ตอนที่ 413 กึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด เผชิญหน้า!
เมื่อเสียงขลุ่ยแปลกประหลาดดังขึ้น เศษแขนขาหัก เศษโลหิตและกระดูกของอสูรต่างถูกม้วนเข้าด้วยพลังที่มองไม่เห็นสายหนึ่งและก่อตัวขึ้นเป็นพายุสีเลือดในพริบตา ระหว่างพายุหมุนกระดูก โลหิตจำนวนมากก็สาดกระเซ็นไปมาอย่างบ้าคลั่ง
“หืม?”
หนิงฝานขมวดคิ้ว ในใจรู้สึกสังหรณ์ไม่ดี!
ผู้พิทักษ์โบราณและสิ่งมีชีวิตในด่านที่สิบต่างบังเกิดคลื่นลมในใจไม่รู้จบเช่นกัน!
ปรากฏว่าในช่วงเวลาต่อมา ท่ามกลางพายุโลหิต สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาตัวหนึ่งก่อตัวขึ้นในพริบตา!
โฮก!
เมื่อเสียงคำรามดังขึ้นพายุโลหิตก็พังทลายลง ภายในนั้นมีสัตว์สีเลือดที่มีความสูงหนึ่งแสนจั้ง ร่างของมันประกอบด้วยอสูรร้ายทั้งแปดตัวที่เพิ่งตกลงมา น่าเกลียดเป็นที่สุด!
สิ่งที่น่ากลัวคือกลิ่นอายของมันนั้นเหนือกว่ากึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหกไปไกลมาก มันคือกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเจ็ด!
“กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเจ็ด!!”
สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาจากสัตว์ประหลาดสีเลือด ไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์โบราณหรือสิ่งมีชีวิตในด่านที่สิบ สีหน้าของทุกคนล้วนเปลี่ยนเป็นสยดสยอง!
ระหว่างกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดและกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหก มีเส้นแบ่งเขตขนาดใหญ่ยักษ์ในขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียน!
แม้จะเป็นเพียงความแตกต่างในระดับเดียว แต่กึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดสามารถมองว่ากึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหกเป็นเพียงมดปลวกได้อย่างสมบูรณ์!
แม้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ประเภทนี้แทบไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนในห้าสิบด่านเส้นทางราชันจักรพรรดิ แต่ตอนนี้กลับปรากฏขึ้นมาหนึ่งคน!
“กึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดงั้นหรือ?”
หนิงฝานมองไปที่สัตว์ประหลาดสีเลือดเช่นกัน แตกต่างจากผู้อื่นที่กลัวคือ เขาหมายมั่นจะเข้าไปสู้กับมันมากกว่า!
แล้วร่างลึกลับในกระแสน้ำวนก็เริ่มเป่าขลุ่ยอีกครั้ง
บึ้มฉ่า! บึ้มฉ่า!
พร้อมกับเสียงขลุ่ย ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดสีเลือดลืมตาขึ้น และเลือดสองสายก็ปะทุออกมา!
แสงโลหิตสองสายพุ่งทะลวงความว่างเปล่าในบัดดล แล้วพลังอันน่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดขึ้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหนิงฝาน!
“ป้องกัน!”
กงล้อแห่งโชคชะตาหมุนวน พลันปลายช่องทางไร้ที่สิ้นสุดก็สกัดกั้นสีเลือดที่กำลังพุ่งเข้าหา
ปัง! ปัง!
แสงสีเลือดสองเส้นระเบิดออกปลายช่องทาง บังเกิดเสียงการกระแทกสองครั้งก่อนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที ทว่าแรงผลักมหาศาลที่เกิดขึ้นยังคงทำให้หนิงฝานกระเด็นถอยหลังไปหลายร้อยจั้งในพริบตา!
“สมกับเป็นกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด โหดเหี้ยมจริง ๆ!”
หนิงฝานรักษาร่างให้มั่นคง แสงสองสายพุ่งออกมาจากดวงตาของเขา ทั่วร่างเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!
“ฆ่า!”
สิ้นเสียง หนิงฝานก็พุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดสีเลือดทันทีพร้อมกระบี่
บึ้มปัง!
ขณะที่กระบี่ต้าหลัวฟาดฟันอย่างดุดัน แสงกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวซึ่งมีความยาวหนึ่งแสนจั้งก็ฟาดฟันเข้าใส่สัตว์ประหลาดสีเลือด
“โฮก!”
สัตว์ประหลาดสีเลือดชูหัวคำรามขึ้นไปบนฟ้าอย่างโกรธเกรี้ยว แล้วทันใดนั้น แขนสีเลือดที่ราวกับสองเทือกเขาพลันรวมเข้าด้วยกัน!
เคร้ง!!
เสียงระเบิดดังตูมตาม ลำแสงกระบี่ต้าหลัวถูกหนีบไว้ระหว่างสองแขนอย่างแรง พลังอันน่าพรั่นพรึงของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดโหมซัดอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังปัง ลำแสงกระบี่ต้าหลัวก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที!
บึ้มปัง! บึ้มปัง! บึ้มปัง!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด ฝักกระบี่ต้าหลัวในมือเริ่มฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง ลำแสงกระบี่ต้าหลัวถูกส่งออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ทลายความว่างเปล่าทั้งหมด และสับฟันเข้าใส่สัตว์ประหลาดสีเลือดอย่างเดือดพล่าน!
โฮก!!
สัตว์ประหลาดสีเลือดคำรามเสียงก้อง พอร่างกายอันมหึมาของมันสั่นอย่างบ้าคลั่ง พลังสายแล้วสายเล่าก็ระเบิดพวยพุ่งออกมา อาศัยพลังของมังกรร้าย กระทิง นกไฟและอื่น ๆ สกัดกั้นลำแสงกระบี่ต้าหลัวที่ฟาดฟันเข้ามา!
ตึง! ตึง! ตึง! ตึง!
ลมหายใจต่อมา บังเกิดเสียงระเบิดอย่างรุนแรง ความว่างเปล่าทั้งหมดเต็มไปด้วยแสงหลากสี กระตุ้นพลังทำลายล้างไม่มีที่สิ้นสุด!
“ฆ่า!”
“โฮก!”
ในที่สุด ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คนนับไม่ถ้วน หนิงฝานเริ่มเข้าห้ำหั่นกับสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนั้นอย่างดุเดือด!
เพียงชั่วขณะ ความว่างเปล่าทั้งหมดนอกอาณาเขตคล้ายถูกกวนเป็นกาวเหนียว ไม่ว่าช่องว่าง ไม่ว่าเศษดวง ทั้งหมดล้วนพังทลายลงในความว่างเปล่า!
กระทั่งท้ายที่สุด ทุกคนมองไม่เห็นหนิงฝานและสัตว์ประหลาดสีเลือดอีกต่อไป เห็นเพียงแสงวาบและเสียงดังออกมาจากพลังทำลายล้างไร้ที่สิ้นสุด!
“สวรรค์!”
“น่ากลัวนัก!”
“หนิงฝานจะจัดการสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้ได้หรือไม่!”
“หากหนิงฝานพ่ายแพ้ ด่านที่สิบย่อมต้องถูกสัตว์ประหลาดสีเลือดตัวนี้เหยียบย่ำเป็นแน่!”
“…”
ยามนี้ ด่านที่สิบทั้งหมดเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอีกครั้ง!
ควับ!
ทว่าตอนนี้เอง ผู้พิทักษ์โบราณเหินลงมาจากนอกอาณาเขต เพราะเขาไม่สามารถช่วยหนิงฝานได้เลย ดังนั้นเขาจึงต้องลงมาเพื่อทำให้จิตใจของผู้คนสงบลง
“ผู้พิทักษ์โบราณเราต้องละทิ้งด่านหรือไม่?”
เมื่อเห็นผู้พิทักษ์โบราณกลับมา เหล่าผู้คุมกฎและผู้ฝึกยุทธ์พากันล้อมรอบเขาทันที
“รอเดี๋ยว!”
ผู้พิทักษ์โบราณส่ายหัว จากนั้นเหลือบมองสิ่งมีชีวิตในด่านที่สิบ พร้อมพูดว่า “ทุกท่าน สหายหนิงฝานกำลังต่อสู้เพื่อเรา เราจะละทิ้งด่านและหลบหนีได้อย่างไร จากที่ข้าคำนวณเวลา กำลังเสริมจากสภาผู้พิทักษ์จะมาถึงเร็ว ๆ นี้! อดทนไว้ก่อน!”
และเมื่อผู้พิทักษ์โบราณเอ่ยปากปลอบใจ สิ่งมีชีวิตในด่านที่สิบทั้งหมดก็ดูจะสงบลงเล็กน้อย!
บึ้ม!!
เสียงฟ้าร้องกัมปนาทดังมาจากความว่างเปล่าเหนืออาณาเขต ร่างของหนิงฝานราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ พุ่งผ่านความว่างเปล่าที่อยู่ห่างออกไปหลายพันจั้ง ก่อนจะหยุดลง!
พรวด!
ทันทีที่หนิงฝานหยุดชะงักลง เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ผู้คนที่เฝ้าดูต่างตกใจ
“แย่แล้ว!”
เห็นฉากนี้ ภายในใจของทุกคนล้วนหวาดหวั่น!
หากเขาพ่ายแพ้จะไม่มีผู้ใดในด่านที่สิบหยุดสัตว์ประหลาดสีเลือดได้อีก!
“ดูสิ!”
ลมหายใจต่อมา มีคนเปล่งเสียงอุทานขึ้น
เมื่อพวกเขาเห็นฉากที่ปรากฏขึ้นในอากาศ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง
นอกอาณาเขตนั้น ขณะที่พลังทำลายล้างอันบ้าคลั่งค่อย ๆ หายไป สัตว์ประหลาดสีเลือดก็เผยร่างของมันเช่นกัน
สัตว์ประหลาดสีเลือดในเวลานี้ดูน่าสังเวชกว่าฝั่งหนิงฝานมากนัก ทั่วร่างของมันถูกปราณกระบี่ฟาดฟันจนเป็นบาดแผลฉกรรจ์ แม้แต่กลิ่นอายกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดยังดูอ่อนแอลงมาก!
พอเห็นฉากนี้ ทุกคนถึงเข้าใจว่าหนิงฝานไม่ได้พ่ายแพ้ กลับกัน…เขาอยู่เหนือกว่า!
ทว่าเวลานี้เอง เสียงขลุ่ยพลันดังขึ้นจากกระแสน้ำวนอีกครั้ง!
สัตว์ประหลาดสีเลือดซึ่งแต่เดิมดูเฉื่อยชา ราวกับถูกฉีดยากระตุ้น แสงของเลือดพวยพุ่งขึ้นทั่วร่าง จนกระทั่งถึงจุดวิกฤต!
โฮก!
เมื่อเสียงคำรามดังขึ้น สัตว์ประหลาดสีเลือดก็ควบแน่นลูกบอลแสงสีเลือดไว้เหนือหัวของมัน แล้วลูกบอลแสงสีเลือดก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ค่อย ๆ เติมพลังทำลายล้าง!
“หึ! ตัด!”
หนิงฝานไม่กล้าประมาท เขาโคจรคัมภีร์โบราณของราชันจักรพรรดิเซียนทันที มือตวัดฟันกระบี่ต้าหลัว ก่อนจะเพิ่มพลังของสี่มหาวิถี!
บึ้ม!
ภายใต้กระบี่นี้ ความว่างเปล่าทั้งหมดที่อยู่นอกอาณาเขตพลันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกันนั้น สัตว์ประหลาดสีเลือดก็ยิงลูกบอลแสงสีเลือดพุ่งออกมาราวกับดวงดาว!
ตึง!!
ลำแสงกระบี่ต้าหลัวและลูกบอลพลังแสง ทั้งคู่ล้วนนำพาพลังทำลายล้างสวรรค์และโลก จนท้ายที่สุดก็ปะทะกันอย่างรุนแรงในความว่างเปล่า