รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 443 หลี่จิ่วเต้า ‘นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว!’

บทที่ 443 หลี่จิ่วเต้า ‘นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว!’

บทที่ 443 หลี่จิ่วเต้า ‘นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว!’

เวรเอ๊ย!

ตาแก่ผู้นี้คุยโวเกินไปแล้ว!

ยอดเซียน หนึ่งในใต้หล้า มีข้าตงฟางเวิ่นจึงมีฟ้า!

ยังมีเซียนไร้เทียมทาน!

ไหนจะราชันไร้พ่าย!

สิ่งที่แปลกประหลาดน่าขบขันที่สุดก็คือ เอ่ยนามของข้า ฟ้าดินล้วนนอบน้อม!

ตาแก่นี่จะอวดดีเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!

สั่งสอน!

แบบนี้ต้องสั่งสอนตาแก่ให้ดีแล้ว!

ทั้งต้นหลิวและเจ้าหินกล่าวขึ้นมาในใจ

“เก่งกาจยิ่ง ข้าสัมผัสได้ถึงรัศมีเต่า*[1]จากวาจาเหล่านี้ นี่เป็นลักษณะของยอดฝีมือไร้เทียมทานอย่างนั้นหรือ?”

เจ้าก้อนหินกล่าว

“อืม นี่คือลักษะของยอดฝีมือไร้เทียมทาน”

ตงฟางเวิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

ทว่าเขาก็ตอบสนองกับถ้อยคำก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปทางเจ้าก้อนหินอย่างดุดัน “เจ้าพูดอะไรนะ? อะไรคือรัศมีเต่า?”

“อ๊ะ นี่…ข้าพูดผิดไปแล้ว รัศมีราชา ไม่ใช่รัศมีเต่า!”

เจ้าก้อนหินรีบเอ่ยออกไป

“ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นนะ”

ตงฟางเวิ่นยืนนิ่งเอามือไพล่หลัง “มาเลย ข้ากดขอบเขตและพลังทั้งหมดลงไว้แล้ว”

“ได้!”

เจ้าก้อนหินกล่าว “ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ เกิดบาดเจ็บขึ้นมาจริง ๆ เจ้าก็อย่าโกรธนะ”

“พูดอะไรกัน เจ้าจะทำข้าบาดเจ็บได้อย่างไร ลงมือได้เต็มที่เลย!”

ตงฟางเวิ่นพูดออกมาอย่างผยอง

เจ้าก้อนหินนี้พูดอะไรไม่รู้เรื่อง เขาจะได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร?

คิดเลอะเทอะเกินไปแล้…

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะเข้าไปแล้ว!”

เจ้าก้อนหินลอยขึ้นสูงแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง “ลองดูนี้เสีย อุกกาบาตจากฟากฟ้า”

มันพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเข้าใส่ตงฟางเวิ่น

ตงฟางเวิ่นหัวเราะ นี่มันอะไรกัน?

อุกกาบาตจากฟากฟ้า!

ไม่ต้องกล่าวถึงเจ้าก้อนหินธรรมดา ๆ นี้เลย กระทั่งอุกกาบาตของจริงยังไม่สามารถทำร้ายเขาได้

มาแล้ว!

เข้ามาใกล้!

มาจนถึงระยะประชิด!

ตงฟางเวิ่นคิดในใจว่าเจ้าก้อนหินไม่ได้เรื่องจริง ๆ ขนาดเข้ามาใกล้ขนาดนี้เขายังไม่สามารถสัมผัสพลังอะไรได้

เช่นนี้ยังคิดว่าจะสามารถทำร้ายเขาได้อีกหรือ?

“เบา ๆ หน่อย อย่าทำตัวเองแหลกเป็นชิ้น ๆ เสียเล่า”

เขากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

เวรเอ๊ย!

ตาแก่นี่เสแสร้งเก่งจริง!

เจ้าก้อนหินกล่าวขึ้นมาในใจ วันนี้มาลองดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน!

เสียงตู้มดังขึ้นมา มันกระแทกเข้าใส่ร่างของตงฟางเวิ่นอย่างจัง

อะไรกัน!

ในตอนนั้นเองตงฟางเวิ่นก็ต้องตกตะลึง

บัดซบ…อ๊า!

การโจมตีครั้งนี้รุนแรงเสียยิ่งกว่าโดนค้อนยักษ์ทุบร่างเสียอีก!

เขาถูกกระแทกจนปลิวกระเด็นออกไป เลือดไหลออกมาไม่หยุด กระดูกทั้งหมดในร่างกายดูเหมือนจะแตกหัก ความเจ็บปวดทำให้เขาต้องกัดฟันแล้วร้องออกมาหลายครั้ง

“เอ๋ ยอดฝีมือไร้เทียมทานก็ไม่เห็นจะเท่าไรนี่นา ข้ายังไม่ได้ใช้พลังของข้าเลย!”

เจ้าก้อนหินกล่าว

“เจ้าก้อนหิน เจ้าไม่รู้อะไรสักนิด! ยอดฝีมือไร้เทียมทานกำลังรักษาหน้าเจ้าอยู่ เพราะกลัวว่าเจ้าจะอับอาย ไม่เช่นนั้น เจ้าคิดหรือว่าตนเองจะทำร้ายผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานได้!?”

ต้นหลิวที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นมา

รักษาหน้าอะไร!

กลัวอับอายอะไร!

ตงฟางเวิ่นร่ำไห้ ร่ำไห้ออกมาสุดชีวิตอย่างควบคุมไม่ได้!

นี่เขา…ถูกเจ้าก้อนหินหลอกลวงครั้งใหญ่!

หลอกหลวงจนถึงขั้นสามารถตายได้!

เขามีร่างกายระดับเทียนตี้ แต่กลับยังถูกทำลายทิ้ง เจ้าก้อนหินนี้จะเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาได้อย่างไร?

ความแข็งแกร่งของเจ้าก้อนหินจะต้องล้ำลึกเกินหยั่งถึงแน่นอน!

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้! ข้าเข้าใจแล้ว! ยอดฝีมือไร้เทียมทานยอดเยี่ยมยิ่งนัก! จิตใจดีงาม ไม่ต้องการให้ข้าอับอายขายหน้า!”

เจ้าก้อนหินกล่าว “ยอดฝีมือไร้เทียมทานไม่ต้องแสดงละครแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้บาดเจ็บเลย กระอักเลือดออกมาก็แสร้งทำเช่นกัน! เพื่อแสดงความเคารพต่อยอดฝีมือไร้เทียมทาน ข้าตัดสินใจ…จะลงมืออย่างสุดกำลัง!”

หลังจากนั้น มันก็ทะยานขึ้นไปสูงลิ่ว ครั้งนี้มันลอยขึ้นไปสูงจนไม่อาจมองเห็นร่างของมันได้

“อย่า!!”

ตงฟางเวิ่นจนใจจนแทบจะสิ้นสติ เขารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว

ทว่าเขากลับพบเรื่องน่าสลด เห็นได้ชัดว่านี่คือมิติพิเศษที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้น ทว่าเขากลับเปิดหรือสลายมันไปไม่ได้!

อะไรกันเนี่ย!

เหตุใดเขาต้องไปยั่วยุเจ้าก้อนหินนี่ด้วย!

ต้องมาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เพียงนี้!

ตู้ม!

ในตอนนั้นเองก้อนหินก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ไม่ว่าตงฟางเวิ่นจะพยายามหลบอย่างไรก็ไร้ผล เจ้าก้อนหินสะกัดเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์!

เขาถูกกระแทกอีกครั้ง ร่างกายของเขาบิดเบี้ยวไปทั้งตัว กระดูกทั้งหมดคล้ายแตกหักไปหมด เลือดทะลักออกจากปากอย่างบ้าคลั่ง

“ยอดเยี่ยมมาก! ยอดฝีมือไร้เทียมทานสมกับเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทาน! หากเป็นผู้อื่น ข้าสามารถทุบร่างของเขาให้แหลกออกเป็นชิ้น ๆ ได้ แต่ร่างของยอดฝีมือไร้เทียมทานนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แม้รูปร่างจะผิดรูปไปแต่ก็ไม่แหลกสักนิด ชื่นชม ชื่นชม!”

เจ้าก้อนหินกล่าวชื่นชม

ยอดเยี่ยมบ้าอะไรกัน!

ถึงร่างของเขาจะไม่แหลก แต่กระดูกภายในร่างทั้งหมดก็หักไปแล้ว!

อ๊า! เจ็บจนแทบอยากตาย!

ตงฟางเวิ่นร้องไห้ออกมาด้วยความเก็บปวด

“ยอดเยี่ยมจริง ๆ ต่อไปเป็นตาข้าบ้าง”

ต้นหลิวกล่าว

“อย่า! ข้า…”

หน้าของตงฟางเวิ่นเปลี่ยนสีทันที เขาตะโกนยอมแพ้ออกมา แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบ กิ่งของต้นหลิ่วก็ฟาดลงมาแล้ว

เจ้าก้อนหินแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ แล้วต้นหลิวจะธรรมดาสามัญได้อย่างไร

ตงฟางเวิ่นไม่สนใจสิ่งที่เขาเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว เขารีบปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกอย่างรวดเร็วเพื่อต้านทานการโจมตีจากต้นหลิว!

เขามาถึงจุดสูงสุดของขั้นตี้จวินแล้ว อยู่ห่างจากขั้นเทียนตี้เพียงหนึ่งก้าว สามารถขนานนามตนเองว่าเป็นครึ่งก้าวเทียนตี้ได้แล้ว!

แต่ถึงกระนั้น เขาไม่ก็สามารถต้านทานการโจมตีของต้นหลิวได้ เขาลอยกระเด็นออกไปทันที ร่างกายโดนฟาดจนรู้สึกประหนึ่งร่างจะขาดออกจากกัน

“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก หากเป็นผู้อื่นคงแหลกไปนานแล้ว ยอดฝีมือไร้เทียมทานสุดยอดจริง ๆ ให้ข้าได้สู้กับยอดฝีมือไร้เทียมทานอีกครั้ง!”

ต้นหลิวกล่าวขณะใช้กิ่งอีกหลายกิ่งฟาดไปมาใส่ตงฟางเวิ่น ทำประหนึ่งอีกฝ่ายเป็นลูกบอลที่ถูกตีไปมาบนอากาศ!

ผู้ยิ่งใหญ่ หยุดเล่นกับข้าเถอะ!

ตงฟางเวิ่นร้องไห้อย่างขมขื่น เขาทำไม่ได้กระทั่งเปล่งเสียงออกมา ช่างน่าสังเวชเหลือเกิน!

ฟ้าคลั่งย่อมต้องฝน คนคลั่ง…ย่อมต้องโดนทุบตี*[2]!

เขาอยู่ในเมืองแต่แรกก็ดีแล้ว เหตุใดต้องอยากออกมาตกปลาด้วย!

ตกปลาก็แล้วไปเถอะ แต่เหตุใดเขาต้องอยากนั่งบนเจ้าก้อนหินด้วย!

นี่เรียกว่าโชคร้าย!

เมื่อคิดว่าต้นหลิวและเจ้าก้อนหินยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เกรงว่าตรงนี้จะเป็นที่ตกปลาของท่านเซียน!

ณ เมืองชิงซาน

ในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

“ยอดเยี่ยม สิ่งนี้มันยอดเยี่ยมจริง ๆ!”

หลี่จิ่วเต้านอนบนเก้าอี้โยก ในมือถือกระจกที่เขาเรียกมันว่า ‘แท็บแล็ต’ เล่นอย่างเพลิดเพลิน

โลกเสมือนจริงที่อยู่ภายในกว้างใหญ่ไพศาล เขาสามารถดลบันดาลทุกสิ่งได้ตามใจต้องการ สองวันที่ผ่านมานี้เขาสนุกสนานกับการเล่นเป็นอย่างมาก

โลกเสมือนจริงนี้ถูกควบคุมโดยเขา เพียงหนึ่งความคิดก็สามารถทำได้ทุกสิ่ง อยากให้สิ่งใดเกิดขึ้นมันก็จะเกิดขึ้น

ด้านในกระจก พลันปรากฏร่างที่ดูเหมือนหลี่จิ่วเต้าทุกประการขึ้น!

ไม่ผิด!

ร่างที่ปรากฏขึ้นด้านในกระจกนั้นเหมือนกับหลี่จิ่วเต้าทุกประการ!

เขาเล่นกับกระจกนี่มาหลายวันแล้ว พบว่าแม้ในกระจกจะเป็นเพียงโลกเสมือน แต่ก็ค่อนข้างดูสมจริงไม่ต่างอะไรไปจากโลกจริง มีทั้งสิ่งสร้าง มนุษย์ และเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ อาศัยอยู่ด้านในนั้น!

เขาคิดในใจว่าคงจะดีไม่น้อยหากสามารถเข้าไปด้านในได้

ปรากฏว่าเขาทำได้จริง ๆ!

เขาพิจารณาร่างของตนเองในกระจกที่กำลังเดินอยู่ในโลกเสมือนจริง

สิ่งนี้ให้ความรู้สึกราวกับเขากำลังเล่น ‘เกม’ ที่ดาวเคราะห์สีฟ้า!

เขารำพึงออกมาในใจว่าผู้ฝึกตนช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ จะทำสิ่งใดก็ล้วนทำได้ ยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!

“ได้เดิน ได้ชม ได้เล่นไปทั่วโลกเสมือนจริง ช่างดียิ่งนัก!”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มด้วยความสุขอย่างมาก

เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าสักวันจะสามารถเล่น ‘เกม’ ในต่างโลกแห่งนี้ได้

[1] รัศมีเต่า (王者霸气) หมายถึงบุคคลที่มีรัศมีอันแข็งแกร่งทำให้ผู้อื่นรู้สึกยอมจำนน 王八气概 มักถูกนำมาใช้แซะหรือถากถางนิยายที่ตัวละครมีรัศมีตัวเอก ทำให้ผู้อื่นยอมอย่างไร้เหตุผล และคำว่า เต่า (王八) เป็นคำที่ใช้บริภาษสามีของหญิงโสเภณีหรือชายที่ถูกสวมเขา

[2] ฟ้าคลั่งย่อมต้องฝน คนคลั่งย่อมต้องโดนทุบตี หมายความว่า คนที่หยิ่งผยองย่อมพบความเดือดร้อนไม่ช้าก็เร็ว

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท