ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 486 รวมตัวกัน(กลาง)

ตอนที่ 486 รวมตัวกัน(กลาง)

​เมื่อ​กลับมา​จาก​ตรอก​กง​เสียน​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือน​เป็นเวลา​หนึ่ง​วัน​ ​ตั้งแต่​วันที่​สี่​จะ​ต้อง​เริ่ม​ไป​อวยพร​ปีใหม่​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​อันดับ​แรก​คือ​ไป​ที่​จวน​ซุน​โหว​ผู้เฒ่า​ที่​ตรอก​หง​เติง​ ​จากนั้น​ก็​ไป​จวน​ซุ่น​อ๋อง​ ​แล้วก็​ไป​จวน​องค์​หญิงฝู​เฉิง​ ​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​ ​จวน​เวย​เป่ย​โหว​ ​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ ​จวน​หวัง​ลี่​…​นอกจาก​จวน​หย่ง​ชัง​โหว​ที่​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยู่​พูดคุย​ต่อ​ที่​ห้อง​หนังสือ​ทั้ง​ช่วง​เช้า​แล้ว​ ​จวน​อื่น​ก็​เพียงแค่​ไป​ทักทาย​และ​ทานอาหาร​ด้วยกัน​สัก​มื้อ​แล้วก็​กลับ​จวน​

​ต่อมา​ก็​เป็น​พิธี​ครบรอบ​หนึ่งร้อย​วัน​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​หลังจากนั้น​โจวฮู​หยิน​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​มา​อวยพร​ปีใหม่​ ​สือ​อี​เหนียง​จัดงาน​เลี้ยง​ต้อนรับ​ที่​เรือน​ใน​ ​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ต้อนรับ​สหาย​ร่วมงาน​และ​สหาย​เก่า​ที่มา​อวยพร​ปีใหม่​อยู่​ที่​เรือน​นอก​ ​บางคน​ก็​พาส​ตรี​มาด​้วย​จึง​ต้อนรับ​เข้าไป​รอที​่​เรือน​ใน​ ​ยุ่ง​อยู่​เช่นนี้​จน​ผ่าน​เทศกาล​โคมไฟ​จึง​ได้​หยุดพัก​ ​ใน​จวน​ก็​เริ่ม​ทำ​เสื้อผ้า​ฤดูใบไม้ผลิ​อีกครั้ง

​สือ​อี​เหนียง​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำลัง​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​แบบเสื้อ​ผ้า​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​บางครั้ง​ก็​เชิญ​อาจารย์​เจี่ยน​เข้า​จวน​มาร​่ว​มหา​รือ​ด้วย​ ​บางครั้ง​ซิ่ว​เหลียน​กับ​อวี​้​เหมย​ก็​วิ่ง​ไป​ส่งข่าว​ที่​ห้อง​เย็บ​ปัก​วัน​ละ​สี่​ห้า​รอบ​ ​เพราะ​สอง​คน​นี้​ทำให้​เรือน​หลัก​มีชีวิตชีวา​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​บรรดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ที่​มีฝีมือ​ก็​เริ่ม​ลงมือทำ​เสื้อผ้า​ ​ปัก​ลวดลาย​บน​เสื้อผ้า​หรือ​ร้อย​เชือก​สีแดง​…​เมื่อ​ลม​ที่​พัดมา​โดน​ร่างกาย​ไม่ได้​มี​ความ​หนาวเหน็บ​แล้ว​ ​เสื้อผ้า​ของ​ทุกคน​ก็​เริ่ม​บาง​ลง​เรื่อยๆ​ ​เรือน​หลัก​เริ่ม​เต็มไปด้วย​บรรยากาศ​การพักผ่อน​และ​ความสงบ​สุข​ ​และ​ในเวลานี้​หู่​พั่ว​ก็​ตั้งครรภ์​แล้ว

​“​ข้า​ก็​กำลัง​กังวล​อยู่​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ถ้าหาก​ยัง​ไม่มี​การเคลื่อนไหว​อีก​ข้า​ก็​อด​ที่จะ​ถาม​ไม่ได้​แล้ว​!​”

​ปินจ​วี​๋​ที่​พาบุ​ตร​ชาย​ฉั​งอา​นมา​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​หัวเราะ​ ​“​คิด​ว่า​ท่าน​คง​ยุ่ง​ใน​ช่วง​ตรุษจีน​ ​บ่าว​จึง​ไม่ได้​มา​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​พอ​เข้า​จวน​มาก​็​ได้ยิน​ข่าวดี​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​ฉั​งอา​นที​่​นั่ง​ทาน​ขนม​เปี๊ยะ​อยู่​บน​ตัก​มารดา​อย่าง​เชื่อฟัง​ ​กำชับ​ชิว​อวี​่​ว่า​ ​“​ให้​แม่นม​กู้​อุ้ม​คุณชาย​น้อย​หก​มา​ให้​ปินจ​วี​๋​ดู​”

​ปินจ​วี​๋​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​อย่า​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​ชิว​อวี​่​รู้​ว่า​ปินจ​วี​๋​สำคัญ​ต่อ​สือ​อี​เหนียง​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​นำ​ความ​ไป​บอก​แม่นม​กู้

​“​คุณชาย​น้อย​หก​หน้าตา​งดงาม​ยิ่งนัก​”​ ​ปินจ​วี​๋​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไว้​ใน​อ้อมแขน​อย่างระมัดระวัง​ ​เอ่ยปาก​ชม​อย่าง​ไม่​หยุด

​“​ตอน​พึ่ง​เกิด​ใหม่​ๆ​ ​ตัว​แดง​ทั้งตัว​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​บอกว่า​เหมือน​ท่าน​โหว​ ​แต่​ข้า​ดู​ไม่​ออก​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ช่วงนี้​ค่อยๆ​ ​โต​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​รูปร่างหน้าตา​สะอาดสะอ้าน​ ​ข้าว​่า​ก็​นับว่า​ดูดี​เลย​ทีเดียว​”

​ปินจ​วี​๋​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

​ทำเอา​จิ​่น​เกอ​ตกใจ​ตื่น

​จ้องมอง​ด้วย​ดวงตา​กลม​โต

​ปินจ​วี​๋​รีบ​ถอด​ผ้าอ้อม​ให้​จิ​่น​เกอ​ปัสสาวะ​อย่าง​คล่องแคล่ว

​“​เมื่อก่อน​กิน​แล้วก็​นอน​ ​นอน​แล้วก็​กิน​ ​ข้า​ยัง​กังวล​ว่า​เขา​จะ​มองเห็น​หรือไม่​ ​จะ​ได้ยิน​หรือไม่​”​ ​แม่นม​กู้​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​ป้อน​นม​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​แต่​ตอนนี้​พอตื​่น​แล้วก็​ไม่​อยาก​นอน​ ​พอนอน​ไป​สักพัก​ก็​ตื่น​ ​ข้า​ได้ยิน​ป้า​เถี​ยน​บอกว่า​เด็ก​ที่​โต​พอ​ๆ​ ​กับ​เขา​หนึ่ง​วัน​อย่างน้อย​ก็​หลับ​ไป​แล้ว​หก​ชั่ว​ยาม​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​เขา​ถึง​ได้​มีชีวิตชีวา​เช่นนี้​”

​“​เด็กน้อย​ไม่ว่า​จะ​อ้วน​หรือ​ผอม​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ต้อง​มีชีวิตชีวา​”​ ​พูดถึง​เรื่อง​เด็ก​ปินจ​วี​๋​มีประสบการณ์​มากกว่า​นาง​ ​“​เมื่อมี​ชีวิตชีวา​ ​ทำ​อะไร​ก็​มีไหวพริบ​ ​เป็น​คนฉลาด​…​ต่อไป​คุณชาย​น้อย​หก​จะ​ต้อง​ฉลาด​มาก​อย่างแน่นอน​เจ้าค่ะ​”

​ขณะที่​ทั้งสอง​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ก็​มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​ไป​ที่​เรือน​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

​“​อี๋​เหนียง​ ​อี๋​เหนียง​ ​ปินจ​วี​๋​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​กระตือรือร้น​ขึ้น​มา​ ​ให้​ตง​หง​นำทอง​แดง​มาม​อบ​ให้​สาวใช้​น้อย​ ​จากนั้น​ก็​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​อย่าง​แรก​เลย​คือ​หู่​พั่ว​ตั้งครรภ์​แล้ว​ ​ตอนนี้​ปินจ​วี​๋​ก็​มาคา​รวะฮู​หยิน​…​คาด​ว่าฮู​หยิน​จะ​ต้อง​อารมณ์ดี​ไม่น้อย​!​”​ ​ขณะที่​พูด​สีหน้า​ก็​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความมุ่งมั่น​ ​“​ไม่มี​โอกาส​ใด​จะ​ดี​ไป​กว่านี​้​แล้ว​!​ ​วันนี้​แหละ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ ​“​ตง​หง​เจ้า​ไปหา​ปิ่นปักผม​สีทอง​ใน​ลิ้นชัก​หน้า​กระจก​ข้า​ ​พวกเรา​จะ​ไป​เรือนฮู​หยิน​กัน​”​ ​ตง​หง​รับคำ​แล้ว​เดิน​ไป​หยิบ​ปิ่นปักผม​ทันที

​ตอนที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มาถึง​เรือน​หลัก​ ​สือ​อี​เหนียง​กับ​ปินจ​วี​๋​ ​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​อีก​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ข้าง​เตียง​เตา​กำลัง​หยอกล้อ​กับ​จิ​่น​เกอ

​“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​วันนี้​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​!​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​ได้​พบ​กับ​สะใภ้​ว่าน​ต้า​เสี่ยน​ ​พวกเรา​ไม่ได้​เจอกัน​มานาน​แล้ว​ ​เจ้า​สบายดี​หรือไม่​”​ ​แล้ว​มอง​ฉั​งอา​นที​่​นั่ง​ถัดจาก​สือ​อี​เหนียง​ ​“​นี่​คือ​ฉั​งอา​นก​ระ​มัง​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​จะ​โต​ขนาด​นี้​แล้ว​!​”​ ​พูด​พลาง​เดิน​เข้าไป​จับมือ​เด็กน้อย​ ​“​ไหน​ข้า​ดู​หน่อย​สิว​่า​หน้าตา​เหมือน​ใคร​”​ ​มอง​สำรวจ​อย่างจริงจัง​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​ปินจ​วี​๋​ว่า​ ​“​ทำไม​เหมือน​เจ้า​ได้ขนาด​นี้​!​”

​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​!​”​ ​ปินจ​วี​๋​รีบ​เข้าไป​คำนับ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ใครๆ​ ​ก็​บอกว่า​เหมือน​บ่าว​เจ้าค่ะ​!​”

​“​บุตรชาย​เหมือน​แม่​ถึง​จะ​ไม่​อาภัพ​”​ ​ทันทีที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​ออก​ไป​นาง​ก็​รู้​ว่า​ตัวเอง​พูด​ผิด​แล้ว​ ​เพราะ​จิ​่น​เกอ​หน้าตา​เหมือนกับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​นาง​รีบ​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​วันนี้​รีบ​มา​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​อยู่​ด้วย​”​ ​พูด​พลาง​ดึง​ปิ่นปักผม​ที่อยู่​บน​หัว​ออกมา​ ​“​ตอนนี้​ยัง​เป็น​เดือน​หนึ่ง​อยู่​ ​สิ่ง​นี้​ข้าม​อบ​ให้​เจ้า​เป็น​ของขวัญ​”

​ปินจ​วี​๋​ประหลาดใจ​อย่างมาก​ ​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง

​ตั้งแต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​คุย​กับ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เป็นการ​ส่วนตัว​ใน​วัน​แรก​ของ​ปี​ ​แม้ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่ได้​ไป​พบ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ตามลำพัง​อีก​ ​แต่​ความไม่สบายใจ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับ​เพิ่มมากขึ้น​ทุกวัน​ ​สือ​อี​เหนียง​สังเกต​ความเป็นไป​ของ​เรื่องราว​มาต​ลอด​ ​ทั้ง​ยัง​ให้​คน​ไป​สืบ​เรื่อง​วันนั้น​โดยเฉพาะ​ ฮู​หยิน​สอง​ไป​ทำ​อะไร​ที่​สกุล​หวง​ ​คนที​่​กลับมา​รายงาน​บอกว่าฮู​หยิน​สอง​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ไท่ฮู​หยิน​ให้​นำ​ของกิน​ไป​ส่ง​ให้​หวง​ไท่ฮู​หยิน

​ตอนนี้​ก็​ไม่ใช่​เวลา​มาคา​รวะ​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับมา​เยี่ยม​อย่างกะทันหัน​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​แอบ​รู้สึก​ว่าการ​มา​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​ใน​วัน​แรก​ของ​ปี

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เล็กน้อย

​ปินจ​วี​๋​ยิ้ม​พลาง​รับ​มา​ ​ย่อเข่า​พลาง​เอ่ย​ขอบคุณ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​กำชับ​สาวใช้​น้อย​ให้​ไป​ยก​เก้าอี้​จิ​่​นอู​้​เข้ามา​ ​“​นั่งลง​คุย​กัน​เถิด​!​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​นั่งลง​ ​ยก​ถ้วย​ชา​ที่​สาวใช้​น้อย​นำมา​ให้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ยิ่ง​โตก​็​ยิ่ง​มีชีวิตชีวา​!​”

​ตอนที่​นาง​พูด​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​เอาแต่​จ้องมอง​นาง

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​ ​จากนั้น​ก็​ส่ง​จิ​่น​เกอ​ให้​แม่นม​กู้​ ​“​วันนี้​ไม่มี​ลม​ ​เจ้า​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​เดินเล่น​ที่​ลาน​เถิด​ ​นอน​นาน​เกินไป​ประเดี๋ยว​เขา​จะ​งอแง​อีก​”

​แม่นม​กู้​ยิ้ม​ตอบ​ ​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป​ ​ชิว​อวี​่​ก็​เข้ามา​พา​ฉั​งอา​นอ​อก​ไป​ ​ใน​ห้อง​จึง​มี​เพียง​สือ​อี​เหนียง​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​ปินจ​วี​๋​ ​ทันใดนั้น​บรรยากาศ​พลัน​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มา

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เหลือบมอง​ปินจ​วี​๋​ ​ลุกขึ้น​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ตรงหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​โปรด​ช่วย​ข้า​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ตกใจ​ ​รีบ​พยุง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​มี​อะไร​ที่​พูด​ไม่ได้​จนถึง​ขั้น​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​!​”

​ปินจ​วี​๋​เห็น​ดังนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ถอย​ออก​ไป​อย่าง​เงียบๆ​ ​พลาง​ช่วย​พวก​นาง​ปิดประตู​เก๋อ​ซ่าน

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​ชอบ​ให้​ใคร​มาคุก​เข่า​ให้​นาง​ ​จึง​ลุกขึ้น​ตาม​แรง​พยุง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​น้ำตา​กลับ​ค่อยๆ​ ​ไหล​ออกมา

​“​ท่าน​โหว​ให้​ข้า​ขาย​กิจการ​ทั้งหมด​ก่อน​วันที่​ยี่สิบ​สี่​เดือน​หนึ่ง​ ​มิเช่นนั้น​เขา​จะ​เป็น​คน​ลงมือ​ช่วย​ข้า​ขาย​กิจการ​เอง​”​ ​นาง​หยิบ​ผ้าเช็ดหน้า​มาซับ​หาง​ตา​ ​“​ข้า​ยัง​มี​ผู้​ร่วม​กิจการ​อีก​สามสิบ​กว่า​คน​ ​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​คนที​่​ติดตาม​ข้า​ออกมา​จาก​สกุล​เหวิน​ ​หาก​ขาย​กิจการ​นี้​ไป​แล้ว​ใคร​จะ​เลี้ยง​คน​เหล่านี้​ ​ต่อไป​พวกเขา​จะ​เลี้ยงชีพ​อย่างไร​ ​ข้า​จะ​ชดเชย​ให้​ผู้คน​ที่​ติดตาม​ข้า​เหล่านี้​ได้​อย่างไร​”​ ​ยิ่ง​พูด​นาง​ก็​ยิ่ง​เสียใจ​ ​“​ตอนแรก​ข้า​ถือหุ้น​ใน​กิจการ​ของ​สกุล​เหวิน​ ​ท่าน​โหวก​็​ไม่ได้​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​ต่อมา​พอ​ฮ่องเต้​ขึ้น​ครองราชย์​ ​ท่าน​โหว​บอกว่า​จวน​สวี​ได้​กลายเป็น​พระ​ญาติ​ของ​เชื้อพระวงศ์​ ​หาก​ยัง​มา​แย่ง​ผลประโยชน์​กับ​ประชาชน​เช่นนี้​จะ​ไม่ดี​ต่อ​ชื่อเสียง​ ​จึง​ให้​ข้า​เลิก​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​ ​ข้า​ยัง​ไม่ทัน​พูด​อะไร​เขา​ก็​มัดมือชก​ทันที​ ​แต่​อย่างไร​เสีย​ข้า​ก็​เป็น​บุตรสาว​สกุล​เหวิน​ ​ใช่​ว่า​บอก​จะ​ตัด​ก็​สามารถ​ตัด​ได้​ ​หาก​จะ​ตัด​ก็​ต้อง​ตัด​ให้​ขาด​อย่าง​หมดจด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เมื่อก่อน​ตอนที่​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิ​นก​็​ล้วน​อาศัย​บรรดา​ผู้​ร่วม​กิจการ​เหล่านี้​กับ​ผู้ดูแล​สกุล​เหวิน​ทั้งหมด​ ​เงินปันผล​ประจำปี​จึง​สามารถ​คำนวณ​ได้​อย่างชัดเจน​ ​หาก​เลิก​ทำ​กิจการ​แล้ว​สกุล​เหวิน​จะ​ใช้​คน​เหล่านี้​ต่อไป​เพื่อ​อะไร​ ​ข้า​ทำได้​เพียง​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​เปิดร้าน​ให้​พวกเขา​หาเลี้ยงชีพ​ ​แต่​ตอนนี้​ท่าน​โหวต​้​อง​การ​ให้​ข้า​ขาย​ร้าน​…ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ช่วย​พูด​กับ​ท่าน​โหว​ให้​ข้า​ที​เถิด​เจ้าค่ะ​!​ ​ข้า​จะ​ไม่​เปิดร้าน​แล้วก็​ได้​ ​จะ​ขาย​ทอด​ให้​บิดา​ของ​ชิว​หง​ ​เช่นนี้​คน​เหล่านั้น​ก็​ยัง​สามารถ​ทำมาหากิน​ใน​ร้าน​ได้​เหมือนเดิม​!​”

หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​ย่อม​เป็นความ​ผิด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อย่างแท้จริง​

แต่ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ทำการ​อย่าง​สะเพร่า​เช่นนี้​หรือ

อีก​อย่าง​นี่​ก็​ผ่าน​ไป​หลาย​ปี​แล้ว​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​เพิ่งจะ​ไม่ยอม​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทำ​กิจการ​แล้ว​ ​ซ้ำ​ยัง​รีบร้อน​ที่จะ​พูด​เรื่อง​นี้​ใน​วัน​แรก​ของ​วัน​ตรุษจีน​อีก​!

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​เรื่องราว​นั้น​แปลก​ๆ​

​นาง​ครุ่นคิด​ก่อน​จะ​นั่งลง​ข้างๆ​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​คำพูด​เหล่านี้​เจ้า​ได้​พูด​กับ​ท่าน​โหว​หรือไม่​”

​ท่าทาง​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นั้น​ผิดธรรมชาติ​เล็กน้อย​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ทำ​หน้า​นิ่ง​ ​ตอนนั้น​ข้า​ก็​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​ ​หลังจากนั้น​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ไม่​ถูกต้อง​ ​แต่​ก็​กลัว​ท่าน​โหว​จะ​โกรธ​จึง​ตั้งใจ​มา​ขอร้องฮู​หยิน​โดยเฉพาะ​…​”​ ​น้ำเสียง​ดู​ลังเล​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​บาง​ ​พูดเสี​ยง​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​็​ไม่ใช่​คน​ไร้เหตุผล​ ​ความกังวล​เหล่านี้​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​สามารถ​ไป​คุย​กับ​ท่าน​โหว​ได้​ ​แต่ว่า​ในเมื่อ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา​ขอร้อง​ข้า​ถึงที่​นี่​ ​ข้ามี​บาง​คำ​อยาก​จะ​ถาม​ ​ขอ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ช่วย​คลาย​ข้อ​ข้องใจ​ให้​ข้า​ด้วย​!​”​ ​พูด​จบ​ก็​ไม่​รอ​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พยักหน้า​ ​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​เจ้า​บอกว่า​ตอนแรก​เจ้า​ลงทุน​กับ​กิจการ​ของ​สกุล​เหวิน​ ​เจ้าที่​เป็น​สตรี​เหตุใด​จึง​ได้คิด​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ตะลึง​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​หลังจากที่​ข้า​ให้กำเนิด​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แล้ว​ ​ท่าน​พ่อ​บอกว่า​ข้า​เป็น​อนุ​ ​ไม่มี​สินสอดทองหมั้น​ ​ไม่​สู้​มาร​่ว​มลง​ทุน​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​ดีกว่า​ ​บิดา​ข้า​เป็น​คนดู​แล​เงินปันผล​ของ​กิจการ​ ​ต่อไป​หาก​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​พอ​มีเงิน​ติดตัว​ก็​จะ​ไม่​เดือดร้อน​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ถาม​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ลงทุน​ไป​เท่าไร​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​ด้วย​ความลำบาก​ใจ​ว่า​ ​“​ตอนนั้น​ข้า​ก็​มีเงิน​ไม่​มาก​ ​จึง​ไป​กู้เงิน​มา​ลงทุน​ ​ต่อมา​กิจการ​ของ​สกุล​เหวิน​ดีขึ้น​เรื่อยๆ​ ​พอ​เงินปันผล​ถูก​แจกจ่าย​ใน​ปีนั​้​นข​้า​ก็​นำ​เงิน​ที่​กู้​มา​ไป​คืน​”

​“​ตอนนั้น​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทำเงิน​ได้​เท่าไร​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เงียบ​ไป

​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่ได้​เร่งเร้า​นาง​ ​เพียงแค่​นั่ง​ดื่ม​ชา​อย่าง​เงียบๆ​

​ผ่าน​ไป​สักพัก​ใหญ่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ทำเงิน​ได้​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ทำเงิน​ได้มาก​ขนาด​นั้น​เชียว​!​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ท่าน​โหว​รู้​หรือไม่​ ​ต่อมา​อี๋​เหนียง​จัดการ​กับ​เงิน​เหล่านี้​อย่างไร​ ​นำ​ไป​ฝาก​ที่​คลัง​เงิน​ ​หรือ​นำ​ไป​ลงทุน​ทำ​กิจการ​กับ​สกุล​เหวิน​ต่อ​”

​ท่าทาง​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ค่อนข้าง​กระอักกระอ่วน

​สือ​อี​เหนียง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​หาก​ไม่​พูด​เรื่อง​นี้​ให้​ชัดเจน​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ช่วย​เจ้า​พูด​กับ​ท่าน​โหว​ได้​อย่างไร​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​มีท​่า​ที​เหมือน​ทุบ​หม้อ​จม​เรือ​[1]​ ​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​รู้อยู่​แล้ว​ ​อีก​อย่างหนึ่ง​ล้าน​ตำลึง​ใน​ตอนนั้น​ ​นอกจาก​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ที่​ข้า​นำ​ไป​คืนเงิน​ที่​กู้​มา​ ​ที่​เหลือ​อีก​เก้า​แสน​เก้า​หมื่น​ตำลึง​ก็​ถูก​ท่าน​โหว​เอา​ไป​หมด​”

​เงินต้น​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​ ​ทำเงิน​ได้​หนึ่ง​ล้าน​ตำลึง

หรือว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จะ​ถูก​เงิน​ทำให้​หน้ามืดตามัว

​“​กิจการ​เช่นนี้​ไม่ทราบ​ว่า​ทำ​มากี​่​ปี​แล้ว​”​ ​ท่าทาง​ของ​สือ​อี​เหนียง​เคร่งขรึม​เล็กน้อย​ ​“​ท่าน​โหว​เอา​เงิน​ไป​ทั้งหมด​เท่าไร​”

ตอนแรก​นาง​กังวล​เรื่อง​ศักดิ์ศรี​ของ​ท่าน​โหว​ ​แต่​ตอนนี้​ท่าน​โหวก​ลับ​ไม่สน​ใจ​ศักดิ์ศรี​ของ​นาง​เลย​ ​อีก​อย่าง​ก็ได้​พูด​ออก​ไป​แล้ว​ ​ให้ฮู​หยิน​รู้​ว่า​ใน​ปีนั​้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​บ้าง​ก็ดี​เช่นกัน​!

​เมื่อ​คิดได้​เช่นนี้​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ทำ​กิจการ​มา​แล้ว​หก​ปี​ ​ท่าน​โหว​เอา​เงิน​ไป​ทั้งหมด​เกือบ​เจ็ด​ล้าน​ตำลึง​เจ้าค่ะ​”

—————————————–

[1]​ทุบ​หม้อ​จม​เรือ ​เป็น​สำนวน​แปล​ว่า​ ​ยอม​สละ​ทุกอย่าง​เพื่อ​กระทำ​สิ่ง​หนึ่ง​ ​หรือ​ยอม​สู้ตาย​ไม่ยอม​ถอย

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท