ถ้าหากไม่ใช่สติเสี้ยวหนึ่งในใจบอกนางว่า ที่นี่คือยุคโบราณ ไม่ใช่ยุคปัจจุบันที่เปิดกว้าง เกรงว่ามั่วเชียนเสวี่ยในตอนนี้คงพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนหนิงเซ่าชิงแล้ว!
แม้ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันเพียงแค่คืนเดียว แต่นางกลับคิดถึงหนิงเซ่าชิงขนาดนี้!
ที่แท้สงครามเย็นอะไรนี่ ก็ไม่ได้แค่ทำให้ความรู้สึกห่างเหิน แต่ยังสามารถทำให้ความรู้สึกลึกซึ้งและร้อนแรงมากขึ้นได้ด้วย!
มั่วเชียนเสวี่ยคิด เรื่องอีรุงตุงนังเหล่านั้นระหว่างพวกเขา มันเป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่าๆ!
ชีวิตคนเราสั้นนัก ทำไมจะต้องไปคิดเล็กคิดน้อยในเรื่องที่ไม่สมควรคิดพวกนี้ จนทำร้ายความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายด้วย?
ดังนั้น ตอนนี้ มั่วเชียนเสวี่ยปล่อยวางปมในใจที่ถูกหนิงเซ่าชิงทำให้เสียใจเมื่อวานนี้แล้วจริงๆ และแย้มรอยยิ้มเกลื่อนใบหน้า
ถงจื่อจิ้งที่ยืนอยู่อีกด้าน เผยรอยยิ้มออกมาจากใจ
ขอเพียงแค่พี่สาวอารมณ์ดี เขาก็ไม่สนใจว่าคนที่ทำให้พี่สาวอารมณ์ดีจะเป็นใคร
แม้จะบอกว่า หนิงเซ่าชิงเป็นคนร้ายที่ทำให้พี่สาวโกรธ และเสียใจ แต่ตอนนี้เขาก็ทำให้พี่สาวกลับมามีใบหน้ายิ้มแย้มไม่ใช่หรือ
จะให้อภัยเขาชั่วคราวครั้งหนึ่งแล้วกัน
มั่วเชียนเสวี่ยกำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่ในตอนนี้กลับ…
“สามี!”
ท่ามกลางฝูงชน มีเสียงร้องเรียกด้วยความดีใจขึ้นมากะทันหัน!
เสียงนี้ดังกระหึ่มเกินไป ทำให้ทุกคนที่อยู่บนถนนล้วนหันไปดู
ก็เห็นว่าบริเวณหน้าประตูอี้ผิ่นเซวียน จุดที่ห่างจากหนิงเซ่าชิงสิบกว่าเมตร มีสตรีสวมเครื่องแต่งกายสีเขียวขจีของสาวใช้นางหนึ่งยืนอยู่ ดวงหน้าเปี่ยมไปด้วยความดีใจ และตะลึง!
ขณะมองหนิงเซ่าชิง
มองหนิงเซ่าชิง!
แม้เสียงนี้จะดัง แต่หนิงเซ่าชิงกลับไม่สนใจ
คนอื่นตะโกนเรียกสามี เกี่ยวอันใดกับเขาด้วย
ตอนนี้ สายตาทั้งหมดของเขาล้วนมอบให้มั่วเชียนเสวี่ย ในสายตามีเพียงแค่มั่วเชียนเสวี่ยคนเดียว สิ่งต่างๆ ในโลกใบนี้ล้วนกลายเป็นแค่องค์ประกอบ
ตอนนี้หนิงเซ่าชิงกำลังคิดว่า เขาเป็นฝ่ายเข้าไป เชียนเสวี่ยจะโกรธไหม จะหันหลังให้ตนเองอีกครั้งหนึ่งหรือไม่
ไม่รู้เลยสักนิดว่า มีวัตถุอันตรายกำลังเข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็ว!
ทว่า สตรีนั้นมีความรู้สึกไวแต่กำเนิด มั่วเชียนเสวี่ยสังเกตเห็นสตรีที่เข้ามาใกล้นางนั้นแล้ว
นี่…หนิงเซ่าชิงไปคบกับสตรีอื่นตั้งแต่เมื่อใด อีกทั้งสตรีนางนี้ยังเรียกหนิงเซ่าชิงว่าสามีด้วย!
หรือว่า เมื่อวานทะเลาะกัน เขาก็รับอนุภรรยา?
หรือว่า เขาไม่ได้มาหานาง แต่พาอนุภรรยาผู้นั้นมาเที่ยวเล่น?!
ทันใดนั้น ใบหน้าที่เพิ่งจะอารมณ์ดี ก็เคร่งขรึมลง
ถงจื่อจิ้งก็สังเกตเห็นสตรีนางนั้นเช่นกัน
สตรีนางนี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังใช้สายตาแวววาวมองไปทางหนิงเซ่าชิง การให้อภัยที่ถงจื่อจิ้งที่เพิ่งจะมีให้หนิงเซ่าชิงในใจไปเล็กน้อยก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย!
คนที่กล้าทำร้ายพี่สาวเขา ต้องสังหารทิ้งอย่างเดียวโดยไม่มีการให้อภัย!
คุยกันนานสองนาน ความจริงทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในเสี้ยวพริบตาเดียว
ถงจื่อจิ้งก้าวขึ้นไปอย่างคิดจะขวางหนิงเซ่าชิง แต่เตาหนูกลับก้าวไปดึงถงจื่อจิ้งออกมา
หนิงเซ่าชิงที่บ่มเพาะความรู้สึกเรียบร้อยแล้ว “เชียนเสวี่ย…”
สตรีบ้าผู้ชายขั้นสุดนางนั้น “สามี! สามี ข้าหาท่านพบแล้ว! พวกเรามีพรหมลิขิตต่อกันจริงๆ ข้าว่าแล้ว เพียงแค่เดินไปตามถนนเส้นนี้ ก็จะสามารถพบสามีได้แน่นอน!”
หนิงเซ่าชิงกำลังจะก้าวขึ้นไปก้าวหนึ่ง คิดจะเดินไปข้างกายมั่วเชียนเสวี่ย เพื่อถามว่านางเป็นอันใด แต่ไม่รอให้ฝีเท้านี้ก้าวออกไป ข้างกายพลันมีลมพัดวูบหนึ่ง จากนั้นตนเองก็ถูกคนกอดเอาไว้!
กอดเอาไว้! กอดไว้แล้ว…
หนิงเซ่าชิงตะลึงงันไปแล้ว? อีกทั้งตอนนี้ก็ถึงขั้นลืมสะบัดคนบ้าที่ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากออกไป!
เตาหนูที่ดึงถงจื่อจิ้งเอาไว้ ยืนอยู่ด้านหลังหนิงเซ่าชิง ก็มึนงงเช่นกัน “???”
นี่…นี่…นี่…
หัวหน้าตระกูลของพวกเขาถูกคนลวนลามหรือ!
โลกใบนี้มันยังไงกันแน่นะ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วหรือ
บนถนนคึกคักขึ้นมาทันที
เดิมหนิงเซ่าชิงเดินอยู่บนถนนก็เป็นบุคคลที่เป็นจุดรวมความสนใจ คราวนี้ยังถูกสตรีนางหนึ่งกอดกลางถนนอีก จึงยิ่งกลายเป็นจุดรวมความสนใจมากกว่าเดิม
เตาหนูที่ดึงถงจื่อจิ้งเอาไว้ก็มึนงง
ดูท่า หลังจากกลับไปแล้ว ไม่ต้องรอคำสั่งของหัวหน้าตระกูล เขาก็สามารถอัญเชิญตนเองไปที่ห้องโถงลงทัณฑ์ได้เลย
แต่ สวี่หยวนหยวนกลับไม่ได้ประหลาดใจ หรือนิ่งอึ้ง
“สามี! ข้าหาท่านลำบากมากเลย! นับแต่วันนี้ พวกเราจะไม่แยกจากกันอีกแล้วดีหรือไม่ ตระกูลพวกเรามีเงิน สามารถรับประกันได้ว่าชั่วชีวิตนี้ของท่านจะมีเงินทองอัญมณีให้ใช้ไม่ขาดมือ!”
สวี่หยวนหยวนรู้สึกว่าตนเองมีความสุขมาก! อ้อมกอดของบุรุษรูปงามผู้นี้ทำให้จิตใจคนเบิกบานจริงๆ และมีความรู้สึกมั่นคงเป็นพิเศษ!
นางหลงใหลมากจริงๆ…
ตอนที่มั่วเชียนเสวี่ยเห็นสตรีนางนั้นพุ่งเข้ามากอดหนิงเซ่าชิง ก็โมโหจนสะบัดเข็มออกมาตรงหว่างนิ้วแล้ว!
อยากจะแทงเข็มคนบ้าที่วิ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้ให้ตายในเข็มเดียวจริงๆ!
หรือว่า สิ่งที่นางคาดเดาล้วนเป็นเรื่องจริง
ตอนนี้มั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้แค่โมโห แต่ยังมีความรู้สึกน้อยใจและเสียใจอย่างยิ่งด้วย…หนิงเซ่าชิง…เขาถึงกับไม่เหวี่ยงคนออกไป
หนิงเซ่าชิงหมายความว่าอะไร
หรือเขามีความสัมพันธ์คลุมเครือไม่ชัดเจนกับสตรีนางนี้จริงๆ
มิเช่นนั้น เหตุใดหนิงเซ่าชิงถึงให้สตรีนางนี้เรียกเขาว่าสามี อีกทั้งตอนที่สตรีนางนี้กอดเขา เขาก็ไม่รู้จักหลบเลี่ยง!
แม้ว่าจะรับอนุภรรยา ต้องการแสดงความรัก ก็ช่วยไปทำกันไกลๆ หน่อย ได้ไหม
มั่วเชียนเสวี่ยถลึงตากลมโต
“หนิงเซ่าชิง! ท่านมันคนเลว!”
นางถูกทำให้โมโหแทบตายแล้วจริงๆ!
คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าหนิงเซ่าชิงจะเป็นคนเช่นนี้คนหนึ่ง!
นางมองเขาผิดไปจริงๆ!
มั่วเชียนเสวี่ยตะคอกใส่หนิงเซ่าชิงด้วยความน้อยใจแล้วก็ผลักคนที่แห่กันมามุงดูเหตุการณ์วิ่งออกไป!
ตึง!
หนิงเซ่าชิงได้สติคืนกลับมาทันที!
เสวี่ยเสวี่ยของเขา…ไปแล้ว!
ทันใดนั้น สติสัมปชัญญะทั้งหมดก็กลับมารวมกัน
หนิงเซ่าชิงรีบใช้กำลังภายในผลักสตรีที่เกาะอยู่บนร่างเขาราวกับปลาหมึกให้กระเด็นออกไป และหันกลับไปมองเตาหนูด้วยสายตาเย็นชา
เจ้านายตกอยู่ในอันตราย เจ้าไม่ขัดขวางก็ช่างเถอะ ยังจะกล้าดูเรื่องสนุกอีก! คอยดูเถอะว่ากลับไปจะจัดการเจ้าเช่นไร!
เรื่องนี้โทษเตาหนูไม่ได้จริงๆ เตาหนูก็ถูกทำให้ตื่นตะลึงเช่นกัน!
เมื่อครู่เขากลัวว่าถงจื่อจิ้งจะนำพาอันตรายมาให้นายท่าน อย่างไรเสียเรื่องของซูชีในครั้งที่แล้วก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
อีกอย่าง เขาจะคิดได้อย่างไรว่าสตรีธรรมดาที่ไม่เป็นวรยุทธ์คนหนึ่งจะหน้าไม่อาย พุ่งเขามากอดนายท่านกะทันหันเช่นนี้
สตรีที่ไม่มีวรยุทธ์และไม่มีกำลังภายในสักนิดเดียว บนร่างไร้ซึ่งจิตสังหาร เขาควรจะป้องกันอย่างไร
แม้ว่าตัวนายท่านก็ไม่ได้สังเกตเห็นเช่นกันไม่ใช่หรือ
ทว่า ตอนที่เห็นสายตาที่มากพอจะสังหารคนได้ของหนิงเซ่าชิง เตาหนูก็เงียบทันที
โถงพิจารณาบทลงโทษไม่ใช่สถานที่ที่ดีเลย!
สีหน้าของหนิงเซ่าชิงดำทะมึน นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยแววอันตราย และประกายคมปลาบ