ตอนที่ 380 กลับสู่ราชวงศ์เทพขนนก อันตรายถึงแตกดับ!
“อ๊าก!!”
“สารเลว!”
“ทำลายสังสารวัฏหกวิถีของยมโลกข้า แล้วยังจะหนีไปอีก!!”
เมื่อเห็นหนิงฝานกำลังจะพุ่งหนีไป ราชันวิญญาณปัญจทิศซึ่งนำโดยจักรพรรดิเฟิงตูล้วนเดือดดาล
สังสารวัฏหกวิถีคือรากฐานยมโลกของพวกเขา หากไม่มีสังสารวัฏหกวิถี ยมโลกจะจบสิ้นอย่างแท้จริง นี่ทำให้ราชันวิญญาณปัญจทิศเผยจิตสังหาร หน้าตาดุร้ายและบิดเบี้ยว!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ลมหายใจต่อมา ราชันวิญญาณปัญจทิศกลายเป็นจิตสังหารน่าพรั่นพรึง ก่อนจะพุ่งเข้าหาหนิงฝานคนแล้วคนเล่า!
ทว่า…
“ฮ่า ๆๆ! สังสารวัฏหกวิถีพังทลายแล้ว ราชันวิญญาณเช่นพวกเจ้าจะถูกทำลายอีกครั้ง ยมโลกจะถูกทำลายจนสูญสิ้น!”
“ฮ่า ๆๆ! ราชันวิญญาณปัญจทิศ เป็นห่วงตัวเองก่อนดีกว่าหรือไม่!”
“วันนี้ สังสารวัฏถูกทำลาย ยมโลกถูกทำลาย ไม่มีใครสามารถหยุดได้!”
“อมิตาพุทธ! ฉางหวัง รีบกลับคืนสู่พุทธภูมิเสีย มีเพียงวันนี้ที่ข้าสามารถช่วยชีวิตได้!”
“…”
กลุ่มราชันจักรพรรดิเซียนทั้งหมดตะโกนเสียงดัง พวกเขาแบกรับศักดิ์ศรีของราชันจักรพรรดิเอาไว้เพื่อขวางทางและสังหารราชันวิญญาณปัญจทิศ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ทันใดนั้น สงครามอุบัติขึ้นอีกครั้ง เสียงคำราม เสียงต่อสู้ เสียงตะโกน ทั่วทั้งยมโลกตกอยู่ในการจลาจลครั้งสุดท้าย!
ฟ้าว! ฟ้าว! ฟ้าว!
ขณะเมินเฉยราชันวิญญาณปัญจทิศ ไม่สนใจศักดิ์ศรีของราชันจักรพรรดิเซียน หนิงฝานเพียงอุ้มวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนเอาไว้ทั้งอย่างนี้ ก่อนจะพุ่งออกจากยมโลก
“ภรรยา เรากลับกันเถอะ!”
หนิงฝานพึมพำ พลางกลายเป็นลำแสงกระบี่บินไปทางเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์
ตู้ม!!
ไม่นานหลังจากเขาไปแล้ว เพราะสูญเสียสังสารวัฏหกวิถีในยมโลกไป กฎเกณฑ์จึงไม่สมบูรณ์ ดังนั้น มันจึงแบกรับการต่อสู้ของราชันจักรพรรดิเซียนไม่ได้อีกต่อไป ในที่สุดก็บังเกิดการระเบิดสะเทือนปฐพี!
เหมือนกับหอเซียนในอดีต!
ยมโลก…พังทลายสิ้นแล้ว!
ด้วยการพังทลายของยมโลก การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิอันน่าสะพรึงยังคงไม่จบ ราชันวิญญาณปัญจทิศถูกตามล่าโดยกลุ่มราชันจักรพรรดิเซียนอย่างบ้าคลั่ง
แต่เรื่องทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวกับหนิงฝานอีกแล้ว!
เขากลายเป็นกระบี่แสงสว่าง ทะลุผ่านความว่างเปล่า ไม่ช้ากลับสู่เก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ ที่ที่เขากลายเป็นเทพ
“ท่านพ่อ ในที่สุดท่านก็กลับมา!”
“องค์ราชันหนิง ท่านปลอดภัยหรือไม่!”
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้น!”
“…”
เมื่อเห็นหนิงฝานกลับมา กลุ่มคนจากราชวงศ์เทพขนนกที่นำโดยหนิงหนานหนานออกมาต้อนรับทันที
จากหอเซียนถึงยมโลก ถึงแม้ช่วงเวลาจะผ่านไปสั้น ๆ แต่พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนกับผ่านไปหนึ่งปี รอคอยอย่างวิตก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหอเซียนพังทลาย ในสายตาของพวกเขามันเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่พังทลายในท้องนภา ทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!
หากหนิงหนานหนานไม่พยายามสุดความสามารถเพื่อห้ามเอาไว้ ผู้คนของราชวงศ์เทพขนนกจะต้องพุ่งออกจากเก้าสวรรค์เพื่อไปหาหนิงฝานเป็นแน่
“หนานหนาน พ่อพาแม่ของเจ้า… กลับมาแล้ว!”
หนิงฝานยิ้มออกมา
“ท่านแม่…อยู่ไหนหรือ?”
พอได้ยินเช่นนั้น หนิงหนานหนานไม่อาจห้ามอาการสั่นสะท้านทั่วร่างได้
ในฐานะคนของราชวงศ์เทพขนนก โดยเฉพาะชายชราที่เดินออกมาจากเก้าแคว้นแดนมนุษย์ ทุกคนต่างเผยสีหน้าตื่นเต้นออกมา
ถึงอย่างไร พวกเขาล้วนเคยพบกับหลัวชิงเซียน พวกเขาทราบว่านางคือจักรพรรดินีที่แท้จริงของราชวงศ์เทพขนนก
ฟ้าว!
หนิงฝานแบฝ่ามือทันที ลำแสงวิญญาณที่แท้จริงพุ่งออกไป
“ทะ… ท่านแม่หรือ?”
เมื่อเห็นลำแสงวิญญาณที่แท้จริง หนิงหนานหนานสั่นสะท้านไปทั่วร่าง ดวงตางดงามหลั่งน้ำตาออกมาทันที
“นี่คือ?”
“องค์จักรพรรดินี!”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!”
ตอนนี้ สายตาของผู้คนจากราชวงศ์เทพขนนกสั่นไหวเช่นกัน ทุกคู่ล้วนจับจ้องลำแสงวิญญาณที่แท้จริง
“หนานหนาน นี่คือวิญญาณที่แท้จริงของแม่เจ้า พ่อก้าวเข้าสู่หอเซียน ก่อนเข้าสู่ยมโลก…”
ตอนนี้ หนิงฝานอธิบายกระบวนการให้พวกหนิงหนานหนานฟังคร่าว ๆ
“หอเซียน!”
“ยมโลก!!”
“ฮ่า!”
แม้หนิงฝานจะอธิบายคร่าว ๆ ให้ฟังแล้ว แต่ผู้คนที่นำโดยหนิงหนานหนานยังอ้าปากค้าง
พวกเขารู้ว่าทั้งหอเซียนหรือยมโลก ต่างเป็นกองกำลังที่น่าสะพรึงที่สุดในสวรรค์และปฐพี
คาดไม่ถึงว่าเพื่อช่วยหลัวชิงเซียน หนิงฝานถึงกับก้าวเข้าสู่หอเซียนก่อน จากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ยมโลก!
“หนานหนาน… ลูกสาวของข้า…”
ในตอนนี้ วิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนพลันส่งคลื่นความผันผวนออกมา คำพูดเปี่ยมด้วยความยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งหลังแยกจากกันมานาน
“ท่านแม่!!”
หนิงหนานหนานไม่อาจหักห้ามได้อีกต่อไป น้ำตาใสสองสายไหลออกจากดวงตางดงามทันที
“คารวะท่านจักรพรรดินี!”
ในตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดจากราชวงศ์เทพขนนกทำการคารวะวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนคนแล้วคนเล่า
“ดี!”
“ดีมาก!”
“พวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่!”
ขณะมองใบหน้าคุ้นเคยรอบข้าง หลัวชิงเซียนตื้นตันเป็นอย่างยิ่ง หลังจากผ่านไปนานกว่าสามพันปี นางไม่คาดคิดว่า จะมีวันได้กลับมาสู่ราชวงศ์เทพขนนก
กลับมายังที่ที่นางห่วงใยมากที่สุด…ก็คือบ้าน!
วิ้ง!
ทันใดนั้น ไม่ทราบได้ว่าเป็นเพราะอารมณ์ของหลัวชิงเซียนผันผวนมาก หรือเป็นเพราะเหตุอื่น วิญญาณที่แท้จริงพลันสั่นไหว แสงสว่างของมัน พลันหมองหม่น ราวกับอุกกาบาตที่กำลังเคลื่อนผ่าน
“หืม?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ชิงเซียน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า!”
เมื่อเห็นฉากปุบปับเช่นนี้ หนิงฝานพลันซีดเผือดด้วยความตกตะลึงทันที รู้สึกสั่นสะท้านอยู่ข้างใน
ตอนนี้หลัวชิงเซียนดูอ่อนแอยิ่ง “สามี จู่ ๆ ข้าก็เหนื่อยเหลือเกิน ข้าอยากพักเสียหน่อย แค่พักเสียหน่อยเท่านั้น…”
วิ้ง!
ทันทีที่สิ้นเสียงของหลัวชิงเซียน แสงสว่างของวิญญาณที่แท้จริงหมองหม่นอีกครั้ง ราวกับจะดับลงได้ทุกเวลา
เมื่อเห็นฉากนี้ จักรพรรดิสวรรค์ในทะเลวิญญาณพลันกล่าวว่า “แย่แล้ว! นี่เป็นสัญญาณก่อนที่วิญญาณที่แท้จริงจะดับสูญ!”
“ว่าอย่างไรนะ? วิญญาณที่แท้จริงดับสูญหรือ!!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหนิงฝานพลันซีดเผือดทันที
เขาใช้เวลามานานกว่าสามพันปี ก้าวเข้าสู่หอเซียน เข้าสู่ยมโลก จนในที่สุดก็พบหลัวชิงเซียน หากหลัวชิงเซียนจากไปทั้งเช่นนี้ เขาย่อมตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน
“ไม่!”
“ไม่จริง!”
“ชิงเซียน อย่าหลับนะ!”
หนิงฝานรีบส่งเสียงเรียก แต่สติของหลัวชิงเซียนคล้ายกับตกอยู่ในห้วงหลับลึก ไม่ตอบสนองกลับมา ลำแสงวิญญาณที่แท้จริงราวกับเปลวเทียนท่ามกลางสายลม ริบหรี่ไปมา
“จักรพรรดิสวรรค์ ช่วยนางที ขอร้องล่ะ ช่วยนางที!” หนิงฝานทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่จักรพรรดิสวรรค์เท่านั้น
“วิญญาณที่แท้จริงดับสูญ มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รีบตามหาสถานที่เงียบ ๆ ข้าจะลองดู!” จักรพรรดิสวรรค์กล่าว
“ได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็เก็บวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนไว้ ก่อนจะกลับสู่วังจักรพรรดินีในพริบตา
“ท่านพ่อ!!”
พวกหนิงหนานหนานตามมาด้วยความแตกตื่น แต่ลมหายใจต่อมา เสียงของหนิงฝานดังมาจากในตำหนัก “หนานหนาน รอข้างนอก พ่อจะไม่ปล่อยให้แม่ของเจ้าเจออะไรอีกแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกหนิงหนานหนานก็รออยู่ข้างนอกอย่างวิตก
ตอนนี้ ณ ตำหนักจักรพรรดินี
เมื่อเห็นวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนหมองหม่นมากยิ่งขึ้น จักรพรรดิสวรรค์ก็ก้าวออกจากทะเลวิญญาณของหนิงฝานทันที
ฟึ่บ!
ทันทีที่จักรพรรดิสวรรค์ชี้ออกไป คลื่นพลังราชันจักรพรรดิที่เต็มไปด้วยพลังต้นกำเนิดชีวิตกว้างใหญ่ปกคลุมวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนทันที
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ลมหายใจต่อมา จักรพรรดิสวรรค์ยังคงชี้ออกไป พลังของจักรพรรดิสวรรค์สายแล้วสายเล่า ปกคลุมวิญญาณที่แท้จริงของหลัวชิงเซียนเอาไว้
สามวัน!
ห้าวัน!
สิบวัน!
ชั่วพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งเดือน