่งมีชีวิต​อยู่

​สวี​ซื่อ​จุน​พึมพำ​ว่า​ ​“​ข้า​อยาก​กิน​ขนมฝู​หลิง​ที่​ป้า​เถา​ทำ​”

​“​รอ​ให้​ขา​ของ​เถา​เฉิง​หาย​ดีขึ้น​ก็​คงจะ​กลับมา​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ตบ​บ่า​สวี​ซื่อ​จุน​เบา​ๆ​ ​“​พอ​เจ้า​พัก​ตอนกลางวัน​ ​ข้า​จะ​ทำ​ขนมฝู​หลิง​ให้​เจ้า​ทาน​!​”

​สวี​ซือ​จุน​ตอบ​ ​“​ขอรับ​!​”​ ​ด้วย​ความดีใจ​ ​ปรึกษา​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​อีก​สอง​วัน​จะ​เอา​อะไร​ไป​ทาน​ที่​ซี​ซาน​บ้าง

​ตอนเที่ยง​สือ​อี​เหนียง​ทำ​ขนมฝู​หลิง​ตามที่​รับปาก​เอาไว้

​สวี​ซื่อ​จุน​ดึง​ออก​เป็น​สอง​ชิ้น​ ​ตรงกลาง​เป็น​สีขาว​นวล

​เขา​ก้มหน้าก้มตา​ทาน​ขนมฝู​หลิง​คำ​เล็ก​ๆ​ ​อย่าง​ผิดหวัง

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เช่นนั้น​ก็​ให้​คน​ไป​สืบมา​ว่า​ป้า​เถา​ทำ​ขนมฝู​หลิง​อย่างไร

​วัน​ต่อมา​ก็​ใส่​ลูกเกด​ใน​ขนมฝู​หลิง

​สวี​ซื่อ​จุน​ทาน​ไป​สอง​ชิ้น​ ​นับตั้งแต่​นั้น​ก็​ไม่​พูดว่า​อยาก​ทาน​ขนมฝู​หลิง​อีก​เลย

​หลัง​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​กลับมา​จาก​ซี​ซาน​ไม่​กี่​วัน​ก็​เป็น​วันเกิด​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ต้อง​ส่ง​สวี​ซื่อ​อวี​้​เดินทาง​ไป​เล่อ​อาน​ ​แล้วก็​เตรียมตัว​สำหรับ​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ใน​เดือน​ห้า​ ​พบปะ​ผู้ดูแล​หญิง​จาก​สกุล​เซ่า​ที่มา​คารวะ​ ​แต่ละ​เรื่อง​แม้ว่า​จะ​ไม่ต้อง​ให้​สือ​อี​เหนียง​จัดการ​ด้วยตัวเอง​ ​แต่​ก็​ไม่​สามารถ​วางมือ​ไม่​ถามไถ่​ได้​ ​นาง​ทำได้​เพียง​ให้​เยี​่​ยน​หรง​ใส่ใจ​สวี​ซื่อ​จุน​ให้​มากขึ้น​ ​“​…​หาก​มี​อะไร​ให้​รีบ​มารา​ยงา​นข​้า​ก่อน​ ​อย่า​คิด​ว่า​เป็นเรื่อง​เล็ก​แล้ว​ปล่อย​ให้​ผ่าน​ไป​”

​เยี​่​ยน​หรง​ตอบรับ​อย่างนอบน้อม​ ​ไปมาหาสู่​กับ​ฉา​เซียง​สาวใช้​ข้าง​กาย​สวี​ซื่อ​จุน​อย่างสนิทสนม

​เพียว​ชั่วพริบตา​เดียว​ก็​มาถึง​ต้นเดือน​ห้า​แล้ว​ ​มี​จดหมาย​มาจาก​อวี​๋​หัง​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​หรือว่า​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​ใน​จดหมาย​นั้น​ล้วน​เต็มไปด้วย​ความปิติยินดี​ที่​สือ​อี​เหนียง​ตั้งครรภ์​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​โล่งใจ​อยู่​ไม่น้อย​ ​มอบ​จดหมาย​ให้​หู่​พั่ว​ไป​วาง​ไว้​ที่​ห้อง​หนังสือ​ของ​ตัวเอง​ ​ส่วนตัว​เอง​ก็​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​จ้องมอง​ดู​ท้องน้อย​ๆ​ ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ช่าง​เป็น​คน​มี​วาสนา​เสีย​จริง​!​”​ ​น้ำเสียง​เต็มไปด้วย​ความ​ทอดถอนใจ

​สือ​อี​เหนียง​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​จับมือ​นาง​ ​“​ใกล้​จะ​ถึง​วันเกิด​เจ้า​แล้ว​ ​มี​อะไร​ที่​อยากได้​เป็นพิเศษ​หรือไม่​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท