เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 473 เรื่องตลกร้าย หนิงเซ่าชิงถูกลวนลาม (6)

ตอนที่ 473 เรื่องตลกร้าย หนิงเซ่าชิงถูกลวนลาม (6)

ตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยกับถงจื่อจิ้งมาถึงอี้ผิ่นเซวียน ก็เห็นว่ามีคนเข้าๆ ออกๆ มากมาย ดูออกเลยว่ากิจการดีมาก

มั่วเชียนเสวี่ยเข้าไปเดินดูรอบหนึ่ง และสั่งให้คนขนย้ายรากไม้แกะสลักอะไรพวกนั้นลงจากรถม้า

จากนั้นมั่วเชียนเสวี่ยก็นำรากไม้แกะสลักเหล่านี้เข้าไปในอี้ผิ่นเซวียนกับถงจื่อจิ้งสองคนอีกครั้ง

ท่าทางมีอิทธิพลยิ่งใหญ่เช่นนี้ คนที่ไม่เข้าใจเรื่องราว ก็นึกว่าจะมาก่อเรื่องวุ่นวาย!

อย่างไรเสีย อี้ผิ่นเซวียนก็ขายรากไม้แกะสลัก ส่วนมั่วเชียนเสวี่ยถึงกับยกรากไม้แกะสลักที่แกะสลักเรียบร้อยแล้วเข้ามากองหนึ่งอย่างเอิกเกริก นี่เป็นการยั่วยุผู้อื่นอย่างไม่ต้องสงสัย!

ความจริงแล้วพวกเขาล้วนคิดผิด ที่มั่วเชียนเสวี่ยทำแบบนี้ ก็แค่อยากเพิ่มชื่อเสียงให้อี้ผิ่นเซวียนเล็กน้อยเท่านั้นเอง

ตอนที่เพิ่งจะเข้ามา นางได้พิจารณามองรากไม้แกะสลักในร้านไปรอบหนึ่งแล้ว

แม้จะไม่นับว่าเป็นสินค้าที่มีตำหนิ แต่ก็ไม่ใช่ของดีอะไร รากไม้แกะสลักพวกนั้น พอจะมองออกถึงรูปลักษณ์คร่าวๆ ได้เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่ย่อมไม่สามารถเทียบกับชิ้นงานที่นางยกเข้ามาพวกนี้ได้

และโรงงานแกะสลักที่หมู่บ้านหวังจยาของนางก็ได้ส่งสินค้าให้กับซินอี้หมิงเช่นกัน น่าจะมีสินค้าที่ดีกว่านี้ถึงจะถูก เมื่อคิดดูแล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็พยักหน้าพอเข้าใจ ซินอี้หมิงผู้นี้ทำการค้าอย่างมีแบบแผน ของดีล้วนไม่วางไว้ข้างนอก เพราะมีจำนวนน้อย จึงต้องสั่งจองล่วงหน้า

เช่นนี้ ทำการประชาสัมพันธ์ให้กับเขาก็ไม่เป็นไร

แน่นอนว่ารากไม้แกะสลักในมือมั่วเชียนเสวี่ยพวกนี้ แม้ว่าเทคนิคการแกะสลักจะไม่ได้เยี่ยมยอด

แต่กลับสร้างขึ้นมาภายใต้การชี้แนะอย่างทุ่มเทของนาง ไม่ใช่สินค้าชั้นหนึ่ง แต่ก็ดีกว่าของที่อี้ผิ่นเซวียนวางไว้ข้างนอกพวกนั้นหลายระดับ!

จากสายตาเป็นประกายของลูกค้ารอบๆ เหล่านี้ ก็สามารถรู้ได้บ้าง

“ใครมาก่อเรื่องที่อี้ผิ่นเซวียน”

นับตั้งแต่โบราณกาล ประโยคแรกในการเปิดบทสนทนาล้วนเป็นประโยคนี้ตลอดกาล

มั่วเชียนเสวี่ยเบนสายตามองไปยังร่างคนที่เอ่ยวาจา

ดูลักษณะแล้ว น่าจะเป็นหลงจู๊ของอี้ผิ่นเซวียน สวมอาภรณ์ประณีตเรียบร้อย และมีความฉลาดหลักแหลมของคนทำการค้า

“ท่านคือหลงจู๊ของอี้ผิ่นเซวียนแห่งนี้?”

“ข้าน้อยเองขอรับ! ไม่ทราบว่าแม่นางเป็นคุณหนูตระกูลใด มาทำอันใดที่ร้านขอรับ”

หลงจู๊พิจารณามองมั่วเชียนเสวี่ยแวบหนึ่งอย่างรอบคอบ ใบหน้าไม่คุ้นไม่รู้จัก จากนั้นก็เบนสายตาไปยังรากไม้แกะสลักที่อยู่ด้านหลังนางกองหนึ่ง นัยน์ตาพลันเปล่งประกายขึ้นมา!

รากไม้แกะสลักพวกนี้ล้วนเป็นของชั้นหนึ่ง!

อี้ผิ่นเซวียนของเขาเป็นร้านที่ขายรากไม้แกะสลักที่ดีที่สุดในเมืองหลวงแล้ว

ชิ้นงานรากไม้แกะสลักที่ดีล้วนสินค้าขาดแคลนมาตลอด

ถ้าสามารถเหมาชิ้นงานแกะสลักที่คุณหนูท่านนี้นำมาทั้งหมดได้ สร้างความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนกัน ก็จะเป็นความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง

มั่วเชียนเสวี่ยย่อมเห็นสายตาเป็นประกายของหลงจู๊ผู้นี้ จึงยิ้มบางๆ

“ข้าแซ่มั่ว นับว่าเป็นสหายกับเจ้าของร้านพวกท่าน” เอ่ยฐานะของตนเองออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และไม่อยากให้ในภายหน้าสองฝ่ายเกิดความเข้าใจผิดอันใด

แซ่มั่ว?

ตอนที่หลงจู๊ได้ยินชื่อตระกูล ก็ประหลาดใจเล็กน้อย

ชื่อตระกูลนี้คุ้นเคยมาก แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหนไปชั่วขณะ

อีกทั้งสตรีนางนี้ยังรู้จักเจ้าของร้านของพวกเขาด้วย…

“อ๊ะ!” หลงจู๊เข้าใจขึ้นมาทันที!

ถามด้วยน้ำเสียงที่ลดเบาลงมาก แต่กลับไม่ขาดความเคารพนบนอบ “ขออนุญาตถาม แม่นางท่านนี้คือมั่วเชียนเสวี่ย คุณหนูใหญ่มั่วของจวนมั่วกั๋วกง?”

มั่วเชียนเสวี่ยได้ยินก็เลิกคิ้วงาม

“ข้าเอง” หรือว่าซินอี้หมิงผู้นี้จะเคยเอ่ยถึงตนเองกับหลงจู๊ผู้นี้?

“ที่แท้ก็เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลมั่วจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะขอรับ”

มั่วเชียนเสวี่ยเห็นหลงจู๊ทำความเคารพตนเอง ก็รีบเอียงกายทำความเคารพคืนไปครึ่งหนึ่ง

“เชิญคุณหนูมั่วไปนั่งในห้องโถงของรับ” หลงจู๊รีบเชิญมั่วเชียนเสวี่ยเข้าไปในห้องโถง เพราะบางเรื่องไม่สามารถเอ่ยต่อหน้าคนนอกได้

มั่วเชียนเสวี่ยเข้าใจ เกรงว่าหลงจู๊ผู้นี้มีเรื่องจะสนทนากับนาง และตอนนี้ก็มีคนเยอะขนาดนี้ มากคนมากความ ดังนั้นจึงพยักหน้า ยิ้มบางๆ เดินตามเขาเข้าไปในห้องโถงด้วยกัน

แน่นอนว่า คนที่ตามเข้าไปด้วยยังมีถงจื่อจิ้ง

พี่สาวอยู่ที่ไหน เขาก็อยู่ที่นั่น

ถงจื่อจิ้งประสบความสำเร็จในการทำตามประโยคที่ว่ามานี้โดยสิ้นเชิง

หลงจู๊เห็นด้านหลังมั่วเชียนเสวี่ยมีเด็กหนุ่มเดินตามมาคนหนึ่ง แต่มั้วเชียนเสวี่ยไม่ได้ถือสาแม้แต่น้อย เขาก็ไม่ทำตัวเป็นผู้ร้าย ต้อนรับถงจื่อจิ้งเข้าไปอย่างเคารพนบนอบเช่นเดียวกัน

เห็นท่าทางของหลงจู๊แล้ว มั่วเชียนเสวี่ยอดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาไม่ได้

ดีที่หลงจู๊เป็นบุรุษคนหนึ่ง ถ้าหากเป็นสตรีล่ะก็…

ตอนนี้มั่วเชียนเสวี่ยจินตนาการภาพถงจื่อจิ้งโยนคนออกไปอยู่ในใจ

ชูอีรู้ถึงปัญหานี้ของเขา วันนี้ตอนมาส่งอาหารเช้า เมื่อวางอาหารเรียบร้อยแล้วก็ถอยออกไปรอปรนนิบัติที่นอกประตู

เป็นเพราะปัญหานี้ของถงจื่อจิ้ง วันนี้ตอนที่ออกมา นางจึงไม่กล้าแม้กระทั่งจะพาชูอีมาด้วย

ตอนที่หนิงเซ่าชิงเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังอี้ผิ่นเซวียน มั่วเชียนเสวี่ยก็สนทนากับหลงจู๊ไปได้ครึ่งทางแล้ว

ส่วนตอนที่หนิงเซ่าชิงกำลังจะเข้ามา ก็มาทันเวลาที่มั่วเชียนเสวี่ยกับถงจื่อจิ้งออกมาพอดี

ชั่วขณะหนึ่ง ใครก็ล้วนไม่ได้เตรียมตัว นัยน์ตาสี่ข้างประสานสายตากัน

หัวใจหนิงเซ่าชิงเต้นตึกตัก

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าไม่ได้เจอหน้ากันแค่คืนเดียวเท่านั้น เมื่อก่อนไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่กลับไม่รู้ว่าทำไม ครั้งนี้ทำให้หนิงเซ่าชิงคิดถึงมากจริงๆ!

อยากจะรวบนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยไม่รีรอจริงๆ! และจะรักทะนุถนอมนางให้ดี!

แต่คนไปๆ มาๆ เยอะขนาดนี้ หนิงเซ่าชิงจะทำเรื่องทะลึ่งพวกนั้นโดยไม่ใส่ใจชื่อเสียงของมั่วเชียนเสวี่ยที่เป็นสตรีได้อย่างไร

ดังน้้น เขาทำได้เพียงแค่อดกลั้นข่มมันเอาไว้

มั่วเชียนเสวี่ยกลับนิ่งอึ้ง!

ตอนที่หนิงเซ่าชิงปรากฏตัวขึ้น นางถึงขั้นสงสัยว่าตนเองคิดถึงมากไปในเวลากลางวัน กลางคืนก็เก็บไปฝัน ถึงได้ปรากฏภาพหลอนของหนิงเซ่าชิงใช่หรือไม่

หนิงเซ่าชิงจะเบื่อจนถึงขั้นมาเดินเที่ยวเล่นได้อย่างไร?!

“จื่อจิ้ง ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นเซ่าชิง…” นางเอ่ยขอการยืนยันจากถงจื่อจิ้งด้วยท่าทางใกล้เคียงกับการเอ่ยพึมพำกับตนเอง

ได้ยินวาจามั่วเชียนเสวี่ย หนิงเซ่าชิงก็มีสีหน้าดำคล้ำอีกครั้ง

ใบหน้าถงจื่อจิ้งกลับเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน

“พี่เชียนเสวี่ย พี่เขยมาจริงๆ ขอรับ”

“…” ที่แท้หนิงเซ่าชิงก็มาจริงๆ

กล่าวตามจริง ในใจมั่วเชียนเสวี่ยนั้นมีความสุขยิ่งนัก!

หนิงเซ่าชิงเป็นคนที่ไม่เคยเดินเที่ยวในร้านของเล่นโบราณ เขาชอบอะไรย่อมมีคนนำมามอบถึงมือเขาทั้งหมด

อีกอย่าง ตระกูลหนิงของพวกเขาควบคุมเรื่องเงินทองในใต้หล้า ต้องการสิ่งใดในคลังเก็บของมีสิ่งใดที่ไม่มี!

มาปรากฏตัวในตอนนี้ เช่นนั้นก็มีเพียงเป้าหมายเดียว คือตนเอง!

แม้จะโกรธที่หนิงเซ่าชิงสะบัดชายแขนเสื้อจากไป โมโหที่เขาไม่มาหาตนเอง แต่ตอนนี้ สิ่งใดก็ล้วนไม่สำคัญแล้ว!

ขอแค่เขามา ขอแค่เขาง้อ ขอแค่มีทางลงให้…ทุกสิ่งล้วนไม่สำคัญ!

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท