รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 452 พิรุณคืนชีพ ชุบชีวิตกลับมานับไม่ถ้วน!

บทที่ 452 พิรุณคืนชีพ ชุบชีวิตกลับมานับไม่ถ้วน!

บทที่ 452 พิรุณคืนชีพ ชุบชีวิตกลับมานับไม่ถ้วน!

เลือดไหลนองทุกหนแห่ง ศพกระจายเกลื่อนกลาด บ้านเรือนพังทลาย ที่แห่งนี้เพิ่งเกิดการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ขึ้นหรือไม่?

หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาชอบดูหนังสยองขวัญ เคยดูหนังแนวนี้มามากตอนอยู่บนดาวเคราะห์สีฟ้าจนมีภูมิคุ้มกันทางจิตใจ เขาคงจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นฉากนองเลือดเช่นนี้

‘ยังดีที่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง!’

หลี่จิ่วเต้าอดกล่าวขึ้นมาในใจไม่ได้

เขาเล่นแท็บเล็ตมาหลายวัน ได้รู้ว่าแม้โลกในแท็บเล็ตจะเป็นโลกเสมือน แต่ก็มีความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก ทุกอย่างล้วนคล้ายคลึงกับโลกแห่งความเป็นจริง ด้านในมีสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ อาศัยอยู่

มีทั้งปุถุชน ผู้ฝึกตน และอสูร เป็นต้น

แม้เขาจะรู้ว่าสิ่งมีชีวิตที่ตายไปเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องสมมติ ไม่ใช่เรื่องจริง ทว่าภายในใจกลับยังทนไม่ได้อยู่ดี

“โปรยพิรุณคืนชีพ ทำให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวขึ้นมาอย่างแผ่วเบา

นี่คือโลกเสมือนในฝ่ามือของเขา เขาเป็นผู้ที่มีอำนาจทุกอย่าง ปรารถนาสิ่งใดก็ทำได้ตามต้องการ จะพลิกน้ำคว่ำสมุทร เคลื่อนดวงดารา คืนชีพผู้ที่ตายไปแล้ว เพียงแค่เขาคิดทุกอย่างล้วนทำได้

แปะ แปะ…

สิ้นคำพูดนั้น เสียงฝนก็ดังออกมาจากแท็บเล็ต นี่ไม่ใช่ฝนธรรมดา แต่ละหยดที่ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าล้วนเปล่งประกายด้วยความศักดิ์สิทธิ์

เห็นได้ชัดเลยว่าเมื่อหยาดพิรุณโปรยปรายลงมา เหล่าสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วก็เริ่มค่อย ๆ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทีละคนทีละคน ซากปรักหักพังก็เริ่มค่อย ๆ ฟื้นสภาพกลับคืนทีละน้อย!

เมี้ยว!

ลั่วสุ่ยที่อยู่ด้านข้างถึงกับร้องออกมาด้วยความตื่นตะลึงอย่างแท้จริงเมื่อได้เห็นฉากดังกล่าว

สวรรค์! นะ…นี่มันอะไรกัน?

นางอยู่ข้างกายท่านเซียนมานานมากแล้ว ชินชากับวิธีการและความสามารถอันน่าทึ่งทุกประเภทของท่านเซียนไปแล้ว ทว่าเมื่อนางได้เห็นฉากดังกล่าว ก็ยังคงตกใจเป็นอย่างมากจนหัวใจแทบจะกระเด็นกระดอนออกมาจากร่าง!

ท่านเซียนเพียงเอ่ยออกมาแผ่วเบา ที่แห่งนั้นกลับปรากฏสายฝนตกกระหน่ำ หยาดพิรุณแต่ละหยดแฝงไว้ด้วยพลังเหนือจินตนาการ สิ่งมีชีวิตที่ตายไปทั้งหมดต่างฟื้นคืนชีพ บ้านเรือนที่พังทลายก็ได้รับการฟื้นฟูทั้งหมด!

ต้องน่าหวาดเกรงเพียงใดจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้!

ณ แดนหยิน จวินโจว

เมิ่งจีและไป๋มู่กำลังลอยอยู่บนอากาศ เตรียมกลับไปยังตระกูลไป๋เพื่อเตรียมการสำหรับการมาเยือนทะเลต้องห้าม

แต่ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง ต่างพากันหยุดนิ่งหันกลับไปมองด้านหลัง

“อะไรกัน!”

“นี่…นี่…นี่!”

พวกเขาทั้งสองคนต่างอ้าปากกว้างจนกรามแทบจะแตะลงพื้น!

มองจากระยะไกลจะเห็นสถานที่ตั้งของอาณาจักรโบราณปรากฏเมฆก้อนใหญ่ด้านบนท้องฟ้า มีหยาดฝนเปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์อันไม่อาจจินตนาการถึงการโปรยปรายลงมา!

พวกเขาเห็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเหลิงเจี้ยนสังหารอย่างโหดเหี้ยมกำลังค่อย ๆ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทีละคน บ้านเรือนที่ถูกทำลายก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม

“คุณชาย!”

“คุณชาย!”

พวกเขาหันมาสบตาแล้วตะโกนออกมาพร้อมกัน

ด้วยวิธีการเช่นนี้ ความสามารถเช่นนี้ ทรงพลังถึงเพียงนี้ นอกจากท่านเซียนแล้ว ยังจะมีผู้ใดสามารถทำได้อีก?

ทั้งสองคนมองตากันด้วยความตกตะลึง ภายในใจราวกับมีคลื่นนับหมื่นเข้าซัด ตื่นตะลึงอย่างถึงที่สุด

ความสามารถในการฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนจากระยะไกล แม้จะเป็นความฝัน พวกเขาก็ไม่กล้าคิดถึง!

“เจ้ากับข้าล้วนโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบกับตัวตนเช่นนี้!”

เมิ่งจีกล่าวกับไป๋มู่ด้วยถ้อยคำจากใจ

คุณชาย…เป็นเพียงเซียนท่านหนึ่งหรือ?

เซียนก็ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้!

คุณชายเกรงว่าจะเป็นจักรพรรดิในหมู่เซียน เป็นบรรพจารย์ของเหล่าเซียน!

ย้อนคิดไปถึงครั้งที่เขาบอกว่าจะรับคุณชายเป็นศิษย์ ใบหน้าพลันแดงปื้นขึ้นมา

ช่างไม่ประมาณตนเหลือเกิน ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

“ใช่แล้ว!”

อารมณ์ของไป๋มู่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรงต่อท่านเซียน!

“ไปกันเถอะ! พวกเรากลับไปเตรียมตัวให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นจะได้ออกเดินทางไปยังทะเลต้องห้าม!”

เมิ่งจีกล่าว “พวกแดนต้องห้าม หวังว่าจะรู้ความอยู่บ้าง หากไม่รู้ความ แม้กระทั่งเถ้าธุลีก็คงไม่มีเหลือ!”

เมื่อเห็นท่านเซียนได้ฟื้นคืนชีพสิ่งมีชีวิตที่ตายไปของอาณาจักรโบราณ เขาก็พลันฮึกเหิมขึ้นมาทันใด

นี่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขาคิดก่อนหน้านี้ถูกต้อง

หัวใจของท่านเซียนเปี่ยมด้วยความเมตตาโอบอ้อมอารี ทนเห็นการนองเลือดอันโหดร้ายเช่นนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงลงมือชุบชีวิตผู้ที่สิ้นชีพลงไปแล้วของอาณาจักรโบราณ

นี่ยังแสดงให้เห็นว่าท่านเซียนจะต้องเตรียมแผนการอื่นเอาไว้แล้ว ไม่ปล่อยให้ไฟสงครามลุกลามเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้

หากไฟสงครามลุกลามเข้ามายังอาณาจักรแห่งนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะต้องทนทุกข์ทรมารอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าจะมีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากเพียงใด

หลังจากแน่ใจว่าท่านเซียนยังคงมีแผนการอื่น เมิ่งจีก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น

“ถูกแล้ว!

ไป๋มู่พยักหน้า เขาเองก็รู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

พวกเขาจะไม่มั่นใจได้อย่างไร?

ท่านเซียนผู้มีความสามารถเหนือจินตนาการ มีจิตใจเมตตาต่ออาณาจักรแห่งนี้ ถึงขนาดทนเห็นภาพนองเลือดไม่ได้ เช่นนั้นแล้วจะปล่อยให้อาณาจักรแห่งนี้เกิดประสบเรื่องร้ายได้อย่างใด?

แม้ว่าพลังของแดนมรณาที่อยู่เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนจะล้ำลึก แต่เขาเชื่อว่าพวกมันไม่อาจก่อการฆ่าล้างในอาณาจักรแห่งนี้ต่อหน้าท่านเซียนได้

ส่วนเก้าแดนต้องห้าม ยังจะมีค่าอะไรให้พูดถึงอีกกัน

“หวังว่าแดนต้องห้ามเหล่านี้จะรู้ความ!” เขากล่าวเสริม

ณ เมืองชิงซาน

ด้านในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

“ไม่เลว ไม่เลว! ค่อยดีขึ้นหน่อย…”

เมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้วในแท็บเล็ตค่อย ๆ ฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมา บนใบหน้าของหลี่จิ่วเต้าก็ปรากฏรอยยิ้มบาง

เขากวาดนิ้วไปบนแท็บเล็ตอีกครั้ง ภาพภายในแท็บเล็ตเปลี่ยนกลายเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาราสุกสกาวมากมาย

“ลองสัมผัสประสบการณ์เดินเล่นในอวกาศสักครั้ง”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น หลังจากนั้นร่างที่เหมือนกับเขาทุกประการก็ปรากฏขึ้นด้านในแท็บเล็ต

นี่คือร่างของเขาในโลกเสมือน

ตราบเท่าที่เขาต้องการ เขาสามารถย่อส่วนตัวเองลงไปอยู่ในโลกเสมือน

ท่องไปในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ชมดวงดาราสุกสกาวทีละดวง หลี่จิ่วเต้าถึงกับกล่าวออกมาในใจว่าแท็บเล็ตนี้ช่างยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว

ไม่เช่นนั้นเขาจะสามารถเดินท่องไปในอวกาศอันเต็มไปด้วยดวงดาราได้อย่างไร ทั้งยังสามารถสัมผัสใกล้ชิดกับหมู่ดาวที่สุกสว่างเช่นนี้

แม้จะเป็นเพียงโลกเสมือน แต่ก็สมจริงเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มรู้สึกประหนึ่งตนเองได้ท่องไปบนห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจริง ๆ

ตู้ม!

ในตอนนั้นเอง พลันมีบางสิ่งตกลงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งส่งเสียงดังสนั่นจนทำให้หลี่จิ่วเต้าตกใจ

“นั้นมันอะไรกัน?”

หลี่จิ่วเต้าขมวดคิ้ว จ้องมองไปยังสถานที่แห่งนั้น

เขาเกิดความสงสัยเป็นอย่างมาก ท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลสิ่งใดกันที่สามารถทำเกิดเรื่องเช่นนี้ได้?

“นี่…มันอะไรกัน!?”

หลังจากหลี่จิ่วเต้าเห็นสิ่งนั้นอย่างชัดเจน คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นยิ่งขึ้น

เขาไม่เคยเห็น ‘สิ่ง’ แปลกประหลาดขนาดนี้มาก่อน น่าสยดสยองเสียยิ่งกว่าสัตว์ประหลาดในหนังไซไฟในดาวเคราะห์สีฟ้าที่เขาเคยดูมา

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นยากจะพรรณนาออกมาครู่หนึ่ง

ดีที่สภาพจิตใจของเขานับว่าแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นเขาคงอาเจียนออกมาแล้ว…

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท