รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 482 ลั่วสุ่ย ‘นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้พบคุณชายในร่างมนุษย์!’

บทที่ 482 ลั่วสุ่ย ‘นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้พบคุณชายในร่างมนุษย์!’

บทที่ 482 ลั่วสุ่ย ‘นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้พบคุณชายในร่างมนุษย์!’

การมีคนหนุนหลังมันแตกต่างเช่นนี้เอง!

แม้ว่าความหน้าเลือดของกองกำลังฮวงเฉวียนจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง!

เมื่อจักรพรรดิหานเห็นใบหน้าของผู้เฒ่าอมตะแปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม ภายในใจก็ยิ่งหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

‘ฮ่าฮ่า เขากลัวแล้ว เขากลัวแล้ว กลัวจนใกล้จะร้องไห้แล้ว!’

ภายในใจของจักรพรรดิหานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เขาคิดดูอีกทีแล้ว เขาไม่สามารถปล่อยผู้เฒ่าอมตะไปอย่างง่ายดาย

อีกฝ่ายจับและบีบคอเขาไว้ เรื่องนี้จะยอมปล่อยไปโดยง่ายได้อย่างไร?

ไม่มีทาง!

ทว่าขณะที่เขากำลังคิดวิธีการจะนำมาลงโทษผู้เฒ่าอมตะ ก็เกิดเสียงดังโพละขึ้นมา ผู้เฒ่าอมตะบีบขยี้ศีรษะของเขาจนระเบิดออก!

นี่มันอะไรกัน!

ไม่ใช่ว่าผู้เฒ่าอมตะเกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวหรอกหรือ?

กล้าลงมือกับเขาเช่นนี้ได้อย่างไร?

วิญญาณของจักรพรรดิหานที่โดนผู้เฒ่าอมตะกักขังเอาไว้สั่นสะท้าน ไม่อาจขยับได้แม้แต่น้อย

“ข้าแทบจะอดใจจัดการคนจากกองกำลังฮวงเฉวียนไม่ไหว แต่เจ้ากลับนำกองกำลังฮวงเฉวียนมาข่มขู่ข้าอย่างนั้นหรือ?”

ดวงตาของผู้เฒ่าอมตะเปล่งประกายอย่างดุร้าย จิตสังหารของเขาแผ่ซ่าน

หากไม่ใช่เพราะอาณาจักรฮวงเฉวียนที่อยู่เบื้องหลังกองกำลังฮวงเฉวียน ตอนนี้เขาคงตรงไปที่ตำหนักของกองกำลังฮวงเฉวียน และกวาดล้างพวกมันให้หมดสิ้น!

จักรพรรดิหานถึงกับกล้านำกองกำลังฮวงเฉวียนมาข่มขู่เขา เกรงว่าจักรพรรดิหานจะไม่ชื่นชอบการมีชีวิตยืนยาวเสียแล้ว!

“เอ๊ะ?”

สีหน้าจักรพรรดิหานเปลี่ยนเป็นโง่งมทันที

ไปยั่วยุอีกฝ่ายเข้าแล้ว!

ผู้เฒ่าอมตะคนนี้มีความคับแค้นกับกองกำลังฮวงเฉวียน!

สถานการณ์ของเขาย่ำแย่ถึงขั้นสุด!

กาน้ำไหนไม่เดือด เขาก็เลือกหยิบกานั้น*[1]!

เขาร้องไห้ออกมา โอดครวญสุดชีวิต

หากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้พูดถึงกองกำลังฮวงเฉวียนขึ้นมา บางทียังอาจพอจะมีทางรอดอยู่บ้าง

ทว่าในตอนนี้เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!

ผู้เฒ่าอมตะคนนี้อาฆาตกองกำลังฮวงเฉวียน!

กองกำลังฮวงเฉวียนสารเลว!

ทั้งหน้าเลือด ทั้งเต็มไปด้วยหลุม แถมยังมีศัตรูทุกหนแห่ง!

ยามนี้เขาต้องมาติดร่างแหไปด้วย!

จักรพรรดิหานสาปแช่งครั้งแล้วครั้งเล่าภายในใจ ลืมเลือนไปเสียสนิทว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งดีอกดีใจที่ได้เข้าร่วมกองกำลังฮวงเฉวียน

“พี่ชาย พี่ใหญ่ เมื่อครู่ข้าพูดผิดไปแล้ว ความจริงข้าถูกกองกำลังฮวงเฉวียนบังคับให้เข้าร่วม! กองกำลังฮวงเฉวียนกับข้าไม่มีสิ่งใดกันจริง ๆ!”

จักรพรรดิหานมองผู้เฒ่าอมตะอย่างน่าเวทนา เสียงที่กล่าวออกมาอย่างละล่ำละลัก “ไม่รู้ว่าพี่ใหญ่จะเชื่อในสิ่งที่ข้ากล่าวออกมาตอนนี้หรือไม่?”

“เจ้าพูดพล่ามอะไร?”

ผู้เฒ่าอมตะยิ้มเหยียด ก่อนจะลงมือสังหารวิญญาณของจักรพรรดิหาน

เดิมทีเขาต้องการจะเก็บจักรพรรดิหานเอาไว้ เมื่อดาบมารมาถึงแล้ว เขาก็จะให้ดาบมารสังหารและดื่มเลือดของจักรพรรดิหาน

ทว่าจักรพรรดิหานกลับยั่วยุเขาเป็นอย่างมาก ถึงกลับหยิบกองกำลังฮวงเฉวียนมาข่มขู่ เขาจะอดทนได้อย่างไร เขาไม่สามารถรอให้ดาบมารมาลงมือสังหารจักรพรรดิหานทิ้งโดยตรง

หลังจากนั้นเขาก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้า เข้าสู่ดินแดนของตระกูลหาน

เขาใช้พลังปราบปรามสมาชิกทั้งหมดของตระกูลหานเอาไว้ ปล่อยให้ดาบมารได้สังหารชีวิตเหล่านี้หลังจากมาถึง

“ฮ่าฮ่า ลูกเอ๋ย รีบกลับมาเร็วเข้า!”

เขาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะใช้วิชาลับเรียกให้ดาบมารมายังที่แห่งนี้

ในใจของเขา ดาบมารเป็นเสมือนลูก ดาบมารเองก็คิดเช่นเดียวกัน จึงมักเรียกเขาว่าท่านพ่อ

ณ เมืองชิงซาน

ลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

“ลูก!?”

จอบเซียนที่พิงอยู่กับกำแพงได้ยินเสียงประโยคหนึ่งดังขึ้นมาในใจ มันถึงกับระเบิดโทสะออกมา!

ไอ้สารเลวตัวไหนกล้าเรียกมันเช่นนี้?

บังอาจมาเรียกมันว่า ‘ลูก’ ได้อย่างไร?

“หากข้าไม่สามารถทำให้เจ้าคุกเข่าและเรียกข้าว่าปู่ได้ ต่อจากนี้ไปไม่ต้องเรียกข้าว่าจอบเซียน!”

มันสบถสาปแช่งในใจ โกรธจนอยากจะไปทุบตีไอ้สารเลวที่มาเรียกมันว่า ‘ลูก’

ทว่าตอนนี้คุณชายยังอยู่ มันไม่กล้าฝ่าฝืนข้อห้าม แสดงอิทธิฤทธิ์ใดต่อหน้าคุณชาย

ในสายตาของคุณชายแล้ว มันเป็นเพียงแค่จอบ ‘ธรรมดา’

“ลูกเอ๋ย เจ้าลืมพ่อไปแล้วหรือ? เหตุใดจึงยังไม่มา?”

“ลูกเอ๋ย เวลาล่วงผ่านไปนานถึงเพียงนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อคิดเจ้ามากแค่ไหน?”

“ลูกเอ๋ย รีบมาเร็ว ๆ เถิด พ่อเตรียมของขวัญการพบหน้าเอาไว้ให้เจ้าแล้ว!”

เสียงนั้นดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจนทำให้จอบเซียนกราดเกรี้ยวจนอยากจะสังหารคน

ผู้ที่เรียกหามันประหนึ่งจะไม่สามารถพูดได้หากไม่มีคำว่า ‘ลูก’ จึงต้องเอ่ยขึ้นมาทุกประโยค!

ในตอนนั้นเองคุณชายเดินออกไปพร้อมกระดานหมากล้อม เหมือนจะไปหาตงฟางเวิ่นเพื่อเล่นหมากล้อมด้วยกัน

“ข้าเป็นพ่อของเจ้า! ไม่สิ ข้าเป็นปู่ของเจ้า!”

จอบเซียนด่ากลับไปหนึ่งประโยค ก่อนจะกลายเป็นเส้นแสงจากสถานที่แห่งนี้ไปชำระความกับคนที่เอาแต่เรียกหามัน

อีกด้านหนึ่ง ผู้เฒ่าอมตะที่เห็นว่าดาบมารไม่มีการตอบสนองหลังจากเขาเรียกไปครั้งแล้วครั้งเล่า ก็เตรียมจะใช้วิชาเพื่อค้นหาดาบมาร

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้หาดาบมาร ก็มีการตอบกลับมาจากดาบมาร

“โอ้ ลูกข้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องได้รับความทุกข์หรือถูกผู้อื่นหลอกลวงเป็นแน่ ไม่เป็นไร มาหาพ่อเถิด พ่อจะช่วยเจ้าจัดการทุกอย่าง!”

ผู้เฒ่าอมตะไม่โกรธเมื่อได้ยินดาบมารด่าตนเอง เขารู้ดีว่าหากดาบมารดั้งเดิมไม่มีท่าด่าเขาเช่นนี้ ตอนนี้อาจมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่เปลี่ยนแปลงดาบมารไป

เขาจึงตอบดาบมารกลับไปเช่นนั้น บอกให้ดาบมารมาพบเขา

“หลานชาย รอปู่เจ้าไปก่อนเถอะ!”

จอบเซียนตอบกลับ ก่อนจะเร่งความเร็วขึ้น ตอนนี้มันแทบรอไม่ไหวที่จะทำให้คนที่เรียกหาคุกเข่าลงและเรียกมันว่าปู่!

จะให้มันยอมได้อย่างไร ตอนนี้มันเป็นถึงจอบเซียน!

ณ เหยียนโจว บูรพาทิศ

สำนักไท่หัว

“ข้าจะกลับไปพบคุณชายแล้ว”

ลั่วสุ่ยหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะแปลงเป็นร่างมนุษย์ นางช่างงดงามเกินกว่าจะบรรยายได้

รูปร่างของนางสูงสะโอดสะองไร้ส่วนเกิน ผิวเนียนขาวราวกับหิมะ นัยน์ตาทรงเสน่ห์ราวกับภูต ทว่าไร้การยั่วยวน เครื่องหน้าทั้งห้าละเอียดละอ่อนงดงาม

เส้นผมสีดำของนางทอดตัวลงมาคลอเคลียอยู่บนไหล่ราวกับม่านน้ำตก อาภรณ์สีขาวยิ่งทำให้นางงดงามประหนึ่งเซียน ทว่าบนร่างมีบรรยายกาศบางอย่างทำให้รู้สึกคล้ายสาวน้อยข้างบ้าน ไม่เย็นชาห่างเหินเหมือนเซียน

“ระวังดวงตาด้วย เจ้าจะไม่ให้ข้าไปด้วยจริง ๆ ใช่หรือไม่”

เซี่ยเหยียนเอ่ยเสียงอ่อน นางเคยกล่าวกับลั่วสุ่ยว่าจะไปหาคุณชายเป็นเพื่อนด้วย แต่ลั่วสุ่ยไม่ยอม บอกว่าอยากจะกลับไปคนเดียว

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะได้พบคุณชายด้วยร่างมนุษย์ เหตุใดจึงจะต้องให้ท่านไปเป็นตัวเกะกะด้วย ใช่หรือไม่พี่เซี่ยเหยียน!”

ลั่วสุ่ยแลบสิ้นใส่เซี่ยเหยียนด้วยความขี้เล่น ท่าทางนั้นน่ารักเป็นอย่างยิ่ง

นางไม่รอให้เซี่ยเหยียนได้พูดสิ่งใดอีก รีบมุ่งหน้าออกเดินจากทางสำนักไท่หัว

นี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้พบคุณชายในร่างมนุษย์ นางไม่ต้องการให้เซี่ยเหยียนอยู่ด้วย นางต้องการจะอยู่กับคุณชายเพียงลำพัง

เมืองชิงซาน

ในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

บุ๋ง บุ๋ง!

ในที่สุด ไอ้จอบไร้ค่านั้นก็ไปแล้ว!

ในถังน้ำ ปลามังกรเอ่ยสบถออกมา

“ไม่ยอมให้ข้าออกไป ทั้งยังไม่ยอมให้ข้าได้กินหญ้า! ไอ้บัดซบ ข้าจะออกไปด้านนอก ข้าจะออกไปกินหญ้า! ให้ข้าดูเถอะว่าจอบผุพังอย่างเจ้าจะทำอะไรข้าได้หลังจากกลับมา!”

ปลามังกรก่นด่า “ไอ้พวกวัวนั่นด้วย ตอนที่ข้าโดนจอบหักตี กล้าดีอย่างไรมาหัวเราะเยาะข้า ข้าจะให้เจ้าหัวเราะหลังจากถูกข้าทุบตี! จอบผุพังนั่นไปแล้ว มาดูกันว่าจะมีผู้ใดสามารถปกป้องพวกเจ้าได้!”

หลังจากนั้นมันก็สั่งให้ปลาตัวอื่นในถังน้ำส่งมันออกไป

เมื่อเห็นว่าปลามังกรอารมณ์เสียถึงเพียงนี้ ปลาตัวอื่นในถังน้ำก็ไม่กล้าขัด หากไม่ยอมเกรงกว่าคงจะต้องตายเป็นแน่!

ด้วยเหตุนี้ ปลามังกรจึงสามารถออกไปจากโอ่งน้ำได้อย่างง่ายดายอีกครั้ง

[1] กาน้ำไหนไม่เดือด เขาก็เลือกหยิบกานั้น (哪壶不开提哪壶) หมายถึง ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท