ชนะแล้ว!
สู้กับอากาศไปก็แล้วกันนะ!
พ่ายแพ้อย่างไม่น่าพ่ายแพ้!
นี่เป็นครั้งแรกในหน้าที่การงาน ที่เฉาเต๋อจื้อรู้สึกว่าตนกำชัยชนะไว้อยู่หมัด รู้สึกว่าในที่สุดตนก็ได้ยืดอดอย่างเต็มภาคภูมิ วางมาดให้สมกับที่เป็นหัวหน้าแผนกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน
นี่สิถึงจะเรียกว่า ‘มงลง’ อย่างแท้จริง
และในตอนนั้น
โลกภายนอกยังไม่ได้เห็นหน้าค่าตาหนังสือเรื่องใหม่ของฉู่ขวง
ผลการประชันวรรณกรรมในครั้งนี้ระหว่างฉู่ขวงและเหลิ่งกวง ก่อให้เกิดการถกเถียงน้อยใหญ่ในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน
หลังจากนั้น เมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง การถกเถียงทั้งหมดก็อันตรธานไป
ถ้าหากนำชาวเน็ตทั้งหมดมากองรวมกันในห้องเรียนรวม สิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่ต่างอะไรกับนักเรียนพูดคุยกันอย่างคึกคักในคาบศึกษาด้วยตนเอง
กินขนมบ้าง จีบกันบ้าง
จู่ๆ คุณครูก็โผล่มา
หลังจากนั้น ทั้งห้องเรียนก็เงียบกริบลงทันที
สิ่งที่ต่างกันก็คือ เมื่อพวกเขาเห็นข้อความโปรโมตเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ก็เกิดเหม่อลอยไปชั่วขณะ ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวคุณครูแต่อย่างใด
พวกเขาสงสัยว่าตนทำอะไรผิดไป
[คาเธอร์: นี่คือหนึ่งในสิบผลงานที่ดีที่สุดในวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนของบลูสตาร์]
[ได้รับคะแนนประเมินจากสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนถึง 92.4 คะแนน กลายเป็นผลงานอันดับที่เจ็ดบนการจัดอันดับคะแนนในประวัติศาสตร์ของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน]
[ผลงานชิ้นใหม่ของฉู่ขวง ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส อาจกล่าวได้ว่าเป็นนิยายนักสืบที่สมบูรณ์แบบ]
คลังหนังสือซิลเวอร์บลูโปรโมตด้วยสามประโยคนี้
แต่สำหรับวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน กลับสร้างแรงสั่นสะเทือนไปเป็นวงกว้าง!
ดังก้องกัมปนาท!
วงการสืบสวนสอบสวนแตกตื่นกันทั่วทุกสารทิศ!
ตั้งแต่นักเขียนไปจนถึงผู้อ่านที่ชื่นชอบแนวสืบสวนสอบสวน ไม่มีใครไม่ถูกลูกหลงจากระเบิดระลอกนี้ของหลินเยวียน!
อันดับที่เจ็ดของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน?!
นิยายนักสืบที่สมบูรณ์แบบ?!
หลังจากที่ทุกคนตกตะลึงไปสักพัก ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตก็ฮือฮาขึ้นมา!
‘พระเจ้าช่วย!’
‘เว่อร์เกินไปหรือเปล่า’
‘รู้สึกว่าครั้งนี้ฉู่ขวงจะระเบิดพลัง?’
‘ตอนแรกผมอยากถามว่าคาเธอร์รับเงินหรือเปล่า แต่ข้อความโปรโมตด้านหลังบอกผมว่า สิ่งที่คาเธอร์พูดเหมือนจะเป็นเรื่องจริง ตอนนี้ผมรู้สึกว่าสมองเบลอมาก อยากรู้จริงๆ ว่าผลงานเรื่องใหม่ของอาจารย์ฉู่ขวงจะโหดขนาดไหน’
‘สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้ตั้ง 92.4 คะแนน!? บ้าไปแล้ว!’
‘คะแนนเท่านี้ก็ติดอันดับเจ็ดในประวัติศาสตร์วงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้จริงๆ นั่นแหละ วันนี้คนที่ชื่นชอบวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้เป็นประจักษ์พยานร่วมกัน ถึงยังไงผลงานที่ได้คะแนนติดหนึ่งในสิบก็ไม่ได้มีทุกปี’
‘ครั้งล่าสุดที่สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้เกินเก้าสิบคะแนนก็คงต้องย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน…’
‘ถ้าฉันจำไม่ผิด เรื่องหอพักเหมือนไม่ทะลุ 80 คะแนนนะ’
‘ประชันวรรณกรรม? ยังต้องประชันอะไรอีกล่ะทีนี้’
‘เหลิ่งกวง: วัยรุ่นไม่พูดกันเรื่องต่อสู้ แต่เอาผลงานที่ได้เก้าสิบกว่าคะแนนจากสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนมาไล่ตีฉัน!’
‘นี่เรียกว่าฆ่าไม่เลี้ยงแล้วล่ะมั้ง…’
‘แม่เจ้าโว้ย สรุปว่าฉู่ขวงเขียนอะไรกัน ถึงตกอาจารย์คาเธอร์กับสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้’
‘ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย! อุตส่าห์รอการประชันวรรณกรรมมาเป็นหมื่นปี ปรากฏว่าฉู่ขวงยังไม่ทันได้ลงมือ อาจารย์เหลิ่งกวงก็เหมือนจะไม่ไหวซะแล้ว!’
‘ลงมือก่อนเสียเปรียบ ที่คนโบราณพูดไว้เป็นเรื่องจริง!’
‘ครั้งนี้ฉู่ขวงเหมือนยืนอยู่บนชั้นบรรยากาศแล้วระดมยิงโจมตี’
‘…’
แม้ว่าคลื่นที่ระเบิดออกจะกลับขึ้นบนผิวน้ำ ทว่าแรงกระเพื่อมซึ่งสร้างความสั่นสะเทือนจะยังคงไม่สลายไป เช่นเดียวกับกระแสซึ่งขยายออกไปเป็นวงกว้าง จนท้ายที่สุดก็กระทบถึงทุกคนในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน และฉุดความคาดหวังในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้สูงขึ้น
เป็นความคาดหวังที่มีต่อผลงานชิ้นใหม่ของฉู่ขวง!
ต้องเข้าใจว่า สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนคือหน่วยงานที่มีความยุติธรรมสูงมาก จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่เคยปรากฏกรณีที่สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้คะแนนห่างไกลกับความเป็นจริงเลยสักครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีคาเธอร์ที่ช่วยสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนประทับตรารับรองอีก!
หากบอกว่าเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเป็นผลงานที่ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้ งั้นคาเธอร์ก็เป็นบุคคลที่ถูกจัดให้อยู่ในสิบอันดับแรกของประวัติศาสตร์ของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนเช่นกัน!
ต่อให้เขาทำเพื่อชื่อเสียงของตน ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยคำโฆษณาชวนเชื่อให้ฉู่ขวง
เพราะฉะนั้น ความจริงข้อหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ผลงานแนวสืบสวนสอบสวนชิ้นใหม่ของฉู่ขวงนี้ อาจเป็นผลงานระดับคลาสสิกจริงๆ!
……
หากบอกว่าคำโฆษณาของคลังหนังสือซิลเวอร์บลูกำลังหลอกลวง ในตอนนี้ทุกคนในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนล้วนกำลังถูกหลอกลวงอยู่ รวมไปถึงผู้ประสบเคราะห์กรรมในการประชันวรรณกรรมอย่างเหลิ่งกวง
‘ผู้ประสบเคราะห์กรรม’ เป็นฉายานามที่ทุกคนเพิ่งตั้งให้เหลิ่งกวง
ออกตัวท้าฉู่ขวงประชันวรรณกรรม เพื่อตัดสินกันด้วยผลงานแนวสืบสวนสอบสวน แต่ปรากฏว่าผลงานของคนเขายังไม่ทันได้ปล่อยออกมา ก็ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากบุคลากรระดับแนวหน้าในวงการ แถมทันทีที่ออกมาก็ยังถูกประเมินว่า ‘จะได้รับการบันทึกลงในประวัติศาสตร์วงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน’ จะให้เหลิ่งกวงรู้สึกยังไงล่ะ
แพ้แล้ว?
ฉันยังไม่ได้อ่านหนังสือของเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วมาบอกว่าฉันแพ้แล้วเนี่ยนะ?
ฉู่ขวงยังไม่ได้ลงมืออย่างเป็นทางการ ฉันก็ล้มซะแล้ว?
เหลิ่งกวงอยากบอกว่า
ฉันไม่เชื่อหรอก!
แต่เมื่อหันไปมองคะแนนที่สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้กับเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส และคำวิจารณ์ของคาเธอร์แล้ว เหลิ่งกวงก็พบว่าตนพ่ายแพ้อย่างอนาถเป็นที่เรียบร้อย
ปัญหาไม่ใช่เพราะคนหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่สนใจการประลองหรอก
ปัญหาไปอยู่ตรงที่ ‘การประชันวรรณกรรม’ ได้กลายเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ไปแล้ว
จับมดกับช้างมาประลองกันได้ไหมล่ะ?
คำตอบคือไม่ได้
คะแนนจากสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนได้กลายเป็นการประกาศผลการประชันล่วงหน้า ฉู่ขวงก็คือช้างตัวนั้น เพราะฉะนั้นเหลิ่งกวงเสียเปรียบ และกลายเป็นมดไปโดยปริยาย
อย่างไรก็เสียเปรียบอยู่แล้ว
แต่ขณะเดียวกันเหลิ่งกวงก็สงสัยจริงๆ
เป็นความสงสัยคนสายวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน อย่างน้อยในความสงสัยนี้ก็ปราศจากเจตนาอื่นเจือปน
เขาอยากรู้ว่า ผลงานชิ้นนี้เป็นอย่างไร
หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ แท้จริงแล้วเขาพ่ายแพ้ได้อย่างไร
ถ้าหากแม้แต่เรื่องนี้ก็ยังไม่รู้ ก็ออกจะไม่ยุติธรรมไปสักหน่อย
โชคดีที่นี่ไม่ใช่การประลองซึ่งไร้ความหมายระหว่างเหลิ่งกวงและฉู่ขวง การประชันวรรณกรรมครั้งนี้แม้จะมีผลลัพธ์ออกมากลายๆ ทว่าสุดท้ายแล้วก็ถูกตัดสินผ่านตัวอักษร
ท่ามกลางความคาดหวังของผู้คนนับไม่ถ้วน เรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสก็วาง! ขาย! แล้ว!
หลังจากนั้น
มีบางคนเรียกวันนี้ว่าเป็น ‘ปีแรกแห่งรัชศกฉู่ขวง’ ของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน
ในวันนี้เอง
เนื่องจากเหลิ่งกวงตื่นนอนค่อนข้างสาย เขาไปยังร้านหนังสือในละแวกใกล้เคียงติดต่อกันถึงสามแห่ง แต่ก็ยังหาซื้อฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสไม่สำเร็จ
ร้านหนังสือหลายแห่งขายหนังสือหมดภายในวันเดียว เห็นได้ชัดว่าผู้อ่านคาดหวังกับนิยายเรื่องนี้มากแค่ไหน นิยายถึงได้เป็นที่นิยมมากเช่นนี้
ในที่สุดก็กลับมาถึงบ้าน เหลิ่งกวงพบว่าตนได้รับพัสดุชิ้นหนึ่งซึ่งส่งตรงมาจากคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
ในพัสดุมี ‘ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส’ หนึ่งเล่ม
เหลิ่งกวงรุดไปยังห้องหนังสือ และเปิดเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสในทันที โดยที่ไม่ได้คาดเดาเจตนาร้ายของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู
ในหน้ารองเป็นคำนิยมซึ่งคาเธอร์เขียนให้แก่นิยายเรื่องนี้
‘ผมลืมไปแล้วว่าครั้งแรกที่ได้อ่านนิยายสืบสวนสอบสวนคือเมื่อไหร่ แต่ผมจำได้ว่าตื่นเต้นและตกใจมากแค่ไหนที่ได้อ่านนิยายสืบสวนสอบสวนเป็นครั้งแรก หลายปีผ่านไปผมกลายเป็นนักเขียนสืบสวนสอบสวนที่มีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง แต่กลับพบว่ามันยากเหลือเกินที่จะหานิยายสืบสวนสอบสวนซึ่งทำให้ผมรู้สึกประทับใจได้ ผมคิดว่าหัวใจของผมกำลังค่อยๆ ด้านชา แต่เมื่อผมเปิดอ่านฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่เพราะหัวใจของผมด้านชาไปแล้ว แต่เพราะยังไม่มีผลงานคลาสสิกชั้นยอดปรากฏขึ้นในวงการนิยายสืบสวนสอบสวนมานานเหลือเกินต่างหาก นานเสียจนประสาทสัมผัสในการรับรู้ความตื่นเต้นครั้งใหม่เริ่มหลงลืม ผมไม่อยากให้ทุกท่านเสียเวลากับคำนิยมนานเกินไป เพราะความตื่นเต้นกำลังรอคุณอยู่ ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับการเดินทางบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส’
เป็นคำนิยมที่สั้นมาก
เป็นคำชื่นชมและสนับสนุน
พบเห็นได้ทั่วไปในนิยายเรื่องอื่นๆ แต่เพราะคาเธอร์เป็นคนเขียน จึงมีความหมายที่ต่างออกไป ถึงอย่างไรเท่าที่เหลิ่งกวงรู้จักคาเธอร์ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคาเธอร์ชื่นชมเพื่อนร่วมอาชีพมากถึงขนาดนี้
“เริ่มเลยแล้วกัน”
ช่วงบ่ายอันเงียบสงัด เหลิ่งกวงเปิดอ่านฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส
เมื่ออ่านไปจนกระทั่งตัวอักษรสุดท้าย เขาปิดหนังสือลงอย่างระมัดระวัง และนำไปวางไว้บนจุดที่เขาหยิบจับง่ายที่สุดบนชั้นหนังสือ
“ตอนเด็กๆ ผมเรียนไม่เก่ง ไม่ชอบทำการบ้าน วันถัดมาจึงหาข้ออ้างว่าลืมทำ ครูมักจะว่าผมอยู่เสมอ ว่าถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลืมกินข้าว”
“ตอนนี้ผมอยากบอกกับครูเหมือนกัน ว่าวันนั้นผมลืมกินข้าวจริงๆ”
นี่เป็นสิ่งที่เหลิ่งกวงกล่าวในการสัมภาษณ์หลังจากนั้น
สถานที่ในการให้สัมภาษณ์คือห้องหนังสือแห่งนี้ บนชั้นหนังสือ ด้านหลัง มีฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสวางอยู่อย่างเห็นได้ถนัดตา
หลังจากนั้น จู่ๆ บทสัมภาษณ์ครั้งนี้ก็โด่งดังขึ้นมา จนทำให้ในการประชันวรรณกรรมของบลูสตาร์ มีประโยคเด็ดซึ่งใช้เพื่อยอมรับความพ่ายแพ้เกิดขึ้น
‘วันนี้ฉันลืมกินข้าว’
ผู้ปราชัยในการประชันวรรณกรรมมักจะพูดเช่นนี้ เพื่อบอกเป็นนัยว่าชื่นชมและยอมรับคู่ประลองของตน ขณะเดียวกันก็ยังรักษาภาพลักษณ์ของตนเองไว้ได้ด้วย
ประโยคนี้แปลง่ายๆ โดยชาวเน็ตก็คือ ‘ฉันแพ้แล้ว’
………………………………………………..