ตอนที่ 369 รู้แจ้งทางอื่น สู้กับยายเมิ่ง!
ครืน!
ยายเมิ่งเคลื่อนไหว นางยกมือขึ้นบนท้องฟ้าแล้วเขย่า นภากาศพลันเต็มไปด้วยลมและเมฆ พลังงานหยินไร้ที่สิ้นสุดก่อตัวเป็นมือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ในพริบตา คว้าแสงกระบี่ที่หนิงฝานฟันลงมาตรงจุดนั้น!
“ทลาย!”
ลมหายใจต่อมา ด้วยเสียงของยายเมิ่งแสงกระบี่ต้าหลัวก็พังทลายลงในมือใหญ่!
“หืม?!”
หนิงฝานขมวดคิ้วทันที แล้วสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ร่างของยายเมิ่งซึ่งกำลังเคลื่อนไหว!
ในเวลานี้ จักรพรรดิสวรรค์ก็พูดด้วยเสียงทุ้ม “ผู้รู้แจ้งทางอื่น!!”
“ผู้รู้แจ้งทางอื่นคืออะไร” หนิงฝานรู้สึกงงงวย
จักรพรรดิสวรรค์อธิบายว่า “ผู้รู้แจ้งทางอื่นสามารถเรียกอีกอย่างว่า กึ่งราชันจักรพรรดิไร้เทียมทาน แม้ว่าคนประเภทนี้จะยังอยู่ในระดับกึ่งราชันจักรพรรดิ แต่เขามาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางหนึ่งแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาเพียงพอที่ประลองกับราชันจักรพรรดิเซียน”
“เช่นเดียวกับเส้นทางต้องห้ามของเจ้า หากเจ้าประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ มันก็เป็นการรู้แจ้งทางอื่น!”
“อ้อ! ที่แท้แล้วก็เป็นเช่นนี้เอง!”
หนิงฝานพยักหน้าพลางมองไปที่ยายเมิ่งด้วยแววตาเคร่งขรึม
…
ขณะที่หนิงฝานได้พบกับยายเมิ่ง อีกด้าน ตัวตนระดับสูงของโลกกำลังส่งเสียงจ้อกแจ้กวุ่นวายกัน
“โอ้! มีมังกรเร้นพยัคฆ์หมอบอยู่ในยมโลกจริงด้วย!”
“ใช่แล้ว! คาดไม่ถึงว่ายายเมิ่งผู้นี้จะเป็นผู้รู้แจ้งทางอื่น!”
“เมื่อเผชิญหน้ากับราชันจักรพรรดิเซียนไร้เทียมทานที่ขวางทางอยู่ หนิงฝานผู้นี้เกรงว่าคงมิอาจไปต่อได้แล้ว!”
“ดูเหมือนว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกแรงช่วยกัน!”
“อย่ารีบร้อน มีจักรพรรดิสวรรค์อยู่ ผู้รู้แจ้งทางอื่นคงมิอาจหยุดเขาได้!”
“มิผิด! ดูต่อไปก่อนเถิด รอหนิงฝานไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็ยังไม่สายเกินไปที่เราจะเคลื่อนไหว!”
“…”
…
“หนิงฝาน บังอาจนัก เจ้ากล้าที่จะบุกยมโลก!!”
ยายเมิ่งก้าวออกจากศาลา และตะโกนใส่หนิงฝานด้วยความโกรธ
“หืม? ท่านรู้จักข้า!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็ผงะ เพราะตั้งแต่เขาเข้าสู่ยมโลก เขาไม่เคยเอ่ยชื่อของตนเองออกมาแม้แต่ครั้งเดียว!
ทว่าในลมหายใจต่อมา ดูเหมือนว่าเขาจะเดาอะไรบางอย่างได้ จึงรีบถามว่า “ท่านเห็นสตรีที่ชื่อหลัวชิงเซียนใช่หรือไม่!”
“มิผิด!” ยายเมิ่งพยักหน้า
“นางอยู่ที่ใด” หนิงฝานเอ่ยถาม
“วิญญาณเข้าสู่ยมโลก ย่อมไปที่ดินแดนแห่งการเกิดใหม่ทั้งหกภพภูมิ!” ยายเมิ่งตอบอย่างไร้ความรู้สึก
“กลับชาติไปเกิด?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หนิงฝานก็ตื่นตระหนก จากนั้นเขาต้องการที่จะข้ามศาลายายเมิ่งเพื่อไปหาหลัวชิงเซียน
พรึ่บ!
ทว่าในลมหายใจต่อมา ยายเมิ่งก้าวไปข้างหน้า ขวางทางของชายหนุ่มไว้พลางกล่าวคำ “หนิงฝาน ข้าได้เห็นความสุขและความเศร้าของเจ้ากับหลัวชิงเซียนผ่านศิลาสามภพแล้ว ข้าต้องบอกว่านั่นเป็นความเสียใจระหว่างเจ้ากับนางจริง ๆ แต่ตอนนี้เจ้าแยกจากนางแล้ว ทุกอย่างกลายเป็นอดีต ไฉนเจ้ายังยืนกรานที่จะตามหานางอีก!”
“กลายเป็นอดีตอะไร ที่ผ่านมาข้ารู้แค่ว่านางเป็นภรรยาข้า เป็นคนใกล้ชิดที่สุดในชีวิตนี้!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของหนิงฝานก็จ้องเขม็ง “ข้าจะต้องตามหานางให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นหอเซียนหรือยมโลก ก็อย่าได้มาขวางทางข้า!!”
“เฮ้อ!”
เมื่อเห็นได้ยินเช่นนี้ ยายเมิ่งก็ถอนหายใจ “ข้ารู้ว่าความรักระหว่างเจ้าสองคนนั้นฝังรากลึก ดังนั้นข้าจึงให้โอกาสหลัวชิงเซียน ให้นางกลับชาติไปเกิดพร้อมกับความทรงจำในชาติที่แล้ว หากเจ้าหันหลังกลับตอนนี้ เจ้าสองคนจะยังคงสามารถสานต่อวาสนาเดิมได้ หากเจ้ายังคงหมกมุ่นอยู่เช่นนี้ เจ้าจะตกอยู่ในนรกไปตลอดกาล!”
“ข้า หนิงฝานต้องการเพียงชีวิตนี้ ไม่ใช่ชาติหน้า!”
ทว่าหนิงฝานส่ายหัว จากนั้นเขากระตุ้นกระบี่ต้าหลัวในมือ “ไปให้พ้น ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไร้เมตตา!”
“งี่เง่ายิ่งนัก!”
ยายเมิ่งถอนหายใจ จากนั้นดวงตาขุ่นคู่หนึ่งก็เปล่งประกายออกมาด้วยแสงสดใสไม่รู้จบ
เห็นได้ชัดว่าจะไม่ปล่อยให้หนิงฝานผ่านไปเช่นนี้
“หึ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานก็ไม่พูดอะไรอีก เขาใช้พลังของจักรพรรดิสวรรค์ฟาดฟันไปที่ยายเมิ่งทันที!
ตู้ม!
ทันทีที่แสงกระบี่ต้าหลัวฉายออกมา ผู้คนนับล้านที่อยู่บริเวณโดยรอบศาลายายเมิ่งก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
“หืม? แท้จริงแล้วมีคนช่วยเจ้าอยู่!”
เมื่อเห็นพลังของจักรพรรดิสวรรค์บนกระบี่นี้ ดวงตาของยายเมิ่งพลันหดลงอย่างกะทันหัน แล้วในลมหายใจต่อมา ร่างกายที่คดเคี้ยวและแก่ชราของนางก็ปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ของราชันจักรพรรดิที่ไม่มีใครเทียบได้ แม้พลังของราชันจักรพรรดินี้จะไม่ใช่พลังที่แท้จริง แต่มันก็ไกลเกินกว่าพลังของหญิงสาวบนสะพานไน่เหอ ประมุขแม่น้ำลืมเลือน พระแม่แห่งดอกปี่อั้นและคนอื่น ๆ อยู่มาก
นี่คือ…การรู้แจ้งทางอื่น พลังของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนที่ไร้เทียมทาน!
ตู้ม!
ยายเมิ่งเคลื่อนไหวอีกครั้ง แล้วคลื่นของพลังราชันจักรพรรดิที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไม่มีใครเทียบได้ก็พุ่งเข้าหาลำแสงกระบี่ทันที!
ตู้ม!
ทันใดนั้น เมื่อราชันจักรพรรดิไร้เทียมทานปะทะกับกระบี่ต้าหลัวก็บังเกิดเสียงคำรามสะเทือนจักรวาล แล้วความว่างเปล่าในรัศมีหนึ่งล้านลี้ก็ระเบิดออก กระตุ้นพลังทำลายล้างไร้ที่สิ้นสุด!
ปัง! ปัง!
หลังจากการปะทะกันชั่วครู่ กระแสพลังทั้งสองก็พังทลายลงในความว่างเปล่า!
“หนิงฝาน! ยอมแพ้เสียเถิด ออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่มหาจักรพรรดิจะรับรู้ มิฉะนั้น จะไม่มีใครช่วยเจ้าได้ แม้แต่ยอดฝีมือในตัวเจ้า!”
หลังจากโจมตีหนึ่งครั้ง ยายเมิ่งก็พูดอีกครั้งเพื่อเตือนเขา
ชีวิตของทั้งสองคน นางได้สัมผัสมาแล้ว สิ่งนี้ทำให้นางหวนนึกถึงเรื่องของตนเอง นางไม่ต้องการเห็นหนิงฝานมาตายที่นี่!
แม้แต่ชาติหน้าก็มิอาจสานต่อวาสนาเดิม!
“ไม่มีทาง!”
ทว่าหนิงฝานกลับคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาระเบิดพลังเจ็ดส่วนของจักรพรรดิสวรรค์ออกมาจนสุดขีด!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หนิงฝานฟาดฟันกระบี่ของเขาครั้งแล้วครั้งเล้า กระบี่ต้าหลัวแทบจะทำลายล้างยมโลก!
แม้ร่างของยายเมิ่งจะค่อมเหมือนหญิงชรา ทว่าพลังแห่งการรู้แจ้งที่ไม่ธรรมดาของนางทำให้นางเกือบได้รับพลังของราชันจักรพรรดิเซียน
ปัง! ปัง! ปัง!
เห็นเพียงนางโบกมือทั้งสอง แสงกระบี่ต้าหลัวทั้งหมดที่ถูกฟันออกก็ถูกนางทำลายลงอย่างง่ายดาย!
ในชั่วพริบตา ทั้งสองต่อสู้กันมากกว่าร้อยกระบวนท่า มิหนำซ้ำทั้งสองยังสูสีกันอีกด้วย ไม่มีใครสามารถทำอะไรเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายได้!
“บัดซบ!”
หนิงฝานอดไม่ได้ที่จะมีน้ำโห จากนั้นความโกรธก็พุ่งขึ้นมาในดวงตาของเขา “ได้! วันนี้ข้าอยากจะดูนักว่า คนที่รู้แจ้งทางอื่นจะสามารถรับกระบี่ตี้ลั่วของข้าได้หรือไม่!!”
ชิ้ง!
ทันทีที่พูดจบ กระบี่ต้าหลัวในมือของเขาก็ลอยขึ้นท้องฟ้าและระเบิดเสียงดังกึกก้องออกมา!
ตู้ม!
ทันใดนั้น กระบี่ตี้ลั่วก็เริ่มแสดงฤทธิ์ เทพมารนับล้านคำราม ผู้คนหลายร้อยล้านกรีดร้อง…
“หืม? นี่มันวิชากระบี่อันใด!!”
และเมื่อกระบี่ตี้ลั่วเริ่มวิวัฒนาการ ยายเมิ่งก็ตกใจอย่างกะทันหัน ปล่อยพลังที่รุนแรงถึงชีวิตและความตายก็เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
ต้องรู้ว่า นางเป็นกึ่งราชันจักรพรรดิไร้เทียมทาน มีเพียงราชันจักรพรรดิเซียนแท้จริงเท่านั้นที่สามารถทำให้นางรู้สึกเช่นนี้ได้!
แต่ในเวลานี้ นางรู้สึกถึงมันจากกระบี่ของหนิงฝาน!
“ถอย!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ยายเมิ่งก็ตะโกนใส่สตรีสามนางบนสะพานไน่เหอทันที คนหลังไม่กล้าที่จะกล้าหาญและถอยห่างออกไปทันที
“กระบี่ตี้ลั่ว!”
ตู้ม!
ตอนนี้เอง หลังเสียงคำรามของหนิงฝานกระบี่ตี้ลั่วที่วิวัฒนาการมาจากกระบี่ต้าหลัวก็พังทลายลง!
เมื่อกระบี่ตกลงมา ซากศพของเทพมารนอนราบ สรรพสัตว์ถูกกวาดล้าง สวรรค์และโลกนับหมื่นดูเหมือนจะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง!
“มหาวิถีไร้กังวล!!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ยายเมิ่งก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ขณะที่ร่างกายของนางสั่นสะเทือน ร่างชราที่ค้อมตัวของนางก็ระเบิดออกเป็นแสงไม่มีที่สิ้นสุด จู่ ๆ ทั้งร่างของนางก็ดูเหมือนจะสง่างามและน่าเกรงขามขึ้นมา
หึ่ง หึ่ง หึ่ง!
ลมหายใจต่อมา ลำแสงก็พันเกี่ยวกันเหนือศีรษะของนาง ก่อตัวเป็นหญ้าที่มีใบสามใบ แต่ละใบมีความหมายลึกลับตามลัทธิเต๋า…หญ้าไร้กังวล!
ตู้ม!
ในที่สุด กระบี่ตี้ลั่วก็ปะทะกับมหาวิถีไร้กังวล