บทที่ 476 อย่าได้ออกมาอีก มิฉะนั้นข้าจะอัดเจ้าทุกครั้งที่เห็น!
“ไม่ต้องร้อง เจ้าปลาตัวนี้อยากแย่งก็แล้วแต่ ถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่ยอมให้มันได้กินหญ้า!”
อสูรฟ้าชิงหนิวเฒ่าปลอบลูกวัวน้อย
จากนั้น มันก็หันมามองปลามังกร ไม่เหลือเค้าเกรงใจอีกต่อไป “พี่ใหญ่บ้าบ้ออะไร ไสหัวไปไกล ๆ เลย!”
ความอดทนของมันมีจำกัดเหมือนกัน หากปลามังกรฝืนจะกินหญ้าให้ได้ เท่ากับล้ำเส้นของมัน มันไม่มีทางยอม!
“กำแหงอยู่ได้!”
“ไม่มีทางที่เจ้าจะได้กินหญ้า!”
ลูกวัวน้อยสำทับพ่อแม่ของตน ไม่มีทางยอมตกลง
“พวกเราขอปกป้องน้องหญ้าของเราด้วยชีวิต!”
ลูกวัวน้อยไม่ร้องไห้อีกต่อไป ออกมายืนขวางอยู่เบื้องหน้ากองหญ้าและเอ่ยด้วยท่าทีจริงจังมาก
“ข้าอยากจะขำให้ตาย!”
ปลามังกรหัวเราะพรืด “นี่ก็เพราะพลังข้าไม่อยู่เพราะถูกผนึก มิฉะนั้น ลำพังวัวโง่ไม่กี่ตัวอย่างพวกเจ้า ข้าจามเพียงครั้งเดียวก็ฆ่าพวกเจ้าได้หมดแล้ว!”
พวกชั้นต่ำ!
มันเป็นถึงมัจฉาเซียน ต่อให้ถูกสะกดพลัง ก็ใช่ว่าวัวไม่กี่ตัวตรงหน้าจะขวางได้
วัวพวกนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!
“เอาเถิด ข้าจะสำแดงฤทธิ์เดชให้พวกเจ้าได้เห็น!”
ปลามังกรหัวเราะเสียงเย็น หมายจะลงมือ ไม่ให้วัวเหล่านี้ได้เห็นดี ดูท่าพวกมันคงไม่มีทางได้รู้จักที่ต่ำที่สูง!
มันฟาดหางปลากับพื้น เด้งตัวขึ้นในบัดดล และเหวี่ยงไปหาลูกวัวน้อย
นี่คือร่างกายระดับเซียน พลังทั่วไปไม่อาจหยุดยั้งได้ วัวพวกนี้ไม่รู้จักเจียมตน เช่นนั้น มันจะทำให้วัวพวกนี้ได้เข้าใจว่ากฎในโลกนี้เป็นอย่างไร!
“โอ๊ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว!”
หารู้ไม่ ทันทีที่มันฟาดหางใส่ ก็ได้รับแรงกระเทือนจนกระเด็นออกไป ความรู้สึกคล้ายว่าฟาดโดนเหล็กเซียน เจ็บจนใจแทบขาด รู้สึกเหมือนหางปลาใกล้ระเบิดเต็มที
“น่ารำคาญชะมัด!”
จอบเซียนซึ่งอิงอยู่ข้างกำแพงส่งเสียง
บัด…ซบ ปลามังกรตัวนี้บุ๋งบุ๋งอยู่ได้ไม่รู้จักจบจักสิ้น มันรำคาญแทบบ้า!
ใช่แล้ว มันนี่แหละที่ลงมือสกัดปลามังกรไว้เมื่อครู่
มันผู้นี้ไม่ธรรมดา หลังจากท่านเซียนลงมือหลอมและสลักเสลาด้วยตัวเอง มันยังไม่รู้เลยว่าตนนั้นแข็งแกร่งทนทานเพียงใด
“เจ้าจอบเฮงซวยบังอาจตีข้ารึ!”
ปลามังกรบันดาลโทสะ “ข้าคือปลาที่ท่านบรรพจารย์เซียนให้ความสำคัญเลยนะ!”
“ข้าคือจอบที่คุณชายหลอมด้วยตัวเอง เจ้าบังอาจหาว่าข้าเป็นจอบเฮงซวยงั้นหรือ!”
จอบเซียนลอยตัวเข้าไปหาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก “เจ้ากำลังหลอกด่าคุณชายอยู่หรือไร!”
สีหน้าปลามังกรเปลี่ยนไป รีบกล่าวออกมา “ข้าเปล่า เจ้าอย่าได้คิดจะใส่ร้ายป้ายสีข้า!”
“ใส่ร้ายป้ายสีรึ วางใจเถอะ ข้ามิได้น่าขยะแขยงเช่นเจ้า!”
จอบเซียนหัวเราะ “เพียงแต่ข้ารู้สึกว่าหัวจอบของข้าเริ่มหลวม อยากยืมอะไรมาเคาะให้หัวจอบของข้าแน่นขึ้นเสียหน่อย ข้าเห็นว่าร่างกายของเจ้าแข็งใช้ได้ ไม่ทราบว่าให้ข้ายืมใช้หน่อยได้หรือไม่”
“เจ้า…เจ้าอย่าทำเกินไปนัก!”
ปลามังกรเอ่ยเสียงเคียดแค้น
บ้าเอ๊ย มีที่ไหนยืมร่างปลาเคาะหัวจอบ
จอบเล่มนี้แค่อยากตีเขาชัด ๆ!
“เกินไปหรือ? เปล่านี่ เหมือนกับสิ่งที่เจ้าทำก่อนหน้านี้มิใช่หรือ”
จอบเซียนหัวเราะ “จริงสิ เจ้าก็อย่ากลั้นไว้ล่ะ ข้าเองก็ขอร้องเจ้า ช่วยรีบนำเรื่องของข้าไปฟ้องคุณชายที!”
จากนั้น มันฟาดจอบใส่ปลามังกรทันที
ร่างกายระดับเซียนของปลามังกรแข็งแกร่งมาก ทว่าจอบเซียนแข็งแกร่งกว่า ปลามังกรโดนฟาดจนร้องไห้คร่ำครวญ เห็นดาวเต็มฟ้าไปหมด
บัดซบ จอบเล่มนี้สารเลวจริง ๆ ถากถางมันด้วยถ้อยคำที่มันกล่าวกับลูกวัวน้อยเมื่อครู่ นี่มันฆ่าคน…ไม่สิ ฆ่าปลาเฉือนใจ!
ไอ้ชั่ว มันมิได้ทำให้พวกลูกวัวน้อยเป็นใบ้ พูดเรื่องทุกข์ทนกับผู้ใดไม่ได้ ตัวมันเองกลับกลายเป็นใบ้ พูดเรื่องทุกข์ทนกับผู้ใดไม่ได้เสียเอง!
อย่าให้พูดเลยว่ามันทรมานใจเพียงใด!
มันลอบสบถสาบาน รอให้มันทรงพลังขึ้นเมื่อใด จนเป็นที่โปรดปรานของท่านบรรพจารย์เซียนมากขึ้น มันต้องแยกร่างจอบเล่มนี้ให้ได้!
“ตีได้ดี ปลาตัวนี้สมควรโดนแล้ว!”
ลูกวัวน้อยเห็นแล้วสะใจอย่างยิ่ง ปลามังกรทำเกินไป สมควรพบกับจุดจบเช่นนี้
บุ๋ง บุ๋ง!
ดี!
เยี่ยม!
ประเสริฐ!
ภายในโอ่ง ปลาตัวอื่นเห็นแล้วสะใจยิ่งเช่นกัน
ปลามังกรตัวนี้กำเริบเสิบสาน ไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาสักนิด มองพวกมันเป็นทาสรับใช้ พวกมันเคียดแค้นปลามังกรตัวนี้เป็นที่สุด!
‘คิดจริงหรือว่าตัวเองเป็นมัจฉาเซียนแล้วจะยิ่งใหญ่เกินผู้ใด เมื่อมาอยู่กับคุณชาย เจ้าไม่อาจทำตัวโอหัง ที่นี่มีสิ่งที่ทรงพลังกว่าเจ้าตั้งมากมาย!’
มัจฉาสัตมายาเอ่ยในใจ
มันสบายใจ ยินดีปรีดามากเช่นเดียวกัน
อย่างไรจอบเซียนก็มิกล้าเล่นกันถึงตาย แม้ว่ามันอยากตีปลามังกรตัวนี้ให้ตาย เพราะปลามังกรตัวนี้น่าชิงชังอย่างแท้จริง
ทว่า ปลามังกรเป็นปลาที่ท่านเซียนกล่าวว่าอยากเลี้ยง มันจึงมิกล้าเล่นกันถึงชีวิต
หลังจากมันอัดปลามังกรอย่างหนักหน่วงแล้ว ก็หวดปลามังกรลงโอ่ง
“อย่าได้ออกมาอีกเข้าใจหรือไม่ ขืนข้าเห็นเจ้าออกมาอีก ข้าจะอัดเจ้าทุกครั้งที่เห็น!”
จอบเซียนเหินไปอยู่ข้างโอ่ง บอกกับปลามังกร
“เข้าใจ…เข้าใจแล้ว นับแต่นี้ไปข้าจะไม่ออกไปอีกแล้ว!”
ปลามังกรรีบบอก มิกล้าเอ่ยคำว่าไม่
พับผ่าสิ มันโดนอัดครั้งนี้ เจ็บจนใจแทบขาด รวดร้าวเหลือคณา!
ชีวิตนี้มันไม่เคยโดนทำร้ายขนาดนี้มาก่อน!
อย่าให้พูดเลยว่ามันเคียดแค้นจอบเล่มนี้ปานใด มันสาบานในใจว่าจะล้างแค้นให้ได้ ไม่มีทางยอมจบง่าย ๆ!
จอบเซียนเหินกลับไปอีกครั้ง อิงอยู่ข้างกำแพง
‘เวร…เอ๊ย มีเรื่องใดกำลังจะเกิดขึ้นกันแน่!’
มันสบถในใจ ความรู้สึกมีบางสิ่งกำลังจะเกิดขึ้นทวีความรุนแรง
…
ภายในทางเชื่อมจักรวาลเส้นหนึ่ง ผู้เฒ่าอมตะเร่งความเร็ว เข้าไปใกล้ถึงอาณาจักรแห่งนั้นแล้ว
“ฮ่า ๆ อีกเดี๋ยวเราจะได้พบกันแล้ว!”
ใบหน้าเขาประดับด้วยรอยยิ้มสดใส “รอให้เจ้ากับข้าได้พบกันอีกครั้ง ข้าจะพาเจ้าไปฆ่าล้างสำนักสักสำนัก ให้เจ้าได้ดื่มเลือดยอดฝีมือจนหนำใจ!”
เขาไม่รู้ว่ายามนี้ดาบมารเป็นอย่างไรบ้าง เขาตั้งตารอดูสภาพดาบมารในปัจจุบันอย่างยิ่ง!
ในความคิดของเขา ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ดาบมารคงแข็งแกร่งขึ้นไปอีกกระมัง!
“นึกถึงร่างดาบสุดแกร่งกล้าของเจ้าแล้ว ข้าก็ยิ่งอยากพบเจ้าจนแทบทนไม่ไหว เจ้าคือผลงานที่ข้าพึงพอใจที่สุดเชียวนะ!”
ผู้เฒ่าอมตะเอ่ยยิ้ม ๆ
…
ภายในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล หลิงอินกับเสี่ยวหยาขับเคลื่อนรถรบโบราณ มุ่งหน้าด้วยความเร็วสูง
ทว่ายิ่งผ่านไปเรื่อย ๆ ความเร็วในการแล่นของรถรบโบราณก็ยิ่งเชื่องช้า ถึงอย่างไรรถรบโบราณนี้ก็ไม่สมบูรณ์ เกิดความเสียหายไปแล้ว ไม่มีทางดีเยี่ยมได้เท่าขณะที่มันสมบูรณ์
“ด้านหน้ามีอาณาจักรใหญ่ พวกเราเข้าไปเปลี่ยนพาหนะก่อน”
หลิงอินตาเป็นประกาย เบื้องหน้าพวกนางไม่ไกลมีดาวดวงมโหฬาร ขุมปราณชีวิตของมันซึ่งอยู่ภายในมหาศาล เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นอาณาจักรอันรุ่งเรือง
“ได้!”
เสี่ยวหยาพยักหน้า พวกนางควรเปลี่ยนรถรบโบราณคันนี้จริง ๆ ขืนใช้มันแล่นต่อไป รถรบโบราณคันนี้เป็นต้องพังครืนอย่างแน่นอน
พวกนางขับเคลื่อนรถรบโบราณคันนี้เข้าใกล้ดาวดวงนั้นขึ้นเรื่อย ๆ
รถรบโบราณคันนี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ทั้งที่ห่างกันไม่ไกล แต่ก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะถึง
ทว่าก็ยังไวกว่าหากพวกนางที่ต้องเหาะเหินด้วยตนเอง!
“เป็นอาณาจักรใหญ่จริงด้วย!”
หลังเข้าไปถึง หลิงอินก็สัมผัสถึงกฎแห่งสวรรค์และโลกอันทรงพลังจากด้านในอาณาจักร ที่นี่มิใช่อาณาจักรเล็ก ๆ แต่เป็นอาณาจักรใหญ่อย่างแท้จริง!
นางดีใจมากเช่นกัน
บางทีอาณาจักรเล็ก ๆ อาจไม่มีศาสตราที่ใช้เดินทางข้ามจักรวาล
ภายในอาณาจักรยิ่งใหญ่เยี่ยงนี้ ต้องมีศาสตราใช้เดินทางข้ามจักรวาลแน่