ตอนที่ 396 ซวีคุน ด่านที่สอง!
ควับ!
ด้านนอกหลุมดำ ขณะที่ความว่างเปล่าสว่างวาบร่างของหนิงฝานและอสูรซวีคงก็โผล่ออกมาทันที
อสูรซวีคงเต็มไปด้วยความตกตะลึงนานแล้ว “บ้าเอ๊ย! บัดซบชะมัด! เจ้าควบคุมมหาวิถีแห่งความว่างเปล่าซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่าอสูรซวีคงของข้าได้อย่างไร นี่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้อย่างไร!”
“เหอะ ๆ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้!”
หนิงฝานยิ้ม ก่อนจะกระตุ้นกงล้อโชคชะตาที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาเล็กน้อย ทันใดนั้น มหาวิถีต้องห้ามและมหาวิถีบุกเบิกฟ้าดินก็โผล่ออกมา และเมื่อรวมกับมหาวิถีแห่งความว่างเปล่าพลังของทั้งสามวิถีก็ปกคลุมในอากาศ!
“สาม…สามวิถี?!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของอสูรซวีคงแทบจะถลนออกมา จำต้องรู้ว่ามันยากมากที่จะควบคุมหนึ่งวิถี แต่หนิงฝานกลับควบคุมพลังได้ถึงสามวิถี!
“นายท่าน!”
ในขณะที่อสูรซวีคงตกตะลึง เหลยเหมิงก็พุ่งเข้ามาหา เขาทำความเคารพหนิงฝานก่อนจะมองไปยังอสูรซวีคงด้วยเจตนาสังหาร “อสูรตัวนี้ดุร้ายนัก ให้ข้าฆ่ามัน!”
เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่อสูรซวีคงทำเมื่อครู่นี้ทำให้เหลยเหมิงรู้สึกไร้ประโยชน์ต่อหน้าหนิงฝานอยู่บ้าง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อสูรซวีคงก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจ มันบาดเจ็บสาหัสมากในเวลานี้ ดังนั้นจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลยเหมิง
“รอเดี๋ยว!”
“เจ้าคิดจะทำอะไร ตอนนี้ข้าเป็นพาหนะของนายท่านแล้ว!” อสูรซวีคงพูดอย่างเร่งรีบ กลัวว่าเหลยเหมิงจะฆ่าเขาหากเขาพูดช้าเกินไป
“พาหนะ?” เหลยเหมิงสงสัย
หนิงฝานพยักหน้าพลางอธิบายว่า “เหลยเหมิง หลังจากที่หารืออย่างดีแล้ว เจ้าหมอนี่ได้ตกลงจะเป็นพาหนะของเราแล้ว!”
“ดี…หารือ?” เหลยเหมิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าอสูรตนนี้คงถูกหนิงฝานกำราบอย่างสมบูรณ์!
“ในเมื่อเป็นพาหนะของข้า ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้า!”
หนิงฝานหันมองไปที่อสูรซวีคงและหยิบยารักษาจำนวนมากออกมาจากพื้นที่ระบบ “รีบรักษา แล้วพาพวกเราออกเดินทาง แน่นอนว่าหลังจากอาการบาดเจ็บหายแล้ว เจ้าจะหนีไปก็ได้ ข้าจะไม่มีวันไล่ตามเจ้าแล้ว แต่ข้าจะทุบเจ้าให้ตายจริง ๆ!”
“…”
ม่านตาของอสูรซวีคงสั่นสะท้านในบัดดลและล้มเลิกความคิดที่จะวิ่งหนีทันที
ทว่าตอนนี้เอง หนิงฝานควบคุมมหาวิถีแห่งความว่างเปล่า แม้ว่ามันจะวิ่ง มันก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน!
หึ่ง! หึ่ง! หึ่ง!
อสูรร้ายยื่นมือไปรับโอสถแล้วก็เริ่มรักษา ไม่นานมันก็กลับมามีพลังเต็มที่
แต่ถึงแม้จะฟื้นคืนสู่จุดสูงสุด อสูรซวีคงก็ไม่กล้าวิ่งหนี และเพื่อความสะดวกของหนิงฝาน มันก็หดร่างอสูรที่ใหญ่โตหาที่เปรียบมิได้ให้เหลือเพียงสิบฟุต!
“อืม ดี ไปกันเถอะ!”
หนิงฝานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็เหินขึ้นไปบนหัวของอสูรซวีคง
ควับ!
ทันทีหลังจากนั้นเหลยเหมิงก็ตามขึ้นไปและคิดที่จะร่อนลงตรงหน้าหนิงฝาน
ฟู่ว! ฟิ้ว!
ทว่าตอนนี้เอง พลังแห่งความว่างเปล่าสายหนึ่งได้ดึงเหลยเหมิงไปที่ตำแหน่งหางทันที จากนั้นเสียงของอสูรร้ายก็ดังขึ้น “ไสหัวไปข้าง ๆ ซะ เจ้าน่ะหรือคู่ควรยืนอยู่บนหัวของข้า!”
“มารดามันเถอะ ผู้ที่เอาแต่เล่นสกปรกอย่างเจ้า กล้าสู้กับข้าตัวต่อตัวสามร้อยกระบวนท่าหรือไม่!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ โทสะของเหลยเหมิงก็เพิ่มขึ้นทันทีและคิดจะโจมตีอีกครั้ง!
แต่หนิงฝานตะโกนห้ามไว้ก่อน “หยุดวุ่นวายได้แล้ว รีบไปเส้นทางราชันจักรพรรดิด่านที่สอง!”
“รับทราบ!”
อสูรซวีคงตอบสนองอย่างรวดเร็วและเปิดใช้งานพลังเหนือธรรมชาติของมัน หลังจากแสงวูบวาบของความว่างเปล่า เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้ง สองคนและหนึ่งอสูรได้มาถึงจุดสิ้นสุดของความว่างเปล่าแล้ว และความเร็วนั้นเร็วยิ่งกว่าการบินไม่รู้กี่เท่า
ควับ ควับ ควับ!
หลังจากนั้น อสูรซวีคงซึ่งแบกหนิงฝานและเหลยเหมิงไว้บนหลังของมัน เริ่มทะยานข้ามความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุดและมุ่งไปยังด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิ
หลังจากพูดคุยระหว่างทาง หนิงฝานก็ได้รู้ชื่อของอสูรซวีคง…ซวีคุน!
ตามที่ซวีคุนว่า พวกเผ่าอสูรซวีคงเป็นที่รู้จักกันดีในเส้นทางราชันจักรพรรดิ และเผ่าของพวกเขาก็ตั้งอยู่ใกล้กับเส้นทางราชันจักรพรรดิด่านที่หนึ่งร้อย ซ้ำยังมีสถานที่ชุมนุมสำหรับเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังมากมาย แม้แต่กองบัญชาการของสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชันจักรพรรดิก็ตั้งอยู่ด้านที่หนึ่งร้อย!
ส่วนเขาแอบออกจากเผ่ามาดื่มกินอย่างอิ่มหนำสำราญ เหตุผลที่เขามายังประตูที่หนึ่งของเส้นทางราชันจักรพรรดิก็เพราะอัจฉริยะที่นี่โดยทั่วไปล้วนอ่อนแอ ไม่เหมือนกับประตูที่หนึ่งร้อยของเส้นทางราชันจักรพรรดิที่ไม่ว่าจะสุ่มเลือกใครออกมานั้นก็ล้วนแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เขาหดหู่ใจก็คือ เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับหนิงฝานที่ชั่วร้ายและอำมหิตในที่แห่งนี้!
สามารถทำลายมหาวิถีแห่งความว่างเปล่าได้ก็แล้วไป แต่กระทั่งสามารถควบคุมมันได้ด้วยตนเอง นี่มัน…ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว!
เวลาผ่านไป ขณะที่สองคนหนึ่งอสูรมุ่งไปด้านหน้า!
หนึ่งปี!
สองปี!
ในที่สุดสองปีต่อมา สองคนและหนึ่งอสูรก็มาถึงด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิ!
พวกเขาเจอเมืองใหญ่ตระหง่านอยู่ในความว่างเปล่าแต่ไกล ขนาดของมันใหญ่กว่าดวงดาวและกว้างกว่าโลก กำแพงเมืองสูงถึงล้านจั้ง ปกคลุมด้วยโบราณสถานละลานตา ผ่านวันและเวลามาอย่างโชคโชน!
ประตูเมืองเป็นเหมือนประตูสวรรค์ มีอักขระโบราณสลักไว้บนภาพวาดเหล็กที่เกี่ยวด้วยตะขอเงิน…ด่านประตูอวี้!
ทั้งในและนอกประตูเมือง ผู้คนสัญจรไปมา คึกคักอย่างยิ่ง มีทั้งมนุษย์ มาร วิญญาณ ปีศาจ อสูรและอื่น ๆ มีเผ่าพันธุ์นับพันและการบ่มเพาะของสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ได้มาถึงขั้นกึ่งจักรพรรดิ!
ทั้งสองด้านของประตูเมืองมีผู้คุมกฎในชุดเกราะสีดำทองและมีดยาวสีดำทองยืนเรียงกันสองแถว ผู้คุมกฎเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าผู้คุมกฎในด่านแรก!
“ดี!”
“นี่คือด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิงั้นหรือ?”
เมื่อมองไปที่ด่านสวรรค์อันงดงามและฝูงชนที่มีชีวิตชีวา เหลยเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
เพราะเขาอยู่ในด่านที่หนึ่งมานานถึงเพียงนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาถึงที่ด่านที่สอง
“จิ๊ ไอ้บ้านนอกที่ไม่เคยผ่านโลก ถ้าเจ้าเห็นด่านที่ร้อยของเส้นทางราชันจักรพรรดิ เจ้าคงได้ฉี่รดกางเกงด้วยความตกใจ!” เมื่อเห็นเหลยเหมิงมีท่าทีเช่นนี้ อสูรซวีคงที่อยู่ข้าง ๆ ก็ฉวยโอกาสหัวเราะเยาะทันที
“เจ้าซวีฮั่ว (ของปลอม) เจ้าดูถูกใคร!” เหลยเหมิงตอบโต้ทันทีด้วยสายตาถมึงทึง
“เรียกใครซวีฮั่ว ข้าชื่อซวีคุน!”
“ซวีฮั่ว!!”
“…”
เมื่อเห็นหนึ่งคนหนึ่งอสูรทะเลาะกันอีกครั้ง หนิงฝานก็รีบห้ามปรามทันที “เอาล่ะ หยุดเถียงกันสักที เตรียมเข้าด่าน!”
“นายท่าน บนร่างท่านมีหมายจับโลหิต หากท่านเข้าด่านเช่นนี้ เกรงว่าอาจสร้างปัญหาไม่รู้จบ!” เหลยเหมิงเตือนขึ้น
“นี่…!” หนิงฝานขมวดคิ้ว
แม้ว่าเขาจะไม่กลัวสิ่งต่าง ๆ แต่เขาก็ไม่อยากเผชิญกับศัตรูก่อนเข้าสู่ด่านที่สอง!
ทว่าในตอนนั้นเอง อสูรซวีคงที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดทันทีว่า “ลูกพี่ ข้าสามารถช่วยท่านได้!”
“หืม? เจ้าสามารถกำจัดหมายจับโลหิตได้?” หนิงฝานเลิกคิ้วอย่างอดไม่ได้
อสูรซวีคงส่ายหัวแล้วพูดว่า “ลูกพี่ แม้ว่าข้าจะกำจัดหมายจับโลหิตไม่ได้ แต่ข้าสามารถใช้พลังอาคมของเผ่าอสูรซวีคงของเราเพื่อช่วยลูกพี่ปกปิดหมายจับโลหิตบนร่างได้ แต่มีข้อเสียในการทำเช่นนั้น ข้อเสียคือท่านไม่สามารถลงมือต่อสู้ได้และเมื่อท่านลงมือเมื่อใด หมายจับโลหิตจะถูกเปิดเผยอีกครั้ง!”
“อย่างนั้นหรือ? เท่านี้ก็พอแล้ว!”
หนิงฝานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
พรึ่บ!
เมื่อเป็นเช่นนี้ อสูรซวีคงก็แสดงพลังเหนือธรรมชาติของมันทันที และเมื่อสัมผัสของพลังความว่างเปล่าปกคลุมมัน หมายจับโลหิตบนร่างของหนิงฝานก็หายไปทันที
“อืม! ไม่เลว!”
หนิงฝานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและเอ่ยขึ้นทันที “เข้าด่าน!”