รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 446 ฟ้าดินน่าเศร้า ตี้จวินถึงกับไร้เทียมทาน!

บทที่ 446 ฟ้าดินน่าเศร้า ตี้จวินถึงกับไร้เทียมทาน!

บทที่ 446 ฟ้าดินน่าเศร้า ตี้จวินถึงกับไร้เทียมทาน!

เหลิงเจี้ยนไร้เทียมทาน พลังของตี้จวินข่มขวัญผู้คนอย่างสมบูรณ์!

ช่างน่าเศร้าอะไรเช่นนี้?

ไม่ต้องพูดถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้ เพียงแค่สมัยโบราณ ตี้จวินผู้หนึ่งอย่างเหลิงเจี้ยนจะสามารถไร้เทียมทานเช่นนี้ได้อย่างไร?

ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน!

แม้กระทั้งเทียนตี้ ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าไร้เทียมทานในสมัยโบราณ!

ยอดนิกายและยอดเผ่าในสมัยโบราณให้กำเนิดเทียนตี้ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง สามารถสู้หนึ่งต่อสองได้ เทียนตี้ระดับแนวหน้าถึงกับสามารถต่อสู้แบบสามต่อหนึ่งได้!

น่าเสียดาย ผลจากสงครามครั้งใหญ่ในสมัยโบราณนั้นน่าเวทนาเกินไป

หลังจากสงครามครั้งนั้น เทียนตี้ร่วงหล่น ตี้จวินดับสูญ แม้ว่าจะหลงเหลือตี้หวงอยู่บ้าง แต่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นชีพลงไปในเวลาไม่นาน

เนื่องจากการสู้รบในสงครามครั้งนั้น ทำให้สภาพฟ้าดินทรุดโทรมลงเป็นอย่างมาก

แม้จะเป็นยอดนิกายหรือยอดเผ่าที่มีรากฐานอันล้ำลึก สายเลือดอัศจรรย์สะท้านฟ้า ทุ่มฝึกฝนตนสุดกำลังในยุคปัจจุบัน จุดสูงสุดของพวกเขาก็จบลงเพียงแค่ขั้นเทียนตี้ ไม่อาจก้าวบรรลุขึ้นไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

ช่างชวนให้เศร้าใจยิ่งนัก!

บรรพชนของยอดนิกายและยอดเผ่าล้วนมีชื่อเสียงกลายเป็นตำนานเล่าขาน แต่ละคนล้วนสามารถกล่าวได้ว่าบรรลุจุดสูงสุดของการฝึกฝนบนโลกอย่างแท้จริง

พวกเขาทั้งหมดต่างฝึกตนจนบรรลุขั้นเทียนตี้อย่างสมบูรณ์ สายเลือดของพวกเขาก้าวหน้าถึงขีดสุด เหนือล้ำยิ่งกว่าสายเลือดใด

ไม่ว่าจะเป็นในยุคสมัยไหน พวกเขาก็ฝึนฝนเทียนตี้ออกมา กล่าวได้ว่าไม่มียุคใดที่ไร้ซึ่งเทียนตี้

แต่ทว่าในยุคปัจจุบัน ไม่ได้ต้องกล่าวถึงเทียนตี้เลย กระทั่งตี้จวินยังไม่มีเสียด้วยซ้ำ…

นับเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจครั้งใหญ่สำหรับสายเลือดของพวกเขา

“พวกเจ้าไม่ต้องการให้ข้าย้ายที่ไปไหนหรืออย่างไร?”

เหลิงเจี้ยนมองไปรอบด้านที่มีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แห่กันมา

เขารู้สึกขบขันอยู่บ้าง ก็รู้ว่าตัวเขาทรงพลังและน่ากลัวขนาดนี้ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังจะวิ่งมาส่งตัวเองเข้าสู่ความตายอีกหรือ?

ช่างเถอะ!

ไม่ว่าจะที่ไหนล้วนต้องสังหาร

จะฆ่าล้างที่นี่เลยก็ไม่ต่าง

เขายกเคียวสีดำในมือขึ้น เท้าย่ำลงบนแอ่งเลือด เดินตรงไปยังสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นทีละก้าว

ลมปราณขั้นตี้จวินท่วมท้นน่าหวาดกลัวจนเกินไป ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องต่อสู้ เพียงแค่ยืนหยัดภายใต้ปราณของขั้นตี้จวิน พวกเขายังค่อย ๆ พากันล้มลงหอบหายใจหนักทีละคนภายใต้แรงกดดันมหาศาล

“ฆ่า!”

“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”

ท่ามกลางหมู่พวกเขา สิ่งมีชีวิตจำนวนมากยังคงหวาดกลัวจนร่างกายสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

ทว่าพวกเขาก็ยังคงกัดฟัน พยุงร่างกาย ใช้พลังทั้งหมดในร่างพุ่งเข้าหมายสังหารเหลิงเจี้ยน

ฉับ ฉับ ฉับ!

โลหิตสาดกระเซ็น พวกเขาไม่ใช่คู่มือของเหลิงเจี้ยน หลังจากที่เคียวสีดำถูกแกว่ง ชีวิตของพวกเขาก็ถูกเกี่ยวออกไป

เหลิงเจี้ยนโหดร้ายไร้ความปรานี เขาเหยียบย่างลงบนศพของยอดฝีมือเหล่านี้ เดินไปเบื้องหน้าตรงไปทางสิ่งมีชีวิตอีกกลุ่มหนึ่งที่มุ่งหน้ามาทางนี้

เขามาเพื่อฆ่าล้าง ไม่มีอะไรต้องพูดให้มากความ สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งภายในสายตาของเขาล้วนต้องกลายเป็นซากศพ

“ฆ่า!”

ลมปราณของร่างที่อยู่ด้านหน้าสุดน่ากลัวเป็นพิเศษ ถึงขั้นไม่ต่างไปจากเหลิงเจี้ยนมากนัก เป็นถึงตี้จวินผู้หนึ่ง!

ในเมื่อตี้หวงคือจุดสิ้นสุด เช่นนั้นแล้วตี้จวินมาจากที่ใด?

คนผู้นั้นเปี่ยมด้วยจิตสังหารท่วมท้น ลงมือด้วยทักษะสังหารทันทีที่มาถึง เขาเป็นคนจากยอดนิกาย ทว่าไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่เพียงขึ้นตี้หวง เขาสามารถก้าวผ่านบรรลุกลายเป็นตี้จวิน!

ภายใต้สภาพแวดล้อมฟ้าดินที่เลวร้าย เช่นนั้นแล้วคนผู้นี้จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร?

ใช่แล้ว คนผู้นี้ก็คือไป๋มู่ ประมุขแห่งตระกูลไป๋!

เขาได้กินเกี๊ยวของท่านเซียนเข้าไป ได้รับคุณประโยชน์มหาศาล ไม่เพียงแต่เขาจะสามารถทะลวงผ่านขึ้นตี้หวงกลายเป็นตี้จวินได้ เขายังก้าวหน้าไปอีกหนึ่งก้าวเหนือยิ่งกว่าตี้จวินทั่วไป!

“ในที่สุดก็มีคู่ต่อสู้ที่ดูสมน้ำสมเนื้อ ไม่อย่างนั้นข้าก็คงจะฆ่าจนเบื่อ”

เหลิงเจี้ยนส่งเสียงหัวเราะ ก่อนจะฟาดฟันเคียวสีดำ

เคียวสีดำนั้นน่ากลัว ทั้งยังมีพลังแปลกประหลาด หลังจากเฉือนผ่านก็มีชั้นหมอกดำออกมาประหนึ่งอสรพิษ ชวนขนลุกอย่างถึงที่สุด!

ไป๋มู่ขมวดคิ้ว รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของเคียวสีดำ ร่างของเขาขยับไหว ไม่กล้าเข้าปะทะกับเคียวสีดำง่าย ๆ

เขาใช้สองมือประทับตรา สร้างตราขนาดใหญ่บนท้องฟ้า นี่คือวิชาระดับเทียนตี้ของตระกูลไป๋!

ตู้ม!

ตราประทับบนท้องฟ้าโจมตีลงมาอย่างน่ากลัว เหลิงเจี้ยนถึงกับเสียเปรียบเป็นครั้งแรก เขาต้านรับมันด้วยพลังจนร่างกายเซถอย ลมปราณและเลือดภายในร่างกายปั่นป่วยอย่างรุนแรงจนเลือดตีขึ้นมาถึงคอ

ทว่าเขาก็อดกลั้นเอาไว้ไม่ให้กระอักเลือดออกมา

“ยอดเยี่ยม!”

เหลิงเจี้ยนเลียริมฝีปาก หลังจากนั้นดวงตาทั้งสองข้างก็เปล่งแสงออกมาอย่างน่าสยดสยอง ลมปราณของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก มันพุ่งทะยานสูงน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เขาพุ่งเข้าไปด้วยพลังที่มากกว่าเดิม เคียวสีดำกวัดแกว่งทุกครั้งที่กรีดอากาศออกเป็นช่องว่างขนาดใหญ่

ตึง! ตึง! ตึง!

ไป๋มู่เรียกโล่โบราณชิ้นหนึ่งออกมาต้านทานการฟันของเคียวสีดำ โล่โบราณและเคียวสีดำปะทะกันเกิดเสียงโลหะกระทบกันดังสนั่น!

เคียวสีดำไม่รู้ว่าทำมาจากวัสดุอะไร ทว่ามันน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง โล่โบราณในมือของไป๋มู่เป็นอาวุธเทียนตี้ที่สืบทอดมาจากบรรพชน

ทว่าภายในการฟันของเคียวสีดำ โล่โบราณก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ ถูกสับแหลกออกเป็นชิ้น ๆ!

เสียงฉัวะดังขึ้นมา เคียวสีดำฟันเข้าไปยังไหล่ซ้ายของไป๋มู่ กวาดตัดส่วนนั้นทั้งหมดออกไปในทันทีจนเลือดพุ่งทะลัก!

ไป๋มู่ส่งเสียงร้องออกมา ก่อนนจะถอยร่างออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งระยะกับเหลิงเจี้ยน เคียวสีดำนั้นดุดันเกินไป เขาไม่อาจต้านทานมันได้ จึงไม่สามารถต่อสู้กับเหลิงเจี้ยนได้ในระยะประชิด

บาดแผลที่ไหล่ซ้ายของเขาเปล่งแสงออกมา ส่วนที่ขาดหายไปงอกขึ้นมาใหม่ในทันที

“ฆ่า!”

เขาไม่หนี ไม่มีความหวาดเกรง ลงมือใช้งานวิชาขั้นเทียนตี้อีกครั้งหมายสังหารเหลิงเจี้ยน

บนฟากฟ้าเต็มไปด้วยดวงดารามารวมตัวกัน มีทั้งเล็กใหญ่ สว่างน้อยสว่างมาก กลายเป็นฝนดาวตกพุ่งลงมาใส่เหลิงเจี้ยน

ความแข็งแกร่งของเหลิงเจี้ยนนั้นน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เคียวสีดำในมือของเขาราวกับไร้ผู้ต่อกร เพียงฟันออกไปหนึ่งครั้ง หมู่ดวงดาราทั้งหลายก็ถูกเขากวาดล้างในทันที!

ดาวตกนับไม่ถ้วนไม่อาจหยุดยั้งเขาได้ เขาพุ่งออกมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดารา

ฉับ! ฉับ! ฉับ!

เลือดสาดกระจาย ชิ้นเนื้อลอยกระเด็ก ร่างของไป๋มู่เต็มไปด้วยบาดแผล ร่วงหล่นลงไปกระแทกพื้นอย่างแรกจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่

เขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ พลังแปลกประหลาดบนเคียวสีดำเข้าไปพันเกี่ยวจนยากแม้แต่จะเคลื่อนไหวร่างกาย สูญเสียความสามารถในการต่อสู้

“ปกป้องท่านประมุข!”

“ฆ่า!”

สิ่งมีชีวิตจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ไป๋มู่ มีทั้งสมาชิกตระกูลไป๋ สมาชิกของยอดนิกายและยอดเผ่าอื่น ๆ

พวกเขาล้วนเป็นกองกำลังระดับมหาจักรพรรดิของยอดนิกายและยอดเผ่าที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล เพื่อมาต่อสู้ยังที่แห่งนี้

“รนหาที่ตาย!”

เหลิงเจียนไร้เทียมทานอย่างแท้จริง เคียวสีดำถูกวาดออกในแนวนอน ใบมีดขยายหลายหมื่นจั้ง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาล้วนล้มลงกับพื้น ถูกสังหารตายจนหมดสิ้น!

นี่คือความสามารถของตี้จวินระดับสูงสุด หากเทียนตี้ไม่ปรากฏกาย เขาก็นับได้ว่าไร้เทียมทาน!

เขาเหยียบย้ำซากศพทั้งหลาย ก้าวเดินทีละก้าวจนมาถึงปากหลุม

“ต่อต้านไปแล้วได้สิ่งใด? ตอนนี้เพียงแค่ข้าคนเดียวก็ช่างเถอะ แต่เมื่อกองทัพจากอาณาจักรเทียนหยวนมาถึง เจ้าก็จะเป็นได้เพียงมดปลวก ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น!”

เขายืนอยู่ตรงปากหลุมพร้อมชี้เคียวในมือตรงไปทางไป๋มู่ด้วยสีหน้าไม่แยแส

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท