ตอนที่ 404 อภัยให้ข้าด้วย ต่อสู้กับทูตผู้พิทักษ์!
ตู้ม!
สิ้นคำสั่งของทูตผู้พิทักษ์ประตูสอง ผู้คุมกฎแปดร้อยคนซึ่งกำลังรออยู่ก่อนแล้ว พลันลุกขึ้นทันทีและล้อมพวกหนิงฝานเอาไว้
“หืม?”
“แย่แล้ว!”
เมื่อเห็นฉากนี้ เหลยเหมิงกับซวีคุนตกตะลึงทันที ทั่วร่างตึงเครียด ราวกับกำลังเผชิญหน้าศัตรูตัวฉกาจ!
ส่วนหนิงฝาน สีหน้ายังคงสงบ ราวกับคาดหวังเรื่องนี้ไว้นานแล้ว
“ผู้ถูกหมายจับโลหิตที่อาจหาญเอ๋ย กล้าลอบเข้ามาในด่านที่สองเพื่อเข้าร่วมการทดสอบ ทั้งยังฆ่าสิบยอดฝีมืออัจฉริยะสูงสุดในการทดสอบอีก คิดว่าทูตผู้พิทักษ์อย่างข้าเป็นของจัดแสดงหรือไร!”
ตอนนี้ ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองตะโกนไปทางพวกหนิงฝานอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ปัง! ปัง! ปัง!
สิ้นเสียงของทูตผู้พิทักษ์ ผู้คุมกฎแปดร้อยคนรอบข้างชักฝักดาบสีทองดำออกมาจากเอว ตามมาด้วยเสียงชิ้งและเสียงกรีดร้อง คมดาบเย็นเยือกสั่นไหวไปมา ชี้ตรงไปที่พวกหนิงฝาน
“เหอะ ๆ!”
“เหอะ ๆๆ!”
ทว่าครั้งนี้ หนิงฝานเงยหน้ามองท้องนภาแล้วยิ้มหยันออกมา
ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองขมวดคิ้วทันที “จะตายอยู่แล้ว หัวเราะทำไม!”
“ก็หัวเราะทูตผู้พิทักษ์เช่นเจ้าอย่างไรละ!”
หนิงฝานตอบ กล่าววาจาเย็นชา “ทูตผู้พิทักษ์อย่างเจ้าคือผู้พิทักษ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ ทูตผู้พิทักษ์ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องความยุติธรรมของการทดสอบเส้นทางราชันจักรพรรดิ แม้กระทั่งอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งกว่ายังได้รับการปกป้องจากเจ้า ทว่าในสายตาของข้า มันช่างเหลวไหลสิ้นดี!”
“เจ้า!”
เมื่อได้ยินดังนี้ ใบหน้าของทูตผู้พิทักษ์ประตูที่สองเย็นชาขึ้นมา เขาอยากตอบโต้ทันที แต่หนิงฝานกล่าวต่อว่า “เจ้ารู้หรือไม่ ข้าทำอะไรในด่านแรก แล้วทำไมข้าถึงกลายเป็นผู้ถูกหมายจับโลหิต?”
“เหอะ! มันเขียนชัดอยู่บนรายชื่อผู้ถูกโลหิตอยู่แล้ว เจ้าทำลายประตูสวรรค์ด้วยความมุ่งร้าย ฆ่าทูตผู้พิทักษ์และพวกผู้คุมกฎด่านแรกอย่างโหดเหี้ยม!” ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองตอบอย่างเย็นชา
“เหอะ ๆ ทำลายประตูสวรรค์ด้วยความมุ่งร้ายงั้นหรือ?”
หนิงฝานส่ายหน้าก่อนเย้ยหยัน “เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมประตูสวรรค์ถึงถูกทำลาย? นั่นเพราะข้าเปิดประตูสวรรค์ได้หนึ่งแสนฉื่อ ประตูสวรรค์รับไม่ไหวก็เลยพังทลายอย่างไรล่ะ!”
ตู้ม!
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนในด่านที่สองตกตะลึง!
“ว่าอย่างไรนะ!”
“เปิดประตูสวรรค์หนึ่งแสนฉื่องั้นหรือ?!”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร จักรพรรดิจุนในตำนานยังเปิดได้แค่เก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าฉื่อเอง!”
“จะจริงหรือปลอม ถ้าเปิดประตูสวรรค์หนึ่งแสนฉื่อ นั่นหมายความว่าพรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิจุนในตอนนั้นน่ะสิ!!”
“เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
“…”
ฝูงชนโหวกเหวกโวยวาย แต่มีหลายคนที่ไม่เชื่อเช่นกัน เพราะการเปิดประตูสวรรค์หนึ่งแสนฉื่อมันดูเกินจริงไป มันเหนือกว่าวีรชนทุกยุคสมัยโดยสิ้นเชิง!
ม่านตาของทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองหดลง เขาส่ายหน้าทันที “ต่อให้ที่เจ้าพูดมาจะเป็นความจริง แล้วเจ้าจะอธิบายอย่างไรว่าทำไมถึงฆ่าทูตผู้พิทักษ์และพวกผู้คุมกฎด่านแรกอย่างโหดเหี้ยมด้วย!”
“เหอะ ๆ! นั่นเพราะคนละโมบบางส่วนที่อยากกอบโกยผลประโยชน์มันมาจากทูตผู้พิทักษ์เมืองอย่างเจ้าอย่างไรล่ะ ไม่พอ คนผู้นั้นยังทำข้อตกลงกับอาณาจักรจื่อเซียวที่หนุนหลังคุณชายจื่อเซียวเอาไว้ ข้าไปทำลายข้อตกลงเดิมของพวกเขาด้วยการเปิดประตูสวรรค์หนึ่งแสนฉื่อ ด้วยเหตุนี้ ทูตผู้พิทักษ์ประตูด่านแรกจึงอยากฆ่าข้า แต่ข้ากลับข้ากลับฆ่าแทน มันก็ง่าย ๆ แค่นั้นเอง!” หนิงฝานอธิบายอย่างแผ่วเบา
“เป็นไปไม่ได้! สมาชิกของสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชันจักรพรรดิของข้า ล้วนเข้มงวดไม่เห็นแก่ตัว มีความยุติธรรม เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!” ทว่าทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของหนิงฝาน
“จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่!” หนิงฝานยักไหล่ สีหน้าราบเรียบ
ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองเงียบสักพัก จิตสังหารในแววตาอ่อนลงเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าจะรายงานสิ่งที่เจ้าพูดให้ศูนย์บัญชาการสภาผู้พิทักษ์เมืองทราบ ศูนย์บัญชาการจะส่งคนไปด่านแรกเพื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด หากเป็นความจริง สภาผู้พิทักษ์เมืองของข้าจะยกเลิกสถานะของเจ้าในฐานะผู้ถูกหมายจับโลหิตให้ แต่ในระหว่างนั้น เจ้าต้องอยู่ด่านที่สอง!”
“ข้าต้องอยู่นานแค่ไหน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานจึงเอ่ยถาม
ถึงอย่างไร ตัวตนของผู้ถูกหมายจับโลหิตก็เป็นปัญหาจริง ๆ คงดีกว่าหากสามารถยกเลิกได้
“ช้าสุดก็หนึ่งพันปี เร็วสุดก็หนึ่งร้อยปี!” ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองตอบ
“ช้าเกินไป อภัยให้ข้าด้วย!” หนิงฝานตอบปฏิเสธอย่างหนักแน่น!
อย่ามาล้อเล่นนะ เขาไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น ตอนนี้เวลาเหลือเพียงเก้าร้อยกว่าปีจากหนึ่งพันปีเท่านั้น จะให้มาเสียเวลาอยู่ในด่านที่สองได้อย่างไร!
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้!”
เมื่อเห็นหนิงฝานปฏิเสธ จิตสังหารในดวงตาของทูตผู้พิทักษ์ประตูสองพลันพุ่งขึ้นอีกครั้ง
เพราะในสายตาของเขา หากหนิงฝานบริสุทธิ์จริง รอแค่หนึ่งร้อยปีมันจะไม่ได้เลยหรืออย่างไร
“จัดการเขา ขังไว้ในคุกจักรพรรดิ ให้รอรับการลงโทษ!”
ตู้ม!
สิ้นคำสั่งของทูตผู้พิทักษ์ประตูที่สอง ผู้คุมกฎแปดร้อยคนผู้กำลังรอต่อสู้อย่างเต็มกำลังอยู่แล้วลงมือทันที
เมื่อบารมีของราชันจักรพรรดิเพิ่มขึ้น พลังราชันจักรพรรดิแปดร้อยสายกลายเป็นตาข่ายปกคลุมพวกหนิงฝานทันที
“เหอะ! ในเมื่อด่านที่สองยังไม่ชัดเจน อย่าโทษข้าที่เสียมารยาท!”
หนิงฝานเย้ยหยันทันที ก่อนชักกระบี่ต้าหลัวออกมาแล้วฟาดฟันไปทุกทิศทาง!
ตู้ม!
กระบี่แสงสว่างพุ่งออกไปราวกับพระจันทร์เต็มดวง สิ้นเสียงพังทลาย ตาข่ายสวรรค์และปฐพีที่ปกคลุมอยู่นั้นถูกกวาดล้างทันที
“ฆ่า!”
เมื่อเห็นว่าตาข่ายสวรรค์และปฐพีพังทลาย ผู้คุมกฎบางส่วนเริ่มชักดาบออกมา!
ตู้ม! เปรี้ยง!
ปราณกระบี่ทะลวงอากาศธาตุ ราวกับมังกรสีดำ ทะยานผ่านโลกไปตลอดทาง หมายจะฟาดฟันหนิงฝาน!
วิ้ง!
หนิงฝานสงบลง สะบัดกงล้อโชคชะตาเหนือศีรษะเล็กน้อยทันที ลวดลายเต๋าเพลิงพลันส่องแสง ลมหายใจต่อมา กลุ่มเปลวเพลิงจากแหล่งกำเนิดวิถีพลันพลุ่งพล่านออกมา
มหาวิถีเพลิงกวาดผ่าน กระบี่แสงสว่างที่กำลังตรงเข้ามาหลอมละลายทันที
ตู้ม! ฟิ้ว!
หนิงฝานสะบัดมือ เปลวเพลิงจากมหาวิถีพลันระเบิดออก กวาดผ่านผู้คุมกฎทุกทิศทาง
ปัง!
ภายใต้การกวาดล้างของเปลวเพลิงแห่งมหาวิถี ผู้คุมกฎแปดร้อยคนถูกกวาดล้างสิ้น ผู้คุมกฎถูกเผาจนกลายเป็นสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้กระทั่งวิญญาณยังบอบช้ำ!
“คนบ้าโอหัง กล้าอาละวาดหรือ!”
ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดทันที จากนั้นก็กระทืบเท้า ทั่วร่างพุ่งเข้าหาหนิงฝาน!
ตู้ม!
ระหว่างทาง บารมีของราชันจักรพรรดิกล้าแกร่งที่อยู่ขั้นสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นห้ากระจายออกจากร่างกาย
“หัตถ์บดบังฟ้า!”
สิ้นเสียงตะโกนดังสนั่น ทูตผู้พิทักษ์ประตูที่สองเอื้อมมือออกไปคว้าทันที ทันใดนั้นมือขนาดใหญ่ปิดกั้นท้องนภา เต็มไปด้วยพลังกล้าแกร่งที่กำราบสวรรค์และปฐพี เคลื่อนลงมาหาหนิงฝาน
“เหอะ!”
หนิงฝานเย้ยหยัน ฟาดฟันกระบี่ต้าหลัวทันที!
ตู้ม!
เมื่อกระบี่ฟาดฟัน ฝ่ามือที่บดบังท้องนภาและดวงอาทิตย์ถูกก็ฟันลง จากนั้นก็ฟาดฟันใส่ทูตผู้พิทักษ์ประตูที่สองที่โจมตีเข้ามาทันที
“ป้องกัน!!”
ทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองตกตะลึง ทำการประสานมือตรงหน้าทันที!
ตึง!
สิ้นเสียงกระทบของโลหะ มือทั้งสองข้างจับแสงกระบี่ต้าหลัวที่โจมตีเข้ามา แต่ลมหายใจต่อมา แสงกระบี่ต้าหลัวสั่นไหวอย่างรุนแรง ก่อนระเบิดในอากาศธาตุ!
ปัง!
ร่างของทูตผู้พิทักษ์ด่านที่สองกระเด็นออกไปทันที โลหิตสีแดงของราชันจักรพรรดิกระเซ็นไปในความว่างเปล่า ช่างน่าตกตะลึงนัก!