ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 436 เอะอะวุ่นวาย(ต้น)

ตอนที่ 436 เอะอะวุ่นวาย(ต้น)

​เรื่อง​ของ​ป้า​เถา​มี​คน​ไป​จัดการ​แล้ว​ ​ความสนใจ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ล้วนแต่​อยู่​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่พึ่ง​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​หมอ​หลิว​ก็​ยิ้ม​กว้าง​อย่าง​เบิกบานใจ​ ​“​…​ซื่อ​จื่อ​พึ่ง​จะ​ดีขึ้น​ ​เรื่อง​อาหารการกิน​ต้อง​ทาน​เพียง​ของ​ที่​มีรส​ชาติ​อ่อน​ๆ​ ​ข้า​สั่ง​ยาบำรุง​ร่างกาย​ให้​เขา​เพิ่ม​อีก​สัก​สอง​ชุด​ ​ก็​คงจะ​หาย​ดี​แล้ว​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​หยุดชะงัก​ไป​พัก​หนึ่ง​ ​“​แต่ว่า​โรคขาดสารอาหาร​ของ​ซื่อ​จื่อ​มีมา​ตั้งแต่​กำเนิด​ ​ทาน​ยาบำรุง​ไม่​สู้​ทานอาหาร​ที่​มีประโยชน์​ ​ไม่​สู้​หา​คนที​่​เชี่ยวชาญ​ด้าน​โภชนบำบัด​มาดู​แล​ซื่อ​จื่อ​ ​จะ​ได้​เห็นผล​อย่างชัดเจน​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รับฟัง​เรื่อง​นี้​ ​หลังจาก​ส่ง​หมอ​หลิว​ออก​ไป​แล้วก็​ปรึกษา​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ทันที​ ​“​เรื่อง​นี้​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ลำบาก​ท่าน​แม่​แล้ว​ขอรับ​”

​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​มอง​ไป​ที่ฮู​หยิน​สอง​ ​“​อี๋​เจิน​ ​เจ้า​รู้จัก​ใคร​หรือไม่​!​”

ฮู​หยิน​สองครุ​่​นคิด​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​ลอง​หาดู​เจ้าค่ะ​!​”

​ทุกคน​ก็​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​เรื่อง​นี้​จึง​ถือว่า​ยก​ให้ฮู​หยิน​สอง​เป็น​คน​จัดการ​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดถึง​เรื่อง​ที่จะ​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​และ​ไป​จุด​ธูป​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​“​…​นักพรต​ฉัง​ชุน​คน​นั้น​ ​หาก​ไม่มี​อะไร​ก็​บอกว่า​มี​อะไร​ ​ในเมื่อ​จุน​เกอ​ฟื้น​แล้ว​ ​ข้า​ก็​คิด​ว่า​ไม่จำเป็น​ต้อง​เชิญ​เขา​มาทำ​พิธี​แล้ว​ดีกว่า​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เอือมระอา​ ​“​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​เชิญ​เขา​มาทำ​พิธี​ที่​จวน​ ​ยัง​ต้อง​จัด​ลาน​ ​ถึง​ตอนนั้น​มี​ผู้คน​ไป​ๆ​ ​มา​ๆ​ ​มัน​จะ​วุ่นวาย​ ​หาก​หลงทาง​เข้า​คงจะ​ไม่ดี​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​บอก​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ส่ง​ซอง​แดง​ไป​ให้​เขา​ก็​พอแล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​ของวัด​ฉือ​หยวน​ ​เดิมที​กำหนด​ไป​พรุ่งนี้​เช้า​ ​เรื่อง​นี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​เปลี่ยนแปลง​ ​ที่นั่น​สตรี​เยอะแยะ​มากมาย​อยู่​แล้ว​ ​หาก​มี​คน​ถาม​ ​ก็​บอกว่า​ไป​แก้บน​ก็​พอ​”

​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​หลงทาง​’​ ​หมายถึง​กลัว​ว่า​จะ​มี​ใคร​เห็น​ว่า​อี้​อี๋​เหนียง​ถูก​กักตัว​อยู่​ใน​เรือน​ ​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​มีส​ตรี​เยอะ​’​ ​หมายถึง​บรรดาฮู​หยิน​และ​คุณหนู​ของ​เหล่า​สกุล​ขุนนาง​และ​สกุล​ร่ำรวย​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ที่​ชอบ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​นี่​เป็น​โอกาส​ที่​ดี​ใน​การหลีก​เลี่ยง​ข่าวลือ

​ตั้งแต่​สวี​ซื่อ​จุน​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตกลง​ตาม​นี้​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​จะ​ไป​จุด​ธูป​ให้พระ​โพธิสัตว์​ที่​วัด​ฉือ​หยวน​ ​จุน​เกอ​ผ่าน​เรื่องราว​เลวร้าย​มา​ได้​ ​ก็เพราะว่า​พระโพธิสัตว์​คุ้มครอง​”​ ​ยิ้ม​แล้ว​หันไป​บอก​เก๋อ​จิน​กับ​อวี​้​ป่าน​ ​“​ไปรา​ยงาน​ตาน​หยาง​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​แล้วยัง​มี​เจี่ยน​เกอ​ ​ฉิน​เกอ​ ​เจี​้ย​เกอ​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ส่ง​คน​ไป​บอก​พวกเขา​ด้วย​”​ ​พูด​จบ​ก็​เห็น​ว่า​มัน​สาย​แล้ว​ ​นาง​จึง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ถึง​เวลา​ทานข้าว​เที่ยง​แล้ว​ ​บอก​ให้​โรง​ครัว​ทำอาหาร​สัก​สอง​สาม​อย่าง​ ​เรียก​ตาน​หยาง​และ​คนอื่นๆ​ ​มาทา​นข​้าว​ด้วยกัน​เถิด​”

​เก๋อ​จิน​และ​อวี​้​ป่าน​ยิ้ม​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​คน​หนึ่ง​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ไปรา​ยงาน​ ​อีก​คน​หนึ่ง​บอก​ให้​โรง​ครัว​ทำอาหาร​

​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​กลับมา​เงียบสงัด​อีกครั้ง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​มอง​ไป​ยัง​เรือน​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก​อยู่​ตลอด

​“​เมื่อ​ครู่​ป้า​เถา​มา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​นั่งลง​บน​ตั่ง​นั่ง​เหม่ย​เห​ริน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​สอง​นั่ง​ล้อมรอบ​นาง​ ​“​นาง​บอกว่า​สือ​อี​เหนียง​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​นาง​ ​ข้า​จึง​ยอมให้​นาง​เข้ามา​…​”

​ไท่ฮู​หยิน​เล่าเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​เมื่อ​ครู่​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ตกใจ​อะไร​มาก

​จู๋​เซียง​ไม่ได้​ไป​บอก​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​เชิญ​ท่าน​หมอ​มา​โดยตรง​ ​แต่​นาง​กลับ​ไปหา​จ้าว​อิ่ง​ ​บ่าว​รับใช้​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​นาง​ยัง​เล่าเรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ตอนนั้น​ให้​จ้าว​อิ่ง​ฟัง​ ​จ้าว​อิ่ง​รู้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รู้​ ​อยู่​ต่อหน้า​ทุกคน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร​ ​แต่​เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​ห้อง​ตอนเย็น​ ​เขา​กลับ​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​เอ่ย​ถาม​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ตอนนั้น​เจ้า​ตกใจ​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กอด​นาง​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน​แล้ว​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​“​อดทน​อีก​สอง​วัน​ ​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ได้​กลับ​ไป​เรือน​หลัก​แล้ว​”

​“​ไม่เป็นไร​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คิด​ว่าการ​ที่​ตัวเอง​อยู่​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​สบายใจ​ก็​ถือว่า​เป็นการ​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ ​“​ที่นี่​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​ยัง​ช่วยดูแล​จุน​เกอ​ได้​อีกด้วย​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​อะไร​อีก

​วัน​ต่อมา​ให้​สือ​อี​เหนียง​อยู่​ที่​จวน​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ไป​วัด​ฉือ​หยวน​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​เมื่อ​หมอ​หลิว​มาตร​วจ​ดู​อาการ​จุน​เกอ​ ​เขา​ก็​บอก​ให้​หมอ​หลิว​ช่วย​จับชีพจร​ให้​สือ​อี​เหนียง​ด้วย

​ท่าน​หมอ​หลิว​จะ​รู้เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ได้​เช่นไร​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พึมพำ​ใน​ใจ​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นห่วง​สือ​อี​เหนียง​มากเกินไป​ ​เขา​พูด​โน้มน้าว​สวี​ลิ่ง​อี๋​อ้อม​ๆ​ ​“​อาจ​เป็นผล​ข้างเคียง​ของ​ยา​ ​ชีพจร​ของฮู​หยิน​มั่นคงดี​ขอรับ​ ​ไม่มี​อะไร​น่าเป็นห่วง​ ​ข้า​คิด​ว่า​ไม่​สู้​ให้ฮู​หยิน​ทานอาหาร​โภชนบำบัด​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​ด้วยดี​กว่า​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​เรื่อง​นี้​อย่างจริงจัง​ ​ต่อมา​เขา​ก็​เชิญ​อาจารย์​ที่​เชี่ยวชาญ​ด้าน​โภชนบำบัด​สอง​คน​มา​ ​คน​หนึ่ง​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อีก​คน​หนึ่ง​รับใช้​สือ​อี​เหนียง​ ​นี่​เป็นเรื่อง​ใน​ภายหลัง​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่พูดถึง​

​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่ง​หมอ​หลิว​ออก​ไป​แล้ว​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ใบหน้า​ที่​กระอักกระอ่วน

​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​นักพรต​ฉัง​ชุน​บอกว่า​เขา​ยัง​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ ​จะ​รับ​ซอง​แดง​ของ​ท่าน​ได้​เช่นไร​ ​หาก​ท่าน​โหว​อยาก​จะ​มอบ​รางวัล​ให้​เขา​จริงๆ​ ​ขอให้​ท่าน​โหว​บอก​ให้​คน​ทำ​ป้าย​จารึก​ชุบ​ทองให้​เขา​ ​ถือว่า​เห็นแก่​พรหมลิขิต​ของ​เขา​กับ​คุณชาย​น้อย​สี่​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ไม่พอใจ​ ​แต่​ก็​ตกปากรับคำ​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​“​เจ้า​ดู​ว่า​สลัก​ตัวอักษร​กี่​ตัวดี​!​”

​พ่อบ้าน​ไป๋​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ชอบ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ ​ตอนที่​มาบ​อก​สวี​ลิ่ง​อี๋​เขา​ยัง​ต้อง​รวบรวม​ความกล้า​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ตอบ​ตกลง​ ​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​เปลี่ยนใจ​ ​จึง​รีบ​ยิ้ม​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป​ทันที​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​ดู​สิ​ ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ได้รับ​ป้าย​จารึก​ของ​สกุล​เรา​ไป​เขา​ต้อง​นำ​ออก​ไป​โอ้อวด​ไป​ทั่ว​แน่นอน​ ​อวด​ว่า​เขา​ทำนาย​แม่น​แค่ไหน​ ​ข้า​ขอบพระคุณ​เขา​อย่างไร​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ไม่พอใจ

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​แต่​เช่นนี้​ ​ทุกคน​ก็​จะ​เชื่อ​ว่า​เรื่อง​ของ​จุน​เกอ​คือ​ประสงค์​ของ​สวรรค์​อย่างไรเล่า​เจ้า​คะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ก็​เพราะ​เหตุผล​นี้​ ​ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะ​ปล่อย​ให้​เขา​ทำ​อะไร​เหลวไหล​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​”

​แต่ว่า​เรื่องราว​นั้น​กลับ​ซับซ้อน​กว่า​ที่​พวกเขา​คิด​เสียอีก

​นักพรต​ฉัง​ชุน​ได้รับ​ป้าย​จารึก​ของ​สกุล​สวี​แล้ว​ ​ลูกศิษย์​ของ​เขา​ก็​ป่าวประกาศ​ไป​ทั่ว​ว่า​ ​เพื่อ​ขอบพระคุณ​ใน​ความเมตตา​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​เขา​ตัดสินใจ​ไป​ที่​จวน​สกุล​สวี​ ​เพื่อ​ทำพิธี​ให้​จุน​เกอ​โดย​ไม่​เก็บ​ค่าใช้จ่าย​

​เช่นนี้​ ​เรื่องราว​ก็​วน​กลับมา​ที่​จุด​เดิม​ ​อีกทั้ง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​ปฏิเสธ​ไม่ได้​ ​ในเมื่อ​มอบ​ป้าย​จารึก​ให้​เขา​แล้ว​ ​ก็​หมายความว่า​เขา​ยอมรับ​ใน​ตัว​ของ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ ​ในเมื่อ​ยอมรับ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ ​หาก​ปฏิเสธ​ไม่​ให้​นักพรต​ฉัง​ชุน​มาทำ​พิธี​ให้​จุน​เกอ​ ​ก็​คงจะ​ดู​ไม่​สมเหตุสมผล​

​นี่​เป็น​โอกาสดี​ใน​การเบี่ยงเบน​ความสนใจ​ของ​ผู้คน​ ​แต่ว่า​คน​คน​นี้​คือ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ชอบ​มาก​ที่สุด​ ​เขา​จึง​โมโห​เดิน​วน​ไป​วน​มา​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​อยู่นาน​ถึง​สงบสติอารมณ์​ลง​ได้​

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​หัวเราะ

​เมื่อ​ไท่ฮู​หยิน​และ​คนอื่นๆ​ ​กลับมา​จาก​วัด​ฉือ​หยวน​ ​รู้เรื่อง​เข้าพวก​นาง​ก็​หัวเราะ

​และ​ใน​ช่วงเวลา​นี้​เอง​ ​จดหมาย​ของ​คุณชาย​สาม​ก็​มาถึง

​บอก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​จัดการ​เรื่อง​นี้​แทน​เขา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​จดหมาย​ลง​แล้ว​บอก​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​เตรียม​รถม้า​ ​“​…​ถึงอย่างไร​นาง​ก็​เคย​รับใช้​พี่​สาม​ ​จุน​เกอ​ก็​ไม่ได้​เป็น​อะไร​มาก​ ​ส่ง​อี้​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง​เถิด​!​ ​ให้​พี่​สาม​เป็น​คน​จัดการ​นาง​เอง​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ไม่สบายใจ​ ​“​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​ไป​สืบมา​สิว​่า​ ​ส่ง​นาง​ไป​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง​จริงๆ​ ​หรือว่า​ส่ง​นาง​ไป​ที่อื่น​กัน​แน่​”​ ​จากนั้น​ก็​พึมพำ​ว่า​ ​“​มณฑล​ซาน​หยาง​ไกล​ขนาด​นั้น​ ​ถนนหนทาง​ก็​อันตราย​ ​จะ​ไม่​เกิด​อะไร​ขึ้น​ระหว่างทาง​ใช่​หรือไม่​”

​ตอนนี้​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ไม่กล้า​เจอ​หน้า​ใคร​ทั้งนั้น​ ​กลัว​ว่า​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ทำให้​คนอื่น​เดือดร้อน​ ​เห็น​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​ให้​นาง​ออก​ไป​สืบ​ข่าว​ ​ใน​ใจ​ก็​รู้สึก​เดือดดาล

หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นาง​ ​ตัวเอง​จะ​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ได้​อย่างไร

แต่​เมื่อ​นึกถึง​บิดา​มารดา​และ​น้องๆ​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ก็​ไม่กล้า​ไม่​พูด​เกลี้ยกล่อม​นาง​ ​คำพูด​ของ​หู่​พั่ว​ชัดเจน​อยู่​แล้ว​ ​หาก​ตัวเอง​ดูแล​ฉิน​อี๋​เหนียง​ให้​ดี​ ​ก็​ถือว่า​เป็นความ​ดี​ความชอบ​ ​ถึง​ตอนนั้น​คนใน​ครอบครัว​ไม่เพียงแต่​มีชีวิตรอด​ ​แล้ว​ท่าน​โหว​ยัง​จะ​ดูแล​พวกเขา​ให้​ดี​ ​แต่ว่า​หาก​ตน​ดูแล​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้​ไม่ดี​…ชุ่ย​เอ๋อร​์​ไม่กล้า​คิด​ต่อ

​“​อี๋​เหนียง​”​ ​นาง​พูด​ ​“​ตอนนี้​เรา​หนี​ออกมา​ยัง​ไม่ทัน​ ​จะ​ไป​สืบ​ข่าว​เรื่อง​ของ​อี้​อี๋​เหนียง​ได้​เช่นไร​กัน​ ​ท่าน​อย่า​ลืม​นะ​เจ้า​คะ​ ฮู​หยิน​สี่​ถาม​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​ครั้งก่อน​ ​กำชับ​ท่าน​ว่า​อย่า​ก่อเรื่อง​อัน​ใด​อีก​!​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​ไม่​ดื้อดึง​อีกต่อไป​ ​นึก​ขึ้น​มา​ว่า​ตัวเอง​รอบคอบ​มาต​ลอด​ แค่​เคย​หลุด​พูด​สอง​สาม​ประโยค​ต่อหน้า​อี้​อี๋​เหนียง​ ​แต่​นาง​กลับ​ไป​เล่า​ให้​คนอื่น​ฟัง​ ​หาก​ส่ง​นาง​ไป​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง​ก็​คงดี​ ​เพื่อมี​ชีวิต​รอด​ ​อี้​อี๋​เหนียง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​แน่นอน​ ​แต่​หาก​ไม่​ส่ง​นาง​ไป​ที่​มณฑล​ซาน​หยาง​ ​สุนัข​ที่​หวาดกลัว​ยัง​กระโดด​ข้าม​กำแพง​พ้น​ ​หาก​อี้​อี๋​เหนียง​เล่าเรื่อง​ของ​นาง​ทั้งหมด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่มีทาง​ปล่อย​นาง​ไป​แน่นอน​

​นาง​พลิกตัว​อยู่​บน​เตียงนอน​ไม่​หลับ​ ​เอ่ย​เรียก​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​ทำ​อย่างไร​คุณชาย​น้อย​สอง​ถึง​จะ​กลับมา​”

ขนาด​เสือ​ร้าย​ยัง​ไม่​กิน​ลูก​ตัวเอง​ ​ไม่ว่า​ท่าน​โหว​จะ​เย็นชา​แค่ไหน​ ​แต่​เขา​คง​ไม่มีทาง​ฆ่า​นาง​ต่อหน้า​บุตรชาย​ตัวเอง

​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ดึง​ผ้าห่ม​ขึ้น​มาค​ลุม​หัว

ได้ยิน​มา​วว​่า​ ​คนที​่​ได้รับ​ยาส​่​วน​มาก​ตาย​ไป​เพราะ​ตับ​และ​ลำไส้​ขาด​ ​ต้อง​ทน​เจ็บปวด​ถึง​สาม​วัน​สาม​คืน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​ทำไม​ทุกคน​ได้ยิน​คำ​ว่า​ป้อน​ยา​ถึง​ได้​ตกใจ​แทบตาย​เล่า

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ตัวสั่น​

​ฉิน​อี๋​เหนียง​เรียก​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ตั้ง​สองครั​้ง​นาง​ถึง​ได้ยิน​ ​นาง​ตอบ​อย่าง​เอือมระอา​ ​“​อี๋​เหนียง​เป็น​คนฉลาด​ ​บ่าว​เอง​ก็​ไม่รู้​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่พอใจ​

​“​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ฟังออก​ ​นาง​รีบ​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​“​เจ้า​ไป​ได้ยิน​อะไร​มา​”

​“​บ่าว​ไม่ได้​ยิน​อะไร​สัก​อย่าง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​รู้​ว่า​ตอนนี้​ตัวเอง​ควร​พูด​เบา​และ​อ่อน​เสียง​ลง​ ​แต่​น้ำเสียง​ที่​ออกมา​นั้น​ก็​ยัง​แข็งทื่อ​

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ยิ่ง​ไม่สบายใจ​ ​นาง​ลุกขึ้น​ไป​นั่ง​ข้างๆ​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​นัง​เด็ก​คน​นี้​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

​ชุ่ย​เอ๋อร​์​นึกถึง​ภาพ​ที่​พวก​นาง​สอง​คน​อยู่​ด้วยกัน​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มักจะ​เรียก​นาง​เช่นนี้​ ​แต่​ใคร​เล่า​จะ​คิด​ว่า​ ​คนที​่​มี​รอยยิ้ม​อัน​อ่อนโยน​และ​ใจดี​ตรงหน้า​ตอนนี้​ ​จะ​ทำให้​นาง​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ ​นาง​ไม่​อยาก​แม้แต่​จะ​มองหน้า​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​จึง​หันหน้า​ออก​ไป​ ​“​อี๋​เหนียง​รีบ​นอน​เถิด​ ​บ่าว​ไม่ได้​ยิน​อะไร​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​!​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​จะ​เชื่อได้​เช่นไร​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​กลัว​ว่า​ตัวเอง​จะ​กระโดด​ขึ้นไป​บีบ​คอ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​จึง​อ้างว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่างาน​แต่ง​ของ​พี่​ชิว​หงกำ​หนด​ไว้​วันที่​หก​เดือน​หก​ ​วัน​แต่งงาน​ของ​พี่​หู่​พั่ว​กำหนด​ไว้​วันที่​หนึ่ง​เดือน​แปด​เจ้าค่ะ​…​”

​“​ที่แท้​ก็​เรื่อง​นี้​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เข้าใจ​แล้ว​ ​นาง​จึง​กลับ​ไป​นอน​นึกถึง​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​ต่อ​บน​เตียง​ ​แล้วก็​ไม่​ถาม​อะไร​อีก​

​แต่​ชุ่ย​เอ๋อร​์​กลับ​ขบ​ริมฝีปาก​ของ​ตัวเอง​อย่างแรง

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็น​คนเก่ง​ ​คนธรรมดา​สู้​ไม่ได้​ ​แล้ว​เฉียว​อี๋​เหนียง​เล่า​ ​หรือว่า​คนที​่​มีบุ​ตร​ชาย​อย่าง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ยัง​จะ​สู้​เฉียว​อี๋​เหนียง​ที่​ไม่มี​บุตร​แล้วยัง​ไม่ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​ไม่ได้​เช่นนั้น​หรือ​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​เฉียว​อี๋​เหนียง​ปฏิเสธ​ท่าน​แม่​ของ​ตัวเอง​ที่​อยาก​จะ​ให้​ซิ่ว​หยวน​แต่งงาน​กับ​บ่าว​รับใช้​จวน​เฉิงกั​๋​วกง​ ​นำ​ของขวัญ​มา​ให้​ป้า​ตู้​ขอร้อง​ให้​นาง​หาคู่​ครอง​ที่​ดี​ให้​ซิ่ว​หยวน​ ​แล้ว​ฉิน​อี๋​เหนียง​ของ​ตน​ล่ะ​ ​ตัวเอง​เป็นสาว​ใช้​มาก​่อน​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​อก​เห็นใจ​สาวใช้​อย่าง​พวก​นาง​เลย​…

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​เกลียด​ที่​ตัวเอง​ต้อง​มา​อยู่​กับ​นาย​หญิง​คน​นี้

​นาง​ลืมตา​จนถึง​เช้า

​ได้ยิน​เสียง​กลอง​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ลาน​ข้างนอก​เป็นครั้งคราว

​สาวใช้​น้อย​ที่​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ให้​พวก​นาง​ล้างหน้าล้างตา​พูด​กับ​นาง​อย่าง​มีความสุข​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​ดีขึ้น​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​แล้วยัง​เชิญ​นักพรต​ฉัง​ชุน​ที่​ทำนาย​ดวง​แม่น​ที่สุด​ใน​เยี​่​ยน​จิง​มาทำ​พิธี​ให้​คุณชาย​น้อย​สี่​อีกด้วย​!​”

​ตอนนี้​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​นาง​หวัง​เพียง​ว่า​ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ตอนนี้​จะ​เปลี่ยนไป

​นาง​ตอบรับ​ ​“​อืม​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เทยา​สี​ฟัน​ลง​บน​แปรงสีฟัน​ ​แล้ว​แปรงฟัน​อย่างไร​้​ชีวิตชีวา

​*****

​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​แปรงสีฟัน​อย่าง​เหม่อลอย​

​จู๋​เซียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ตกใจ​ ​“ฮู​หยิน​ ​ท่าน​เป็น​อะไร​ไป​เจ้า​คะ​”

​“​จู๋​เซียง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ปิติยินดี​ ​“​ข้า​…​ดูเหมือน​จะ​ไม่รู้​สึก​อะไร​แล้ว​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท