ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 459 อันตราย(ต้น)

ตอนที่ 459 อันตราย(ต้น)

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ท่าน​ป้า​สอง​สาม​คนที​่​คุกเข่า​อยู่​ต่อหน้า​ตัวเอง​ ​เขา​ยก​ยิ้ม​อย่าง​เย็นชา​ ​จากนั้น​ก็​ให้​หู่​พั่ว​ไป​เรียก​หมอ​หลวง​เข้ามา​

“​…​ต้อง​ใช้​ยาที​่​ออกฤทธิ์​แรง​กว่านี​้​เท่านั้น​ขอรับ​”​ ​หมอ​หลวง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​แต่​ถึง​ตอนนั้น​ ​เด็ก​ใน​ท้อง​อาจจะ​…ฮู​หยิน​เกรง​ว่า​จะ​มี​อันตราย​ต่อ​เด็ก​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พูดไม่จา​ ​เขามอง​ไป​ที่​หมอตำแย​ด้วย​สายตา​ที่​เคร่งขรึม

“​ดูเหมือนว่า​พวก​เจ้า​จะ​ไม่มี​วิธี​อื่น​แล้ว​!​”​ ​เขา​บอก​หู่​พั่ว​ ​“​ไป​เรียก​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​ ​บอก​ให้​เขา​พา​หญิง​สาม​คน​นั้น​ที่มา​จาก​พระราชวัง​ส่งกลับ​ไป​ ​บอกว่า​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ไม่ต้องการ​”

พวก​นาง​มาที​่​จวน​สกุล​สวีตาม​คำสั่ง​ของ​ฮองเฮา​ ​คำ​ว่า​ ​‘​ไม่ต้องการ​’​ ​บรรดา​ขุนนาง​ใน​พระราชวัง​ได้ยิน​เช่นนี้​มัน​ไม่​แตกต่าง​อะไร​จาก​ ​‘​เย่อหยิ่ง​ไม่เชื่อฟัง​’​ ​หาก​ท่าน​โหว​น้องชาย​ของ​ฮองเฮา​พูด​เช่นนี้​ ​มัน​จะ​เกิดผล​อะไร​ตามมา​ ​ไม่ต้อง​พูด​พวก​นาง​ก็​รู้​ ​ถึงแม้ว่า​ฮองเฮา​ไม่ว่า​อะไร​ ​แต่​ก็​ต้อง​มี​คนที​่​อยาก​จะ​ประจบประแจง​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​เอา​ความ​เรื่อง​นี้​แทน​หย่ง​ผิง​โหว​!

สตรีทั​้ง​สาม​คน​ตัวสั่น​ระริก

ถึงแม้ว่า​ประโยค​นั้น​จะ​พูด​ให้​หมอตำแย​สอง​สาม​คน​นั้น​ฟัง​ ​แต่​มัน​ก็​คือ​การ​พูด​ให้​พวกเขา​ฟัง​เช่นกัน​!

หมอ​หลวง​ทั้งสอง​คน​หันมา​มองหน้า​กัน

หู่​พั่ว​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

แทนที่จะ​รอ​ให้​ถึง​ตอนนั้น​ ​ไม่​สู้​หาวิ​ธี​สู้​ดีกว่า​

หมอ​หลวง​คน​หนึ่ง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​มี​…​มี​วิธี​อื่น​อีก​ขอรับ​!​”

หาก​เป็น​วิธีการ​ที่​ไม่มี​ความเสี่ยง​ ​หมอตำแย​ก็​คงจะ​ทำ​ไป​นาน​แล้ว​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​มา​พูด​ตอนนี้​?

สวี​ลิ่ง​อี๋​สีหน้า​นิ่งเฉย​ไร้อารมณ์

หมอ​หลวง​คน​นั้น​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เรา​ให้​หมอตำแย​ช่วย​นวด​ให้ฮู​หยิน​ ​ช่วย​ให้​เด็ก​คลอด​เร็ว​ขึ้น​ขอรับ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ยัง​หมอตำแย

สีหน้า​ของ​พวก​นาง​ต่าง​ก็​เป็นกังวล

เขามอง​ไป​ที่​ป้าวั​่น

สีหน้า​ของ​ป้าวั​่น​ซีด​ขาว​ ​นาง​กำมือ​แน่น​ด้วย​สีหน้า​ที่​เป็นกังวล​เช่นกัน

เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​ป้าวั​่​นก​็​รู้​วิธี​นี้​เหมือนกัน​!

สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​หมอ​หลวง​คน​นั้น​อีกครั้ง

หมอ​หลวง​ทั้งสอง​คนคุก​เข่า​ลง​บน​พื้น

“​ท่าน​โหว​ขอรับ​ ​ถึงแม้ว่า​วิธี​นี้​จะ​อันตราย​ ​แต่​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มีใคร​เคย​ทำ​ขอรับ​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​ ​“​ตอนที่​ซุน​กุ้ย​เฟย​คลอด​องค์​ชาย​หก​ ​ก็​เคย​ใช้​วิธี​นี้​”

หมอ​หญิง​เผิง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​นาง​รีบ​ผลัก​หมอตำแย​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​แล้ว​เตือน​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ถึง​ตอนนั้น​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​เป็น​คน​ทำคลอด​”

หมอตำแย​คน​นั้น​รีบ​พูด​ด้วย​ตัว​ที่​สั่นเทา​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​วิธี​นี้​อันตราย​เกินไป​ ​ต้อง​ใช้​ตอนที่​ไม่มีทาง​เลือก​อื่น​แล้ว​เท่านั้น​ ​เพราะว่า​เด็ก​ที่​ถูก​นวด​ออกมา​มักจะ​เสียชีวิต​ก่อน​วัย​อัน​ควร​เจ้าค่ะ​”

“​ไม่ได้​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​ชัดเจน​ ​แค่​คิด​ก็​เจ็บปวด​หัวใจ​แล้ว​ ​นาง​รีบ​พูด​ปฏิเสธ​ ​“​ใช้​วิธี​นี้​ไม่ได้​!​”

นาง​ต้อง​เบ่ง​ลูก​ออกมา​เอง​เท่านั้น

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันหน้า​มา​ ​มองดู​ภรรยา​ที่​กำลัง​หลั่ง​น้ำตา​

ดวงตา​ราวกับ​สายน้ำ​ใน​ธาร​น้ำ​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ ​นาง​คือ​คนที​่​ทำให้​จิตใจ​ของ​เขา​สดใส

หาง​ตาของ​เขา​เหลือบมอง​ไป​ที่​ท้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง

เติบโต​ขึ้น​มาท​่า​มก​ลาง​การสัมผัส​ของ​ตน​ ​เล่น​กับ​ตน​อย่างสนุกสนาน​ ​เขา​คือ​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ตน​…

สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ปรากฎ​ความเจ็บปวด​ ​“​ยัง​มี​วิธี​อื่น​อีก​หรือไม่​”

หมอตำแย​ได้ยิน​ความลังเล​ใน​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

ตอนนี้​ ​หาก​ไม่​ทำ​อะไร​เลย​ ​ต้องตาย​แน่นอน​ ​แต่​หาก​ทำตาม​ความต้องการ​ของ​ท่าน​โหว​ ​บางที​อาจจะ​มีชีวิตรอด​ก็ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เด็ก​คือ​เรื่องสำคัญ​!​ ​แม้แต่​ใน​พระราชวัง​ก็​ต้อง​เลือก​เช่นนี้​!

นาง​ตัดสินใจ​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ยัง​ ​ยัง​มี​อีก​วิธี​หนึ่ง​เจ้าค่ะ​!​”

สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นประกาย

“​ใช้​กรรไกร​ตัด​…​”​ ​หมอตำแย​พูดเสี​ยง​เบา​ราว​กระซิบ​ ​“​แต่ว่าฮู​หยิน​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจ​ในทันที

แม่​และ​ลูก​ ​ต้อง​เลือก​แค่​คนเดียว​!

สือ​อี​เหนียง​ก็​เข้าใจ

นาง​รู้สึก​ปวดใจ

คิดไม่ถึง​ว่า​ชาติ​นี้​ตัวเอง​จะ​ตาย​อย่าง​น่าอนาถ​เช่นนี้

สือ​อี​เหนียง​แค่น​เสียงหัวเราะ​เยาะ​ตัวเอง​ ​จับ​ท้อง​ของ​ตัวเอง​อย่างเบามือ

ลูก​ที่​ไม่มี​แม่​ ​คงจะ​ต้อง​มีชีวิต​ที่​ลำบาก​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มีสิ​่ง​ของ​ภายนอก​มากมาย​แค่ไหน​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​เขา​ก็​คงมี​ความรู้สึก​ขาดหาย

แต่​น่าเสียดาย​ที่​ตัวเอง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​สามีภรรยา​กัน​สั้น​เกินไป​ ​หาก​พวกเขา​เป็น​สามีภรรยา​กัน​นาน​กว่านี​้​หน่อย​ ​ความทรงจำ​ระหว่าง​พวกเขา​ก็​จะ​ลึกซึ้ง​กว่านี​้​ ​เห็นแก่​ตน​ที่​เคย​เป็น​ภรรยา​เขา​และ​บุตร​ที่​สูญเสีย​มารดา​ไป​ตั้งแต่​เด็ก​ ​ใน​ภายภาคหน้า​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​มี​ภรรยา​ใหม่​อีก​คน​ ​มีลูก​เพิ่ม​อีก​ ​แต่​เขา​ก็​คงจะ​รัก​เด็ก​คน​นี้​ใช่​หรือไม่​!

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ลูบ​ลูก​ใน​ท้อง​เบา​ๆ

เด็ก​คน​นี้​เกิด​มา​ใน​สกุล​เช่นนี้​ ​หาก​ตามใจเขา​มากเกินไป​ ​เกรง​ว่า​เขา​คงจะ​มีนิ​สัย​เย่อหยิ่ง​ ​แต่​หาก​เข้มงวด​กับ​เขา​มากเกินไป​ ​เขา​ก็​คงจะ​เป็น​คนขี้ขลาด​ตาขาว​ ​ถูก​คนอื่น​รังแก​…​ต้องหา​คนที​่​พึ่งพา​ได้​เลี้ยงดู​เด็ก​คน​นี้

ปินจ​วี​๋​และ​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ล้วนแต่​เป็น​คน​จงรักภักดี​ ​แต่กลับ​ไม่​ค่อย​มีไหวพริบ​ ​หู่​พั่ว​เป็น​คนฉลาด​ ​แต่​นาง​แต่งงาน​กับ​ครอบครัว​สกุลก​่​วน​แล้ว​ ​และ​นาง​ก็​กลายเป็น​คน​ของ​สกุล​สวี​ไป​แล้ว​ ​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​แต่งงาน​ใหม่​ ​นาง​อาจจะ​มี​ข้อจำกัด​มากมาย​ ​ไม่ใช่​ตัวเลือก​ที่​ดี​ ​จู๋​เซียง​ยัง​เด็ก​ ​หาก​ตน​ไม่อยู่​แล้ว​ ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​นาง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หรือ​สกุล​หลัว​ต้อง​เป็น​คน​จัดการ​ ​นาง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​อนาคต​จะ​เป็น​เช่นไร​ก็​ยัง​ไม่รู้​…​คิด​แล้วก็​ไม่มีใคร​ที่​สมบูรณ์แบบ

แต่ว่า​หาก​เลือก​คนที​่​โง่​หน่อย​ ​ก็​คงดี​กว่า​เลือก​คนที​่​มีไหวพริบ​และ​ฉลาด​เกินไป​ ​สถานการณ์​เปลี่ยนแปลง​ได้​ทุกเมื่อ​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​คน​เช่นนั้น​จะ​คิด​วางแผน​อย่างไร

ทันใดนั้น​นาง​ก็​นึกถึง​ป้า​เถา​ขึ้น​มา​

ใน​ตอนนั้น​หยวน​เหนียง​ก็​เผชิญ​กับ​สถานการณ์​เช่นนี้​เหมือนกัน​กับ​ตน​ใช่​หรือไม่

สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ครุ่นคิด​ ​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้ามา​ช้าๆ

เขา​ค่อยๆ​ ​เดิน​เข้ามา​อย่างมั่นคง​ ​สีหน้า​มี​ความแน่วแน่​ ​พลอย​ทำให้​สีหน้า​ของ​เขา​ยิ่ง​ดู​เคร่งขรึม​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​ตัดสินใจ​ได้​แล้ว

รอยยิ้ม​ตอนที่​รู้​ว่านาง​ตั้งครรภ์​ของ​เขา​ ​ความพอใจ​ตอน​ลูบ​ท้องนาง​ของ​เขา​ ​ความสุข​ตอนที่​รู้​ว่า​ลูก​ใน​ท้อง​กำลัง​ดิ้น​ของ​เขา​…​มัน​โผล่​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ของ​นาง​ราวกับ​ขบวนรถ​ม้า

ทำไม​มนุษย์​ต้อง​เผชิญ​กับ​การทด​สอบ​ด้วย

จะ​มีชีวิต​ที่​สงบสุข​เช่นนี้​ไป​ตลอด​ไม่ได้​เลย​หรือ

สือ​อี​เหนียง​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​ของ​ตน​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​ต้องการ​ลูก​”​ ​ทั้ง​น้ำตา

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ภรรยา​ที่​เมื่อ​ครู่​ยัง​ตื่นตระหนก​ ​แต่​เมื่อ​รู้​ว่า​มี​วิธี​อื่น​ที่รัก​ษา​ลูก​เอาไว้​ได้​ก็​กลับมา​สงบสติอารมณ์​ลง​แล้ว​ร้องไห้​เสียง​แผ่วเบา​ ​เขา​ไม่ได้​ตกใจ​กับ​คำพูด​ของ​นาง​แต่​แค่​เจ็บปวด​หัวใจ​เหลือเกิน

เขา​ช่วย​เช็ดน้ำ​ตา​ให้​สือ​อี​เหนียง

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​ลึกซึ้ง​ ​แล้ว​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ขมขื่น​ ​“​เจ้า​เป็น​คนมีเหตุผล​…​ ​เมื่อ​ครู่​คำพูด​ของ​หมอ​หลวง​และ​หมอตำแย​เจ้า​ก็ได้​ยิน​แล้ว​…​หาก​ใช้​กรรไกร​ ​เจ้า​ต้อง​…​หาก​ช่วย​เจ้า​นวด​ลูก​ที่อยู่​ใน​ท้อง​ ​ลูก​อาจจะ​…​”​ ​เขา​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​“​ให้​หมอตำแย​ช่วย​นวด​ให้​เจ้า​เถิด​…​”

สือ​อี​เหนียง​เบิกตา​กว้าง

นาง​สับสน​ไป​หมด​ ​ไม่รู้​ว่า​ควร​รู้สึก​อย่างไร​…​แต่​ความคิด​ที่ว่า​ ​‘​เขา​ยอม​ทิ้ง​ลูก​ไป​’​ ​มัน​พัดพา​ทุกอย่าง​หมุน​ราวกับ​กระแสน้ำ​ ​ความรู้สึก​ทุกอย่าง​ใน​ใจ​ล้วนแต่​หลีกทาง​ให้​มัน

“​ไม่ได้​ ​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​พูด​ขัด​เสียงดัง​ ​“​ข้า​ตั้งท้อง​เขา​มาตั​้ง​สิบ​เดือน​…​เขา​กลับตัว​ได้​แล้ว​ ​แล้วยัง​เล่น​เกม​กับ​เรา​ได้​”​ ​นาง​พูด​พร้อมกับ​จับมือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​จำ​ไม่ได้​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​…​ท่าน​จับ​ทางซ้าย​ ​เขา​ก็​จะ​เตะ​ไป​ทางขวา​ ​ท่าน​จับ​ทางขวา​ ​เขา​ก็​จะ​เตะ​ไป​ทางซ้าย​…​ท่าน​ยัง​บอกว่า​เขา​เป็น​คน​ร่าเริง​ ​ฉลาด​ ​แล้วยัง​น่ารัก​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​น้ำตา​คลอ

แต่​สือ​อี​เหนียง​ที่​พยายาม​โน้มน้าวใจ​เขา​กลับ​ไม่ทันสังเกต

“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​…​”​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​เขา​ด้วย​สายตา​ที่จริง​จัง​ ​หวัง​ว่า​เขา​จะ​เปลี่ยนใจ​ ​“​เขา​ครบกำหนด​แล้ว​ ​หาก​คลอด​ออกมา​ได้​ก็​มีชีวิต​ทันที​…​”

บรรยากาศ​ใน​ห้อง​เงียบสงัด​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​รอคอย​ด้วย​ความกังวล

สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​ลง​บน​ขอบ​เตียง​อย่าง​อ่อนแรง​ ​ได้ยิน​เสียง​นาฬิกาไขลาน​เคาะ​ดัง​เก้า​ครั้ง

เขา​ลุกขึ้น​ช้าๆ​ ​แล้ว​บอก​หมอตำแย​ ​“​พวก​เจ้า​ลงมือ​เถิด​!​”

พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​แหบแห้ง​แต่กลับ​นิ่ง​สงบ​ ​ท่าที​อกผาย​ไหล่​ผึ่ง​ ​เต็มไปด้วย​ความแน่วแน่​

“​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่สน​ใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ ​นาง​พยายาม​จับ​แขน​เสื้อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ไม่ได้​นะ​เจ้า​คะ​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​สือ​อี​เหนียง​ที่​ร้องไห้​ราวกับ​สายฝน​ก็​ไม่​ปาน​ ​เขา​นั่งลง​โอบกอด​นาง​อีกครั้ง

“​สือ​อี​เหนียง​ ​เจ้า​ฟัง​ข้า​”​ ​สายตา​ของ​เขา​มี​ความเสียใจ​ที่​ปิด​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​“​หาก​ให้​หมอตำแย​ช่วย​เจ้า​นวด​ลูก​ใน​ท้อง​ ​เจ้า​และ​ลูก​ก็​จะ​มีโอกาส​รอด​ทั้งสอง​คน​…​แต่​หาก​ใช้​กรรไกร​ ​มัน​มีผล​ลัพธ์​แค่​อย่าง​เดียว​ ​หาก​ใช้​ยา​ ​มัน​ยิ่ง​อันตราย​ ​ในเมื่อ​มีโอกาส​รอด​ ​เรา​ก็​ต้อง​ลอง​!​”

ใคร​จะ​ไม่​อยาก​รอด​!

แต่​เมื่อ​คิดดู​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วิเคราะห์​มีเหตุผล​

แต่​เหตุผล​ก็​คือ​เหตุผล​ ​ส่วน​ความรู้สึก​นั้น​เป็น​คนละเรื่อง​

นาง​ไม่กล้า​ลอง​…​นาง​รับ​ผล​ที​จะ​เกิดขึ้น​ไม่ได้​!

“​ไม่ได้​ ​ไม่ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กอด​แขน​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​สะอื้น​ไห้​ ​“​ข้า​ทำไม​่​ได้​…​”

หู่​พั่ว​ปิดปาก​ร้องไห้​ ​ป้าวั​่น​หันหน้า​หนี​ไป​อีก​ทาง

สือ​อี​เหนียง​คงจะ​กลัว​มาก​ใช่​หรือไม่​!

บุรุษ​จะเข้า​มา​ใน​ห้อง​คลอด​ไม่ได้​ ​แต่​ในเมื่อ​ตัวเอง​แหก​กฎ​แล้ว​ ​กฎเกณฑ์​พวก​นั้น​ก็​ไม่สำคัญ​อีกต่อไป​

“​สือ​อี​เหนียง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เรียกชื่อ​นาง​อย่าง​เคร่งขรึม

สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​มา

“​ข้า​จะ​อยู่​กับ​เจ้า​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่นาง​ ​“​เรา​อยู่​ด้วยกัน​!​”​ ​เขา​จับมือ​นาง​แน่น​ ​“​เจ้า​ต้อง​เชื่อใจ​ข้า​”

สือ​อี​เหนียง​มอง​เขา​อย่าง​เหม่อลอย

“​ข้า​เคย​เห็น​เลือด​มา​แล้ว​ไม่รู้​ตั้ง​เท่าไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ให้​นาง​เอน​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​ตัวเอง​ ​เขา​กอด​ไหล่​ของ​นาง​แน่น​ ​“​อาจารย์​ฝ่า​ซ่าน​และ​อาจารย์ซั​่ง​เฉิง​ล้วนแต่​เคย​ทำนาย​ดวงชะตา​ให้​ข้า​ ​บอกว่า​ข้า​คือ​ดาว​อู่​ชวี​ ​พวก​ปีศาจ​เจอ​ข้า​ยัง​ต้อง​หลบหลีก​…​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​และ​นิ่ง​สงบ​ ​“​ข้า​อยู่​กับ​เจ้าที่​นี่​ ​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​แน่นอน​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​พยักหน้า​ให้​หมอตำแย​คน​นั้น

หมอตำแย​กัดฟัน​ ​พับ​แขน​เสื้อ​แล้ว​เดิน​เข้ามา

*****

“​คุณชาย​สี่​เข้าไป​ใน​ห้อง​คลอด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ

“​ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​ตู้​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ห้าม​เขา​ไม่ได้​เจ้าค่ะ​…​”

ไท่ฮู​หยิน​นั่ง​ไม่​ติด​ ​นาง​ถอด​กำไล​ลูกประคำ​บน​ข้อมือ​มาถือ​เอาไว้​ ​แต่​ก็​ยัง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​จึง​ยืน​ขึ้น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไป​ ​ไป​ศาล​บรรพชน​”

ไป​ขอให้​บรรพบุรุษ​ปกป้อง​พวกเขา​!

*****

หมอตำแย​คน​นั้น​มือหนัก​ ​พึ่ง​จะ​นวด​ได้​สอง​สาม​ครั้ง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​โศกเศร้า

นาง​จับมือ​หมอตำแย​ ​“​ไม่ได้​ ​ลูก​ข้า​จะ​ได้รับบาดเจ็บ​!​”

หมอตำแย​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​สายตา​ที่​ลำบากใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยังคง​นิ่งเงียบ

หมอตำแย​จึง​หลบตา​สือ​อี​เหนียง​ ​แล้ว​ก้มหน้า​ลง​นวด​ท้อง​ของ​นาง​ต่อ

สือ​อี​เหนียง​ตกใจ​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋

กราม​ของ​เขา​เกร็ง​แน่น​ ​ริมฝีปาก​เม้ม​แน่น​ ​จ้องมอง​ไป​ข้างหน้า​ด้วย​สายตา​ที่​เหม่อลอย​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​กำลัง​มอง​อะไร​อยู่

สือ​อี​เหนียง​จับมือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แน่น

มือ​ของ​เขา​ ​ข้อต่อ​มือ​ที่​ชัดเจน​ ​ฝ่ามือ​ที่​กว้าง​และ​อบอุ่น​ ​แต่​ตอนนี้​มัน​กลับ​สั่นเทา​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​ราวกับ​กิ่งไม้​ที่​ถูก​พัด​ด้วย​สายลม​ของ​ฤดูใบไม้ร่วง

“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​ร่ำไห้​

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้สติ​กลับมา​ ​เขา​กอด​นาง​แล้ว​ขยับ​หน้า​ตัวเอง​เข้าไป​แนบ​กับ​หน้านาง​ ​เอ่ย​ปลอบใจ​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​อย่า​ร้องไห้​ ​ประเดี๋ยว​จะ​ไม่มีแรง​!​ ​หาก​ลูก​ไม่​คลอด​ออกมา​ ​เจ้า​ก็​จะ​มี​อันตราย​!​”

ใช้​กรรไกร​ ​ลูก​จะ​คลอด​ออกมา​อย่าง​ไม่มี​ความเสี่ยง​อะไร​ ​แต่​ใช้​วิธี​นี้​ ​ลูก​อาจจะ​ตาย​ก่อน​วัย​อัน​ควร​ ​แม่​ก็​อาจจะ​เสียชีวิต​เพราะ​หมดแรง​ ​เมื่อ​เปรียบเทียบ​กัน​แล้ว​ ​ตัวเลือก​แรก​คือ​ตัวเลือก​ที่​ดีที​่​สุด

นาง​ไม่เคย​เข้าใจ​เจตนา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เท่า​ตอนนี้​มาก​่อน​

นาง​เป็น​แม่​ของ​ลูก​ ​เขา​เป็น​พ่อ​ของ​ลูก

ตัดสินใจ​เช่นนั้น​ ​นาง​เจ็บปวด​เหมือนกัน​ ​แล้ว​เขา​จะ​ไม่​เจ็บปวด​ได้​อย่างไร

“​สวี​ลิ่ง​อี๋​!​”​ ​นาง​มอง​เขา​ทั้ง​น้ำตา​ ​“​ข้า​หิว​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท