ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 461 อันตราย(ปลาย)

ตอนที่ 461 อันตราย(ปลาย)

​“​บางที​นี่​อาจจะ​เป็น​โชคชะตา​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ตอนแรก​สือ​อี​เหนียง​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จะเข้า​กับ​ครอบครัว​นี้​ได้​เร็ว​ขนาด​นี้​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ความเป็นมิตร​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​เป็นสาเหตุ​สำคัญ​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​นึก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้​เลย​ถือโอกาส​พูดว่า​ ​“​จุน​เกอ​ไม่เพียงแต่​จะ​นิสัย​อ่อนโยน​ ​แต่​ยัง​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​หาก​เขา​เป็น​คน​ทั่วไป​ ​ก็​ถือเป็น​แค่​คน​ใจกว้าง​ธรรมดา​ ​แต่​สำหรับ​ตำแหน่ง​ซื่อ​จื่อ​แล้ว​ ​นับว่า​เป็น​ศีลธรรม​ที่​หา​ได้​ยาก​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด

​ป้า​ซ่ง​และ​ป้า​เถี​ยน​ยก​ข้าวต้ม​มันเทศ​เข้ามา​

​ป้า​เถี​ยน​เห็น​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​อุ้ม​บุตร​ของ​ตัวเอง​อยู่​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หาก​ท่าน​โหว​เป็นห่วง​ ​ให้​บ่าว​ช่วย​อุ้ม​สักประเดี๋ยว​เถิด​ ​ท่าน​จะ​ได้​พักผ่อน​เจ้าค่ะ​”

​ตามปกติ​แล้ว​ ​ตอนที่​ทารก​น้อย​ยัง​ไม่​คลอด​ออกมา​ ​ป้า​รับใช้​และ​สาวใช้​ใน​เรือน​ของ​เด็กน้อย​ก็​จะ​ถูก​เลือก​เตรียม​เอาไว้​หมด​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่ต้อง​ให้นม​บุตร​เอง​ ​แล้วยัง​ไม่ต้อง​เลี้ยง​บุตร​เอง​ ​หาก​อยาก​เจอ​ให้​แม่นม​อุ้ม​มาก​็​พอแล้ว​ ​แม้แต่​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​ร่างกาย​อ่อนแอ​ก็​ทำ​เช่นนี้​เหมือนกัน​ ​สกุล​ขุนนาง​หรือ​สกุล​มั่งคั่ง​อื่นๆ​ ​ก็​ทำ​เช่นนี้​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​อยาก​เลี้ยง​บุตร​เอง​ ​นี่​คือ​การ​ขัดแย้ง​กัน​ของ​สอง​ความคิด​ ​ทุกคน​ล้วนแต่​มี​วิถีชีวิต​ที่​ตัวเอง​คิด​ว่า​มัน​สะดวกสบาย​ ​นาง​ไม่มี​เจตนา​ที่จะ​เปลี่ยนแปลง​อะไร​ ​แล้วก็​ไม่​อยาก​ทำให้​ตัวเอง​กลายเป็น​ตัว​ประหลาด​ ​นาง​จึง​ต้อง​ใช้​แผนการ​ตั้ง​กฎเกณฑ์​มา​อ้างว่า​ไม่มี​คนที​่​เหมาะสม​ ​จึง​ยัง​ไม่ได้​กำหนด​บ่าว​รับใช้​ที่​เรือน​ของ​บุตร​ ​คิด​ว่า​หาก​คลอด​แล้ว​ ​ก็​เลี้ยง​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​ก่อน​ ​รอ​ให้​เขา​อายุ​สอง​สาม​ขวบ​แล้ว​ ​ค่อย​เลือก​ป้า​รับใช้​ผู้ดูแล​ก็​ไม่​สาย​ ​ตอนนี้​ไม่มี​ผู้ใหญ่​คอย​ดูแล​อยู่​ใน​เรือน​ ​ไม่​แปลกที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​วางใจ​ที่จะ​ให้​คนใน​เรือน​ดูแล​บุตร​ของ​ตัวเอง​

แต่​สมัยโบราณ​คน​เป็น​พ่อ​จะ​ไม่​อุ้ม​ลูก​ ​นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะ​อุ้ม​ลูก​เอง​เช่นนี้

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ผิด​ ​ไม่​รอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ ​นาง​ก็​ชิง​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​วาง​บุตร​ไว้​บน​เตียง​ข้า​เถิด​!​”

​“​ไม่เป็นไร​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​น้ำหนัก​ตัว​ของ​เขา​ยัง​ไม่​หนัก​เท่า​ดาบ​ของ​ข้า​เลย​”​ ​แต่​เมื่อ​นึกถึง​ความรัก​ของ​คน​เป็น​แม่​และ​ลูก​ ​อีกทั้ง​เด็ก​คน​นี้​ยัง​ไม่ได้​คลอด​ออกมา​ง่ายๆ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​จึง​วาง​บุตรชาย​ไว้​ข้าง​หมอน​ของ​สือ​อี​เหนียง

​ป้า​ซ่ง​รับใช้​สือ​อี​เหนียง​ทานข้าว​ต้ม

เพราะว่า​พึ่ง​จะ​คลอดลูก​ ​ร่างกาย​กำลัง​อ่อนแอ​ ​ทานอาหาร​ที่​มี​ความมัน​มาก​ไม่ได้​ ​ปกติ​มัก​ทาน​เหล้า​ข้าว​และ​ปลาน้ำจืด​เพื่อ​กระตุ้น​น้ำนม​ ​หรือ​ข้าวต้ม​มันเทศ​ที่​มีรส​ชาติ​อ่อน​เพื่อ​บำรุง​เลือด​ ​เพียงแค่​เห็น​อาหาร​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ไม่มีใคร​อยาก​ให้​นาง​ป้อน​นม​บุตร

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ทาน​ไข่ต้ม​เหล้า​ข้าว​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​ป้า​เถี​ยน​ ​บอก​ให้​นาง​ไป​นำ​เหล้า​ข้าว​มา

​ป้า​เถี​ยน​รีบ​พูดว่า​ ​“​นั้น​เป็น​ของร้อน​ ​หมอ​หลวง​บอกว่า​ร่างกาย​ของ​ท่าน​เย็น​ ​หาก​ท่าน​อยาก​ทาน​จริงๆ​ ​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​รอ​ให้​ร่างกาย​ของ​ท่าน​สะอาด​แล้ว​ ​บ่าว​ค่อย​ทำให้​ท่าน​ทาน​นะ​เจ้า​คะ​”

​นาง​และ​ป้าวั​่​นล​้​วน​แต่​เป็น​คน​มีประสบการณ์​ ​ไท่ฮู​หยิน​ส่ง​พวก​นาง​มาดู​แล​สือ​อี​เหนียง​โดย​เฉ​พราะ​ ​แน่นอน​ว่านาง​เป็น​คน​มีสิทธิ์​ออกเสียง​มาก​ที่สุด​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เจ้า​ยัง​อยาก​ทาน​อะไร​อีก​”

หมายความว่า​ให้​นาง​ทาน​อย่าง​อื่น

​สือ​อี​เหนียง​จึง​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​“​ไม่​อยาก​ทาน​อะไร​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​ตก​เย็น​ ​ป้า​เถี​ยน​และ​หง​เหวิน​สาวใช้​ใน​เรือน​ของ​บุตรชาย​ ​ชิว​หง​และ​ซิ่ว​เหลียน​ ​สาวใช้​ของ​สือ​อี​เหนียง​อยู่​รับใช้​ใน​เรือน​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​นอน​ที่​ห้อง​หนังสือ​

​มองดู​เด็กน้อย​ที่​กำลัง​หลับสนิท​ ​ถึงแม้ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​ไม่​ค่อย​มีน​้ำ​นม​ ​แต่​นาง​ก็​พยายาม​ให้นม​บุตรชาย​อย่าง​ไม่ยอม​แพ้​ ​แต่​เขา​กลับ​หันหน้า​หนี​ไม่สน​ใจ​นาง

​สือ​อี​เหนียง​เป็นกังวล​ ​แต่​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้

หรือว่า​เพราะ​คลอด​ยาก​ ​ร่างกาย​อ่อนแอ​จึง​ไม่มี​น้ำนม​ ​หรือว่า​คั้น​น้ำนม​ไม่ทัน​ ​ทำให้​เขา​รู้สึก​ไม่ทันใจ​…

​*****

​ไท่ฮู​หยิน​ให้ฮู​หยิน​สอง​อยู่​เป็นเพื่อน​

​“​…​โชคดี​ที่​ไม่เป็นอะไร​ ​ทำเอา​ข้า​ตกใจ​จน​เหงื่อ​ตก​”

ฮู​หยิน​สอง​ช่วย​ไท่ฮู​หยิน​ถอดเสื้อผ้า​ ​“​ผ่าน​หายนะ​มา​ได้​ ​ต่อไป​ก็​ต้อง​มีเรื่อง​โชคดี​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​โหว​ชนะสงคราม​มาตั​้ง​หลายครั้ง​ ​เขา​เป็น​คน​มี​วาสนา​ ​ท่าน​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ตอบรับ​ ​“​อืม​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​ ​ตอนนั้น​ข้า​คิด​ว่า​หาก​สือ​อี​เหนียง​เป็น​อะไร​ไป​ ​คุณชาย​สี่​ก็​คงจะ​ถูก​ลือ​ว่า​เป็น​ ​‘​ผู้ชาย​กินเมีย​’​ ​ตอนนั้น​ข้า​ลำบากใจ​แทน​เขา​เสีย​จริง​!​”

​“​ตอนนี้​ไม่เป็นไร​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​”​ ฮู​หยิน​สอง​จับมือ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​รักษาสุขภาพ​ให้​ดี​ ​ท่าน​ยัง​ต้อง​อยู่​ดู​หลาน​และ​เหลน​อยู่​นะ​เจ้า​คะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​พลัน​นึกถึง​หลาน​ที่พึ่ง​คลอด​ออกมา​

​นาง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เจ้า​ดู​เขา​สิ​ ​ไม่​เร็ว​ไม่​ช้า​เกินไป​ ​เลือก​ที่จะ​เกิด​วันที่​สิบ​เดือน​สิบ​ ​ผม​ก็​ยัง​ดก​ดำ​ ​หน้าผาก​กว้าง​ ​จมูกโด่ง​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​เขา​ก็​น่าจะเป็น​คน​มี​วาสนา​เหมือนกัน​”

ฮู​หยิน​สอง​นึกถึง​เจ้าตัว​เล็ก​ที่พึ่ง​เกิด​มาก​็​ลืมตา​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“​หาก​เขา​ไม่ใช่​คน​มี​วาสนา​ ​จะ​มาเกิด​ที่​ครอบครัว​ของ​คุณชาย​สี่​ได้​เช่นไร​กัน​เล่า​!​”

​ใน​ตอนที่​พวก​นาง​ทั้งสอง​คน​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​ป้า​สือ​ก็​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​“​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​นาง​โชคดี​ไม่น้อย​ ​บุตร​คน​แรก​ก็​เป็น​บุตรชาย​ ​ข้า​คิด​ว่า​ต่อไป​จุน​เกอ​คงจะ​ลำบาก​”

​“​ชีวิต​ก็​เหมือน​การ​ดื่ม​น้ำ​ ​จะ​เย็น​หรือ​ร้อน​ ​มี​เพียง​ตัวเอง​เท่านั้น​ที่​รู้​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​สือ​ยิ้ม​ ​“​คุณชาย​น้อย​สี่​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​ใช้ชีวิต​สงบสุข​ ​จะ​ลำบาก​ได้​เช่นไร​กัน​”​ ​เมื่อ​พูด​ประโยค​นี้​จบ​ ​นาง​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​บ่าว​เห็น​ว่าวั​นระ​ดู​เดือน​นี้​ของ​ท่าน​เลื่อน​ไป​ตั้ง​ครึ่ง​เดือน​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​หมอ​หลวง​ที่​สำนัก​หมอ​หลวง​จะ​มาดูฮู​หยิน​สี่​ ​ท่าน​คิด​ว่า​ถือโอกาส​นี้​เรียก​เขา​มา​จับชีพจร​ให้ท่าน​ด้วยดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​ป้า​สือ​ ​นาง​พูด​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​“​ตอนที่​ตั้งครรภ์​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ข้า​รู้สึก​อึดอัด​ไป​หมด​ ​ครั้งนี้​ ​ข้า​ยัง​ไม่รู้​สึก​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​รอ​อีก​สัก​สอง​สาม​วันดี​กว่า​ ​จะ​ได้​ไม่ผิด​พลาด​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พึ่ง​จะ​คลอด​บุตรชาย​ ​ประเดี๋ยว​นาง​จะ​คิด​ว่า​ข้า​อยาก​จะ​ท้าทาย​นาง​ ​ทำให้​คนอื่น​หัวเราะเยาะ​เอา​ได้​!​”

​ป้า​สือ​พยักหน้า

ฮู​หยิน​ห้า​คิดได้​เช่นนี้​ดีที​่​สุด​ ​ความสัมพันธ์​ของ​บรรดา​บุตร​สะใภ้​ก็​เหมือนกับ​เพื่อนบ้าน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​ใช้ชีวิต​อยู่​ด้วยกัน​ ​แต่​ก็​ต้อง​เจอกัน​ทุกวัน​ ​หาก​แข่งขัน​กัน​ทุกอย่าง​ ​จะ​มี​วันที่​สงบสุข​ได้​เช่นไร​ ​เพียง​ปิดประตู​และ​ใช้ชีวิต​ของ​ตัวเอง​ให้​มีความสุข​ก็​พอแล้ว​

​“​ปกติ​ท่าน​พูด​ถูก​ตลอด​ ​ครั้งนี้​ไม่มี​อะไร​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​ป้า​สือ​เบี่ยงเบน​ไป​พูด​เรื่อง​บุตร​ที่ฮู​หยิน​ห้า​สนใจ​มาก​ที่สุด

​“​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​เลย​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ ​“​ยัง​ไม่รู้​ว่า​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ตอนนี้​นั้น​ยัง​เร็ว​เกินไป​!​”

​ในที่สุด​ก็​เบี่ยงเบน​ความสนใจ​นาง​สำเร็จ

​*****

​ลาน​ทิศตะวันออก​ของ​เรือน​หลัก​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กำลัง​กังวล​เรื่อง​ของขวัญ​พิธี​สรง​สาม

​“​ถึง​ตอนนั้น​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ล้วนแต่​มาด​้วย​ ​หาก​ข้า​ให้​ของ​มีราคา​เกินไป​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ทำให้​เฉียว​อี๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​ลำบากใจ​ ​แต่​หาก​ข้า​ให้​ของ​ที่​ไม่มี​ราคา​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​รู้​ว่า​ข้ามี​ร้านค้า​อยู่​ข้างนอก​ ​ถึง​ตอนนั้น​พวก​นาง​คงจะ​คิด​ว่า​ข้า​ขี้​งก​”​ ​นาง​ถาม​ตง​หง​ด้วย​ความลำบาก​ใจ​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​ข้า​ให้​ของขวัญ​พิธี​สรง​สาม​พรุ่งนี้​เลย​ดี​หรือไม่​ ​แอบ​นำ​ไป​ให้ฮู​หยิน​ ​จากนั้น​ก็​ค่อย​ให้​เหมือน​คนอื่น​อีกครั้ง​!​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดี​กับ​สาวใช้​ของ​ตัวเอง​มาต​ลอด​ ​นิสัย​ของ​สาวใช้​สอง​สาม​คน​นั้น​ก็​ร่าเริง​ ​ตง​หง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หากฮู​หยิน​สี่​รับ​ไว้​ ​ก็​คงจะ​กลายเป็น​คนที​่​เห็นแก่​เงิน​ ​แทนที่​ท่าน​จะ​นำ​ของขวัญ​สอง​ชิ้น​ไป​ให้ฮู​หยิน​ ​บ่าว​คิด​ว่า​ ​ไม่​สู้​ทำเป็น​พวก​กำไล​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ดีกว่า​ ฮู​หยิน​สี่​เห็น​แล้ว​ต้อง​ชอบ​แน่นอน​เจ้าค่ะ​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ฮู​หยิน​สอง​และฮู​หยิน​ห้า​ยัง​จะ​ทำให้​ท่าน​ลำบากใจ​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​จะ​ยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ครอบครัว​คุณชาย​สี่​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​ ​“​ตง​หง​ของ​เรา​โต​แล้ว​ ​พูด​อะไร​ก็​สมเหตุสมผล​”

​ตง​หง​ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย

​*****

​แต่​ซิ่ว​หยวน​ที่อยู่​ลาน​ข้างหน้า​พวก​นาง​กลับ​ขมวดคิ้ว​ ​“​วันนี้​ดึก​มาก​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​ ​พรุ่งนี้​ค่อย​ไปรา​ยงา​นอี​๋​เหนียง​ดีกว่า​!​”

​จู​หรุ​่​ยพ​ยัก​หน้า

​คน​สมัยโบราณ​มักจะ​คิด​ว่าวัน​เดือน​ปีเกิด​ของ​ตัวเอง​มี​ความเกี่ยวข้อง​กับ​โชคชะตา​ของ​ตนเอง​ ​พวกเขา​จึง​ไม่​ให้​ใคร​ล่วงรู้​ ​ดังนั้น​หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​คลอด​ผ่าน​ไป​สอง​ชั่วโมง​แล้ว​ถึง​ได้​ป่าวประกาศ​ออก​ไป​ว่า​สือ​อี​เหนียง​คลอด​แล้ว​

​ซิ่ว​หยวน​พึ่ง​จะ​รู้​ข่าว

​“​ให้​ของขวัญ​อะไร​ดี​”​ ​นาง​ขมวดคิ้ว​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​วัน​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​หาก​อยาก​เป็น​ที่​โปรดปราน​ก็​ต้อง​คิด​ให้​ดี​ ​แต่​ทาง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​…​เกรง​ว่า​คง​ต้อง​ไป​ถาม​ ​หาก​นาง​บอก​ได้​ก็​คงดี​”

​เฉียว​เหลียน​ฝัง​มีเงิน​เก็บ​เท่าไร​ ​ไม่มีใคร​รู้ดี​ไป​กว่า​ซิ่ว​หยวน

​จู​หรุ​่ย​ไม่ได้​พูด​อะไร

ตน​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​อยู่​แล้ว​ ​เพราะ​มีเรื่อง​อื่น​อยู่​ใน​ใจ​ ​ตน​อายุ​น้อยกว่า​ซิ่ว​หยวน​แค่​สอง​ปี​ ​แต่​ซิ่ว​หยวน​ยัง​ไม่ได้​กำหนด​เรื่อง​แต่งงาน​สักที​ ​ทำให้​ตน​รู้สึก​กลัว​ ​สอง​สาม​วันก่อน​จึง​ส่ง​คน​นำ​จดหมาย​ไป​ให้​มารดา​ของ​ตัวเอง​ ​เล่าเรื่อง​ที่​ตัวเอง​กังวล​ให้​มารดา​ฟัง​ ​ไม่รู้​ว่า​มารดา​จะเข้า​ใจ​หรือไม่

​เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​รู้สึก​รำคาญใจ

​*****

​หยาง​อี๋​เหนียง​ใน​ตอนนี้​กำลัง​รู้สึก​หงุดหงิด​

​คิดไม่ถึง​ว่าฮู​หยิน​จะ​คลอด​บุตรชาย​จริงๆ

ได้ยิน​มา​ว่า​ตอนที่​นาง​คลอด​ยัง​เรียก​ท่าน​โหว​ไป​อยู่​ด้วย​ที่​ห้อง​คลอด​…​คนที​่​ไม่รู้​ความ​เช่นนี้​ ​ทำไม​ถึง​เข้าตา​ท่าน​โหว​ได้

​หยาง​อี๋​เหนียง​คิด​แล้วก็​ยิ่ง​รู้สึก​หายใจไม่ออก​ ​อึดอัด​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ๆ​ ​ถึง​ได้​รู้สึก​ดีขึ้น

หาก​ตน​รอต​่อ​ไป​เรื่อยๆ​ ​บุตร​ของฮู​หยิน​ก็​จะ​เติบโต​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ความรู้สึก​ที่​ท่าน​โหว​มีต​่​อบุ​ตร​ชาย​ของ​นาง​ก็​จะ​ยิ่ง​ลึกซึ้ง​มากขึ้น​ ​และ​ยิ่ง​เคารพฮู​หยิน​มากขึ้น​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​บุตรชาย​ของ​นาง​จะ​เป็น​คน​ไม่ได้เรื่อง​…​แต่​ตน​ต้อง​รอ​จนกว่า​เด็ก​คน​นั้น​จะ​กลายเป็น​คน​ไม่ได้เรื่อง​เช่นนั้น​หรือ

​นาง​คิด​พลาง​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​ขมขื่น​

​*****

​เช้า​วัน​ต่อมา​ ​ป้า​ซ่ง​นำ​ไข่​สีแดง​ไป​ให้​ญาติพี่น้อง​ตามคำสั่ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​ปรึกษา​เรื่อง​ชื่อ​ของ​บุตรชาย​กับ​สือ​อี​เหนียง​บน​เตียง​ ​“​ก่อนหน้านี้​ก็​เตรียม​ไว้​บ้าง​แล้ว​ ​แต่​ชื่อ​เด็กผู้หญิง​เยอะ​กว่า​เด็กผู้ชาย​ ​เมื่อวาน​ข้า​จัดการ​ใหม่​อีกครั้ง​ ​เจ้า​คิด​ว่า​ควร​ตั้งชื่อ​เขา​ว่า​อะไร​ดี​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยื่น​กระดาษสี​ขาว​ให้​นาง​ ​บน​กระดาษ​เขียน​คำ​ว่า​ ​‘​เฉิง​ ​‘​จิ​่น​’​ ​‘​เชียน​’​ ​‘​เลี่ยง​’​…​เขียน​ไว้​อีก​เป็น​สิบ​ชื่อ​ ​แล้ว​เขา​ยัง​พูด​อธิบาย​อยู่​ข้างๆ​ ​“​เฉิง​ ​หมายถึง​ซื่อสัตย์​ ​จิ​่น​ ​หมายถึง​กตัญญูกตเวที​ ​เลี้ยงดู​บิดา​มารดา​ ​เชียน​ ​หมายถึง​เจียมเนื้อเจียมตัว​ ​สุขุม​มีมา​รยาท​ ​เลี่ยง​ ​หมายถึง​เป็น​ที่​ศรัทธา​…​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ ​‘​เชียน​’​ ​ดีที​่​สุด​ ​เจียมเนื้อเจียมตัว​ ​สุขุม​มีมา​รยาท​ ​ถึง​จะ​ได้​เป็นที่ยอมรับ​ ​เป็น​คน​มี​มิตร​ไมตรี​…​”

​ยัง​อธิบาย​ด้วย​อีกว่า​ ​ทำ​อะไร​ถึง​เจียมเนื้อเจียมตัว​ ​ถึง​จะ​ได้​เป็นที่รู้จัก​ ​ครอบครอง​ทั่วหล้า

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตั้งชื่อ​เขา​ว่า​ ​’​จิ​่น​’​ ​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​ ​ความกตัญญู​กตเวที​ ​ข้า​หวัง​ว่า​เขา​จะ​เป็น​เด็ก​ที่​กตัญญู​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจ​ในทันที

​สายตา​ของ​เขา​มี​ความ​หม่นหมอง

​สือ​อี​เหนียง​จับมือ​เขา​ ​“​ข้า​หวัง​ว่า​เขา​จะ​เติบโต​มากับ​ข้า​ ​เมื่อ​ข้า​แก่​แล้ว​ ​ก็​จะ​ได้​มี​เขา​อยู่​ด้วย​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่จริง​ใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​ก็​ไม่​พูด​อะไร​อยู่นาน

​เด็กน้อย​ที่นอน​อยู่​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ร้องไห้​ขึ้น​มา​

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มา​ ​“​ตั้งแต่​เมื่อวาน​จนถึง​ตอนนี้​ ​ไม่ได้​ทาน​อะไร​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​”

​ป้าวั​่​นที​่​ได้ยิน​เสียงร้อง​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา

​“​บ่าว​เอง​ ​บ่าว​เอง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​อุ้ม​บุตร​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​น่าจะ​หิว​แล้ว​ ​บ่าว​อุ้ม​เขา​ไป​ให้​แม่นม​ป้อน​นม​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​เรียก​แม่นม​เข้ามา​เถิด​!​”

เหตุผล​ที่​เขา​ร้องไห้​ ​พอนาง​ได้​เห็น​กับ​ตาก​็​จะ​ได้​สบายใจ

​นาง​พูด​พร้อมกับ​ตบ​ตัว​บุตร​เบา​ๆ

​ป้าวั​่​นรีบ​ไป​เรียก​แม่นม​เข้ามา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตะโกนเรียก​หลิน​ปัว​ ​“​ยัง​ไม่มี​ข่าว​จาก​จวน​แม่นม​อีก​หรือ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท