ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 479 สถานการณ์(ปลาย)

ตอนที่ 479 สถานการณ์(ปลาย)

​ซื่อ​เหนียง​เข้าใจ​สถานการณ์​ ​เมื่อ​เห็น​ดังนั้น​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​“​ข้า​จะ​ไปดู​พี่เขย​สี่​ของ​พวก​เจ้า​สักหน่อย​ ​ไม่รู้​ว่า​ดื่ม​จน​เมา​อีกแล้ว​หรือไม่​”​ ​พูด​พลาง​ลง​จาก​เตียง​นั่ง

​สือ​อี​เหนียง​จะ​ปล่อย​ให้​ซื่อ​เหนียง​ที่ตั้ง​ครรภ์​เป็น​คน​หลบ​ออก​ไป​ข้างนอก​ได้​อย่างไร

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​พัก​อยู่​ที่นี่​เถิด​!​ ​หาก​ท่าน​เป็นห่วง​พี่เขย​สี่​ ​ข้า​จะ​ให้​หู่​พั่ว​ไปดู​ให้​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ข้า​กับ​พี่​หญิง​ห้า​จะ​ไปดู​ความ​คึก​ครื้น​สักหน่อย​แล้ว​จะ​รีบ​กลับมา​”

​ซื่อ​เหนียง​จึง​ไม่ได้​เกรงใจ​พวก​นาง​ ​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​มองดู​พวก​นาง​ออก​ไป

​อู่​เหนียง​ลาก​สือ​อี​เหนียง​ไป​ที่​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ด้าน​ข้าง​ที่​ไม่มี​คน

​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ทำไม​พี่ใหญ่​ถึง​ไม่​มา​”​ ​นาง​ถาม​อย่างตรงไปตรงมา

​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​ตอนที่​คุณนาย​สี่​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​ไม่​พูด​ออกมา​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​หลัว​เจิ​้น​เซิง​เป็น​น้องชาย​ท้อง​เดียวกัน​กับ​อู่​เหนียง​…​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ได้ยิน​เพียง​พี่สะใภ้​สี่​บอกว่า​พี่ใหญ่​มีเรื่อง​ต้อง​จัดการ​”

​อู่​เหนียง​ยิ้มเยาะ​ ​“​ข้า​จะ​บอก​เจ้า​ให้​!​ ​พี่ใหญ่​ไป​จัดการ​กิจการ​ที่ฝู​เจี​้​ยน​แล้ว​!​”

ฝู​เจี​้​ยน​!

​สือ​อี​เหนียง​ใจเต้น​กระหน่ำ

​อู่​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ตอนที่​ท่าน​พ่อ​ดำรงตำแหน่ง​ ​ท่าน​แม่​เคย​ร่วม​ทำไร่​ชากับ​คนอื่น​ ​ต่อมา​ท่าน​พ่อ​ออกจาก​ตำแหน่ง​ ​กิจการ​ไร่​ชา​เลย​ย่ำแย่​ลง​ ​คนที​่​ร่วม​ทำ​กิจการ​ด้วย​ต้องการ​เลิก​เป็น​หุ้นส่วน​กับ​ท่าน​พ่อ​ ​เป็น​เพราะ​เจ้า​แต่ง​เข้า​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ทุกๆ​ ​อย่าง​จึง​ได้ดี​ขึ้น​อย่าง​ช้าๆ​ ​ตอนนี้ฝู​เจี​้​ยน​กำลัง​วุ่นวาย​ ​แม้ว่า​ไร่​ชา​จะ​ดีขึ้น​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ดี​เหมือน​เมื่อก่อน​ ​ท่าน​พ่อ​จึง​อยาก​จะ​ขาย​ไร่​ชา​ให้​กับ​หุ้นส่วน​ ​มิเช่นนั้น​พอน​้​อง​หญิง​สิบสอง​แต่งงาน​จะ​มีสิน​สอด​ทองหมั้น​มากมาย​ขนาด​นี้​ได้​อย่างไร​”

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ตกใจ​ ​พูด​อย่าง​คลุมเครือ​ว่า​ ​“ฝู​เจี​้​ยน​อยู่​ไกล​เกินไป​ ​ขาย​ไร่​ชา​ไป​ก็ดี​เช่นกัน​”

​อู่​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ตา​เป็นประกาย​เล็กน้อย​ ​“​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ไร่​ชา​ราคา​ทั้งหมด​กี่​ตำลึง​”

​เสียง​ระฆัง​เตือนภัย​ใน​ใจ​สือ​อี​เหนียง​ดัง​ขึ้น​ ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ไม่ว่า​จะ​ขาย​ไป​กี่​ตำลึง​ ​ก็​ถือเป็น​ทรัพย์สิน​ของ​ครอบครัว​ ​เกี่ยว​อะไร​กับ​พวกเรา​ด้วย​”

​“​เจ้า​โง่​หรือ​อย่างไร​!​”​ ​อู่​เหนียง​กระซิบ​ว่า​ ​“​น้อง​หญิง​สิบสอง​ออกเรือน​ด้วย​สินสอดทองหมั้น​ห้า​พัน​ตำลึง​ ​แล้ว​ตอนที่​พวกเรา​ออกเรือน​ค่า​สินสอดทองหมั้น​เท่าไร​กัน​ ​ตอนนั้น​ท่าน​แม่​ก็​บอก​ไม่ใช่​หรือว่า​แต่ง​บุตรสาว​ติดต่อกัน​สาม​คน​ค่อนข้าง​ขัดสน​เกินไป​ ​ตอนนี้​ใน​จวน​มีเงิน​แล้ว​ ​อย่างน้อย​ก็​ควรจะ​ชดเชย​ให้​พวกเรา​จึง​จะ​ถูก​!​”

​“​ชดเชย​สินสอด​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​อู่​เหนียง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​อู่​เหนียง​พูด​อย่างมั่นใจ​ว่า​ ​“​ข้า​ไป​ตรวจสอบ​ดูแล​้ว​ ​เมื่อก่อน​ก็​มีตั​วอ​ย่าง​เช่นนี้​ ​หาก​สกุล​เดิม​ร่ำรวย​แล้วก็​จะ​ให้เงิน​ชดเชย​สินสอดทองหมั้น​แก่​บุตรสาว​ที่​แต่งงาน​แล้ว​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้มเยาะ​อยู่​ใน​ใจ

ที่นา​งดึ​งดั​นที​่​จะ​พาต​นอ​อก​มา​พูด​ตรงนี้​ ​ก็​เพียง​เพื่อ​ต้องการ​จะ​ยืม​ชื่อ​ของ​ตน​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ได้​ยื่น​เงื่อนไข​กับ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​เท่านั้น​!

​“​ข้าว​่า​เรื่อง​นี้​พี่​หญิง​ห้า​ไป​พูดคุย​กับ​พี่ใหญ่​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ตอนที่​ข้า​ออกเรือน​ก็​เป็น​ท่าน​แม่​ที่​ออก​ค่า​สินสอด​ให้​ ​พวก​ท่าน​ใคร​จะ​ไป​เอา​เงินชดเชย​ก็ได้​ทั้งนั้น​ ​แต่​หาก​ข้า​ไป​จะ​ไม่​ค่อย​สมเหตุสมผล​เท่าไร​”​ ​ไม่​อยาก​จะ​พูด​กับ​นาง​มากเกินไป​ ​เดิน​ไป​เปิด​ประตู​เก๋อ​ซ่าน​ ​“​ไม่รู้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ถือ​บัญชี​ ​วันนี้​มีอั​่ง​เปา​ให้​ถือ​แล้ว​”​ ​พูด​จบ​ไม่ทัน​รอ​ให้​อู่​เหนียง​แสดงท่าที​ใดๆ​ ​ก็​เดิน​ตรง​ออก​นอก​ประตู​ไป​แล้ว

​******

​วัน​ต่อมา​เป็น​วันทา​งการ​ของ​พิธีแต่งงาน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​ปล่อย​จิ​่น​เกอ​ไว้​ที่​เรือน​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต่าง​ก็ตาม​ไป​ดื่ม​สุรา​มงคล​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​เฉิง​เกอ​กับ​ลี่​เกอ​จวน​ซื่อ​เหนียง​ก็​มากัน​หมด​ ​ปีนี​้​อวี​๋​เฉิง​อายุ​สิบ​สาม​ปี​ ​ส่วน​อวี​๋​ลี่​อายุ​สิบเอ็ด​ปี​ ​อวี​๋​เฉิง​โตก​ว่า​เล็กน้อย​ ​ค่อนข้าง​สุขุม​ ​อวี​๋​ลี่​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยส​นิท​กัน​อย่างรวดเร็ว​ ​เมื่อ​กลับ​จาก​พิธีแต่งงาน​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​ยัง​นึกถึง​อวี​๋​ลี่​ ​ถาม​ว่า​สามารถ​ไป​เล่น​ที่​จวน​ซื่อ​เหนียง​ได้​หรือไม่

​“​หลังจาก​ทาน​โจ๊ก​ล่า​ปาก​็​จะ​ตรุษจีน​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​โน้มน้าว​ว่า​ ​“​หาก​พวก​เจ้า​ไป​ตอนนี้​ ​ทุกคน​ใน​จวน​ก็​จะ​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เตรียม​ฉลอง​ตรุษจีน​แล้วก็​ยัง​ต้อง​มาต​้อ​นรับ​พวก​เจ้า​อีก​ ​จะ​ไม่​เป็นการ​รบกวน​คนอื่น​หรือ​ ​ข้าว​่า​ไม่​สู้​รอ​ให้​ตรุษจีน​ผ่าน​ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​จะ​ดีกว่า​”

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​อย่าง​ไม่เต็มใจ​

​มีสาว​ใช้​น้อย​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คนที​่​ส่ง​ไปลั​่ว​เย​่ว​์​กลับมา​รายงาน​ว่า​คุณชาย​น้อย​สอง​เตรียม​จะ​กลับ​จวน​ใน​ตอนเช้า​ของ​วันที่​ยี่สิบ​สี่​เจ้าค่ะ​”

​ใกล้​จะ​ตรุษจีน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​คน​ไปรั​บส​วี​ซื่อ​อวี​้

​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​ให้​หู่​พั่ว​ไปดู​เรือน​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​อาศัย​อยู่​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ให้​พวกเขา​เผา​เตา​ ​เตรียม​ของ​ทุกอย่าง​ให้พร​้​อม​ ​อะไร​ที่​ควร​เพิ่ม​ก็​เพิ่ม​ ​อะไร​ที่​ควร​เปลี่ยน​ก็​เปลี่ยน​”

​หู่​พั่ว​ยิ้ม​พลาง​รับคำ​ ​หมอ​หลวง​หลิว​ก็​มา​พอดี

​“ฮู​หยิน​ฟื้นตัว​ได้​เร็ว​มาก​”​ ​หลังจาก​ฝังเข็ม​แล้ว​เขา​ก็​รีบ​ถอย​ออก​ไปนอก​มุ้ง​ ​“​ต่อไปนี้​ผู้น้อย​จะ​มา​ฝังเข็ม​ให้ฮู​หยิน​ทุกๆ​ ​สิบ​ถึง​สิบห้า​วัน​ก็​พอแล้ว​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถาม​ขึ้น​เพื่อ​ความ​ชัดเจน​ ​“​สรุป​แล้ว​สิบ​วัน​หรือ​สิบห้า​วัน​กัน​แน่​”​ ​พูด​จบ​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ ​“​ข้าว​่า​หาก​ข้า​เลือก​สิบ​วัน​ก็​ถูก​ ​หาก​เลือก​สิบห้า​วัน​เกรง​ว่า​ก็​ไม่ผิด​!​”

​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สิ่ง​ที่​หมอ​หลวง​หลิว​พูด​ตอน​มาตร​วจ​ดู​อาการ​นาง​ครั้งแรก​ ​“​ทาง​ที่​ดี​ควรจะ​พักผ่อน​เจ็ด​ถึง​แปด​วัน​ ​แต่​ถ้าหาก​สามารถ​พักผ่อน​ได้​สิบ​วัน​ถึง​ครึ่ง​เดือน​ก็​จะ​ยิ่ง​ดี​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ก็​ควรจะ​พักผ่อน​สัก​สี่​ถึง​ห้าวัน​”​ ​เมื่อ​คิดได้​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ออกมา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​นาง​ที่​กำลัง​สวม​เสื้อ​อยู่​ใน​มุ้ง

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ก้มหน้า​ลง

​หมอ​หลวง​หลิว​พูด​อย่างลำบาก​ใจ​ว่า​ ​“​ต่อไปนี้ฮู​หยิน​ควร​ดื่ม​ยา​เป็นหลัก​ ​ฝังเข็ม​เป็นรอง​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​เคร่งเครียด​กับ​สิ่ง​เหล่านี้​แล้ว​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออกมา​ส่ง​หมอ​หลวง​หลิว​ ​เมื่อ​กลับมา​ ​มุ้ง​อีก​ครึ่งหนึ่ง​ยัง​ไม่ได้​ม้วน​ขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ห่ม​ผ้า​แล้ว​นอนหลับ​ ​ใบหน้า​สีขาว​ของ​นาง​มีสี​ชมพู​จางๆ​ ​ดู​งดงาม​ราวกับ​ดอกบัว​ก็​ไม่​ปาน

​“​นับวัน​ยิ่ง​กล้า​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​!​”​ ​เขา​บ่นพึมพำ​พลาง​ลูบ​หน้าผาก​นาง

​เมื่อ​การ​นอน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ถูก​รบกวน​ ​นาง​จึง​ส่งเสียง​ ​“อื​้ม​”​ ​แล้ว​ขมวดคิ้ว​พลาง​เอียง​หน้า​หนี​ราวกับว่า​ต้องการ​หลบ​มือ​ของ​เขา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​เอา​มือ​ออก​ ​ช่วย​ดึง​ผ้าห่ม​ให้​นาง​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​เดิน​ออก​ไป​ทันที​ ​นั่ง​อยู่​เงียบๆ​ ​ครู่หนึ่ง​ ​โน้มตัว​ลงมา​จูบ​ริมฝีปาก​ที่​ไร้​สีชาด​ทาปาก​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​ก่อน​จะ​ลุกขึ้น​แล้วไป​ที่​เรือน​นอก

​สือ​อี​เหนียง​ลืมตา​ขึ้น​มา​ ​มอง​ไป​ที่​อิฐ​หิน​สีเขียว​ที่​ถูก​ขัดเงา​เหมือน​กระจก​ด้วย​ความ​งุนงง​แล้ว​เหม่อลอย

​******

​ใกล้​จะ​ถึง​กลางเดือน​สิบสอง​แล้ว​ ​บรรดา​ผู้ดูแล​หญิง​ ​สาวใช้​ ​และ​ป้า​รับใช้​ต่าง​ก็​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ปัดกวาด​เช็ดถู​ ​แปะ​คำ​อวยพร​ ​และ​จัด​ของ​ตกแต่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​สาละวน​อยู่​กับ​การ​เตรียม​เครื่องแต่งกาย​สำหรับ​เทศกาล​ตรุษจีน​ ​วันที่​สามสิบ​จะ​ต้อง​ทานอาหาร​ร่วมกัน​ใน​ครอบครัว​ ​วันที่​หนึ่ง​เดือน​หนึ่ง​จะ​ต้อง​เข้า​วัง​ไป​ถวายพระพร​ ​วันที่​ห้า​ถึง​วันที่​สิบห้า​จะ​ต้องตาม​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​อวยพร​ตรุษจีน​ที่​จวน​ต่างๆ​…

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มานั​่​งบน​เตียง​นั่ง​ ​เอาแต่​พูดว่า​ ​“​ชุด​สีแดง​ตัว​นี้​สวยงาม​มาก​”​ ​หรือไม่ก็​ ​“​ข้าว​่า​สวม​ชุด​สีม่วง​จะ​ดีกว่า​ ​สีม่วง​ทำให้​ดู​สง่างาม​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เหนื่อยล้า​จึง​หย่อน​กาย​นั่งลง​จิบ​ชาร้อน​ตรงข้าม​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​“​เมื่อก่อน​ตั้งตารอ​วัน​ตรุษจีน​และ​ซองอั​่ง​เปา​ ​จากนั้น​ก็​จะ​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​ห่อ​แล้ว​เก็บ​ใส่​หีบ​ ​ใน​ใจ​ก็​จะ​รู้สึก​สงบ​มากขึ้น​”​ ​ขณะที่​พูด​นาง​ก็​รู้สึก​ตกตะลึง​เอง

ช่วงนี้​ความทรงจำ​ตอนที่​อยู่​อวี​๋​หัง​เริ่ม​ชัดเจน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แต่​ความทรงจำ​ของ​ชาติที่แล้ว​ดูเหมือน​จะ​เริ่ม​เลือนลาง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

สักวันหนึ่ง​ความทรงจำ​ใน​ชาติที่แล้ว​จะ​กลายเป็น​เงา​อัน​มืดมิด​หรือไม่

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​“​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​ท่าน​แม่​กับ​อี๋​เหนียง​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดี​ต่อกัน​มาก​ที่สุด​ ​อี๋​เหนียง​เอง​ก็​เคย​พูด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​ ​บอกว่า​พอ​เอา​ตั๋วเงิน​วาง​ไว้​ใต้​หมอน​ก็​จะ​ทำให้​นอนหลับ​ได้​อย่าง​จิตใจ​สงบ​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​ห้าม​ไม่​ให้​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ไปมาหาสู่​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ทั้งสอง​คน​ค่อยๆ​ ​พูดคุย​กัน​สอง​สาม​ประโยค

​เมื่อ​นาง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​หยุด​ความคิด​แล้ว​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มาจาก​อ้อมแขน​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ดวงตา​กลม​โตสี​ดำ​เข้ม​ของ​บุตรชาย​มอง​มาที​่​นาง​โดย​ไม่​กระพริบตา​ ​นาง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​บุตรชาย​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ทำไม​เจ้า​ยัง​ไม่​หลับ​อีก​ ​หรือว่า​จะ​แอบ​ฟัง​แม่​กับ​พี่​หญิง​คุย​กัน​”​ ​พูด​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ก็​เห็น​รอยยิ้ม​น้อย​ๆ​ ​บน​ใบหน้า​ของ​จิ​่น​เกอ

​“​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เจ้า​ดู​สิ​ ​เจ้า​ดู​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​ตื่นเต้น​ ​“​เขา​รู้จัก​ยิ้ม​แล้ว​!​”

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ขยับ​เข้าไป​ ​รอยยิ้ม​ของ​จิ​่น​เกอ​ได้​หาย​ไป​แล้ว​ ​เขา​พยายาม​จะ​ยก​แขน​ขึ้น​มา​ ​อยาก​จะ​เอา​กำปั้น​น้อย​ๆ​ ​สีขาว​ใส่​เข้าไป​ใน​ปาก

​เพียงเท่านี้​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​ว่า​บุตรชาย​ของ​นาง​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก

​นาง​ลูบ​ศีรษะ​บุตรชาย​ ​สวม​หมวก​ใบ​เล็ก​ที่​ทำ​จาก​ผ้าเช็ดหน้า​ให้​เขา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เมื่อวาน​ข้าวาง​เขา​ไว้​บน​เตียง​นั่ง​เพื่อ​จะ​แต่งตัว​ให้​เขา​ ​เขา​กลับ​ยก​หัว​ขึ้น​เหมือน​จะ​ลุกขึ้น​มา​ ​พอ​ข้า​ไม่​อุ้ม​เขา​ขึ้น​มา​เขา​ก็​ร้องไห้​ใหญ่​เลย​ ​เพียง​นิดเดียว​ก็​ทน​ไม่ได้​ ​อารมณ์ร้อน​เสีย​จริง​”

​“​น้อง​หก​ไม่​ชอบ​นอน​อยู่​เฉยๆ​ ​เจ้าค่ะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​ ​“​เขา​ชอบ​ให้​คน​อุ้ม​พา​ไป​เดิน​ดูร​อบ​ๆ​”

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​สังเกตเห็น​เช่นกัน​ ​“​ไม่ได้​บอกว่า​ต้อง​ผ่าน​ไป​หนึ่งร้อย​วันก่อน​ศีรษะ​ของ​เด็ก​จะ​สามารถ​ตั้ง​ได้​หรือ​ ​เหตุใด​เขา​ถึง​ตั้ง​ศีรษะ​ได้​เร็ว​เช่นนี้​!​”

​ ​“​ถาม​ป้า​เถี​ยน​ดูดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ไม่รู้​จึง​ช่วย​ออก​ความคิดเห็น​ให้​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​กำลังจะ​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​เรียก​ป้า​เถี​ยน​เข้ามา​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​รายงาน​ผ่าน​ผ้าม่าน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​กลับมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

พึ่ง​จะ​เลย​กลางวัน​มาค​รู่​เดียว​เอง​ ​นาง​คิด​ว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​จะ​มาถึง​ตอนบ่าย​หรือไม่ก็​พลบค่ำ​เสียอีก

“​รีบ​เชิญ​เข้ามา​เร็ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ลง​จาก​เตียง​นั่ง

​สวี​ซื่อ​อวี​้​สวม​ชุด​ผ้าไหม​หังโจว​สีเขียว​ทะเลสาบ​เดิน​เข้ามา

​เมื่อ​เทียบ​กับ​ครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ ​เขา​ไม่ได้​สูง​ขึ้น​ ​แต่​ร่างกาย​ของ​เขา​ดูกำ​ยำ​ขึ้น​ ​ยิ่ง​หล่อเหลา​และสง่า​งาม

​“​ท่าน​แม่​”​ ​เขา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​อย่างนอบน้อม​ ​ยิ้ม​พลาง​เรียก​ ​“​น้อง​หญิง​ใหญ่​”​ ​ก่อนที่​สายตา​จะ​ไป​หยุด​อยู่​ที่​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สือ​อี​เหนียง

​“​ได้รับ​ ​‘​พระอรหันต์​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม​’​ ​ของ​เจ้า​แล้ว​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ยัง​ไม่เคย​ได้​พบ​เขา​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ดู​ ​“​นี่​คือ​น้อง​หก​ของ​เจ้า​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​พลาง​สำรวจ​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​“​น้อง​หก​กับ​น้อง​ห้ามี​ดวงตา​หงส์​เหมือนกัน​เลย​ขอรับ​”​

​จิ​่น​เกอ​เบิกตา​โต​ ​รูปร่าง​ดวงตา​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​ขึ้น

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่​บอกว่า​เหมือน​ตัวเอง​ ​และ​ไม่เคย​ยกยอ​ตัวเอง

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​เขา​เป็น​คน​คิด​เยอะ​ ​จึง​ไม่ได้​ฝืนใจ​เขา​ ​ยิ้ม​พลาง​มอง​บุตรชาย​ ​“​ข้า​ก็​ว่า​ดวงตา​ค่อนข้าง​เหมือน​เจี​้ย​เกอ​อยู่​บ้าง​”​ ​ทันทีที่​พูด​จบ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​มา​พอดี

​หลังจาก​ผ่าน​เทศกาล​ล่า​ปา​ไป​อาจารย์​จ้าว​ก็​หยุด​สอน​แล้ว​กลับบ้าน​เกิด​ ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จึง​ได้​หยุด​เรียน​ ​ทุกวัน​ตอนเช้า​หลังจากที่​ทั้งสอง​คน​ฝึก​เขียน​ตัวอักษร​ที่​เรือน​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​ ​ก็​จะ​มาหา​จิ​่น​เกอ​ที่​เรือน​สือ​อี​เหนียง​ ​หาก​จิ​่น​เกอ​หลับ​อยู่​ ​พวกเขา​ก็​จะ​กลับ​ไป​นอน​กลางวัน​ที่​เรือน​แล้ว​ค่อย​มา​ใหม่​ ​หาก​จิ​่น​เกอ​ตื่น​อยู่​พวกเขา​ก็​จะ​หยอกล้อ​กับ​จิ​่น​เกอ​สักพัก

​เมื่อ​เห็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สอง​คน​พี่น้อง​ก็​รีบ​เข้ามา​คำนับ​ ​แอบ​เก็บอาการ​ดีใจ​ไว้​เล็กน้อย

​สวี​ซื่อ​อวี​้​คำนับ​ตอบ​ ​ถาม​ทั้งสอง​คน​ด้วย​น้ำเสียง​อบอุ่น​ว่า​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​อาจารย์​จ้าว​กลับบ้าน​เกิด​แล้ว​ให้การ​บ้าน​พวก​เจ้า​ไว้​มากมาย​หรือ​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ตอบ​ ​“​ใช่​แล้ว​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​บอกว่า​จะ​เปิดเรียน​หลังจาก​ผ่าน​เทศกาล​โคมไฟ​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ตรวจการ​บ้าน​ ​หาก​ทำไม​่​เสร็จ​จะ​ต้อง​ปลูก​ต้นไม้​ใน​สวน​สิบ​ต้น​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​เขา​ก็​มีท​่า​ที​ภาคภูมิใจ​เล็กน้อย​ ​“​ข้า​กับ​น้อง​ห้า​ทำการบ้าน​ใกล้​จะ​เสร็จ​แล้ว​ ​เหลือ​เพียง​ตัวอักษร​หนึ่งร้อย​หน้าที่​ยัง​ไม่ได้​เขียน​เท่านั้นเอง​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยืน​พยักหน้า​อยู่​ข้างๆ​ ​ราวกับ​จะ​ยืนยัน​ว่า​เป็น​อย่างที่​สวี​ซื่อ​จุน​พูด​ไม่มี​ผิด

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​บาง

​สวี​ซื่อ​เจี้ยวิ​่ง​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​แม่​ ​ข้า​กับ​พี่​สี่​นำ​ของดี​มา​ให้​น้อง​หก​ด้วย​ขอรับ​”​ ​เขา​พูด​พลาง​จับมือ​อ้วนท้วม​ของ​จิ​่น​เกอ

​สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​หยุด​เขา​ ​แต่กลับ​มอง​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เอา​อะไร​มา​หรือ​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เห็น​ดังนั้น​แววตา​ก็​เผย​ให้​เห็น​ความประหลาดใจ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​ว่า​สวี​ซื่อ​จุน​นำ​ของเล่น​ไก่​จิก​ข้าวสาร​ออกมา​จาก​เสื้อ​พลาง​พูดว่า​ ​“​น้อง​หก​ ​เจ้า​ดู​สิว​่า​นี่​คือ​อะไร​”​ ​พลาง​เล่น​ให้​ดู​เป็นตัว​อย่าง

​จิ​่น​เกอ​ถูก​ดึงดูด​ด้วย​เสียง​ไก่​จิก​ข้าว​ ​เขา​ส่งเสียง​ ​“​อา​”​ ​ให้​สวี​ซื่อ​จุน

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท