ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 447 กลับจวน (กลาง)

ตอนที่ 447 กลับจวน (กลาง)

เมื่อ​กลับ​ถึง​เหอฮ​วาห​ลี่​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รีบ​แจ้ง​เรื่อง​นี้​ให้​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ทันที

ไท่ฮู​หยิน​พนมมือ​ทั้งสอง​ขึ้น​มา​ ​พูด​คำพูด​ประโยค​เดียวกัน​กับ​ฮองเฮา​ว่า​ ​“​หวัง​ว่า​ครั้งนี้​ ​สวรรค์​จะ​ประทาน​ลูก​กิเลน​มา​ให้​จริงๆ​”

ป้า​ตู้​เอง​ก็ได้​ยิ้ม​ตาม

จากนั้น​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ชาย​วิ่ง​เข้ามา​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับมา​แล้ว​ขอรับ​!​”

บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ใน​เรือน​บางคน​ก็​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ​ทำ​เหมือน​ไม่ได้​ยิน​ ​ส่วน​บางคน​ก็​หันไป​มอง​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป​ ​บรรยากาศ​ที่​มีความสุข​เมื่อ​ครู่​ก็​ค่อยๆ​ ​เปลี่ยนเป็น​เยือกเย็น​แทน

บ่าว​รับใช้​ชาย​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

สือ​อี​เหนียง​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​เชิญ​เข้ามา​อีก​!​ ​มัว​รอ​อะไร​อยู่​”

บ่าว​รับใช้​ชาย​จึง​รีบ​วิ่ง​ออก​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​โล่งใจ​อีกครั้ง

สือ​อี​เหนียง​หันไป​สั่ง​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​ ​“​ไป​แจ้ง​กับ​เหลียน​เจียว​ของ​เรือน​คุณชาย​น้อย​สอง​ด้วย​ ​ให้​นาง​รีบ​ไป​เตรียม​ชาร้อน​และ​น้ำร้อน​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับ​เรือน​ไป​ ​จะ​ได้​ปรนนิบัติ​รับใช้​ทันที​”

บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​ผ่อนคลาย​ลง​ไป​เล็กน้อย​ ​คนที​่​จะ​ต้อง​ไป​แจ้ง​เรื่อง​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​แยกย้าย​ไป​แจ้ง​ ​ส่วน​คนที​่​จะ​ต้องเต​รี​ยม​น้ำชา​ต้อนรับ​ก็​แยกย้าย​ไป​ตระเตรียม​ ​รอยยิ้ม​กลับคืน​สู่​ใบหน้า​ของ​ทุกคน​อีกครั้ง

สวี​ซื่อ​อวี​้​รีบ​สาวเท้า​เดิน​เข้ามา​อย่างเร่งรีบ

“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​รีบ​ทำความเคารพ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความเร่ง​รีบ​ ​“​ตอนนี้​อี๋​เหนียง​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​ขอรับ​”

เขา​สวม​ชุดจื​๋อ​ตัว​ผ้าแพร​สีน้ำเงิน​สด​แบบ​เรียบง่าย​ ​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความเหนื่อย​ล้า​จาก​การ​เดินทาง​ ​สีหน้า​ซีดเซียว​ไร้​ซึ่ง​เรี่ยวแรง

ไท่ฮู​หยิน​มอง​เขา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ​อย่าง​ช้าๆ​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​เจอ​พ่อ​ของ​เจ้า​แล้ว​หรือยัง​”

ใบหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​เก้อเขิน​ ​ขณะที่​เขา​กำลังจะ​เอ่ยปาก​พูด​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​พูด​ขึ้น​มาก​่อ​นว​่า​ ​“​เจ้า​ไม่ได้​กลับบ้าน​มาช​่​วง​หนึ่ง​แล้ว​กระมัง​ ​ในเมื่อ​กลับมา​แล้ว​ ​ตาม​หลัก​ควรจะ​ต้อง​ไป​คารวะ​พ่อ​ของ​เจ้า​ก่อน​ ​ดู​ว่า​พ่อ​ของ​เจ้า​มี​อะไร​จะ​พูด​กับ​เจ้า​หรือไม่​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​เป็น​คนที​่​ไม่​พูด​ ​แต่​ลึก​ๆ​ ​ใน​ใจ​ก็​ยังคง​เป็นห่วง​เจ้า​อยู่​เสมอ​ ​เจ้า​ควร​ไป​ให้​เขา​ดู​เสียหน่อย​ว่า​เจ้า​อยู่​ที่​เล่อ​อาน​สบายดี​หรือไม่​ ​ยัง​มี​ฉิน​เกอ​และ​เจี่ยน​เกอ​ที่​เติบโต​มา​พร้อมกับ​เจ้า​ ​สายสัมพันธ์​ที่​ไม่ธรรมดา​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ควรจะ​ไป​ทักทาย​เสียหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​ ​ไหน​จะ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​อีก​…​”​ ​ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ ​ก่อน​จะ​จ้องมอง​ไป​ยัง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​ตื่นตระหนก​และ​ลนลาน​เช่นนี้​…​ใช้ได้​เสียที​่​ไหน​กัน​!​”

ปลายจมูก​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มี​เม็ด​เหงื่อ​ซึม​ออกมา​ ​ไท่ฮู​หยิน​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​นอบน้อม​ทันที​ว่า​ ​“​ล้วน​เป็นความ​บุ่มบ่าม​ของ​หลาน​ทั้งสิ้น​ ​หลาน​จะ​รีบ​ไป​เปลี่ยน​ชุด​แล้วไป​หา​ท่าน​พ่อ​เดี๋ยวนี้​ ​จากนั้น​ก็​จะ​ไป​ทักทาย​เหล่า​พี่ใหญ่​ ​น้องชาย​และ​น้อง​หญิง​ขอรับ​”

“​อืม​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ตอบกลับ​ด้วย​ความพึงพอใจ​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​รีบ​ไป​เถิด​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​โค้ง​ตัว​ลา​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​หมอง​หม่น​ลง​ไป​เล็กน้อย​ ​เรียก​สือ​อี​เหนียง​มาหา​ ​“​ข้าว​่า​ท่าทาง​ของ​เขา​คงจะ​รอ​ไม่ได้​แม้แต่​เค​่อ​เดียว​กระมัง​ ​ประเดี๋ยว​เจ้า​ก็​หา​คน​ติดตาม​เขา​ไป​ด้วย​ ​ถึงแม้ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​จะ​เลอะเลือน​ ​แต่​พอได้​เจอ​หน้า​บุตรชาย​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่านาง​จะ​เลอะเลือน​หนัก​กว่า​เดิม​หรือ​จะ​ได้สติ​ขึ้น​มา​เล่า​ ​ถึง​เวลา​นั้น​หาก​นาง​พูด​อะไร​ที่​ไม่​ควร​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​ที่​ไม่​ควร​ทำ​ ​เปิดเผย​ทุกอย่าง​ออกมา​จน​หมด​ ​จะ​กลายเป็น​ว่า​เรา​ที่​คิด​ว่า​เขา​ไม่รู้​เรื่อง​ ​แต่​แท้ที่จริง​เขา​กลับ​รู้เรื่อง​ทุกอย่าง​หมด​แล้ว​”

เป็น​เพราะ​สงสัย​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​หรือไม่​กระมัง​!

ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​อยู่​นั้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คาดเดา​ไป​ต่างๆ​ ​นานา​ การ​ที่​ให้​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้มา​เจอ​หน้า​กัน​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ ​เพื่อ​เป็นการ​แสดง​ความเห็นอกเห็นใจ​ต่อ​สอง​แม่​ลูก​หรือ​เพราะ​ต้องการ​จะ​พิสูจน์​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​พิธี​สาปแช่ง​?

สือ​อี​เหนียง​รีบ​สะบัด​ความคิด​นี้​ออกจาก​หัว​ ​ฝัง​ลึก​ลง​ไป​ใน​ก้นบึ้ง​ของ​จิตใจ​ ​จากนั้น​ก็​ครุ่นคิด​ว่า​จะ​ให้​ใคร​ติดตาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​ที่​เรือน​สวน​ใน​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ดี

การ​เจอ​หน้า​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​หากว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูดจา​เลอะเลือน​และ​ไม่รู้​เรื่อง​ก็​คงจะ​ดี​ ​แต่​หาก​นาง​พูด​อะไร​ที่​ไม่​ควร​พูด​ขึ้น​มา​ ​เกรง​ว่า​คนที​่​ถูก​ส่ง​ไป​แอบ​ฟัง​ก็​คงจะ​มี​จุดจบ​เช่นเดียวกัน​กับ​ฉา​เซียง​กระมัง​…

สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ไป​ชั่วขณะ

ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่านาง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ก็​เลย​หันไป​ส่งสายตา​ให้​กับ​ป้า​ตู้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​ไม่ต้อง​ไป​เรียก​ใช้​คนอื่น​ดีกว่า​ ​ใช้​เหลียน​เจียว​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ใน​เรือน​ของ​อวี​้​เกอ​แทน​ก็แล้วกัน​!​ ​นาง​เป็น​คนใน​เรือน​ของ​อวี​้​เกอ​ ​เหวิน​จู๋​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​ติดตาม​อวี​้​เกอ​เดินทาง​มาจาก​เล่อ​อาน​ต่าง​ก็​คงจะ​เหนื่อยล้า​กัน​หมด​แล้ว​ ​ให้​พวก​นาง​ที่อยู่​ใน​จวน​ตลอดทั้ง​ปี​ไป​ช่วย​เหวิน​จู๋​เปลี่ยนมือ​ดีกว่า​”

เพราะ​เหลียน​เจียว​และ​คนอื่นๆ​ ​เคย​ปรนนิบัติ​รับใช้​อวี​้​เกอ​ ​จึง​ค่อนข้าง​สนิทสนม​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เสมอมา

สุดท้าย​ก็​จะ​ต้อง​มี​คน​ไป​อยู่ดี​ ​นาง​จึง​เป็นตัว​เลือก​ที่​ดีที​่​สุด​ใช่​หรือไม่​…

สือ​อี​เหนียง​ข่ม​ความสงสัย​เอาไว้​ใน​ใจ​ ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

หลังจาก​เสร็จ​เรื่อง​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​กับ​ป้า​ตู้​ ​“​ดี​ไป​หมด​เสีย​ทุกอย่าง​ ​เสีย​อยู่​อย่าง​เดียว​ ​ก็​คือ​ใจอ่อน​เกินไป​”

ป้า​ตู้​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใต้​หล้า​นี้​มี​ความสมบูรณ์​แบบ​เสียที​่​ไหน​เล่า​เจ้า​คะ​ ​นับประสา​อะไร​กับ​ผู้คน​ที่​มี​หลากหลาย​รูปแบบ​ ​สิ่ง​ที่​ท่าน​เห็น​ว่า​ไม่ดี​ ​ไม่แน่​บางที​ท่าน​โหว​เห็น​แล้ว​อาจ​ใจอ่อน​ก็​เป็นได้​!​”

ไท่ฮู​หยิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ

*****

ลั​่ว​เย​่ว​์​ตั้งอยู่​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​ของนอก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​ห่าง​จาก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ราว​สามสิบ​กว่า​ลี้​ ​เพราะ​คุณภาพ​ของ​ดิน​ไม่ดี​ ​ถึงแม้​จะ​มี​ปริมาณ​ลม​และ​ฝน​ที่​พอดี​ ​แต่​ใน​นาก​ลับ​ไม่​สามารถ​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​ที่​ดี​ได้​ ​คนที​่​พอ​มี​แรง​หน่อย​ก็​หนี​เข้าไป​ทำงาน​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​จน​หมด​ ​จึง​มีที​่​ดิน​ว่าง​ขนาดใหญ่​และ​ดูเหมือน​ที่ดิน​ที่​รกร้าง​ ​ที่ดิน​ที่ลั​่ว​เย​่ว​์​คือ​หนึ่ง​ใน​ทรัพย์สิน​สมบัติ​ที่​เคย​เป็น​สินเดิม​ของ​ท่าน​ย่า​ของ​เขา​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีที​่​ดิน​กว้างใหญ่​นับ​ร้อย​หมู่​ ​แต่​เรือน​สวน​กลับ​กว้าง​เพียง​สี่​ถึง​ห้า​หมู่​เท่านั้น

หลังจากที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​รอบ​่า​วรับ​ใช้​มาถึง​ ​ก็​เวลา​พลบค่ำ​เข้าไป​แล้ว​ ​มี​อีกา​จำนวน​หนึ่ง​กำลัง​กระพือปีก​บิน​ผ่าน​ไป​พอดี

เสี่ยว​ลู่​จื่อ​รู้สึก​เย็นวาบ​ไป​ทั้งตัว​ ​รีบ​เดิน​เข้าไป​เคาะ​ประตู​ใหญ่​ทันที

ทางเรือน​สวน​ได้ข่าว​ตั้งแต่แรก​แล้ว​ ​จึง​มี​ป้า​รับใช้​ออกมา​รับ​ทันที

“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ในที่สุด​ท่าน​ก็​มา​”​ ​ป้า​รับใช้​ยก​ผ้าเช็ดหน้า​ขึ้น​มา​เช็ด​ขอบตา​ ​“​พวก​บ่าว​ต่าง​ก็​รอคอย​ท่าน​แทน​อี๋​เหนียง​อยู่​ทุกคืน​วัน​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยืน​อยู่​บน​ขั้นบันได​ของ​ประตู​ใหญ่​ ​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ​จ้องมอง​ไป​ยัง​ป้า​รับใช้​ที่​ยืน​อยู่​เบื้องล่าง​และ​ไม่​คุ้นหน้า​คุ้นตา​ ​เขา​เม้มปาก​เป็น​เส้นตรง​ ​สีหน้า​ค่อนข้าง​เคร่งขรึม​ ​“​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​อี๋​เหนียง​เล่า​”

ป้า​รับใช้​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​“​มี​เพียง​สอง​คนที​่​ไม่ได้​ติดโรค​ ​ถูก​รับ​กลับ​จวน​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ส่วน​คนอื่นๆ​ ​โชคไม่ดี​ ​ต่าง​ก็​เสียชีวิต​ไป​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

ไม่​รอ​ให้​นาง​ได้​ทัน​พูด​จน​จบ​ประโยค​ ​เขา​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​เช่นนี้​ก็​แสดงว่า​นอกจาก​สอง​คน​นั้น​ที่​ไม่ได้​ติดโรค​แล้ว​ ​คนอื่นๆ​ ​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​อี๋​เหนียง​ต่าง​ก็​เสียชีวิต​ไป​หมด​แล้ว​ใช่​หรือไม่​!​”

ป้า​รับใช้​คน​นั้น​เป็น​คนที​่​ฉลาด​และ​หัวไว​คน​หนึ่ง​ ​นาง​ทบทวน​คำพูด​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​หนึ่ง​รอบ​ก่อนที่จะ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”

สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เรียบ​เฉย​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​สาวเท้า​เดิน​เข้าไป​ด้านใน

ป้า​รับใช้​รีบ​เดิน​ไป​ด้านหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เพื่อนำ​ทาง​เขา

สวี​ซื่อ​อวี​้​เดินตาม​หลัง​ป้า​รับใช้​อย่าง​เงียบๆ​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

ขณะที่​กำลัง​เดิน​ถึง​ทางโค้ง​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ถาม​ป้า​รับใช้​ว่า​ ​“​ชุ่ย​เอ๋อร​์​เสียชีวิต​ตอน​ไหน​”

ฝีเท้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ค่อนข้าง​เร็ว​ ​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ไม่ทัน​ได้​ระวัง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็ตาม​หลัง​นาง​มาทัน​ ​นาง​ทั้ง​เดิน​และ​วิ่ง​สลับ​กันต​ลอด​ทางเดิน​ ​เวลา​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ถาม​อะไร​นาง​ ​นาง​ก็​จะ​รีบเร่ง​ฝีเท้า​ไป​ด้านหน้า​ ​สมาธิ​ไป​จดจ่อ​อยู่​กับ​ขา​ทั้งหมด​ ​เมื่อ​ได้ยิน​คำถาม​ก็​รีบ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ชุ่ย​เอ๋อร​์​เสียก่อน​ที่จะ​ย้าย​มาที​่​นี่​สอง​วัน​เจ้าค่ะ​”

“​นาง​ตาย​อย่างไร​”​ ​ฝีเท้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เริ่ม​เร็ว​ขึ้น

ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ทำได้​เพียง​รีบเร่ง​ฝีเท้า​ตาม​ไป​เท่านั้น​ ​นาง​ค่อยๆ​ ​เริ่ม​หอบ​ขึ้น​มา​ ​“​ผูก​คอ​ฆ่าตัวตาย​เจ้าค่ะ​!​”​

จู่ๆ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ชะงัก​ฝีเท้า​ลง​ ​“​ถึงแม้ว่า​โรค​ไข้จับสั่น​จะ​รักษา​ยาก​ ​แต่​จวน​ของ​เรา​มีทั​้ง​ทรัพยากร​ทางการเงิน​ ​ทางกายภาพ​และ​กำลังคน​ ​ใช่​ว่า​จะ​รักษา​ไม่​หาย​เสียหน่อย​ ​เหตุใด​นาง​ถึง​คิดสั้น​ไป​ผูก​คอ​ฆ่าตัวตาย​ด้วย​เล่า​”

ป้า​รับใช้​แอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​ด้วย​ความ​โล่งอก

ก่อนหน้านี้​ป้า​ตู้​ได้​กำชับ​พวก​นาง​ไว้​หมด​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​ตอบคำถาม​เหล่านี้​ว่า​อย่างไร

“​ใบหน้า​ของ​นาง​มีตุ​่ม​พุพอง​ ​ก็​เลย​ทำใจไม่ได้​ ​นาง​จึง​ผูก​คอ​ฆ่าตัวตาย​เจ้าค่ะ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​สาวเท้า​เดิน​ตรง​ไป​ด้านหน้า

ป้า​รับใช้​รีบ​เดินตาม​หลัง​เขา​เข้ามา​ทันที​ ​จากนั้น​ก็ได้​นำทาง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​ยัง​เรือน​ด้าน​ข้าง​ที่​ฉิน​อี๋​เหนียง​พัก​อยู่​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ท่าน​ระวัง​จะ​ติดโรค​ไป​ด้วย​ ​ประเดี๋ยว​บ่าว​จะเข้า​ไป​เปิด​หน้าต่าง​ ​ท่าน​ยืน​คุย​กับ​ฉิน​อี๋​เหนียง​จาก​นอก​หน้าต่าง​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​ป้า​รับใช้​ก็​เปิด​ประตูเข้า​ไป​ใน​เรือน

กลิ่น​ยา​เข้มข้น​ปะทะ​เข้าหา​เขา​ทันที

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​ ​กวาดตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​เรือน

อากาศ​ร้อน​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ฉลุ​บานหน้าต่าง​ถูก​ปิด​แน่น​และ​ติด​ทับ​ด้วย​กระดาษ​ ​จึง​ค่อนข้าง​มืด​ ​ยังดี​ที่​หลังคาเรือน​ค่อนข้าง​สูง​ ​อากาศ​ใน​เรือน​จึง​พอ​เย็น​อยู่​บ้าง​ ​เครื่องเรือน​สีดำ​เงา​ค่อนข้าง​เก่า​และ​โทรม​ ​แต่กลับ​ถูก​เก็บกวาด​ค่อนข้าง​สะอาด​และ​เป็นระเบียบ​ ​เพียงแต่​บน​โต๊ะบูชา​นั้น​ว่างเปล่า​ไม่มี​อะไร​ตั้ง​ไว้​เลย​ ​ดูแล​้ว​ค่อนข้าง​เงียบเหงา​และ​วังเวง

“​อี๋​เหนียง​ค่อนข้าง​เลอะเลือน​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​รับใช้​มองตาม​สายตา​ของ​เขา​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​อธิบาย​ต่อไป​ว่า​ ​“​ดังนั้น​จึง​ต้อง​เก็บ​ข้าวของ​ทั้งหมด​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​นาง​ก็ได้​ขยับ​ไป​ด้าน​ข้าง​พลาง​พูด​ขึ้น​อย่างระมัดระวัง​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​สอง​วันก่อน​ป้า​ตู้​เพิ่งจะ​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ไท่ฮู​หยิน​ให้​มาดู​อาการป่วย​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ ​นาง​ยืน​ดู​อยู่ห่างๆ​ ​เท่านั้น​ ​ท่าน​…​”​ ​ความหมาย​ของ​นาง​ก็​คือ​ให้​เขา​ยืน​ดู​อยู่ห่างๆ​ ​แล้ว​รีบ​กลับ​ไป​ดีกว่า

แต่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ฟัง​ไม่​ออก​เสียด​้วย​ซ้ำ​ว่านา​งกำ​ลัง​พูด​อะไร​บ้าง

เตียง​สีดำ​เงา​ถูก​วาง​เป็นแนว​นอน​ติดกับ​ผนังห้อง​ ​ปกคลุม​ด้วย​ม่าน​เตียง​ผ้าฝ้าย​โปร่งบาง​สีเขียว​ ​มองเห็น​คนที​่​นอน​อยู่​บน​เตียง​ไม่​ค่อย​ชัด​เท่าไร​นัก​ ​เห็น​เพียง​แขน​ที่​สวม​ด้วย​กำไล​หยก​เขียว​ทิ้งตัว​อยู่​ข้าง​เตียง

เขา​จำ​กำไล​ข้อมือ​นั้น​ได้

นั่น​คือ​เครื่องประดับ​ที่​ท่าน​พ่อ​มอบให้​ท่าน​แม่​ ​และ​เป็น​ชิ้น​ที่นาง​โปรดปราน​ที่สุด​ ​สีเขียว​ประกาย​แวววาว​ ​ราวกับ​ผิวน้ำ​ก็​ไม่​ปาน​ ​อี๋​เหนียง​มักจะ​คอย​ชม​ตัวเอง​ทุกครั้งที่​ส่องกระจก​เสมอ​ว่า​ ​“​…​ข้า​อ้วน​ถ้วน​สมบูรณ์​ ​สวม​กำไล​มือ​วง​นี้​แล้ว​งดงาม​ที่สุด​”

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​สิ่ง​ที่อยู่​เบื้องหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​ดู​เลือนราง​ไป​จน​หมด

กำไล​ข้อมือ​ยังคง​เป็น​กำไล​วง​เดิม​ ​สีเขียว​มรกต​โปร่งใส​ ​แต่​แขน​นั้น​กลับ​ผอมแห้ง​จน​เหลือ​เพียง​หนัง​ที่​หุ้ม​กระดูก​อยู่​…​มือ​นั้น​ทิ้งตัว​อย่างไร​้​เรี่ยวแรง​ ​ราวกับว่า​รับ​น้ำหนัก​ของ​กำไล​ไม่ไหว​เสียด​้วย​ซ้ำ

สวี​ซื่อ​อวี​้​เรียก​พึมพำ​ ​“​อี๋​เหนียง​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​รีบ​วิ่ง​เข้าไป​หา​ทันที

เพียง​ชั่ว​อึดใจ​ ​เขา​ก็​หยุด​ลง​ที่​ข้าง​เตียง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง

สวี​ซื่อ​อวี​้​จำ​คนที​่​กำลัง​นอน​อยู่​บน​เตียง​นั่น​ไม่ได้​แล้ว

ผิว​ที่​เหลือง​และ​ซีดเผือด​ ​เบ้าตา​ที่​ลึก​โบ๋​จน​เห็น​กระดูก​…​นาง​กำลัง​นอน​อย่างสงบ​อยู่​ตรงนั้น​ ​ช่วง​อก​ไร้​ซึ่ง​การเคลื่อนไหว​ใดๆ

“​อี๋​เหนียง​!​”​ ​เขา​คุกเข่า​ลง​หน้า​เตียง​ด้วย​ความรีบร้อน​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ของ​เขา​กุมมือ​ที่​ผอมแห้ง​นั้น​ไว้​แน่น​ ​และ​ก็ได้​ใช้​มือ​อีก​ข้าง​ของ​เขา​อัง​ที่​จมูก​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง

จู่ๆ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​ลุกขึ้น​มานั​่ง

สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

อาการ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​เกิน​ความคาดหมาย​ของ​เขา​ไปมาก​ ​นาง​รีบ​สะบัด​มือ​ที่​ถูก​เขา​กุม​ไว้​ทันที

“​ใคร​…​ใคร​น่ะ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​แหลม​ดัง​และ​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“​เจ้า​เป็น​ใคร​”

ฉิน​อี๋​เหนียง​ถาม​ขึ้น​พลาง​ขยับ​ถอยหลัง​เข้ามุม​เตียง

“​ข้า​คือ​มารดา​ผู้ให้กำเนิด​คุณชาย​น้อย​สอง​แห่ง​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​เจ้า​กล้ามา​ทำร้าย​ข้า​ ​หาก​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับมา​แล้ว​ ​จะ​ต้อง​ไป​คิดบัญชี​กับ​เจ้า​อย่างแน่นอน​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ด้วย​ความตกใจ​…​แววตา​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ล่องลอย​ ​ไร้​ซึ่ง​จุดมุ่งหมาย

นาง​ตาบอด​หรือ​!

คำพูด​จุก​อยู่​ที่​คอ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่​สามารถ​ที่จะ​พูด​ออกมา​ได้

ฉิน​อี๋​เหนียง​ไม่ได้​มีท​่า​ที​เย็นชา​และ​ประชดประชัน​เหมือนเช่น​ที่ผ่านมา​ ​นาง​พยายาม​เงี่ยหู​ฟัง

ใน​เรือน​เงียบสนิท​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียง​ลมหายใจ​ที่​แผ่วเบา​และ​กลิ่นหอม​อ่อน​ๆ​ ​ของ​ผืน​หญ้า​ที่​อบอวล​อยู่​ใน​อากาศ

“​คุณชาย​น้อย​สอง​!​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ปรากฏ​ความปิติ​ดีใจ​ขึ้น​มา​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​เจ้า​กลับมา​แล้ว​ ​กลับมา​เยี่ยม​ข้า​แล้ว​”​ ​มือ​ทั้งสอง​ของ​นาง​ไขว่คว้า​อยู่​กลางอากาศ​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​กลับมา​หา​ข้า​อย่างแน่นอน​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​กุมมือ​ที่​ลนลาน​และ​ไร้​ซึ่ง​จุดหมาย​คู่​นั้น​ไว้​แน่น

“​อี๋​เหนียง​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เคล้า​เสียง​สะอึกสะอื้น​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​กลับมา​แล้ว​ ​กลับมา​เยี่ยม​ท่าน​แล้ว​ขอรับ​!​”
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท