รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 407 ตระกูลไป๋ในตอนนี้ น่ากลัวว่าจะเต็มไปด้วยแมลงมอด!

บทที่ 407 ตระกูลไป๋ในตอนนี้ น่ากลัวว่าจะเต็มไปด้วยแมลงมอด!

บทที่ 407 ตระกูลไป๋ในตอนนี้ น่ากลัวว่าจะเต็มไปด้วยแมลงมอด!

ยอดฝีมือมากมายในตระกูลไป๋เคลื่อนไหว นำทุกสิ่งออกไปเท่าที่จะสามารถนำออกไปได้ เซี่ยเหยียนเห็นทุกอย่างอยู่ในสายตา

ทว่านางมิได้แตกตื่น

มีประสบการณ์จากตำหนักหลอมโอสถแล้ว นางรู้ว่าของดีที่แท้จริงมิใช่ว่านำออกไปได้ง่าย ๆ

ตามคาด หลังจากนางมาถึงอีกสถานที่ก็ได้เห็นของดีอีกคณานับ และบนของเหล่านี้ล้วนมีผนึกวางไว้

ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยศาสตราระดับสูง ซ้ำยังมีวัสดุมากมาย เห็นได้ชัดว่าเป็นสถานที่หลอมศาสตรา

นางลงมือทันที เก็บทุกสิ่งในนี้ไปหมด ไม่ปล่อยไปแม้แต่ขนเส้นเดียว

“บ่อหล่อหลอม ค้อนดารา…!”

ผู้อาวุโสแปดเห็นภาพนี้แล้วทนไม่ไหวอีกต่อไป กระอักเลือดออกมา อาภรณ์ถูกย้อมเป็นสีชาด

บ่อหล่อหลอม ก่อร่างขึ้นจากของเหลวล้ำค่าหายากมากมาย ใช้หล่อหลอมศาสตรา เพื่อยกระดักพลังขอบเขตและพลานุภาพของศาสตรา

แม้แต่อาวุธจักรพรรดิเมื่อถูกหย่อนลงไปในบ่อหล่อหลอมก็ได้รับการยกระดับเช่นกัน!

มูลค่าของค้อนดาราสูงเกินจินตนาการ เป็นค้อนที่บรรพชนตระกูลไป๋ท่านหนึ่งทุ่มเทกายใจ หลอมรวมวัตถุดิบมหัศจรรย์มากมายในใต้หล้าผืนนี้ ใช้ในการตีสร้างศาสตรา และเพิ่มโอกาสตีสร้างศาสตราสำเร็จได้มหาศาล

อีกด้าน เซี่ยเหยียนเดินหน้าต่อ ตอนนี้นางมาอยู่ในทุ่งสมุนไพรแห่งหนึ่ง

เห็นได้ว่าที่นี่มีหลุมอยู่เต็มไปหมด โอสถชั้นดีที่เคยปลุกไว้ที่นี่ถูกยอดฝีมือตระกูลไป๋ขุดออกไปหมดแล้วอย่างรวดเร็ว

ทว่าในส่วนลึกของทุ่งสมุนไพร มีประกายเจิดจ้า พลังชีวิตท่วมท้น มหาโอสถงอกงามอยู่ต้นแล้วต้นเล่า

“ไม่เลว ไม่เลว”

เซี่ยเหยียนหัวเราะเสียงหวาน ประสบการณ์ของนางมากมายกว่าในอดีต ดูออกว่ามหาโอสถเหล่านี้อยู่ในระดับใด

ที่นี่มีโอสถมหาจักรพรรดิทั้งหมดสามต้น โอสถจักรพรรดิแปดต้น

โอสถมหาจักรพรรดินั้น ต้นหนึ่งคือต้นองุ่น มีผลองุ่นห้อยอยู่มากมาย ประดุจอัญมณีสีแดงอันระยิบระยับที่ประดับประดาอยู่ตามต้นไม้ สีสันยวนใจ จนอดไม่ได้อยากกัดสักคำ

อีกสองต้นที่เหลือ ต้นหนึ่งคือต้นผิงกั่ว (แอปเปิล) ต้นหนึ่งคือต้นสาลี่ ล้วนผลิดอกออกผลอยู่แล้ว ผลผิงกั่วและผลสาลี่ที่งอกออกมาล้วนยวนตายวนใจ

‘ลานเล็กของท่านเซียนยังขาดต้นผลไม้อยู่จำนวนหนึ่ง เท่านี้กำลังดี ขุดออกไปแล้วนำไปให้ท่านเซียน!’

เซี่ยเหยียนคิดในใจ ก่อนจะเดินเข้าไป

ผนึกที่สลักอยู่ที่นี่ทรงพลังไร้สิ่งใดเปรียบ แข็งแกร่งน่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าผนึกที่อื่นเสียอีก

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเซี่ยเหยียน ผนึกเหล่านี้เสมือนของที่ตั้งไว้ดูเล่น ไม่เกิดผลแม้แต่น้อย ยามนางเดินผ่าน ผนึกเหล่านี้ล้วนทลายแตกตัวไปตาม ๆ กัน

จากนั้น นางขุดเอาโอสถมหาจักรพรรดิ โอสถจักรพรรดิ รวมถึงดินในไร่สมุนไพรแห่งนี้ไปด้วย

ดินในที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน มูลค่าสูงส่ง

“พี่สาว พี่สาวบังเกิดเกล้า ข้ายอมคุกเข่าให้ท่านแล้ว ปล่อยตระกูลไป๋ของพวกเราไปเถิด!”

ผู้อาวุโสแปดสติแตกไปแล้วอย่างสิ้นเชิง คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเซี่ยเหยียน โขกศีรษะไม่หยุด ขอร้องให้อิสตรีตรงหน้ารามือแต่เพียงเท่านี้

“พูดอะไรอยู่!? ข้าแก่ปานนั้นเชียว”

เซี่ยเหยียนต่อว่า

ตาเฒ่านี้อายุตั้งเท่าไรยังมาเรียกนางพี่สาวอีก หมายความว่าอย่างไร จะบอกว่านางคือแม่เฒ่าปีศาจหรือ?

“บัดนี้รู้จักขอความเมตตาแล้วหรือ”

จากนั้น นางหัวเราะเสียงเย็นพลางกล่าว “มิได้เป็นอย่างก่อนหน้าที่สั่งให้คนมาฆ่าข้า ซ้ำยังระดมพลังค่ายกลใหญ่มาสังหารข้าแล้วหรือ”

นางไม่คิดจบเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้

เป็นไปได้อย่างไร

หากมิใช่ว่านางมีไพ่ตายในตัวเยอะ ป่านนี้นางคงกลายเป็นศพไปแล้ว ซ้ำยังเป็นศพไม่ครบส่วน

นางมิได้เข่นฆ่าล้างบางตระกูลไป๋ก็นับว่าประเสริฐมากแล้ว ตอนนี้ยังหวังให้นางยอมจบเรื่องง่าย ๆ ไม่มีทาง!

นี่ไม่ใช่เวลาที่ยอมขอโทษนางแล้วนางจะยอมรามือแล้ว

เซี่ยเหยียนไม่สนใจผู้อาวุโสแปดอีก แต่เดินไปต่อจนถึงอีกสถานที่หนึ่ง

ดูเหมือนที่นี่จะเป็นสถานที่ประกอบพิธีของตระกูลไป๋ ภายในมีรูปปั้นบุรุษวัยกลางคนตั้งอยู่

รูปปั้นนั้นราวกับมีชีวิต ส่วนใบหน้าของบุรุษวัยกลางคนเป็นสันคม ท่าทางหล่อเหลาเอาการ

บุรุษวัยกลางคนองอาจอย่างยิ่ง แม้จะเป็นเพียงรูปปั้น กระนั้นยังสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่พร้อมพิชิตใต้หล้าได้!

ไม่ต้องคิดให้มากความ บุรุษวัยกลางคนผู้นี้ย่อมต้องเป็นคนใหญ่คนโตสูงส่งเหลือแสน!

“นี่คือเทียนตี้ไป๋แห่งตระกูลไป๋ของเรา นางเซียนโปรดปรานีด้วย!”

“ขอร้องเถิดนางเซียน!”

ยอดฝีมือมากมายคุกเข่ากับพื้น อ้อนวอนเซี่ยเหยียน กลัวนางจะทุบทำลายรูปปั้นนี้

“ท่านยิ่งใหญ่มาก อนิจจา คนรุ่นหลังของท่านใช้ไม่ได้…”

เซี่ยเหยียนเพ่งมองรูปปั้นนี้ มิได้ลงมือทำลายรูปปั้น

นางเก็บเครื่องสักการะใต้รูปปั้นไปทั้งหมด

จากนั้น หญิงสาวไปอีกหลายพื้นที่ ได้ของดีมาอีกไม่น้อย

“ผู้นำตระกูลของพวกเจ้ากลับมาเมื่อใดจงบอกเขาว่า อย่าได้คิดอุตริหมายหัวสุ่มสี่สุ่มห้าอีก เข้าใจหรือไม่”

เซี่ยเหยียนกล่าว “มิฉะนั้น ข้ามาครั้งหน้า จะมิใช่แค่นี้ และที่นี่ต้องได้หลั่งเลือดแน่!”

สั่งสอนพอแล้ว นางก็ไปจากตระกูลไป๋

หากผู้นำตระกูลไป๋มิใช่คนโง่เขลา ย่อมไม่คิดอุตริหมายหัวนางอีก

เมื่อนางจากตระกูลไป๋ไปได้ไม่นาน แสงรุ้งมากมายเหินเข้ามาจากฟากฟ้า จุติลงมายังดินแดนตระกูลไป๋

ผู้นำตระกูลกลับมาแล้ว!

รวมถึงห้าผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลไป๋ก็กลับมาแล้วทั้งหมด!

มียอดฝีมือรายงานสถานการณ์ภายในดินแดนให้ผู้นำตระกูลและห้าผู้อาวุโสใหญ่ฟังผ่านศาสตราสื่อสาร หลังผู้นำตระกูลและห้าผู้อาวุโสใหญ่ทราบข่าว ก็รีบรุดหน้ากลับมาทันที

“ผู้นำ…ตระกูล!”

ผู้อาวุโสแปดหน้าซีดเผือด ไม่เหลือเลือดฝาดแม้แต่น้อย คนทั้งคนดูชราภาพลงไปมาก เศร้าซึมสุด ๆ

เมื่อได้เห็นภาพเละเทะระเกะระกะภายในดินแดน ผู้นำตระกูลพลันสะเทือนอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง

“นี่มันเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่!”

เขามองผู้อาวุโสแปด ตวาดถาม

“ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ชัด ให้เจ้าสิบเจ็ด…เล่าเถิด”

ผู้อาวุโสแปดก้มหน้า บอกตามตรง เขาไม่รู้ว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไร เริ่มแรกตนเพียงต้องการปกป้องผู้อาวุโสสิบเจ็ดเท่านั้น

เขามิกล้าโป้ปด ปิดบังอย่างไรไหว การโกหกรั้งแต่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ของเขาแย่ลง

“พาผู้อาวุโสสิบเจ็ดเข้ามา!”

ผู้นำตระกูลสั่งให้พาผู้อาวุโสสิบเจ็ดมา

ผู้อาวุโสสิบเจ็ดก็มิกล้าโป้ปด เล่าทุกอย่างไปตามความจริง

“เจ้านี่อันธพาลเชียว! ผู้ใดมอบความกล้าให้เจ้าปานนั้น ไม่สนว่าความจริงเป็นเช่นไร ลำพังเจ้าไปถึงก็คิดฆ่าเซี่ยเหยียนซ้ำยังไม่สนชีวิตของคนทั้งสำนักไท่หัว เจ้าใช้พลังปราณระดับจ้าววิถีสูงสุดกดข่มผู้อื่น ความผิดของเจ้าก็ไม่อาจละเว้น เจ้าต้องโทษประหาร!”

ผู้นำตระกูลตะคอก “กฎตระกูลข้อแรกว่าอย่างไร เจ้าพูดให้ข้าฟังที!”

ผู้อาวุโสสิบเจ็ดก้มหน้ากล่าว “สมาชิกตระกูลไป๋ของเราห้ามมิให้รังแก่ผู้อ่อนแอกว่า ผู้ใดฝ่าฝืน ฆ่าไม่เว้น…”

“รู้แล้วเจ้ายังกล้าทำอีกหรือ!?”

ผู้นำตระกูลบันดาลโทสะ ศักดิ์ศรีของตระกูลไป๋ ชื่อเสียงของตระกูลไป๋ ล้วนป่นปี้หมดแล้วเพราะผู้อาวุโสสิบเจ็ด!

“เจ้าก็ด้วย ไม่สนผิดชอบชั่วดี ไม่ถามไถ่ถึงที่มาที่ไป เอาแต่ปกป้องลูกเดียว เจ้าเองก็ฝ่าฝืนกฎตระกูลอย่างร้ายแรงเช่นกัน ไม่อาจละเว้นความผิด!”

เขาหันมองผู้อาวุโสแปด โมโหมากเช่นกัน

การกระทำของผู้อาวุโสแปดทำลายชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของตระกูลไป๋จนราบคาบเช่นกัน!

“ในกาลเวลาอันแสนยาวนาน ตระกูลไป๋ของเราพำนักอยู่ในมิติเล็กแห่งนี้มาโดยตลอด ดูท่า พวกเจ้าคงลืมเลือนกฎตระกูลไป๋ของเราไปจนสิ้น!”

ผู้นำตระกูลปวดใจนัก บัดนี้ปัญหาภายในตระกูลไป๋ร้ายแรงเหลือคณา เหตุการณ์ของผู้อาวุโสสิบเจ็ดและผู้อาวุโสแปดมิใช่กรณีพิเศษแน่ น่ากลัวว่าภายในตระกูลไป๋ยังมีคนเช่นนี้อยู่มาก

ตระกูลไป๋… เต็มไปด้วยแมลงมอด!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท