Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 302 มีใครทำได้อีกไหมล่ะ

ตอนที่ 302 มีใครทำได้อีกไหมล่ะ

คำสรรเสริญเยินยอของเซินเจียรุ่ย ทำให้นักเขียนในวงการสืบสวนสอบสวนหลายคนงุนงง

เซินเจียรุ่ย…

เขานับเป็นไอโอเบอร์ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แล้วใช่ไหมเนี่ย

ถ้าเซินเจียรุ่ยเคยอ่านหนังสือเล่มใหม่มาแล้วก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เห็นชัดๆ ว่ายังไม่ได้อ่าน แต่กลับกล้าออกตัวแรงเช่นนี้ ไม่กลัวหน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยหรือไง

ไม่เพียงแค่นักเขียนในวงการที่งงงัน

วงการสำนักพิมพ์งงไปไม่น้อย

ขณะที่งุนงง ก็อดรู้สึกหวาดระแวงไม่ได้ โดยเฉพาะสำนักพิมพ์ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

ฉู่ขวงจะเขียนนิยายสืบสวนสอบสวน?

ทุกคนรู้ว่าแผนกนิยายสืบสวนสอบสวนของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูมีไว้เพียงประดับบริษัท พวกเขาคิดจะให้ฉู่ขวงมากอบกู้สถานการณ์?

ยังไม่ต้องเอ่ยถึง

หลังจากฉู่ขวงกระโดดข้ามประเภทนิยายมาหลายครั้งหลายหน ก็ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าฉู่ขวงจะเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนได้ไม่ดี ฉะนั้นหลายคนจึงรู้สึกวิตกกังวล

แต่ไม่ว่าโลกภายนอกจะรู้สึกอย่างไร หลังจากการโปรโมตผ่านไปหลายวัน ในที่สุดเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์แอ็กครอยด์ก็วางแผงแล้ว

วางแผงขายไม่ทันช่วงต้นเดือน หลังจากสามทวีปผนวกรวมและส่งผลให้จำนวนของนักเขียนในหมวดหมู่ต่างๆ เพิ่มขึ้น ทุกคนเรียนรู้ที่จะหลบหลีกซึ่งกันและกัน ไม่มีทางจงใจปล่อยผลงานออกมาในวันเดียวกัน

ตัวอย่างเช่นวันวางขายเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ ถูกกำหนดไว้ในวันที่ 12 มีนาคม

เมื่อมีชื่อของฉู่ขวง ร้านหนังสือรายใหญ่ย่อมรับสินค้ากันไปไม่น้อย

ความจริงได้พิสูจน์ว่าการตัดสินใจของพวกเขานั้นถูกต้อง

เช้าวันที่ 12

ร้านหนังสือเพิ่งเปิด ร้อยละแปดสิบของลูกค้าที่เข้ามานั้น มาเพื่อซื้อเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์!

“ฉันขอหนังสือใหม่ของฉู่ขวงหนึ่งเล่มค่ะ…”

“ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้ แต่เป็นหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงน่ะครับ ใช่ๆๆ ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์”

เห็นได้ชัดว่ามีคนเห็นป้ายโปรโมตซึ่งร้านนำมาตั้งไว้ บนป้ายนั้นมีโปสเตอร์สวยงาม มีข้อความประโยคหนึ่งเขียนว่า

[ผลงานชิ้นใหม่จากนักเขียนระดับมหาเทพฉู่ขวง ‘ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์’ วางขายแล้ววันนี้ สินค้าแนะนำ!]

“ซื้อเรื่องนี้เลยครับ ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์”

“หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงออกแล้ว? งั้นซื้อเล่มนี้ก็แล้วกันค่ะ”

“ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์สามเล่มค่ะ”

แบบนี้แค่มองก็รู้ว่ามีคนฝากซื้อ

หน้าแคชเชียร์ของร้านหนังสือบางแห่ง

หลังจากที่ผู้จัดการซึ่งจงใจสำรวจยอดขายของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ได้เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ยกยิ้มขึ้นอย่างอดไม่ได้ กล่าวประโยคซึ่งเปี่ยมแฝงความหมายลึกซึ้งออกมา

“วงการหนังสือมีนักเขียนที่ใช้ชื่อเสียงเลี้ยงชีพเพิ่มมาอีกคนแล้ว”

นี่เป็นคำวิจารณ์ที่ไม่ธรรมดาเลย!

ปกติแล้ว ผู้คนจะพลิกอ่านดูเล็กน้อยก่อนซื้อหนังสือ

ถึงแม้ว่าราคาของนิยายจะไม่แพง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเงินจำนวนหนึ่ง ต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ

แต่ก็มีผลงานของนักเขียนบางคน ที่ผู้อ่านจ่ายเงินทันทีโดยไม่เปิดอ่านด้วยซ้ำ!

เพราะพวกเขาเชื่อฝีมือของนักเขียนเหล่านั้นมาก!

เรื่องคนขุดสุสานก่อนหน้านี้ไม่ได้มีพลังมากเช่นนี้ ผู้อ่านหลายคนยังคนเปิดอ่านเล็กน้อยก่อนตัดสินใจซื้อ

แต่เมื่อมาถึงเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ ผู้อ่านปราศจากความลังเลแม้แต่นิดเดียว!

ต่อให้ฉู่ขวงจะเขียนหนังสือประเภทซึ่งเขาไม่เคยแตะมาก่อนเฉกเช่นที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความต้องการซื้อหนังสือของพวกเขาเลย

นี่ตัวอย่างคลาสสิกของการใช้ชื่อเสียงดำรงชีพ!

“เรื่องนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะฉู่ขวงได้เป็นนักเขียนระดับมหาเทพ”

เลขาซึ่งอยู่ด้านข้างผู้จัดการท่าทางคล้ายกับกำลังใช้ความคิด สมาคมวรรณศิลป์มีพิธีมอบรางวัลนักเขียนระดับมหาเทพนี่นา

นักเขียนที่ได้ระดับมหาเทพ ค่าตัวล้วนมีแนวโน้มทวีคูณขึ้นมา

นักเขียนที่สามารถทำให้ผู้อ่านควักเงินจ่ายโดยไม่ลังเล โดยทั่วไปแล้วล้วนอยู่ระดับมหาเทพเป็นอย่างน้อย

“ฉันอาจต้องเติมสต็อก”

หลังจากสังเกตการณ์อยู่สักพัก เลขาก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

ผู้จัดการพยักหน้า ยอดขายในวันแรกของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์นั้นทำตัวเลขได้อย่างงดงามทีเดียว และตัวเลขนี้เอง ที่เป็นปัจจัยสะท้อนอิทธิพลของนักเขียนได้อย่างตรงไปตรงมาที่สุด!

……

เป็นดังคาด

ยามที่ยอดขายของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ออกมา ทั่วทั้งคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่!

เพราะในวันแรกที่นิยายเรื่องนี้วางแผง บวกกับช่องทางสั่งซื้อออนไลน์ ก็ขายไปได้ 914,000 เล่มแล้ว!

แค่วันแรกก็ขายได้เกือบหนึ่งล้านเล่มแล้ว!

การเก็บสถิติของเรื่องนี้มีหน่วยงานซึ่งขึ้นตรงกับสมาคมวรรณศิลป์รับผิดชอบโดยตรง จะมีการรายงานสถิติอย่างเป็นทางการทุกวัน เช่นเดียวกับยอดบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์

ต้องเข้าใจก่อนว่านี่เพิ่งวันแรก!

ด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่อเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนไม่คิดว่ายอดขายหลังจากนี้จะย่ำแย่แต่อย่างใด

“จะว่ายังไงดีล่ะ”

เฉาเต๋อจื้อหัวเราะราวเสียสติ “ขาใหญ่อยู่ที่ไหนก็เป็นขาใหญ่จริงๆ!”

ข้อสรุปแบบเดียวกันนี้ก็ปรากฏในแผนกแฟนตาซีของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

ถึงแม้หนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนกแฟนตาซี แต่ในแผนกก็ยังคงติดตามข่าวคราวของนิยายเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าทันทีที่เห็นสถิติยอดขายซึ่งทางการประกาศออกมา เหล่าบรรณาธิการทั้งแผนกก็พลันสีหน้าซับซ้อนขึ้นมา

“แผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนพูดถูก ขาใหญ่อยู่ที่ไหนก็เป็นขาใหญ่…”

“หยาบคาย ต้องบอกว่าสุนัขป่าท่องโลกหล้านับพันลี้ก็ยังกินเนื้อ[1]”

“ตอนแรกฉันยังหวังว่าถ้าเสียงตอบรับของนิยายเรื่องนี้ธรรมดา เดี๋ยวฉู่ขวงก็กลับมาซบอกเรา เขียนนิยายแฟนตาซีเหมือนเดิม…”

“ดูจากคำวิจารณ์ในเน็ตแล้ว เรื่องนี้คงหวังไม่ได้แล้วล่ะมั้ง”

“ผมยังซื้อมาเล่มนึงเลย จะอ่านคืนนี้ เพื่อนผมที่แผนกวรรณกรรมสืบสวนมาพูดกรอกหูผมอยู่นั่นแหละว่าเรื่องนี้ดังเป็นพลุแตกแน่ๆ”

“…”

ในคลังหนังสือซิลเวอร์บลู มีข่าวลือมานานแล้วว่าหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวงนั้นสุดยอดมาก แต่เพราะมีกฎการรักษาความลับก่อนการตีพิมพ์ แผนกอื่นจึงไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาโดยละเอียดได้

แต่ก็เหมือนกับที่บรรณาธิการสักคนหนึ่งกล่าวไว้

หลังจากฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์วางแผง และผู้อ่านนิยายเรื่องนี้กลุ่มแรกอ่านจบ คอมเมนต์บนโลกออนไลน์ก็ระเบิดเป็นที่เรียบร้อย!

ผู้อ่านนิยายสืบสวนสอบสวนได้ผ่านพิธีเจิมด้วยเทคนิคผู้เล่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเป็นครั้งแรก!

บนเว็บไซต์หนังสือแห่งหนึ่ง

ความคิดเห็นร้อนแรงเกี่ยวกับฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์นั้นได้เสียงตอบรับจากผู้คนมากที่สุด โดยที่ไม่มีการสปอยล์แม้แต่นิดเดียว

‘ฆาตกรก็คือเขา!!!’

คอมเมนต์นี้มียอดไลก์ 34566 ครั้ง

นับว่าเป็นคำพูดไร้สาระที่ถูกต้อง พูดออกมาก็เหมือนไม่ได้พูด แต่เพราะคุณภาพโดยพื้นฐานซึ่งไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง คอมเมนต์นี้มีคำใบ้ที่ชัดเจนอยู่แล้ว

คอมเมนต์ร้อนแรงคอมเมนต์ที่สองยิ่งน่าสนใจ

เพียงสองตัวอักษรง่ายๆ และเครื่องหมายอัศเจรีย์อีกมหาศาล

‘อห!!!!!!!!!!!!’

มีบางคนเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “พอเห็นคอมเมนต์นี้แล้ว ขอแนะนำว่าพวกคุณอย่าเพิ่งอ่านคอมเมนต์บนอินเทอร์เน็ต ฉันเองก็ซื้อเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์มาอ่าน พออ่านจบแล้วถึงมาเข้าเน็ต อ่านจบแล้วคุณจะขอบคุณที่ฉันมาเตือน”

สรุปว่าแถวหน้าล้วนเป็นคอมเมนต์ที่พอจะมีมโนธรรมอยู่บ้าง

‘ถ้าปัวโรต์ไม่รีบเกษียณแล้วมาปลูกฟักทองที่นี่ก็คงจะดี…’

‘พออ่านถึงตอนจบแล้วผมอึ้งไปเลย’

‘ไม่ต้องพูดเหลวไหลแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ถ้าเจอใครผมก็แนะนำให้อ่านทุกคน ถ้าไม่อ่านจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต’

‘พูดแบบไม่เว่อร์เลยนะ พออ่านจบ ฉันนี่เสียวสันหลังวาบ’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงตุ๋นผมซะเปื่อย! แต่ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอกครับ’

‘ใครเดาตัวฆาตกรได้ก่อน ฉันหมอบกราบเลยเอาสิ!’

‘อ๊ากกกก! ฆาตกรก็คือเชปเพิร์ดเหรอเนี่ย!!!!’

‘คอมเมนต์บนใจร้ายมาก แนะนำให้แอดมินมาจัดการ เมื่อไหร่ที่มีสปอยล์ ความสนุกตอนอ่านหนังสือเรื่องนี้จะลดลง 50%’

‘มีคนกดไลก์ให้คอมเมนต์สปอยล์เรื่องด้วยนะ…เอาจริงดิพวกแก?’

‘ทุกท่าน ผมชอบปัวโรต์มาก!’

‘โครงสร้างของการสืบสวนสอบสวนประณีตมาก ทุกข้อสงสัยในตอนจบก็ถูกคลี่คลาย ทุกเงื่อนงำไม่ถูกมองข้าม การปูรายละเอียดของเรื่องช่วงแรกก็ทำได้สมบูรณ์แบบมาก นึกไม่ถึงเลยว่าเป็นแนวสืบสวนสอบสวนเรื่องแรกที่ฉู่ขวงเขียน! แค่ข้ามหมวดหมู่มาเขียน ผมก็ยอมแล้ว!’

‘…’

และในวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน กลุ่มแช็ตหลายกลุ่มระเบิดในทันใด เห็นได้ชัดว่าหลายคนอ่านเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ในทันที

ในกลุ่มแช็ตของนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนกลุ่มหนึ่ง

จู่ๆ แอดมินก็โพล่งขึ้นมา ‘ขอเตือนอาจารย์ที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ กรุณาปิดการแจ้งเตือนข้อความ ไม่อย่างนั้นพวกคุณจะถูกสปอยล์และเสียใจไปตลอดชีวิต’

มีคนทำตามอย่างคล่องแคล่ว แต่ก็มีบางคนที่ยังคงสงสัย

หลังจากนั้นสมาชิกในกลุ่มซึ่งไม่ได้ปิดการแจ้งเตือน ก็เห็นนักเขียนซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาโผล่มา และทั้งหมดล้วนถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์

‘ข้อความโปรโมตของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูเป็นเรื่องจริงไม่จ้อจี้ ยอมแล้วจ้า บุกเบิกรูปแบบใหม่จริงๆ!’

‘เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์’

‘คดีพูดได้แค่ว่าธรรมดา แต่เดาตัวฆาตกรไม่ได้ ฉู่ขวงใช้กับดักของคำ สับขาหลอกผู้อ่าน แต่นิยายเรื่องนี้เป็นประเภทที่ต่อให้อ่านแล้วโดนหลอก เมื่อเห็นตอนจบแล้วก็ยังรู้สึกตะลึงอยู่ดี’

‘ใครอ่านแล้วรู้ทันทีว่าฆาตกรคือบุคคลที่หนึ่งบ้าง?’

‘ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันมีแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องต่อไปแล้ว’

‘ไม่ได้มีแค่คุณที่ได้แรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเรื่องใหม่หรอก ตอนนี้นักเขียนหลายคนในวงการน่าจะมีแรงบันดาลใจขึ้นมาเหมือนกัน’

‘ถ้าวิธีการเขียนแบบนี้กลายเป็นกระแสขึ้นมา…แย่ละ คนอ่านอ่านจนเบื่อแล้วจะต้องโกรธแน่ๆ!’

‘นิยายสืบสวนสอบสวนก็ขุดหลุมหลอกกันทั้งนั้น ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์เป็นหลุมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลย อ่านถึงสี่ตอนสุดท้ายก็ยังเดาไม่ออก เชื่อว่าคนอ่าน 99% แพ้ราบคาบ’

‘…’

สมาชิกในกลุ่มซึ่งเปิดอ่านข้อความด้วยความสงสัยใคร่รู้ ส่งจุดไข่ปลามา ‘แล้วผมจะอ่านหนังสือเรื่องนี้ยังไงล่ะทีนี้’

ชั่วขณะนั้น ในกลุ่มก็ปรากฏข้อความ ‘ฮ่าๆๆๆๆ’ และ ‘+1’ อย่างไร้ความปรานี

อาจเป็นเพราะนิสัยชอบทำซ้ำ หรืออาจเป็นเพราะโรคย้ำคิดย้ำทำ คนคนนี้ทำได้เพียงพิมพ์ไปว่า ‘+1’ ทั้งน้ำตา

ความสงสัยฆ่าแมวตาย

นิยายเรื่องอื่น ต่อให้รู้ตอนจบล่วงหน้า ความสนุกในการอ่านอาจลดลงอย่างน้อยสามสิบเปอร์เซ็นต์

แต่สำหรับฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ เมื่อใดที่ถูกสปอยล์ ความสนุกในการอ่านจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง

การสูญเสียอรรถรสในการอ่านนั้นเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย!

และเมื่อเวลาดำเนินเข้าสู่วันที่สอง คำวิจารณ์เริ่มสุกงอม ยอดขายเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์พุ่งทะยานแตะ 1.6 ล้านเล่มเป็นที่เรียบร้อย!

มากกว่าวันที่หนึ่งเสียอีก!

ต่อให้บลูสตาร์จะเริ่มผนวกรวม ผู้อ่านมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยอดขายในวันที่สองก็ถล่มทลายจนทุกคนต้องตะลึง!

ขายดี!

กระแสดี!

นี่เป็นกระแสของนิยายสืบสวนสอบสวน จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในข้อความโปรโมตของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูที่ว่าฉู่ขวง ‘บุกเบิกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนรูปแบบใหม่’!

ถูกต้องแล้ว นี่เป็นการบุกเบิกวิธีเขียนรูปแบบใหม่จริงๆ

ฆาตกรไม่เพียงเป็นผู้เล่าเรื่อง

การเบิกข่ายความคิดเช่นนี้ ทำให้นักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนหลายคนตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วกลอุบายไม่เพียงใช้ได้กับตัวคดี ยังใช้กับคำซึ่งผู้อ่านอ่านได้อีกด้วย!

สารพัดกลอุบายที่แท้จริง!

และจุดที่น่ากลัวที่สุดอยู่ที่…

ต่อให้ฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์จะหลอกลวงผู้อ่านมาตลอดทั้งเรื่อง แต่เมื่ออ่านถึงตอนจบ ผู้อ่านก็ยังถูกหลอกอย่างยินยอมพร้อมใจ!

ในวันนี้

โพสต์ใหม่ล่าสุดบนปู้ลั่วของเซินเจียรุ่ย ถึงแม้ว่าจะเป็นประโยคง่ายๆ แต่กลับยกระดับคำว่า ‘อวย’ ได้ถึงขีดสุด ประโยคนั้นก็คือ

‘มีใครทำได้อีกไหมล่ะ!?’

……………………………………………………..

[1] สุนัขป่าท่องโลกหล้านับพันลี้ก็ยังกินเนื้อ หมายถึง นักล่าไม่ว่าจะอยู่ที่ใด สัญชาตญาณดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ ในที่นี้ต้องการเปรียบเปรยว่า ไม่ว่าฉู่ขวงจะย้ายไปเขียนผลงานประเภทไหน ความสามารถก็ยังโดดเด่นดังเดิม

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท