รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 459 ชอบองุ่นเข้าแล้ว มีผู้ใดไม่ชอบองุ่นด้วยหรือ?

บทที่ 459 ชอบองุ่นเข้าแล้ว มีผู้ใดไม่ชอบองุ่นด้วยหรือ?

บทที่ 459 ชอบองุ่นเข้าแล้ว มีผู้ใดไม่ชอบองุ่นด้วยหรือ?

“ขอบคุณคุณชาย!”

ต้าเต๋อดีใจเหลือแสน ใบหน้าเล็ก ๆ ยิ้มชื่นบานประดุจดอกไม้บานสะพรั่ง เขาปล่อยมัจฉาสัตมายาในมือกลับไปในโอ่งอีกครั้ง ท่านเซียนบอกว่า ก่อนไปจะตักปลาให้เขานำกลับไปสักสามสี่ตัว

เขานึกอยู่ว่าถึงเวลาจะทอด หรือตุ๋น หรือต้มนึ่งดีนะ

เป็นเรื่องยุ่งยากจริงเชียว

‘ถึงตอนนั้น ตัวหนึ่งทอด ตัวหนึ่งตุ๋น อีกตัวต้มนึ่งก็จบแล้ว ไยต้องสับสนให้วุ่นวายด้วย!’

ต้าเต๋อคิดในใจอย่างเปรมปรีดิ์

ท่านเซียนบอกว่าจะยกให้เขาสามสี่ตัว เขาไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย เปลี่ยนวิธีปรุงได้ตามใจชอบ

บุ๋ง บุ๋ง!

จบแล้ว จบแล้ว ข้าจะโดนเณรน้อยผู้นี้พาตัวไปแล้วหรือ

ดูอย่างไรเณรน้อยผู้นี้ก็ไม่เหมือนนักบวชดี ๆ

หากเป็นนักบวชดี ๆ มันไม่จำเป็นต้องกลัว และไม่ต้องกังวล

นักบวชดี ๆ ไม่กินเนื้อ จิตใจเมตตา หลังมันถูกพาตัวไปอาจถูกปล่อยไปด้วยซ้ำ

ทว่าเณรน้อยผู้นี้ต่างออกไป กลิ่นสุราอาบทั่วกาย ขนาดตอนที่จับตัวมันไว้ยังมีน้ำลายไหลออกจากมุมปากอีกด้วย

นี่ถ้าถูกพาตัวไป มันต้องกลายเป็นกับแกล้มเหล้าอย่างแน่นอน!

มัจฉาสัตมายาร่ำไห้ คิดไม่ถึงว่ามันอยู่รอดมานานขนาดนี้ ท้ายที่สุดกลับต้องตกเป็นกับแกล้ม มิสู้ให้พี่สาวลั่วสุ่ยกินมันไปยังดีเสียกว่า!

บุ๋ง บุ๋ง~

พี่ใหญ่มีความปรารถนาใดหรือไม่

หากพวกเรามีชีวิตต่อไปได้ พวกเราจะพยายามทำให้ความปรารถนาของพี่ใหญ่ลุล่วงสุดความสามารถ

ปลาตัวอื่นในโอ่งเข้ามาล้อมมัจฉาสัตมายา บอกกับมันเช่นนี้

ความปรารถนา?

ความปรารถนาก็คือข้าไม่อยากตายอย่างไรเล่า!

มัจฉาสัตมายาจิตใจมัวหมอง หงอยเหงาเศร้าซึม ไม่มีอารมณ์สนทนากับมัจฉาตัวอื่น นอนนิ่งอยู่ก้นโอ่ง ไม่ยอมขยับเขยื้อน

“คุณชาย!”

เวลานั้น เซี่ยเหยียนมาถึง นางมีธุระต้องกลับสำนักไปรอบหนึ่ง จนบัดนี้เพิ่งได้กลับมา

มิฉะนั้น นางคงได้อยู่กับท่านเซียนเรื่อยมา

“ฮ่า ๆ มาแล้วหรือ พอดีเลย มากินเค้กกัน”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ กับเซี่ยเหยียน บอกให้พวกเซี่ยเหยียนนั่งที่ ส่วนเขากลับไปยกเค้กและโยเกิร์ตในครัวออกมาทั้งหมด

เค้กชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมาย ต่างมีลวดลายพิถีพิถันหน้าตาน่ารับประทาน ราวกับเพิ่งอบออกมา กลิ่นหอมจากเค้กขจรขจายชวนน้ำลายสอ เรียกได้ว่าครบครันทั้งรูป รส และกลิ่น ทำให้ความอยากอาหารเพิ่มพูนอยากจะกัดสักคำอย่างอดไม่ได้

เมื่อหลี่จิ่วเต้ายกออกมาแล้วก็อดไม่ได้ที่สะท้อนใจ ‘ตู้เย็น’ นี่ใช้ดีจริง ๆ ตู้เย็นบนดาวเคราะห์สีฟ้าทำไม่ได้เช่นนี้แน่ แม้ว่าเก็บรักษาอาหารได้เหมือนกัน กระนั้นได้เพียงเก็บรักษา เมื่อหยิบออกมาอีกครั้ง ทั้งหน้าตาและรสชาติล้วนห่างจากเดิมไปมาก

เขาเทโยเกิร์ตให้เซี่ยเหยียน และพวกอ้ายฉานคนละแก้ว รวมถึงต้าเต๋อด้วย

“คืนนี้เราค่อยดื่มสุรา”

เขาบอกกับต้าเต๋อยิ้ม ๆ

“ได้!”

ต้าเต๋อตอบ มองโยเกิร์ตด้วยความสงสัย นี่มันนมอันใดกันนี่

หลี่จิ่วเต้าเห็นท่าทางใคร่รู้ของต้าเต๋อจึงอธิบายให้เขาฟัง “นี่คือเครื่องดื่มชนิดหนึ่งในบ้านเกิดของข้า ปรุงจากนมวัว นมวัวมีมูลค่าสูงมาก มีประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มหาศาล ที่บ้านของข้าดื่มกันแทบทุกคน เด็ก ๆ ได้ดื่มยิ่งดี ส่วนโยเกิร์ตเป็นการปรุงแต่งนมวัวให้มีรสชาติดี น่าดื่มยิ่งขึ้น”

ปรุงจากนมวัวหรือ

ต้าเต๋อนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้

ก่อนหน้านี้ไม่นาน กระแสเทิดทูนวัวตัวเมียโหมกระหน่ำไปทั่วทุกแดนดิน ครานั้นเขาก็รู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับท่านเซียน เขาจึงให้พระสังฆราชเทิดทูนบูชาวัวตัวเมียทั้งหมดในดินแดนฝอด้วย

แต่เขาไม่รู้ว่าเหตุใดถึงต้องเทิดทูนวัวตัวเมียเหล่านี้

บัดนี้เขาได้รู้แล้ว!

เทิดทูนวัวตัวเมียก็เพื่อให้ได้ดื่มนม!

ดูท่าในตระกูลไป๋ยอดนิกายมีใครบางคนได้พบท่านเซียน และทราบมูลค่านมวัวจากท่านเซียน ถึงได้สั่งให้เทิดทูนวัวตัวเมียให้ทั่วทุกแดนดิน

เขารู้ว่ากระแสเทิดทูนวัวตัวเมียเกิดจากตระกูลไป๋ยอดนิกาย บัดนี้ได้ยินท่านเซียนเอ่ยเช่นนี้ เขาคิดตกได้ในบัดดล

‘เข้าใจแล้ว! หลังจากกลับไปต้องให้คนในดินแดนฝอดื่มด้วย! ทว่าขอให้พระภิกษุพวกนี้ดื่มนมออกจะเป็นเรื่องยุ่งยากอยู่นิดหน่อย ถึงแม้กฎในพุทธศาสนามิได้ห้ามสาวกดื่มนม กระนั้นก็มิได้ส่งเสริมให้สาวกดื่มนมเช่นกัน…’

ต้าเต๋อเอ่ยในใจ

พุทธศาสนามีกฎเคร่งครัด สาวกในศาสนาควรต้องดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำธรรมดา ไม่ส่งเสริมให้ดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่น

การที่เขาคิดอยากให้สาวกพุทธศาสนาดื่มนม ยุ่งยากอยู่จริง ๆ

“เหตุไฉนต้องสนด้วย ท่านเซียนกล่าวถึงขั้นนี้ แสดงว่านมวัวมีประโยชน์จริง! กลับไปแล้วพวกเขาดื่มก็ต้องดื่ม ไม่ดื่มก็ต้องดื่ม!”

ต้าเต๋อคิดในใจ ต้องสร้างนิสัยดื่มนมในพุทธศาสนาให้ได้ ผู้ใดไม่ดื่ม ต่อให้ต้องจับกรอกก็ต้องบังคับให้ดื่มจนได้

พุทธศาสนาจักเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ด้วยการนำของเขา!

“มาสิ ชิมรสชาติกันหน่อย!”

หลี่จิ่วเต้าเทโยเกิร์ตให้ตัวเขาเองเช่นกัน ซึ่งเป็นรสองุ่น ไม่รู้เพราะเหตุใด เขาโปรดปรานการดื่มโยเกิร์ตรสองุ่น

บางครั้งอยู่ว่าง ๆ เขายังดึงองุ่นลงมากินสักพวงสองพวงอีกด้วย

ของสิ่งนี้ยิ่งกินยิ่งติด ก่อนหน้านี้เขาไม่เห็นรู้ว่าองุ่นรสชาติดีเยี่ยงนี้ คงเพราะผลองุ่นจากต้นองุ่นที่เซี่ยเหยียนนำมาให้อร่อยเป็นพิเศษกระมัง

โยเกิร์ตมีรสชาติหอมกลมกล่อม ความหอมจากนมวัวและความหวานจากผลไม้ผสมเข้าด้วยกัน ประกอบกับผ่านกระบวนการหมักแบบพิเศษ รสชาติเปรี้ยวฉ่ำอร่อย อย่าให้พูดเลยว่าดื่มแล้วเปรมปรีดิ์เพียงใด

หลังพวกอ้ายฉานได้ดื่ม ดวงตาเล็ก ๆ ของแต่ละคนพลันเบิกกว้างในฉับพลัน อร่อย อร่อย อร่อยยิ่ง!

จากนั้น พวกเขาดื่มโยเกิร์ตในแก้วจนหมด ทั้งยังเลียโยเกิร์ตที่เหลือติดในแก้วด้วยความเสียดาย

หลังได้ดื่มโยเกิร์ต พวกเขารู้สึกถูกห่อหุ้มด้วยพลังอันอบอุ่นไปทั้งตัว เกิดผลดีกับทุก ๆ ก้าน มิหนำซ้ำแก่นกำเนิดชีวิตยังทวีคูณเป็นเท่าตัว!

เรื่องที่สร้างความตะลึงให้พวกเขาคือ ในโยเกิร์ตแฝงไว้ด้วยพลังพิเศษกระแสหนึ่ง ทำให้ความเร็วในการหลอมพลังของพวกเขาไวขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่า!

ผู้ฝึกตนดูดกลืนพลังในฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย จากนั้น หลังผ่านการฝึกฝน สามารถหลอมละลายพลังฟ้าดินเป็นพลังของตน และนี่คือกระบวนการบำเพ็ญตนของผู้ฝึกตน

บรรดาวิชาที่ใช้ในการฝึกฝนก็ส่งผลเช่นนี้

ยิ่งวิชาอยู่ในขอบเขตสูง ความเร็วในการดูดกลืนพลังฟ้าดินก็ยิ่งสูง ความเร็วในการหลอมพลังก็สูงไปด้วย

ทว่าบัดนี้ พวกเขาดูดกลืนพลังเข้าร่างได้ราวกับไม่จำเป็นต้องหลอมละลาย แค่หมุนเวียนนิดหน่อยก็กลายเป็นพลังของพวกเขาเองแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งอย่างยิ่ง บ่งบอกว่าพวกเขาสามารถบรรลุขอบเขตขึ้นไปได้ไวยิ่งขึ้น แซงผู้อื่นไปอีกไกล!

“มา กินเค้กกัน!”

หลี่จิ่วเต้าหยิบเค้กขึ้นมาหนึ่งชิ้นซึ่งเป็นรสองุ่นเช่นเดิม เขาในตอนนี้ชื่นชอบองุ่นมาก

บางครั้งเขาถึงกับคิดว่าองุ่นรสชาติดีขนาดนี้ มีผู้ใดไม่ชอบองุ่นด้วยหรือ?

อ้ายฉานและพวกเด็ก ๆ กินเก่งกันทั้งนั้น กินจนเนยเปรอะเต็มปาก นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้กินเค้ก เหมือนเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่สำหรับพวกเขา ปรุงนมด้วยวิธีนี้ได้ด้วยหรือ

อันหลานเสวี่ย และเซี่ยเหยียนเคยกินเค้กเป็นครั้งแรกเช่นกัน ไม่รู้ว่าเนยบนเค้กนุ่มลื่นปานนี้ ยามกินก็ไม่ทันระวัง มีเนยเปรอะอยู่ที่ปลายจมูก ดูแล้วแปลกไปอีกแบบ ทั้งดูดีทั้งน่ารัก

หลี่จิ่วเต้าเห็นอันหลานเสวี่ยกับเซี่ยเหยียนมีเนยเปื้อนจมูก จึงเอ่ยล้อยิ้ม ๆ “พวกเจ้าใช้ปากกินเค้ก แล้วต้องใช้จมูกกินเค้กด้วยหรือ ดูที่จมูกพวกเจ้าเปื้อนสิ”

“หา…”

“เปื้อนด้วยหรือ”

อันหลานเสวี่ยและเซี่ยเหยียนหน้าแดงในบัดดล ท่าทางเอียงอายยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่ พวกนางรีบเช็ดเนยบนปลายจมูก

อีกด้าน ลั่วสุ่ยกระโดดขึ้นไปอยู่บนโอ่ง

เจ้าปลาเอ๋ย จากนี้ไปน่ากลัวว่าคงไม่ได้พบกันแล้วกระมัง

นางมองมัจฉาสัตมายาใต้ก้นโอ่ง ทำใจจากลามิได้จริง ๆ

หลายวันมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างนางและมัจฉาสัตมายาดีขึ้นเรื่อย ๆ เห็นมัจฉาสัตมายาเป็นน้องชายจริง ๆ

นางไม่อยากให้มัจฉาสัตมายาโดนต้าเต๋อพาตัวไปเลย

นางรู้จักต้าเต๋อ รู้ว่าต้าเต๋อเป็นเณรน้อยตะกละและชอบดื่มเหล้า หลังมัจฉาสัตมายาโดนต้าเต๋อเอาไป คงได้กลายเป็นกับแกล้มให้ต้าเต๋อ

บุ๋ง บุ๋ง!

มัจฉาสัตมายาเห็นลั่วสุ่ยกระโดดขึ้นมาอยู่บนโอ่ง จึงว่ายขึ้นจากก้นโอ่ง ดวงตาเล็ก ๆ ของปลาจ้องมองลั่วสุ่ยด้วยความอาลัยอาวรณ์

มันทำใจจากลั่วสุ่ยไม่ได้เช่นกัน เห็นลั่วสุ่ยเป็นพี่สาวแท้ ๆ

อนิจจา หลังจากวันนี้ไป มันคงต้องจากลากับลั่วสุ่ยตลอดกาลแล้วกระมัง!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท