เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 479 ชดใช้ความผิด ความฉลาดแกมโกงของเตาหนูกับกุ่ยซา (3)

ตอนที่ 479 ชดใช้ความผิด ความฉลาดแกมโกงของเตาหนูกับกุ่ยซา (3)

กุ่ยซาหรี่ตา “เจ้าอะไร เจ้ามีวิธีแก้ไขหรือไม่”

สำหรับสตรีนิสัยแย่ผู้นี้ พวกเขาสองคนไม่สะดวกลงมือจัดการเองจริงๆ

ถ้าหากต้องการแค่ชีวิตน้อยๆ ของนาง พวกเขาสองคนคงไม่ส่งนางกลับมา

พวกเขายังต้องสร้างความดีความชอบชดใช้ความผิด

ไม่ว่าจะชดใช้ได้หรือไม่ ก็ต้องโอบกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ แล้วลองทำดูสักครา

“ไม่…”

“ไม่ เจ้ายังเอ่ยข้า ข้าอยู่ตรงนั้นทำอะไร พวกเราสองพี่น้องว่างมากหรือ”

เตาหนูเขย่าดาบในมือ

คราวนี้นายท่านสวี่ไม่ได้แค่เหงื่อเย็นชุ่มตัว แต่เป็นการทำสงครามเย็นแล้ว

เขารีบสะบัดมือไปมา เอ่ยอย่างไม่เป็นประโยค

“ไม่…”

“ไม่อันใด ไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ข้าเอ่ยเมื่อครู่นี้พวกนั้นไม่ใช่บุตรีของเจ้ากระทำหรือ”

นายท่านสวี่อยากจะร้องไห้แล้ว

สองคนนี้หมายความว่าอะไรกันแน่ ไม่ยอมให้ตนเองเอ่ย ทั้งยังบิดเบือนความหมายของตนเอง พวกเขาจะทำอะไรกันแน่ หมายความว่าอะไรกันแน่

กุ่ยซาหยอกคนจนวิงเวียนศีรษะเรียบร้อย ก็ไม่ล้อเล่นอีกแล้ว

แต่…

เขาสบตากับเตาหนูอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาคิดวิธีที่ดีมาก ยอดเยี่ยมมากได้วิธีหนึ่งนานแล้ว!

และวิธีนี้จะต้องทำให้หัวหน้าตระกูลอารมณ์ดี คุณหนูใหญ่ตระกูลมั่วดีใจ และนายท่านสวี่ท่านนี้ดีใจแน่นอน!

เตาหนูเข้าใจ เมื่อเห็นสายตาของกุ่ยซาที่เป็นประกายเหมือนกัน!

“ก็ได้! หัวหน้าตระกูลพวกเราก็ไม่ใช่คนขี้เหนียวขนาดนั้น จะสังหารคนปิดปากเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ ท่านสามารถทำเช่นนี้ได้…”

ภายในโรงเตี๊ยม หลังจากการร่วมรักกันไปรอบหนึ่ง…

อ่อ ไม่สิ! หลังจากร่วมรักกันไปหลายคราจนหยุดลง ฟ้าก็มืดเล็กน้อยแล้ว

หลังจากมั่วเชียนเสวี่ยถูกหนิงเซ่าชิงดูแลอย่างดี…อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย… ทั้งร่างก็สะท้อนวาจาที่ว่าคนบอบบางยิ่งกว่าดอกท้อออกมา

จึงถูกหนิงเซ่าชิงรวบเข้าไปให้อ้อมแขนอย่างเกียจคร้าน ลมหายใจยังไม่สม่ำเสมอ จึงลงมือหยิกเอวหนิงเซ่าชิงอย่างแรง โดยไม่กล่าววาจาใดไปครั้งหนึ่ง!

“ฮิฮิ…” ไม่ได้ร้องเจ็บอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ กลับทำให้หนิงเซ่าชิงหัวเราะแทน

หลังสุขสมอารมณ์หมายก็มีเสียงแหบพร่าตามปกติ ทำให้เสียงหัวเราะเบาๆ ของหนิงเซ่าชิง ฟังดูแล้วเย้ายวนใจ และน่าหลงใหลเป็นพิเศษ

“หรือเสวี่ยเสวี่ยกำลังประท้วงที่สามีไม่ได้ปรนนิบัติให้ดี” จับมือเล็กๆ ของนางที่ยังหยิกอยู่ที่เอวตนเองขึ้นมาแนบลงบนริมฝีปาก จุมพิตเบาๆ

“ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ สามีสามารถพยายามได้อีก!” เอ่ยเสร็จ ก็โน้มตัวอยู่เหนือร่างมั่วเชียนเสวี่ย

คล้ายกับว่า รอได้ประโยคยืนยันจากมั่วเชียนเสวี่ย ก็จะลงมือกระทำเรื่องนั้นอีกทันที

“ไม่เอา!” มั่วเชียนเสวี่ยรีบเอ่ยปากห้าม!

นางกลัวกำลังกายที่พากเพียรบากบั่นของหนิงเซ่าชิงจริงๆ!

แต่ก่อนอ่านนิยายทะลุมิติ เห็นพระเอกบางคน สุดท้ายก็หนีไม่พ้นที่จะทำให้นางเอกสลบคาเตียงถึงจะเลิกรา

สำหรับเรื่องนี้ แต่ก่อนมั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกเหยียดหยาม!

จะมีคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้เสียที่ไหน

แต่ตอนนี้นางล้มล้างความคิดเก่าๆ พวกนั้นไปแล้วจริงๆ!

ยอมเลยจริงๆ!

พากเพียรบากบั่นคำนี้ เป็นคำประเมินสูงสุดสำหรับหนิงเซ่าชิงจริงๆ!

นางไม่คิดว่าหนิงเซ่าชิงกำลังล้อนางเล่นสนุกๆ!

ถ้าหากตนเองพยักหน้าจริงๆ คิดว่าหนิงเซ่าชิงจะต้องทำทั้งคืนแน่นอน!

ตอนนี้นางเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!

“หนิงเซ่าชิง ท่านมันคนชั่วร้าย! รู้จักแต่รังแกข้า!” ไม่ใช่น้ำเสียงโมโห แต่เป็นเง้างอน

คิดถึงสีหน้าท่าทางที่เสวี่ยเสวี่ยเผยท่าทีเง้างอนที่มีต่อเขามาก หนิงเซ่าชิงในตอนนี้ใจอ่อนอย่างอดไม่ได้ พลิกร่างลงไปโอบมั่วเชียนเสวี่ยเข้ามาในอ้อมแขน พลางจุมพิตหน้าผากนางแผ่วเบา

“อืม รังแกแค่เจ้า”

ชั่วชีวิตนี้จะรังแกแค่เจ้า ชั่วชีวิตนี้จะรังแกเจ้าแค่คนเดียวเท่านั้น

มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกหวานซึ้งในใจ ยิ้มบางๆ แอบอิงอยู่บนแผงอกของบุรุษร่างสูงใหญ่ ฟังเสียงลมหายใจ และเสียงเต้นของหัวใจเขาเงียบๆ

ตอนนี้ รู้สึกสงบเงียบอย่างยิ่ง

ทันใดนั้น! มั่วเชียนเสวี่ยก็เหมือนจะคิดเรื่องอะไรได้ จึงมองหนิงเซ่าชิงด้วยสีหน้าตื่นตะลึง!

“ทำไมหรือ” ถูกมั่วเชียนเสวี่ยมองเช่นนี้ หนิงเซ่าชิงจึงมีสีหน้าสงสัย เสวี่ยเสวี่ยของเขาเป็นอะไรไป?

“เซ่าชิง…”

มั่วเชียนเสวี่ยเพียงแค่นึกว่าความคิดที่อยู่ในใจนั้นเป็นเรื่องจริง นางก็มีสีหน้ารังเกียจอย่างอดไม่อยู่! รู้สึกว่าการที่พวกเขาทะเลาะกันหนึ่งวันหนึ่งคืนนั้นเสียเวลาเปล่าจริงๆ!

“หืม?”

“ที่ท่านเอ่ยว่าริษยาก่อนหน้านี้…คงไม่ได้เป็นเพราะถงจื่อจิ้งหรอกนะ?”

ก่อนที่ทั้งสองจะคืนดีหลังจากทะเลาะกัน มั่วเชียนเสวี่ยถามหนิงเซ่าชิงว่า ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ห้ามตนเองสร้างโรงเรือนเพาะปลูกพืชผัก แต่ไม่กี่ชั่วยามจากนั้น กลับไม่เห็นด้วย อีกทั้งน้ำเสียงก็ยังไม่ดีขนาดนั้นด้วย!

คำอธิบายที่เขาให้ตอนนั้น มีเพียงแค่ริษยา

ตนเองซักถาม ก็ถูกเขาจุมพิตจนเวียนหัว สุดท้ายทั้งสองคนกลิ้งมาทำเรื่องเหลวไหลกันในโรงเตี๊ยม

เมื่อครู่นางลองคิดให้ละเอียดแล้วว่าเพราะเหตุใดถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกันแน่ คำว่าริษยาของหนิงเซ่าชิงนั้นเป็นเพราะเหตุใด ก็พลันเข้าใจขึ้นมา!

เป็นเพราะถงจื่อจิ้งมาหา และยังสนับสนุนตนเอง ให้กำลังใจตนเอง บอกกับตนเองถึงวิธีใช้กระจกทำโรงเรือนเพาะปลูก หนิงเซ่าชิงถึงได้ริษยา หึงหวง และเอ่ยวาจาพล่อยๆ ออกมาแบบนั้นแน่นอน!

คิดได้แล้ว มั่วเชียนเสวี่ยก็รู้สึกตะลึงราวกับฟ้าผ่าใส่จริงๆ!

หนิงเซ่าชิงคนก่อนที่เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ใดๆ ล้วนไม่ใส่ใจคนนั้นไปไหนแล้ว คนที่แต่ก่อนไม่แยแสสิ่งใดไปไหนกัน?

“แค่ก…ฮ่าๆ…หนิงเซ่าชิง ท่านมันคนใจแคบ…ฮ่าๆ…”

มั่วเชียนเสวี่ยกลั้นหัวเราะไม่อยู่จริงๆ!

นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า เรื่องทั้งหมดนี้ จะมีสาเหตุมาจากความริษยา!

อีกอย่างนางกับถงจื่อจิ้งสองคน…

“มั่วเชียนเสวี่ย! ข้าว่าข้ารักและทะนุถนอมเจ้าเกินไป ถึงได้ทำให้ตอนนี้เจ้ายังมีแรงไปคิดถึงเรื่องวุ่นวายไร้สาระพวกนั้น!”

หนิงเซ่ามีสีหน้าทะมึนทันที!

เดิมนี่เป็นเรื่องน่าอายที่แม้กระทั่งตัวหนิงเซ่าชิงเองก็ไม่ยินยอมเอ่ยถึง ตอนนี้ถูกมั่วเชียนเสวี่ยเอ่ยออกมา เขารู้สึกว่าตนเองอับอายขายขี้หน้ามาก!

ความอับอายกลายเป็นความโมโห!

รวบเอาสตรีที่หัวเราะมีความสุขนางนี้เข้ามาในอ้อมแขน ทำให้มั่วเชียนเสวี่ยขยับตัวไม่ได้ในทันที!

“คุณ…คุณชายใหญ่หนิง…พี่หนิง…คุณชายหนิง…ใจเย็น! ใจเย็นๆ! หุนหันพลันแล่นคือปีศาจนะ! เป็นปีศาจ!”

มั่วเชียนเสวี่ยรู้สึกหวาดกลัววิธีการลงโทษทางกายแบบนี้จริงๆ!

แต่ในเมื่อนางทำให้หนิงเซ่าชิงโมโห เช่นนั้นย่อมต้องจ่ายค่าตอบแทน!

“หนิงอะไรก็ไม่มีประโยชน์! เสวี่ยเสวี่ย เพื่อไม่ให้เจ้ามีสมาธิไปคิดเรื่องวุ่นวายไร้สาระพวกนั้นอีก ดูท่าสามีทำได้เพียงแค่ยอมเหนื่อยอีกสักหน่อย!”

“อ๊ะ…ไม่นะ!”

ช่วงเวลาพลบค่ำ ถงจื่อจิ้งยังคงรออยู่ในเรือนเสวี่ยหว่าน

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

  1. ya พูดว่า:

    แอดจ๋าขอเรื่องทะลุมิติไปเป็นหมอหญิงยอดอัจฉริยะ ถ้ามีคิว ขอบคุณค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท