รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 462 ถ้าหากคุณชายต้องการ คุณชายก็สามารถตกปลาจากภพเซียนได้อย่างแน่นอน!

บทที่ 462 ถ้าหากคุณชายต้องการ คุณชายก็สามารถตกปลาจากภพเซียนได้อย่างแน่นอน!

บทที่ 462 ถ้าหากคุณชายต้องการ คุณชายก็สามารถตกปลาจากภพเซียนได้อย่างแน่นอน!

หลี่จิ่วเต้าพาต้าเต๋อไปข้างธารน้ำเล็ก ๆ

สายลมพัดเอื่อย อากาศกำลังดี สองฝั่งน้ำมีผู้คนจำนวนมากมาตกปลา

“สวัสดีคุณชาย!”

ตงฟางเวิ่นที่เห็นท่านเซียนมาแต่ไกลกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุโสเวิ่นเองก็ชอบตกปลาเช่นนั้นหรือ”

หลี่จิ่วเต้ายิ้ม เขามองเห็นอุปกรณ์ตกปลาของตกฟางเวิ่นที่ริมน้ำ “การตกปลานั้นยอดเยี่ยม ไม่เพียงแต่สามารถฝึกฝนสมาธิ ยังสามารถทำให้ผู้คนรู้สึกเพลิดเพลิน”

“เป็นเช่นที่คุณชายพูด!”

ตงฟางเวิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ทว่าในใจของเขากลับยิ้มเจื่อน

เขาเคยตกปลาเสียที่ไหนกัน เขานำอุปกรณ์ตกปลามาก็เพื่อแสดงการเอาอกเอาใจต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน

จะไม่ประจบเอาใจได้อย่างไร ผู้ใดให้เขาทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไปเล่า ถึงกับไปหาเรื่องต้นหลิวและเจ้าก้อนหิน เขาจึงทำเช่นนี้เพื่อชดเชยความผิดของตนเอง

“ดี เช่นนั้นผู้อาวุโสก็ตกปลาที่นี่ไปเถิด ข้าจะไปตกปลาที่อื่น”

หลี่จิ่วเต้าพาต้าเต๋าไปตรงจุดอื่น สองฝั่งแม่น้ำมีจุดให้ตกปลามากมาย ในเมื่อตงฟางเวิ่นตกปลาที่นี่แล้ว เขาจึงไปตกปลาที่อื่น

แม้ว่าเขาจะเคยชินกับการนั่งบนเจ้าก้อนหินแล้วตกปลา ทว่าเปลี่ยนสถานที่ตกปลาสักครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่ปัญหาใด

“เอ๊ะ?”

ทั้งใบหน้าของตงฟางเวิ่นเขียวคล้ำ กว่าเขาจะทันได้ตอบสนอง ท่านเซียนก็พาต้าเต๋อไปที่อื่นเสียแล้ว

บัดซบ!

ท่านเซียนไปตกปลาที่อื่นแล้ว ต้นหลิวกับเจ้าก้อนหินจะไม่ถลกหนังเขาหรอกหรือ!?

นี่…นี่…นี่!

ร่างของชายชราพลันสั่นสะท้าน ช่วงนี้เขามาหาต้นหลิวและเจ้าก้อนหินบ่อยครั้ง รู้ว่าสิ่งที่พวกมันเฝ้ารอคอยมากที่สุดก็คือช่วงเวลาที่ท่านเซียนจะมาตกปลาที่นี่

ทว่าตอนนี้ท่านเซียนมาแล้ว แต่กลับไปตกปลาที่อื่น…

เขาได้ทำผิดครั้งใหญ่หลวงไปแล้ว!

“เจ้าทำอะไรลงไป!?”

เจ้าก้อนหินตวาดออกมา น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวของมันดังขึ้นมาในจิตวิญญาณส่วนลึกของตงฟางเวิ่น!

มารดามันเถอะ!

สิ่งที่มันชื่นชอบมากที่สุดคือการเป็นที่นั่งให้ท่านเซียนระหว่างตกปลา หลายวันท่านเซียนจึงมาตกปลาสักครั้ง ทว่าคราวนี้กลับถูกตงฟางเวิ่นทำเสียเรื่อง มันโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง!

“ไอ้สารเลว ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ยกเว้นเพียงเรื่องย่ำแย่นับเป็นอันดับหนึ่ง!”

ต้นหลิวเองก็ระเบิดอารมณ์ออกมา เสียงของมันก็ดังขึ้นมาในส่วนลึกของจิตวิญญาณตงฟางเวิ่นเช่นเดียวกัน

สิ่งที่มันชื่นชอบมากที่สุดคือการเป็นร่มเงาบดบังแสงแดดและส่งสายลมอ่อนพัดให้ท่านเซียน ทำให้ท่านเซียนตกปลาได้อย่างสำราญมากยิ่งขึ้น

ทว่ากลับถูกตงฟางเวิ่นทำลายหมดแล้ว!

มันใช้กิ่งหนึ่งฟาดลงไปบนร่างของตงฟางเวิ่นเงียบ ๆ ด้วยความอารมณ์เสีย พริบตานั้นเอง ตงฟางเวิ่นก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า ความเจ็บปวดเสียดแทงไปทั่วร่าง!

ทว่าเขาก็ไม่กล้าร้องออกมา เนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนท่านเซียน

ท่านเซียนหย่อนเบ็ดเริ่มตกปลาแล้ว หากเขาไปรบกวนขัดขวางไม่ให้ท่านเซียนตกปลา ความผิดของเขาจะยิ่งร้ายแรงขึ้นไปอีก!

‘ข้าเองก็ไม่คิดว่าท่านเซียนจะไปตกปลาที่อื่น!’

ตงฟางเวิ่นร่ำร้องในใจ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ หากรู้ตั้งแต่แรก เขาคงจะรีบหอบอุปกรณ์ตกปลาไปจับปลาที่อื่นเป็นอันดับแรก

ทางด้านของหลี่จิ่วเต้าก็เริ่มลงมือตกปลาแล้ว

ต้าเต๋อที่อยู่ด้านข้างมองด้วยความตกใจ ภายในใจตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก!

เมื่อเหวี่ยงคันเบ็ดลงไปในน้ำ ต้าเต๋อก็พลันเห็นอาณาจักรนับหมื่นปรากฏขึ้นในแม่น้ำ ปลาจำนวนนับไม่ถ้วนจากอาณาจักรนับหมื่นพากันแย่งกินเหยื่อบนเบ็ด

ทว่าเบ็ดตกปลากลับไม่หยุดอยู่เพียงด้านในอาณาจักรนับหมื่น ยังคงขยายอาณาเขตไปอย่างต่อเนื่อง

‘นี่มันอาณาจักรอะไรกัน!?’

ต้าเต๋อตกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นเบ็ดตกปลาหย่อนลงไปยังอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง

อาณาจักรแห่งนี้อยู่นอกเหนือความเข้าใจของต้าเต๋อ ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยแสงสว่างไสวน่าอัศจรรย์ ราวกับเป็นประกายแสงของเต๋าเซียนงดงามพร่างพราว

นอกจากนี้ ด้านในหลายแห่งยังถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกเซียน พลังสำหรับการฝึกตนระดับสูงแล่นไปมาบนฟ้าดิน กฎแห่งสวรรค์และโลกที่หลั่งไหลออกมาสมบูรณ์และอยู่เหนือชั้น หลังจากเขาได้สัมผัสเข้าก็รู้สึกราวกับตัวเองเล็กจ้อย ขณะอยู่ต่อหน้าความกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต

เซียน…ภพเซียนหรือ!?

เขาอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าอาณาจักรแห่งนี้อาจจะเป็นภพเซียน!

หมอกเซียนลอยเวียนว่าย ประกายแห่งเซียนพร่างพราว กฎแห่งสวรรค์และโลกสมบูรณ์อยู่ระดับเหนือชั้น ราวกับเขาสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเป็นนิรันดร์ จนถึงกับตื่นตระหนก อาณาจักรแห่งนี้น่าตื่นตะลึงเกินไป!

เมื่อเทียบกับอาณาจักรแห่งนี้แล้ว อาณาจักรเก้าตอนบนนั้นไม่มีค่าพอที่จะกล่าวถึงแม้แต่น้อย

เขาเคยอ่านบันทึกเกี่ยวกับอาณาจักรเก้าตอนบนมาก่อน เกรงว่าแม้จะผนวกรวมเก้าอาณาจักรตอนบนทั้งหมด ก็ไม่อาจเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยวของอาณาจักรแห่งนี้!

“ไม่…ไม่ใช่!? นี่มันภพเซียนเทียมที่ถูกสร้างขึ้นมา?”

อีกด้านหนึ่ง ตงฟางเวิ่นเห็นอาณาจักรที่เหมือนกับภพเซียนปรากฏขึ้นก้นแม่น้ำก็ตกตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าภพเซียนเทียมในเรื่องเล่าขานมีอยู่จริง!

เขามีวิญญาณเทียนตี้ สามารถสัมผัสถึงสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่าต้าเต๋อ

ที่นั่นมีหมอกเซียนลอยเวียน ประกายแห่งเซียนพร่างพราว ทั้งยังสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันเป็นนิรันดร์อย่างคลุมเครือ ทว่าเขากระจ่างแจ้งดี ว่าที่แห่งนั้นไม่ใช่ภพเซียน!

ปลอม!

ทั้งหมดล้วนเป็นของปลอม!

สิ่งที่เรียกว่าหมอกเซียนและประกายแห่งเซียนนั้นเพียงแค่ดูเหมือน แต่แม้ว่าระดับพลังจะใกล้เคียงแค่ไหนก็ไม่ใช่พลังเซียนอย่างแท้จริง!

เซียนคือความเป็นอมตะนิรันดร์ พลังของเซียนเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของนิรันดร์ ส่วนพลังของที่แห่งนั้นแม้ว่าจะน่าตื่นตะลึงหรือหวาดกลัว ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงความเป็นนิรันดร์ แต่ทว่าเขายังคงสัมผัสได้ถึงการเสื่อมสลาย นี่ไม่ใช่นิรันดร์ที่แท้จริง แต่เป็นการดำรงอยู่ที่มีจุดสิ้นสุด

สิ่งนี้ทำให้เขานึกถึงเรื่องเล่าขานเรื่องหนึ่ง

เล่าว่าเคยมีตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดกลุ่มหนึ่งเข้าไปยังภพเซียนแต่ไร้ผลใด จึงคิดร่วมมือกันสร้าง ‘ภพเซียน’ ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายที่ความเป็นนิรันดร์ และหล่อหลอมเซียนขึ้นมา!

เขาเคยคิดว่านี่เป็นเพียงเรื่องไร้สาระ ภพเซียนจะถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร?

กระทั่งภพเซียนเทียมก็เป็นไปไม่ได้!

เพียงแค่มีคำว่า ‘เซียน’ อยู่ เรื่องทุกอย่างล้วนไม่ธรรมดา!

แต่หลังจากเขาเห็นอาณาจักรด้านล่างของแม่น้ำ เขาก็ต้องเชื่อในเรื่องเล่า!

เคยมีตัวตนที่อยู่จุดสูงสุดกลุ่มหนึ่งต้องการร่วมมือกันสร้าง ‘ภพเซียน’ ขึ้นมาจริง!

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังสามารถทำสำเร็จ แม้อาณาจักรแห่งนี้จะไม่อาจคงอยู่ชั่วนิรันดร์ แต่ใกล้เคียงความเป็นนิรันดร์จนสามารถเรียกได้ว่าภพเซียนเทียมจริง

‘เกรงว่านี่จะเป็นภพเซียนเทียมจริง ๆ!’

ตงฟางเวิ่นอดกล่าวขึ้นมาในใจไม่ได้

ทุกสิ่งที่อยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ดูอยู่เหนือระดับเกินไป หากไม่นับเรื่องที่มันไม่อาจคงอยู่ได้ชั่วนิรันดร์จริง ๆ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากภพเซียน

จากความคิดของเขาแล้ว ด้านในนั้นจะต้องมีผู้ที่บรรลุพลังถึงระดับเซียน แต่เพราะไม่สามารถเป็นอมตะนิรันดร์ได้อย่างแท้จริง จึงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นเซียนที่แท้จริง เป็นได้เพียงเซียนเทียมเท่านั้น

อย่างไรเสียในสายตาของผู้คนแล้ว เซียนไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนของพลังอันน่าหวาดเกรงเท่านั้น แต่เซียนยังเป็นตัวแทนของความอมตะนิรันดร์

เฉพาะผู้ที่สามารถบรรลุความเป็นอมตะนิรันดร์เท่านั้น จึงจะสามารถเรียกขานว่าเป็นเซียน!

‘คุณชายทรงพลังยิ่งนัก เกรงว่าจะห่างไกลจาก ‘เซียน’ ธรรมดา ข้ารู้สึกว่าคุณชายสามารถใช้เพียงเบ็ดคันเดียวตกปลาจากภพเซียนได้’

ตงฟางเวิ่นมองไปยังร่างของคุณชายที่กำลังตกปลาอยู่ ก่อนกล่าวขึ้นมาในใจด้วยความตื่นเต้น

เขาเลื่อมใสศรัทธาคุณชายเป็นอย่างมากจากใจจริง

แม้ภพเซียนเทียมจะใกล้เคียงกับภพเซียนจริงเป็นอย่างมาก ทว่าต่อหน้าคุณชายก็ยังไม่อาจนับเป็นสิ่งใด คุณชายใช้เบ็ดตกปลาเพียงคันเดียวหย่อนลงไปก็หยั่งถึง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสามารถของคุณชายต้องก้าวไปไกลเกินขีดสุดจนไม่อาจจินตนาการถึงได้!

ถ้าคุณชายต้องการ เขาก็รู้สึกว่าคุณชายสามารตกปลาจากภพเซียนที่แท้จริงได้!

ความแข็งแกร่งของท่านเซียน น่าจะห่างไกลคนละชั้นกับเซียน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท