รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 453 เจ้าดูน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก ข้าจะช่วยเจ้าเปลี่ยนเอง!

บทที่ 453 เจ้าดูน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก ข้าจะช่วยเจ้าเปลี่ยนเอง!

บทที่ 453 เจ้าดูน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก ข้าจะช่วยเจ้าเปลี่ยนเอง!

นี่มัน ‘สิ่งมีชีวิต‘ อะไรกัน?

น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!

สิ่งมีชีวิตที่ถูกเย็บปะขึ้นมาหรือ?

มุมปากของหลี่จิ่วเต้ากระตุกระหว่างมองดู อารมณ์แต่เดิมที่กำลังดีจากการได้เที่ยวชมดาวสุกสกาวอย่างใกล้ชิดถูกทำลายลงหมดสิ้นจากสิ่งมีชีวิตที่ถูกเย็บปะติดปะต่อขึ้นมาจนน่าขยะแขยง

สิ่งที่น่าขยะแขยงนี้เป็นสิ่งมีชีวิตอะไรกัน?

มันมีลำตัวคล้ายกิ้งก่า ทว่าตัวใหญ่กว่ากิ้งก่าปกติไปมาก มันยาวถึงสิบกว่าเมตร ด้านหลังปกคลุมไปด้วยขนสีขาวที่ไม่ใช่เพียงขนสีขาวธรรมดา แต่กลับเหมือนหนอนสีขาวดิ้นไปมาเรียงกันหนาแน่นชวนให้รู้สึกขนลุก

หัวอสูรของมันเน่าเปื่อยไปกว่าครึ่ง เขาไม่รู้ว่ามันเป็นหัวของอสูรเผ่าใด เนื้อสีดำของมันแบะออกมีเลือดดำหยดลงมาเป็นครั้งคราวพร้อมกลิ่นเหม็นเน่าโชย

สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดคือ มือและเท้าของมันคือมือเท้าของเด็กเผ่ามนุษย์!

เป็นสิ่งมีชีวิตที่มั่วซั่ว ยิ่งดูยิ่งรู้สึกแปลกประหลาดและน่าขยะแขยง!

โฮก!

อีกด้านหนึ่งอสูรกายตนนั้นคำรามออกมา ดวงตาสีแดงเลือดจับจ้องไปทางหลี่จิ่วเต้า

“รนหาที่ตาย กล้าดีอย่างไรถึงมาลอบโจมตีข้า!”

มันแสดงท่าทางเป็นปรปักษ์อย่างมาก ลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงดาวขนาดใหญ่ถึงกับระเบิดพังทลายภายใต้พลังอันมหาศาลของมัน กลายเป็นเพียงเศษดาวล่องลอยอยู่กลางอวกาศ

มันโกรธจัดและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ในฐานะบรรพชนของทะเลต้องห้าม มันยืนอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน กระทั่งเทียนตี้ในสายตาของมันแล้วก็เป็นเพียงแค่มดปลวกที่สามารถฆ่าล้างได้ภายในอึดใจเดียว ทว่าตอนนี้มันกลับถูกลอบโจมตี คล้ายเป็นการยั่วยุมันอย่างร้ายแรง จะไม่ให้มันเกิดโทสะได้อย่างไร?

ใช่แล้ว มันคือบรรพชนที่ถอนตัวออกจากสมรภูมิฝั่งที่กำลังสู้รบกับแดนสังสารวัฏ มันกำลังมุ่งหน้าไปยังทะเลต้องห้าม เตรียมตัวจะคอยอยู่ปกป้องไม่ให้ฐานที่มั่นของทะเลต้องห้ามถูกทำลาย

พลังฟ้าดินโอบล้อมสร้างม่านแสงคุ้มกันทั้งอาณาจักร ทำให้สิ่งมีชีวิตจากภายนอกยากลุกล้ำ

อาณาจักรเทียนหยวนเองก็ถูกม่านแสงนี้ปิดกั้นเอาไว้

แต่ทว่ามันก็มีข้อยกเว้น

เมื่อเนิ่นหน้ามาแล้ว ทะเลต้องห้ามของพวกมันได้มาถึงยังอาณาจักรแห่งนั้นและจัดเตรียมแผนการต่าง ๆ เอาไว้ด้านใน พวกมันสร้างเส้นทางขึ้นมาในจักรวาลหมื่นดารา เชื่อมตรงกับอาณาจักรของพวกมัน

เป็นระยะเวลานานที่พวกมันเสริมสร้างความมั่นคงของเส้นทางแห่งนี้ เนื่องจากเส้นทางแห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก

เมื่อสถานที่แห่งนั้นปรากฏขึ้น กองกำลังของพวกมันจะสามารถใช้เส้นทางแห่งนี้เพื่อให้สามารถมาถึงอย่างรวดเร็ว

แม้พลังฟ้าดินของอาณาจักรแห่งนี้จะสร้างม่านแสร้งป้องกัน แต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นเส้นทางของพวกมันทิ้งได้

ครั้งก่อนอสุรกายหัวกิเลนก็ได้เดินทางผ่านเส้นทางนี้

หากไม่มีเส้นทางแห่งนี้ กระทั่งอสุรกายหัวกิเลนเองก็จะถูกปิดกั้นเอาไว้ภายนอกไม่สามารถเข้ามาภายในอาณาจักรแห่งนี้ได้

ไม่เพียงแค่ทะเลต้องห้ามที่มีเส้นทางเช่นนี้ อีกแปดแดนต้องห้ามเองก็มีเส้นทางเช่นนี้เหมือนกัน

ในกาลเวลาอันยาวนานไม่รู้จบ พวกมันได้เสริมความมั่นคงของเส้นทางแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง

เดิมทีแล้ว บรรพชนผู้นี้กำลังเดินทางผ่านเส้นทางแห่งนั้น ทว่ากลับถูกพลังลึกลับบางอย่างจู่โจมใส่จนหลุดออกจากเส้นทาง ทำให้มันโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด ร่างทั้งร่างเต็มไปด้วยจิตสังหาร

“ลอบโจมตี? เหตุใดต้องลอบโจมตีด้วย เจ้าประเมินตนเองสูงไปหรือไม่?”

หลี่จิ่วเต้าพูดไม่ออก

เหตุใดเขาต้องลอบโจมตีอสุรกายตนนี้ด้วย? เพื่อปล่อยให้มันมาทำให้เขารู้สึกขยะแขยงเช่นนั้นหรือ?

อย่ามาล้อเล่นเลย

“บังอาจมาลอบโจมตีข้า ทั้งยังกล้ากำแหงต่อหน้าข้า ให้ข้าดูเสียเถอะว่าเจ้าเป็นใคร มาจากที่แห่งใด!”

สิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการเย็บปะยิ้มเย้ย ก่อนลงมือแผ่พลังมหาศาลโจมตีชายหนุ่มทันที

แม้ว่ามันจะโกรธเป็นอย่างมาก ทว่ามันก็ไม่ได้สูญเสียเหตุผล

หลี่จิ่วเต้ากล้าที่จะลอบโจมตีมัน เบื้องหลังจะต้องมีผู้สมรู้รวมคิดอยู่ อีกทั้งความแข็งแกร่งของเจ้าตัวจะต้องไม่อ่อนแออย่างแน่นอน มันตระหนักได้ถึงจุดนี้ จึงไม่ประมาทเลินเล่อแม้แต่น้อย ลงมือโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มี!

ตู้ม!

อากาศระเบิดออก ดวงดาวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลำแสงอันน่าหวาดกลัวพุ่งทำลายดวงดาวทั้งหมดที่เป็นทางผ่าน!

มันทรงพลังน่าหวาดหวั่นอย่างมาก ในจักรวาลหมื่นดาราพลังของมันไม่ได้ถูกสะกดข่มเอาไว้เหมือนด้านในอาณาจักร

“…”

หลี่จิ่วเตาถึงกับพูดไม่ออกยิ่งกว่าเดิม

เขากล่าวขึ้นมาในใจว่าสิ่งมีชีวิตที่ถูกปะติดปะต่อดูน่าแขยงก็แล้วไปเถอะ แต่เหตุใดจึงดูไม่เป็นมิตรถึงเพียงนี้

อย่าล้อเล่นน่า นี่ไม่ใช่โลกความจริงเสียหน่อย แต่เป็นโลกเสมือนที่อยู่ในกำมือของเขา ตัวเขานับได้ว่าเป็นผู้ชี้ขาดอย่างแท้จริง

“เฮ้อ ดวงดาวก็สวยถึงเพียงนั้น เหตุใดเจ้าจึงต้องทำลายมันทิ้งด้วย!”

หลี่จิ่วเต้าทอดถอนใจ “หยุดมือซะ เจ้าทำให้ข้าหมดอารมณ์เพลิดเพลินเป็นอย่างมาก”

สิ้นเสียงของเขา พลังที่สิ่งมีชีวิตเย็บปะโจมตีออกมาก็ถูกลบล้างไปจนสิ้นในพริบตา

ขณะเดียวกัน ดวงดาวที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้ก็ค่อย ๆ กลับมารวมตัวเข้าตัวกันทีละน้อย ก่อนจะกลายเป็นดวงดาวสว่างไสวในจักรวาลเช่นเดิมในท้ายที่สุด

ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม!

มารดามันเถอะ!

นี่มันความสามารถอะไรกัน!?

ข้าไปยุแหย่ผู้ใดกัน!

สิ่งมีชีวิตเย็บปะรู้สึกหวาดกลัวจนถึงกระดูก กระทั่งจิตวิญญาณก็ยังสั่นสะท้านไม่หยุด

ตัวมันเองก็นับได้ว่าเป็นยอดฝืมือในขั้นเทียนตี้ ครอบครองพลังอันล้ำลึกไม่อาจหยั่งถึง

แต่เมื่อเทียบกับผู้ที่อยู่เบื้องหน้าแล้ว มันไม่อาจนับว่าเป็นสิ่งใดได้!

ลบล้างพลังทั้งหมดเพียงพริบตา ทั้งยังฟื้นคืนดวงดาวที่ถูกทำลายกลับคืนสู่สภาพเดิม!

สวรรค์ ต้องมีพลังมากเพียงใดจึงจะสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย!?

“หนี!”

มันตื่นตระหนกขวัญผวา ไม่กล้ารั้งรออีกต่อไป นี่คือตัวตนบนจุดสูงสุดที่สามารถสังหารมันได้สบาย ๆ!

“อย่าวิ่งมั่วซั่ว เจ้าที่เป็นเช่นนี้ทำให้คนอื่นหวาดกลัวได้ง่ายดาย ข้าจะช่วยเจ้าเปลี่ยนให้น่ารักขึ้นเล็กน้อย”

หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ ทันใดนั้น สิ่งมีชีวิตเย็บปะที่หนีไปไกลลิบก็ถูกพลังอันแข็งแกร่งดึงกลับมาอยู่ด้านหน้าของเขาในทันที มันไม่สามารถขยับได้ กระทั่งเอ่ยวาจาใดก็ยังไม่อาจทำได้!

ช่วยเปลี่ยนมัน?

ทำให้มันน่ารักขึ้นอีกหน่อย!?

อย่าทำเช่นนั้น!

สิ่งมีชีวิตเย็บปะร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา

การรวบรวมชิ้นส่วนมาจากผู้แข็งแกร่งที่สุดประกอบเป็นร่างใหญ่โตเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

ในตอนนี้มันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง หากรู้ตั้งแต่แรกว่าจะต้องประสบชะตาเช่นนี้ มันไม่น่าวิ่งหนีเลย!

“อย่าร้องไห้ไป ฝีมือของข้าดีมาก รับรองว่าหลังจากที่เปลี่ยนให้เจ้าแล้ว จะต้องน่ารักอย่างแน่นอน ผู้ใดพบก็เอ็นดู”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มลงมือ

แน่นอนว่า ลงมือทำของเขานั้น ไม่ได้หมายถึงการใช้มือค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตเย็บปะจริง ๆ

สิ่งมีชีวิตเย็บปะมีเลือดหนองสีดำไหลออกมาเป็นครั้งคราว น่าขยะแขยงอย่างถึงที่สุด เขาไม่มีทางแตะต้องสิ่งมีชีวิตเย็บปะด้วยมือของเขาอย่างแน่นอน

เขานึกถึงรูปลักษ์ของสิ่งมีชีวิตเย็บปะที่ต้องการปรับเปลี่ยน หลังจากนั้นมีลำแสงสาดทอลงมาจากเบื้องบนลงใส่สิ่งมีชีวิตเย็บปะเส้นแล้วเส้นเล่า

ร่างกายของสิ่งมีชีวิตเย็บปะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทีละน้อย

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

  1. Khunnaay พูดว่า:

    ท่านเซียนมาเยือนแดนต้องห้ามแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท