รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 471 ดาบมาร ข้ากลับมาแล้ว ทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นมากด้วย!

บทที่ 471 ดาบมาร ข้ากลับมาแล้ว ทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นมากด้วย!

บทที่ 471 ดาบมาร ข้ากลับมาแล้ว ทั้งยังแข็งแกร่งขึ้นมากด้วย!

หยิ่งผยอง บ้าอำนาจ ยโสจนเกินเยียวยา ปลามังกรตัวนี้ไม่รู้ว่าเอาความใจกล้าขนาดนี้มาจากที่ใด!

ปลาในถังน้ำถูกท่านเซียนจับมาและเลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นอาหารให้พี่สาวลั่วสุ่ย แม้ว่าตอนนี้พี่สาวลั่วสุ่ยจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ปลามังกรจะสามารถกินปลาตัวอื่นได้อย่างไร?

ปลามังกรได้รับอนุญาตจากท่านเซียนหรือไม่?

ปลามังกรกินปลาตัวอื่นเข้าไปนับว่าเป็นการกระทำเกินเลยไป!

มัจฉาสัตมายาแม้เบื้อหน้าจะยิ้มและยกยอปลามังกร แต่ภายในใจกลับหัวเราะเย้ยหยัน

ปลามังกรอาจคิดว่าตนเองเป็นเซียนมัจฉา ท่านเซียนจึงเห็นความสำคัญ กล้าทำตัวกำเริบเสิบสานอย่างถึงที่สุด…

ถึงในความเป็นจริงเซียนมัจฉาจะทรงพลังยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก

แต่สำหรับคุณชายแล้ว คุณชายจะสนใจความทรงพลังของเซียนมัจฉาอย่างนั้นหรือ?

เหอะ เหอะ…

อย่างไรเสียปลามังกรก็เพิ่งจะมาที่นี่ ยังคงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับท่านเซียนมากนัก!

กระทั่งสมบัติกาลเวลาอันล้ำค่าอย่างถึงที่สุด สามารถควบคุมเวลาได้ตามต้องการ ล้ำค่าเสียจนไม่รู้ว่ามีมูลค่ามากเพียงใด เหนือเสียยิ่งกว่าศาสตราเซียน แต่คุณชายเคยสนใจสิ่งนั้นด้วยหรือ?

คุณชายไม่ได้สนใจมัน ทั้งยังใช้มันเป็นเพียง ‘ตู้เย็น’ เพื่อเก็บอาหาร…

ปลามังกรยโสโอหัง กระทำตามอำเภอใจ มันไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีจุดจบที่ดี

คุณชายอาจเพียงคิดว่าปลามังกรดูแล้วเพลินตา จึงต้องการเลี้ยงไว้เป็นปลาสวยงาม ทว่าปลามังกรกลับถือว่าตนมีผู้หนุนหลัง จึงกำเริบเสิบสาน ไม่คิดกังวลสิ่งใด ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

ต่อหน้าคุณชาย ปลามังกรอาจเป็นเพียงปลาธรรมดาตัวหนึ่งที่ดูแล้วเพลินตา…

ปลามังกรไม่ได้ระวังทั้งคำพูดและการกระทำ ทั้งยังปล่อยตัวเป็นอย่างยิ่ง ปลามังกรประเมินตนเองสูงเกินไปจริง ๆ!

‘สรรพสิ่งยังหมุนเวียนเปลี่ยนผัน วันเวลายังอีกยาวไกล หยิ่งผยองไปเถอะ ทำตนเช่นนี้ต่อไป ถึงเวลานั้นเจ้าก็ได้แต่ร้องไห้…’

มัจฉาสัตมายากล่าวขึ้นมาในใจ

บนเส้นทางยาวแห่งหนึ่งในจักรวาลหมื่นดารา ภายในมีชายชราผู้หนึ่งกำลังก้าวเดินอย่างแช่มช้า

“ดาบมาร ข้ากลับมาแล้ว แถมยังแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย พวกเราจะได้ต่อสู้สังหารศัตรูทั้งหมดร่วมกันอีกครั้ง!”

เขารำพึงกับตนเอง บนสีหน้ามีความรอคอยปรากฏออกมาเล็กน้อย

เวลาล่วงผ่านมาอย่างยาวนาน เขาคิดถึงดาบมารเป็นอย่างมาก นั่นเป็นดาบที่เขาทำขึ้นมาเองกับมือ คุณภาพของมันเหนือยิ่งกว่าทุกสิ่ง จนแม้แต่ญาณศาตรายังถือกำเนิดขึ้นมา!

นี่เป็นเรื่องชวนตื่นตะลึงมากอย่างไม่ต้องสงสัย ในช่วงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีญาณศาสตราถือกำเนิดขึ้นมาน้อยนิดจนน่าเวทนา สามารถใช้นิ้วนับจำนวนทั้งหมดได้เสียด้วยซ้ำ

เขากับดาบมารต่อสู้ด้วยกันมานานจนไม่รู้เวียนไปกี่วสันต์สารท ไม่รู้ร่วมเป็นตายกันมามากมายเท่าไร นับว่าเขากับดาบมารเต็มไปด้วยความผูกพันลึกซึ้ง

ทว่าอายุขัยของเขาก็ใกล้จะหมดลงแล้ว จึงจำต้องไปเสี่ยงชะตาดูว่าจะสามารถคว้าโอกาสต่อชีวิตตนเองได้หรือไม่

การทำเช่นนี้นับได้ว่าอันตรายมากอย่างไม่ต้องสงสัย โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จต่ำเป็นอย่างยิ่ง มีโอกาสมากมายที่เขาจะตายตกอยู่ภายนอก

เขาอดทนฝืนใจไม่นำดาบมารไปด้วย เลือกจะปิดผนึกมันเอาไว้ อย่างไรเสียโอกาสที่เขาจะสามารถรอดชีวิตกลับมานั้นมีอยู่น้อยเกินไป สถานที่ที่จะไปก็อันตรายเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ต้องการให้เกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้นกับดาบมาร จึงไม่ต้องการให้ดาบมารตามออกไปด้านนอก ทั้งยังคิดจะพัฒนาความแข็งแกร่งของดาบมารให้มากยิ่งขึ้น

“ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นเช่นไรบ้าง พลังที่ข้าผนึกเจ้าเอาไว้น่าจะสลายไปนานแล้วใช่หรือไม่?”

ชายชราเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าตนเองจะทำสำเร็จ เขาได้รับโอกาสให้รอดชีวิต ขอบเขตพัฒนายิ่งขึ้น อายุขัยเองก็ยืนยาวขึ้น

เขามีอายุยืนยาวยิ่งขึ้นจนสามารถดำรงอยู่ถึงยุคปัจจุบัน

แน่นอนว่าเวลาส่วนใหญ่เขาก็ล้วนนิทรา มีชีวิตอยู่ได้ด้วยพลังพิเศษบางอย่างค้ำจุน

หากไม่ใช่เช่นนี้ เขาคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้จนถึงปัจจุบัน

เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว พลังของเขาที่ใช้ผนึกดาบมารน่าจะสลายไปเรียบร้อย และดาบมารเองก็ควรจะเป็นอิสระนานแล้ว

เขากับดาบมารยังคงมีการเชื่อมโยงกันอยู่ แสดงให้เห็นว่าดาบมารยังคงอยู่ไม่ดับสลายไป

ดาบมารที่ให้กำเนิดญาณศาสตรา มีศักยภาพแฝงอยู่มหาศาล เขารู้สึกว่าตอนนี้ดาบมารจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างมากเป็นแน่แท้

“ข้าอยากกลับไปหาเจ้านานแล้ว เพียงแต่ทุกอย่างข้าล้วนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจได้ด้วยตนเอง…”

ชายชราพึมพำเสียงเบากับตน “ทว่าข้าเองก็คาดไม่ถึง ว่าอาณาจักรของพวกเรานั้นน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับเก็บซ่อนความลับอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ข้าจึงถูกส่งกลับไป!”

เขาดิ้นรนอย่างหนักจนสามาถมีชีวิตรอดและทำลายขีดจำกัดได้ เพียงแต่เขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นด้วยตนเอง แต่เขาถูกกองกำลังต่างอาณาจักรจับตัวและพาเขาไป

พลังจากกองกำลังนั่นเองทำให้เขามีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

ทว่ากองกำลังแห่งนั้นกำลังเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่อาณาจักรแห่งนี้ เขาจึงได้กลับมาที่นี่!

เส้นทางที่เขาใช้อยู่ในตอนนี้ก็ถูกสร้างขึ้นจากกองกำลังเบื้องหลังเขา ถูกใช้เป็นเส้นทางนำเข้าไปยังอาณาจักรแห่งนั้นมาอย่างช้านาน

“ฮ่าฮ่า ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็กำลังจะได้กลับไปแล้ว อีกทั้งยังจะได้พบเจ้าในอีกไม่ช้า!”

ชายชราหัวเราะเสียงดังอย่างอดไม่ได้ เขารู้สึกสบายอกสบายใจเป็นอย่างมาก

“เจ้าชอบดื่มเลือดคนเป็นที่สุด ยิ่งแข็งแกร่งยิ่งชื่นชอบ หลังจากข้ากลับไปคราวนี้ ข้าจะทำให้เจ้าได้ดื่มเลือดของผู้แข็งแกร่งอย่างเต็มอิ่ม

ดวงตาของเขาปรากฏแววตาชั่วร้าย รอยยิ้มชวนขนลุกแต่งแต้มมุมปาก ชั่วชีวิตเขาสังหารคนมานับไม่ถ้วนจนถูกสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนั้นขนานนามว่าจอมมาร ขณะนี้จอมมารจะกลับมาก่อการฆ่าล้างทั่วอาณาจักรแห่งนั้นอีกครั้ง!

“เมื่อถึงยามนั้นข้าจะกลายเป็นฝันร้ายของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน มากเสียยิ่งกว่าตอนนั้น!”

เขาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย หลังจากนั้นจึงใช้ลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผาก ดูแล้วน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

ใช่แล้ว เขาคือผู้เฒ่าอมตะ ดาบมารที่เขาพูดถึงก็คือดาบมารอมตะ

ดาบมารอมตะที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือ!

ณ เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

‘เมื่อเร็ว ๆ นี้มีบางสิ่งเกิดขึ้นหรือไม่?’

จอบเซียนที่พิงผนังอยู่กล่าวขึ้นมาในใจ

มันเกิดความรู้สึกผิดปกติมานานแล้ว ตอนนี้ยิ่งรู้สึกมากขึ้นทำให้มันตระหนักได้ว่ามีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น

‘จะเกิดเรื่องอะไรกัน?’

มันรำพึงขึ้นมาในใจ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่อาจอธิบายได้ ยิ่งมันครุ่นคิดก็ยิ่งไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้น

“มารดามันเถอะ ผู้ใดบังอาจกล้าวางแผนการกับข้า ข้าจะต้องใช้จอบตีมันให้ตาย!”

มันกล่าวออกมาอย่างขุ่นเคืองใจ ก่อนจะสลัดความหงุดหงิดภายในใจทิ้งไป ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พลังแข็งแกร่งกว่าเดิมไม่รู้ตั้งเท่าไร จะถูกใครก็ไม่รู้วางแผนใส่ได้อย่างไร มันจะทำให้คนผู้นั้นต้องชดใช้!

ณ แดนหยิน ชิงโจว

ส่วนลึกของโพรงมังกร ด้านในมีโลงศพสีชาดขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ

โลงศพสีชาดขนาดใหญ่ทำจากวัสดุที่ไม่รู้จัก ทั้งสี่ด้านถูกวาดด้วยอักขระโบราณสีดำอันสลับซับซ้อน ดูแล้วแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

ขณะนี้ โลงศพสีชาดยิ่งดูแปลกประหลาดกว่าเดิมด้วยเปลวเพลิงวิญญาณสีม่วงที่ลุกโชน ทำให้ทั่วทั้งโลงศพสว่างไสว

ในตอนนั้นเอง โลงศพสีชาดก็สั่นอย่างรุนแรง ราวกับผู้ที่อยู่ในโลงศพกำลังจะพุ่งออกมา!

“นายท่าน…กำลังจะตื่นขึ้นมาแล้วหรือ!?”

ด้านข้างโลงศพสีชาด มีมังกรดำตัวใหญ่เกาะอยู่ เมื่อมันเห็นการเคลื่อนไหวของโลงศพ มันก็เอ่ยออกมาเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น

“นายท่านตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว! เมื่อนายท่านตื่นขึ้นแล้วจะได้สามารถสังหารหญิงสาวเผ่ามนุษย์ที่แสนรนหาที่ตายนั่น!”

มันกัดฟันกล่าวออกมาด้วยความเกลียดชัง

หญิงสาวเผ่ามนุษย์ผู้นั้นมาที่นี่อยู่บ่อยครั้ง หวังจะเปิดโลงศพดูสิ่งที่อยู่ภายใน

ทว่าหยวนอีก็ไม่เคยทำสำเร็จ โลงศพถูกปกป้องด้วยพลังอันแข็งแกร่ง แม้ว่าหยวนอีจะมีสมบัติล้ำค่าอย่างกระบี่หยกก็ยังคงทำไม่สำเร็จ

“มันจะสำเร็จได้อย่างไร! นายท่านเป็นถึงเซียนผู้หนึ่ง! เป็นถึงเซียนที่แท้จริงผู้หนึ่ง!”

มันหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาหลายครั้ง เมื่อนายท่านตื่นขึ้นมา มันจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้ฟังอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็จะร้องขอให้นายท่านสังหารหยวนอี

คนที่รนหาที่ตายก็สมควรจะตายไปเสีย!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท