รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 417 แท็บเล็ตดาวเคราะห์สีฟ้า โลกในมือ? สุดยอด!

บทที่ 417 แท็บเล็ตดาวเคราะห์สีฟ้า โลกในมือ? สุดยอด!

บทที่ 417 แท็บเล็ตดาวเคราะห์สีฟ้า โลกในมือ? สุดยอด!

ภายในห้องครัว หลี่จิ่วเต้าเพิ่งตักน้ำเย็นลงหม้อ ไม่ทันได้ก่อไฟ ก็เห็นของมากมายที่ผู้เฒ่าไป๋หยิบออกมาผ่านทางหน้าต่าง

“นั่นมัน…อะไรน่ะ!?”

เขาประหลาดใจอย่างมาก สายตาถูกสิ่งหนึ่งท่ามกลางของมากมายดึงดูดไป

ไม่แปลกที่เขาจะถูกดึงดูดสายตา

ของชิ้นนั้นไม่ธรรมดาจริง ๆ เจิดจ้าเป็นพิเศษท่ามกลางราตรีที่ค่อนข้างมืดมน

“แท็บเล็ต…หรือ”

สีหน้าเขาแปลกไปนิดหน่อย สิ่งที่หมายตาอยู่ชวนให้นึกถึงแท็บเล็ตบนดาวเคราะห์สีฟ้า

ของชิ้นนั้นขนาดไม่ค่อยใหญ่ ไม่ต่างจากแท็บเล็ตบนดาวเคราะห์สีฟ้ามากนัก จับอยู่ด้วยมือข้างเดียว ตรงกลางคือกระจกสะท้อน รอบ ๆ มีผลึกโปร่งแสงวาววามคล้ายอัญมณีฝังอยู่

หากเพียงเพราะมีรูปลักษณ์ภายนอกเช่นนี้ยังไม่พอเป็นที่สนใจของหลี่จิ่วเต้า และไม่ชวนให้เขานึกถึงแท็บเล็ตบนดาวเคราะห์สีฟ้า

เพราะดูจากลักษณะภายนอก นี่เป็นเพียงกระจกบานหนึ่งเท่านั้น

ส่วนที่ดึงความสนใจของหลี่จิ่วเต้าไป ซ้ำยังชวนให้เขานึกถึงแท็บเล็ตบนดาวเคราะห์สีฟ้าคือตรงกลางกระจก มีภาพมากมายสลับกันปรากฏ!

ดูแล้วราวกับใช้แท็บเล็ตบนดาวเคราะห์สีฟ้าดูละคร!

พับผ่าสิ!

แบบนี้น่าสนุก!

เขาไม่อยากก่อไฟแล้วด้วยซ้ำ เดินตรงออกจากห้องครัว หมายจะเข้าไปตรวจดูอย่างละเอียด

อีกด้าน หลังไป๋มู่หยิบของกำนัลแทนคำขอโทษออกมา เซี่ยเหยียนก็อึดอัดขึ้นมาเหลือแสน

จะไม่ให้นางอึดอัดได้อย่างไร

ของดีภายในตระกูลไป๋ถูกนางปล้นมาเกือบหมด!

แต่ไป๋มู่ยังนำของขวัญแทนคำขอโทษมาให้อีก นางทั้งกระอักกระอ่วนทั้งเขินอาย

จะให้นางรับไว้ได้อย่างไรเล่า!

นางปริปากหมายจะปฏิเสธ ทว่ายังไม่ทันเอื้อนเอ่ยสิ่งใด ท่านเซียนก็เดินมาทางนี้

“ของชิ้นนี้… ขอข้าดูหน่อยได้หรือไม่”

หลี่จิ่วเต้ามองของที่ยังมีภาพต่าง ๆ กะพริบสับเปลี่ยนพลางถามไป๋มู่

ไป๋มู่ชะงัก นี่… เหนือความคาดหมายไปหน่อย

อีกฝ่ายคือท่านเซียนเชียวนะ แต่ละอย่างภายในลานล้วนมีมูลค่าเกินกว่าของทั้งหมดที่เขานำมารวมกันเสียอีก

ลำพังจอบที่ใช้ขุดดินซึ่งพิงอยู่ข้างกำแพง เขาก็สัมผัสถึงความไม่ธรรมดา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัสจักรพรรดิตรวจสอบได้ กระนั้นเขารู้ดีว่าจอบนี้ร้ายกาจยิ่งกว่าศาสตราระดับสูงสุดในตระกูลไป๋ของพวกเขาเสียอีก!

สำหรับท่านเซียน สิ่งที่เขานำออกมาน่ากลัวว่าจะเป็นของเล่นยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงสักนิด ทว่ากลับดึงดูดความสนใจของท่านเซียนได้ จะให้เขาคาดไม่ถึงได้อย่างไร

ไม่ใช่แค่เขาที่คาดไม่ถึง เซี่ยเหยียน หลิงอิน เสี่ยวหยาคาดไม่ถึงเช่นกัน ทุกคนต่างทอดมองของชิ้นนั้นพร้อมกัน ใคร่รู้เหลือเกินว่าของชิ้นนี้คือสิ่งใด

ถึงกับเป็นที่สนใจของท่านเซียนได้ ของชิ้นนี้ต้องสูงส่งไร้เทียมทานอย่างแน่นอน!

“ได้สิ คุณชายเชิญดูได้ตามสบาย”

อย่างไรไป๋มู่ก็เป็นถึงผู้นำของตระกูล มีไหวพริบดีเยี่ยม ไม่นานนักก็ได้สติ หยิบของชิ้นนั้นขึ้น

เขาครุ่นคิดในใจเช่นกันว่าของชิ้นนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่

ถึงอย่างไรสิ่งที่เป็นที่สนใจของท่านเซียน ไฉนเลยจะเป็นเพียงของธรรมดา

หากว่ากันแล้ว ของชิ้นนี้มีความลึกลับอยู่จริง ๆ

นี่คือกระจกสรรพสิ่ง มีความสามารถในการแสดงทัศนียภาพตามสถานที่ต่าง ๆ ในใต้หล้า เป็นสิ่งที่บรรพชนของตระกูล เทียนตี้ไป๋ได้มาจากซากโบราณแห่งหนึ่ง

เทียนตี้ไป๋ไม่ทราบที่มาที่ไปของกระจกสรรพสิ่งเช่นกัน

และสรรพคุณของกระจกสรรพสิ่งก็มิได้น่าทึ่งทรงพลังแต่อย่างใด เพียงแต่แสดงทัศนียภาพในที่ต่าง ๆ ให้เชยชมได้เพียงอย่างเดียว

นอกเหนือจากนี้ กระจกสรรพสิ่งไม่มีคุณลักษณะอื่นใดอีก ไม่อาจเปล่งพลังโจมตีได้อย่างศาสตราอื่นได้

มิหนำซ้ำ ทัศนียภาพที่เผยให้เห็นก็ไม่เป็นตามการควบคุม สุ่มแสดงไปเรื่อย ๆ การสับเปลี่ยนภาพก็ว่องไวเหลือแสน

อีกทั้งกระจกสรรพสิ่งก็ไม่อาจแสดงทัศนียภาพได้ครบทุกที่ ดินแดนซึ่งมีพลังสยดสยองสถิต ไม่เคยปรากฏในกระจกสรรพสิ่งมาก่อน

อย่างเช่นเก้าแดนต้องห้าม

กระจกสรรพสิ่งไม่เคยเผยภาพให้เห็นเลย

บอกตามตรง กระจกสรรพสิ่งนี้กระจอกยิ่ง ทัศนียภาพของแต่ละพื้นที่ไม่เป็นตามควบคุมไม่พอ ยังมีทัศนียภาพจากอีกหลายสถานที่ที่แสดงไม่ได้ หากมิใช่ว่าเทียนตี้ไป๋รู้สึกว่าซากโบราณแห่งนี้ไม่ธรรมดา บางทีกระจกสรรพสิ่งอาจมีประโยชน์การใช้ที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ที่ยังไม่ถูกค้นพบ เทียนตี้ไป๋คงไม่เก็บของกระจอกอย่างกระจกสรรพสิ่งไว้แน่

อนิจจา จวนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตเทียนตี้ไป๋ ขอบเขตพลังลึกล้ำเกินหยั่ง ชนะชัยเหนือเทียนตี้คนอื่นในขั้นเดียวกัน ก็ยังไม่อาจรู้แจ้งถึงสรรพคุณใหม่ของกระจกสรรพสิ่ง

ทว่านี่คือของที่เทียนตี้ไป๋เหลือไว้ให้ ตระกูลไป๋จึงสืบทอดต่อมารุ่นต่อรุ่น

แต่สำหรับพวกเขา กระจกสรรพสิ่งเป็นของกระจอกงอกง่อย ไม่มีคุณลักษณะใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น

หากมิใช่เช่นนั้น เหตุใดเมื่อถึงช่วงท้ายสุดของเทียนตี้ไป๋ผู้มีพลังเหนือเทียนตี้ตนอื่นทั้งปวงยังไม่อาจรู้แจ้งถึงสรรพคุณใหม่ได้

การใช้กระจกสรรพสิ่งอันกระจอกงอกง่อยเช่นนี้เป็นของกำนัลแทนคำขอโทษ มิใช่ว่าไป๋มู่อยากจะให้ของส่งเดชกับเซี่ยเหยียน

ตรงกันข้าม เขาใส่ใจเป็นหนักหนา สิ่งที่นำมาล้วนไม่ธรรมดา เป็นรองเพียงของดีที่เซี่ยเหยียนหยิบไปจากตระกูลไป๋

แม้ว่ากระจกสรรพคุณมีคุณลักษณะปวกเปียก ทว่าวัสดุที่ใช้ในการหลอมไม่ธรรมดา ผลึกที่ฝังอยู่รอบด้านน่าทึ่งเป็นที่สุด เทียบกับศาสตราจักรพรรดิมีแต่จะเหนือกว่า!

หากมิใช่เพราะเป็นของที่เทียนตี้ไป๋ทิ้งไว้ให้ ตระกูลไป๋ของพวกเขาจึงไม่อยากถอดชิ้นส่วนเพื่อละลาย นอกจากนี้ ตระกูลไป๋ของพวกเขามีรากฐานลึกล้ำ ใช่ว่าขาดแคลนศาสตราจักรพรรดิหรือศาสตรามหาจักรพรรดิ น่ากลัวว่ากระจกสรรพสิ่งนี้คงถูกตระกูลไป๋ของพวกเขารื้อถอนแล้วหลอมใหม่เป็นศาสตราอื่นไปนานแล้ว

หากต้องการถอดชิ้นส่วนหลอมใหม่จริง ๆ อย่างต่ำที่สุดก็เป็นได้ถึงศาสตราจักรพรรดิ กระทั่งเป็นศาสตรามหาจักรพรรดิยังได้

อีกด้าน หลี่จิ่วเต้ารับกระจกสรรพสิ่งมา

กระจกเบามาก จับไว้ในมือไม่รู้สึกถึงน้ำหนักเท่าใด บนกระจกมีภาพต่าง ๆ คอยสับเปลี่ยน ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกเหมือนกำลังดูละครผ่านแท็บเล็ตจริง ๆ และยังเป็นแบบเต็มจออีกด้วย

น่าสนุกจริง!

หากเขาได้กระจกบานนี้มา ว่าง ๆ ก็คอยดูภาพทิวทัศน์ในนี้ คงบันเทิงไม่น้อย

ภาพในกระจกคมชัดอย่างยิ่ง เสมือนว่าดำรงตนอยู่ในนั้นจริง ๆ ยอดเขาสูงชันเกลื่อนกลาด ฝูงนกบินผ่านเป็นครั้งคราว เขาได้ยินเสียงร้องของปักษาดังประหนึ่งว่าอยู่ข้างหูเขาอย่างไรอย่างนั้น ชัดยิ่งกว่าใส่หูฟังเสียอีก

อีกด้าน หลิงอิน เซี่ยเหยียน เสี่ยวหยา ไป๋มู่ต่างตะลึงในใจอย่างมาก

หลังจากท่านเซียนหยิบกระจกสรรพสิ่งขึ้นมา พวกเขาพลันรู้สึกว่ากระจกสรรพสิ่งเหมือนเกิดการวิวัฒนาบางอย่าง คล้ายว่ามีพลังบางอย่างกำลังฟื้นคืน!

ภาพคม เสียงชัด หลี่จิ่วเต้าดูเพลินเป็นหนักหนา แต่เพียงไม่นานเขาก็เริ่มเบื่อ ภาพนั้นมีเพียงฉากเดียว ไม่ยอมเปลี่ยนเสียที

ถ้าเปลี่ยนได้คงดี…

เขาคิดในใจ นิ้วมือตวัดผ่านกระจกอย่างทนไม่ไหว

“ข้าคิดอะไรอยู่! นี่มิใช่แท็บเล็ตจริง ๆ เสียหน่อย ใช้มือควบคุมได้อย่างไรเล่า!”

หลี่จิ่วเต้าคิดในใจว่าเขานี่เหลือเกิน ใช้กระจกในมือเป็นแท็บเล็ตจริง ๆ เสียได้

ทว่าไม่นานนักเขาก็ต้องตะลึง รอยยิ้มคลี่ออกบนใบหน้า

ให้ตายสิ ใช้มือควบคุมได้จริงหรือนี่!

คล้อยตามการตวัดนิ้วของเขา ภาพในกระจกเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาจริง ๆ เปลี่ยนไปตามทิศที่นิ้วมือของเขาตวัดไป

หรือว่า… หรือว่านี่จะเป็นโลกในมือ!?

ชายหนุ่มคิดในใจ นึกถึงตำนานเกี่ยวกับผู้ฝึกตนทรงพลังที่เคยได้ยินในต่างโลกแห่งนี้

ลือกันว่า ผู้ฝึกตนผู้แกร่งกล้าสามารถสร้างโลกของตนขึ้นมา ทุกสิ่งภายในล้วนเป็นไปตามความคิดของตน มหัศจรรย์น่าตื่นตะลึงเป็นที่สุด!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท