ตอนที่ 410 ฝูเทียนกราบอาจารย์ มีอาจารย์อยู่!
เมื่อได้ยินคำถามของหนิงฝาน อัจฉริยะทุกคนก็มองไปยังชายหนุ่มในชุดดำโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มในชุดดำรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาประสานกำปั้นและพูดด้วยความเคารพว่า “ข้าเป็นศิษย์ขององค์ราชันฮวงเทียน ไม่ทราบว่าท่านคือผู้ใด”
หนิงฝานไม่ตอบ แต่ยังคงถามต่อไป “อาจารย์ของเจ้า คือองค์ราชันฮวงเทียนผู้มาจากเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ และมีร่างต้องห้ามใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง!” ชายหนุ่มในชุดดำพยักหน้า
“อืม!” หลังจากยืนยันแล้วหนิงฝานก็พยักหน้า
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นองค์ราชันฮวงเทียนที่เขารู้จักจริง ๆ ยิ่งไม่คิดว่าองค์ราชันฮวงเทียนหลังออกจากราชวงศ์เซียนฮวงเทียน อีกฝ่ายก้าวเข้าสู่เส้นทางราชันจักรพรรดิและยังรับลูกศิษย์อีกหนึ่งคน!
“ท่านคือผู้ใด?” ยามนี้ เขาถามขึ้นอย่างสงสัย
“ข้าชื่อหนิงฝาน และมาจากเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์เช่น…”
ในตอนที่หนิงฝานกำลังจะอธิบายตัวตนของเขาสั้น ๆ ชายหนุ่มในชุดดำก็ดีใจขึ้นมาทันที “หนิงฝาน?!”
เขาคุกเข่าลงบนพื้นตรงจุดนั้น และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านอาจารย์ โปรดรับการคารวะจากลูกศิษย์!”
“เจ้าเป็นอันใดไป?”
หนิงฝานตกตะลึง ชายผู้นี้ไม่ใช่ศิษย์ขององค์ราชันฮวงเทียนหรือ ไยเขาถึงเรียกข้าว่าอาจารย์เล่า!
เวลานี้ ชายหนุ่มในชุดดำที่เรียกตนว่าฝูเทียนอธิบายอย่างตื่นเต้น “อาจารย์ ท่านคืออาจารย์ที่แท้จริงของข้า อาจารย์องค์ราชันฮวงเทียนบอกว่าถึงเขาจะสอนข้า แต่เขาจะไม่ยอมรับข้าเป็นศิษย์ เมื่อเขาจากข้าไปได้กำชับฝากฝังไว้ว่า วันหน้าหากข้าได้พบกับหนิงฝานจากเก้าอาณาจักรเซียนสวรรค์ ให้กราบเป็นอาจารย์ของข้า!”
“นี่มัน..!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็ยิ้มอย่างขื่นขม
องค์ราชันฮวงเทียนผู้นี้ทำอันใด ไยถึงบังคับให้รับศิษย์ที่เขาไม่เคยพบมาก่อนได้อย่างไร!
“เจ้าชื่อฝูเทียนใช่หรือไม่ แม้ข้าจะรู้จักกับองค์ราชันฮวงเทียน แต่ข้าไม่เคยคิดที่จะรับศิษย์ และเห็นได้ชัดเจนว่าตอนนี้ข้ามีหมายจับโลหิต หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์ เจ้าจะถูกเพ่งเล็งและถูกหมายหัวโดยสภาผู้พิทักษ์!” หนิงฝานเอ่ยปากปฏิเสธโดยนัย
ซุบซิบ!
กลุ่มยอดฝีมือที่อยู่รอบ ๆ มีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที ม่านตาของทุกคนหดแคบลง และถอยไปสองสามก้าวอย่างเงียบ ๆ เห็นได้ชัดว่ามีคนไม่มากนักที่เต็มใจจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีหมายจับโลหิต!
แต่ฝูเทียนยังคงพูดอย่างหนักแน่น “ไม่! ท่านคืออาจารย์ของข้า! ยิ่งกว่านั้น องค์ราชันฮวงเทียนเคยพูดว่าถ้าท่านไม่ยอมรับข้า ก็ให้ข้าคุกเข่าตลอดไปมิต้องลุกขึ้นยืน!”
“…”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หนิงฝานก็พูดไม่ออก เขาไม่คาดหวังว่า ฝูเทียนจะแน่วแน่ถึงขนาดยืนกรานที่จะกราบตนเองเป็นอาจารย์ของเขา!
ในเวลานี้ เทพธิดาหลิวอวิ๋นกล่าวว่า “ฝูเทียน เขาเป็นเป้าหมายนักล่าโลหิต หากเจ้ากราบเขาเป็นอาจารย์ เขาจะสร้างความลำบากให้แก่เจ้าเป็นแน่!”
“ใช่แล้ว ฝูเทียนหากเจ้ายังต้องการที่จะก้าวต่อไปบนเส้นทางราชันจักรพรรดิ เจ้าต้องห้ามข้องเกี่ยวกับเป้าหมายนักล่าโลหิตนะ!”
“ฝูเทียน เส้นทางราชันจักรพรรดิยังอีกยาวไกล จะทำลายเส้นทางข้างหน้ามิได้!”
“…”
ยอดฝีมือที่เหลือเอ่ยห้ามปรามพวกเขาทีละคน
“ทุกท่าน หยุดพูดเถอะ ข้าตัดสินใจแล้ว!”
ฝูเทียนขัดจังหวะคำพูดของทุกคน ก่อนจะคุกเข่าลงไปทางหนิงฝาน!
โฮก! โฮก! โฮก!
เดิมที หนิงฝานต้องการพยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้ง แต่ทว่าฝูงสัตว์ร้ายคำรามดังขึ้นอีกเป็นระลอก เห็นเพียงฝูงสัตว์ร้ายโผล่ออกมาจากทุกทิศทุกทางราวกับกระแสน้ำ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ใบหน้าของยอดฝีมือทั้งหมดพลันเปลี่ยนไปอย่างมหันต์
หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับปาก “เอาล่ะ! ข้าจะรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า ลุกขึ้นเร็ว!”
“ขอบคุณอาจารย์!” ฝูเทียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง แล้วเขาก็หยัดกายลุกขึ้น
“ตามอาจารย์กลับไปที่ด่านราชันจักรพรรดิ!”
เมื่อเห็นฝูงสัตว์ประหลาดใกล้เข้ามาอีกครั้ง ชายหนุ่มชักกระบี่เพื่อเปิดเส้นทางทันที!
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
แสงกระบี่เคลื่อนผ่าน ฝูงสัตว์ร้ายกลายเป็นขี้เถ้าหลายระลอกในพริบตา หนิงฝานพาฝูเทียน เหลยเหมิง ซวีคุน กู่เจี้ยนเยวียน เทพธิดาหลิวอวิ๋นและยอดฝีมือคนอื่น ๆ กลับไปยังเส้นทางราชันจักรพรรดิ!
บึ้ม!
อาศัยแสงกระบี่ที่ฟาดฟันออกไป ทันใดนั้นพื้นที่โล่งว่างหมื่นลี้ก็ปรากฏขึ้นนอกกำแพงเมือง
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
จากนั้นฝูเทียน กู่เจี้ยนเยวียน เทพธิดาหลิวอวิ๋นและคนอื่น ๆ ก็กลับไปที่กำแพงเมืองอย่างปลอดภัย!
และเมื่อเห็นร่างของหนิงฝานถือกระบี่ออกมา แนวป้องกันทั้งหมดของด่านราชันจักรพรรดิก็เกิดคลื่นความเคลื่อนไหวเช่นกัน!
“สวรรค์!”
“คนผู้นี้เข้าไปในฝูงสัตว์ประหลาดและช่วยกลุ่มยอดฝีมือออกมา!”
“หือ? หมายจับโลหิต? เขาเป็นนักล่าโลหิตงั้นรึ!”
“เมื่อใดกันที่นักล่าโลหิตจิตใจดีเช่นนี้!”
“ดูเหมือนเขาจะไม่มีความมุ่งร้ายต่อด่านราชันจักรพรรดิเลย!”
“…”
ตอนนี้เอง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในด่านราชันจักรพรรดิมองไปที่ร่างของหนิงฝานและส่งเสียงดังเป็นระยะ!
อ๊าก!!
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นจากความว่างเปล่านอกอาณาเขต เมื่อทุกคนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าร่างของผู้พิทักษ์โบราณถูกสัตว์ดุร้ายสองตัวฉีกทึ้งไปถึงครึ่ง!
เลือดราชันจักรพรรดิไหลริน มันช่างน่าเวทนายิ่งนัก!
“อ๊าก!”
“แย่แล้ว!”
“ผู้พิทักษ์โบราณ ทนไม่ไหวแล้ว!”
“มันจบแล้ว! ถ้าผู้พิทักษ์โบราณตาย ใครจะสามารถจัดการกับสัตว์ร้ายทั้งสองที่อยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหกได้กันเล่า!”
“เฮือก! เร็วเข้า! ไปช่วยผู้พิทักษ์โบราณ!”
“…”
บรรยากาศในด่านราชันจักรพรรดิทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก!
ตอนนี้กองกำลังเสริมจากสภาผู้พิทักษ์ยังมาไม่ถึง และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในด่านที่สิบคือผู้พิทักษ์โบราณที่อยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหก หากเขาเสียชีวิต ด่านที่สิบทั้งหมดอาจถูกฝูงสัตว์ร้ายบดขยี้ในไม่ถึงอึดใจ!
ฟึ่บ!
ผู้คุมกฎและผู้บัญชาการหลายคนพุ่งขึ้นไปช่วยผู้พิทักษ์โบราณอย่างรวดเร็ว
ทว่า…
ก่อนที่คนเหล่านี้จะเข้าใกล้สนามรบ พวกเขาถูกผลกระทบของพลังที่หลงเหลืออยู่โจมตีกระเด็นออกไป หลายคนถึงกับตายตกอยู่ตรงนั้น!
มีผู้บัญชาการในขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นห้าไม่กี่คนที่พุ่งเข้าสู่สนามรบ ทว่ายังสู้ไม่ถึงสิบกระบวนท่า ก็ถูกสัตว์ประหลาดป่าเถื่อนทั้งสองโจมตีอย่างรุนแรง!
ไม่อาจต้านรับได้!
ยามนี้ ทั่วทั้งด่านที่สิบมีเพียงความสิ้นหวังเท่านั้น!
“ทุกท่าน ช่วยพ่อของข้า ก็คือการช่วยท่านเอง โปรดติดตามข้าไปสนับสนุนพ่อของข้าด้วย!”
กู่เจี้ยนเยวียนมองเหล่ายอดฝีมือด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ถือว่าความตายเป็นการหวนคืน!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลายคนกลับเงียบงัน เห็นได้ชัดว่าขลาดกลัว!
แต่ฝูเทียนที่อยู่ข้าง ๆ ก้าวไปด้านหน้า “พี่กู่ ข้าจะไปกับท่าน! แม้ว่าข้าจะต้องตาย ก็ขอตายอย่างหนักแน่นเฉกเช่นภูเขา ไม่เบาดั่งขนนก!”
“ดี! พูดได้ดี”
“ข้าไปด้วย!”
“หากอย่างไรก็ต้องตาย เช่นนั้นขอสู้สักตั้งดีกว่า!”
“…”
เมื่อฝูเทียนเอ่ยปาก ยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ก็ราวกับถูกจุดประกาย พวกเขาก้าวออกมาทีละคน
“ขอบคุณ!”
กู่เจี้ยนเยวียนพยักหน้าก่อนจะมองไปยังหนิงฝาน ดูอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา
แม้คนผู้นี้จะทรงพลังมาก แต่ฐานะของเขาคือเป้าหมายนักล่าโลหิต ในฐานะเป้าหมายนักล่าโลหิต การไม่สร้างปัญหาในเส้นทางราชันจักรพรรดินับเป็นเรื่องที่ดี เขาจะคาดหวังให้อีกฝ่ายมาช่วยได้อย่างไร
แม้แต่ฝูเทียนก็ไม่พูดอันใด
ถึงทั้งสองจะเป็นอาจารย์และศิษย์กันแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเอ่ยขอหนิงฝานได้เลย
“ไป!”
สุดท้าย กู่เจี้ยนเยวียนพาฝูเทียนและยอดฝีมือคนอื่น ๆ ไปสนับสนุนผู้พิทักษ์โบราณ!
ทว่าตอนนี้เอง หนิงฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเจ้า ไปก็เท่ากับตาย จะไปยุ่งทำไม!”
ทุกคนมองไปที่หนิงฝาน ในหมู่พวกเขา ฝูเทียนยิ้มอย่างขมขื่น “อาจารย์ เราไม่ได้อยากตาย แต่ถ้าเราไม่ลองดู ด่านที่สิบในวันนี้ย่อมถูกเหล่าสัตว์ประหลาดทำลายล้าง!”
“หึ! ใครบอกว่าด่านที่สิบจะถูกทำลาย?”
ชายหนุ่มยิ้มเบา ๆ และคำพูดของเขาก็ดังออกไป “มีอาจารย์อยู่ ด่านที่สิบย่อมไม่มีทางพังทลาย!”