บทที่ 493 ผู้เกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จกลับกลายเป็นสิ่งที่ตนกล่อมเสียเอง นักรบปราบมังกรย่อมกลายเป็นมังกรร้ายในที่สุด!
หลิงอินและเสี่ยวหยามาอยู่ที่เมืองนภาด้วยค่ายกลเคลื่อนย้าย
พวกนางมาไม่เสียเที่ยว
โรงประมูลในเมืองนภามีศาสตราที่ใช้เดินทางในจักรวาลได้จริง ๆ
บัดนี้พวกนางกำลังรอการประมูลศาสตราเดินอากาศชิ้นนั้น
นี่คือนาวาล่องนภา แล่นทะลุอวกาศได้อย่างรวดเร็ว ลือกันว่าเป็นนาวาอันดับหนึ่งในการเดินทางข้ามจักรวาล คุณภาพน่าทึ่งยิ่ง สร้างโดยวัสดุระดับเทียนตี้ทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นศาสตราขั้นเทียนตี้อย่างแท้จริง ราคาสูงลิ่ว
และนาวาล่องนภาลำนี้มิได้ปรากฏครั้งแรกในโรงประมูลนี้ นาวาล่องนภาลำนี้อยู่ที่โรงประมูลมานานแล้ว และเคยถูกขายทอดอยู่หลายต่อหลายครั้ง ทว่าแทบทุกครั้งต้องจบด้วยการตกประมูล ไม่เคยซื้อขายสำเร็จ
เหตุผลนั้นมิใช่อย่างอื่น เพราะราคาของนาวาล่องนภาลำนี้สูงเกินไป อีกทั้งมีคุณสมบัติน้อย ทำได้เพียงเดินทางแล่นไปในอวกาศ ทุกคนจึงรู้สึกว่าการที่ต้องประมูลนาวาล่องนภาด้วยเงินมหาศาลนั้นมิสู้จะคุ้มเท่าใด
หลิงอินและเสี่ยวหยาโชคดีมาก นาวาล่องนภาลำนี้ไม่ถูกนำออกมาขายทอดนานแล้ว และพวกนางมาได้พอดีกับวันที่นาวาล่องนภาลำนี้ถูกยกขึ้นแท่นประมูลอีกครั้ง
ทว่า แม้จะบอกว่าโชคดีก็ยังไม่นับว่าโชคดีเท่าไร
เพราะสิ่งมีชีวิตที่มาเยือนโรงประมูลนี้ ส่วนใหญ่ล้วนหมายตานาวาล่องนภาลำนี้อยู่!
มีข่าวลือแพร่สะพัดในอาณาจักรอวี้ซวี ว่าแดนบรรพโกลาหลกำลังจะปรากฏตัวในอาณาจักรแห่งหนึ่ง!
เพราะเหตุนี้ โรงประมูลถึงนำนาวาล่องนภาออกมาขายทอดใหม่
และสิ่งมีชีวิตมากมายหมายใจอยากประมูลนาวาล่องนภามาให้ได้ เพื่อใช้ในการเดินทางข้ามอวกาศ ไปถึงอาณาจักรซึ่งเป็นที่ตั้งของแดนบรรพโกลาหล
พวกเขาต่างรู้ดีว่าแดนบรรพโกลาหลหมายความถึงสิ่งใด หากเก็บเกี่ยวบางอย่างได้จากที่นั่น พวกเขามีโอกาสบรรลุเซียนสูงมาก และดำรงอยู่เป็นนิรันดร์!
เพราะอย่างนั้นถึงได้บอกว่าหลิงอินและเสี่ยวหยาโชคดีและโชคไม่ดี
โชคดีคือพวกนางมาทันพอดี
และที่โชคไม่ดีคือทุกคนต่างหมายตานาวาล่องนภา การประมูลย่อมเป็นไปอย่างดุเดือด คู่แข่งของพวกนางมากเกินไป
“แดนบรรพโกลาหลหรือ”
หลิงอินพึมพำเสียงแผ่ว นางทราบข่าวนี้เช่นกัน และอาณาจักรที่ลือกันกว่ากำลังจะมีแดนบรรพโกลาหลปรากฏออกมานั้น คืออาณาจักรที่พวกนางอยู่!
นางย่อมรู้ดีว่าแดนบรรพโกลาหลนั้นสูงส่งมหัศจรรย์เพียงใด ยามได้ยินข่าวลือนี้ นางออกจะเชื่อไม่ลงอยู่สักหน่อย แต่ก็รู้สึกว่าควรเป็นเช่นนั้น
ถึงอย่างไรอาณาจักรที่พวกนางอยู่แสนจะไม่ธรรมดา ห้วงน้ำลึกยิ่ง การที่แดนบรรพโกลาหลปรากฏในอาณาจักรที่พวกนางอยู่ถือเป็นเรื่องปกติ
“เก้าแดนต้องห้ามอย่างทะเลต้องห้าม รวมถึงอาณาจักรเทียนหยวน ล้วนวางแผนเพื่อเข้าสู่แดนบรรพโกลาหลหรือ”
นางนึกถึงแดนต้องห้ามอย่างทะเลต้องห้าม และอาณาจักรเทียนหยวน รู้สึกว่ากองกำลังเหล่านี้คงพุ่งเป้าไปที่แดนบรรพโกลาหล
สิ่งมีชีวิตมากมายมาเพื่อนาวาล่องนภา โรงประมูลจึงจัดให้นาวาล่องนภาขายทอดเป็นลำดับสุดท้าย สิ่งที่ประมูลอยู่บนเวทีในตอนนี้คือนารีจิ้งจอกสวรรค์
บนเวทีมีนารีจิ้งจอกสวรรค์ทั้งหมดเก้าตน ล้วนแต่งามวิไลเย้ายวน ทุกรอยยิ้ม ทุกอิริยาบถช่างยวนตายวนใจ ราวกับเกิดมาพร้อมกับความวาบหวาม ให้ความรู้สึกจั๊กจี้ในใจเกินทน หลงใหลหัวปักหัวปำ!
“พวกเรามิใช่คนชั่ว พวกเราเพียงต้องการหาบ้านให้กับนารีจิ้งจอกสวรรค์ทั้งเก้าตนนี้!”
พิธีกรประมูลบนเวทีท่าทางฮึกเหิม ยามเอ่ยวาจากระตุ้นให้รู้สึกตามไปด้วย
“นารีจิ้งจอกสวรรค์เก้าตนนี้เป็นฝ่ายมาหาเรา เผ่าพันธุ์ของพวกนางพบเจอความลำบาก ต้องการของวิเศษจำนวนมากไปเจือจุน เพราะเหตุนี้ พวกนางจึงมาหาพวกเรา พวกนางเต็มใจสละตนเอง เพื่อแลกมาซึ่งความช่วยเหลือต่อเผ่า!”
พิธีกรประมูลกล่าวต่อ “พวกนางไม่มีข้อเรียกร้องอื่น เพียงแต่พวกนางเก้าตนพี่น้องรักใคร่กลมเกลียว หวังว่าจะได้อยู่ด้วยกัน! เพราะอย่างนั้น ครั้งนี้เราจะประมูลเก้าตนในคราเดียว!”
นารีจิ้งจอกสวรรค์ถึงเก้าตน อย่าให้พูดเลยว่าล่อตาล่อใจเพียงใด พวกนางให้ความร่วมมือกับพิธีกรงานประมูลเป็นอย่างดี ยามพิธีกรงานประมูลสาธยาย พวกนางต่างเช็ดน้ำตาอย่างอดไม่ได้ ชวนให้นึกสงสารและเอ็นดูขึ้นไปอีก จนอดเจ็บปวดใจแทนพวกนางมิได้
สิ่งมีชีวิตเพศชายในที่นี้ตาลุกวาวกันหมด เนื้อเต้นยิ่งกว่าเห็นของวิเศษเลอค่าเสียอีก พวกเขาหลงเสน่ห์นารีจิ้งจอกสวรรค์อย่างสิ้นเชิง แต่ละคนล้วนปรารถนาได้นารีจิ้งจอกสวรรค์มาในครอบครอง
ไม่ต้องคิดให้มากก็รู้ว่าทันทีที่เปิดขายทอด การประมูลต้องเป็นไปอย่างดุเดือดแน่นอน!
“นารีจิ้งจอกสวรรค์เชียวนะ ทุกคนต่างรู้ดีว่าพวกนางแตกฉานด้านบำเพ็ญคู่หยินหยาง ครอบครองเพียงหนึ่งตนก็เป็นเรื่องที่…สุขีสุดยอด! หากได้ครบทั้งเก้าตน ความรู้สึกนั้นคง อื้อหือ…ข้ามิกล้าจะคิด! กลัวทุกคนจะสุขสมจนถึงแก่ชีวิต!”
พิธีกรงานประมูลตะโกนลั่น “ความสุขสมเก้าเท่า ทุกคนลงมือได้เลย! เปิดประมูลอย่างเป็นทางการ เปิดประมูลที่ราคาหนึ่งแสนหินเทวะ!”
หินเทวะถือเป็นวัตถุบำเพ็ญขั้นสูง ราคาหนึ่งแสนหินเทวะนั้นมิใช่น้อย ๆ นารีจิ้งจอกสวรรค์เก้าตนนี้ขอบเขตพลังไม่สูงนัก หากว่ากันตามปกติ หนึ่งแสนหินเทวะนับว่าไม่คุ้มเท่าใด หนึ่งแสนหินเทวะซื้อสิ่งมีชีวิตขอบเขตพลังสูงกว่านารีจิ้งจอกสวรรค์เก้าตนนี้ได้แน่นอน
ทว่า มูลค่าของนารีจิ้งจอกสวรรค์มิได้อยู่ที่ขอบเขตพลัง…
สิ้นสุดคำว่าเปิดประมูลอย่างเป็นทางการ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายพากันบิดประมูลไม่หยุดหย่อน สิ่งมีชีวิตเพศชายมากมายมีสภาพคล้ายคลุ้มคลั่ง ราคาประมูลสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่นานนักก็เกินหนึ่งล้านหินเทวะ!
ความสุขสมเก้าเท่า ความเปรมปรีดิ์เก้าเท่า พวกเขาอยากลองลิ้มรสดู!
“สองล้าน!”
เวลานั้น เด็กหนุ่มมนุษย์คนหนึ่งตะโกน บิดราคาได้น่าทึ่ง เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ราคาประมูลไปถึงสองล้าน!
สองล้านถือเป็นราคาสูงยิ่ง เวลานั้น ภายในสถานที่พลันเงียบเชียบ มิมีผู้ใดกล้าบิดราคาอีก
ถึงแม้นารีจิ้งจอกสวรรค์เก้าตนนี้ล้ำเลิศ กระนั้นราคาสองล้านถือว่าเกินกว่าขอบเขตที่พวกเขารับได้ไปมาก พวกเขาได้แต่ยอมแพ้
“ของข้า ของข้าทั้งหมด!”
เด็กหนุ่มตาเป็นประกาย ตื้นตันเหลือคณา แม้ว่าเสียค่าใช้จ่ายไปถึงสองล้านหินเทวะ ทว่าขอเพียงได้นารีจิ้งจอกสวรรค์มาในครอบครอง เขาก็รู้สึกคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
เพียงแต่ ขณะที่เขากำลังตื้นตัน ผู้เฒ่าคนหนึ่งเดินดุ่ม ๆ มาอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มอย่างกราดเกรี้ยว
“เจ้าเด็กจอมถลุง ราคาตั้งสองล้านเจ้ายังกล้าบิดอีกหรือ”
ผู้เฒ่าเอ่ยกับเด็กหนุ่มอย่างโมโห
“ลุงเก๋อ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
เด็กหนุ่มคิดไม่ถึงว่าผู้เฒ่าผู้นี้อยู่ในโรงประมูลด้วย
“หากข้าไม่อยู่ที่นี่ ข้าคงไม่รู้ว่าเจ้าทำเรื่องเหลวไหลเยี่ยงนี้ลงไปได้!”
ลุงเก๋อถอนหายใจ เอ่ยอย่างเป็นห่วง “กังจื่อ อย่าหาว่าลุงเก๋อพูดจาตรงนักเลย สตรีนั้นเปรียบเสมือนความวิบัติ ล่องลอยเสมือนหมู่เมฆ ล้วนแล้วแต่ไม่จีรัง ทันทีที่เจ้าดื่มด่ำไปกับมันจะไม่สามารถถอนตัวได้อีก! เด็กเอ๋ย เจ้ายังเยาว์นัก ไม่เข้าใจคุณและโทษของสิ่งต่าง ๆ ฟังลุงสักคำเถิด เจ้าคุมไม่อยู่!”
“ลุงเก๋อ ข้า…”
ลุงเก๋อคือผู้ที่เขาเคารพนับถือที่สุด ได้ยินลุงเก๋อสั่งสอนเขาด้วยความหวังดีเยี่ยงนี้ กังจื่ออยากจะร่ำไห้นัก “ลุงเก๋อ ข้าสำนึกผิดแล้ว จากนี้ไปข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว!”
“อืม แบบนี้สิถึงจะถูก กังจื่อเจ้ายังเยาว์วัย ควรจดจ่ออยู่กับการฝึกตน ไม่ควรหมกมุ่นอยู่กับอิสตรี”
ลุงเก๋อพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“สองล้านหนึ่งแสน!”
เวลานั้น ในที่สุดก็มีคนทนแรงยั่วยวนจากนารีจิ้งจอกสวรรค์ไม่ไหว บวกราคาขึ้นไปอีก
“ลุงเก๋อ ข้าถอนตัว ข้าไม่บิดแล้ว!”
กังจื่อเอ่ยเสียงสะอึกสะอื้น เก็บถ้อยคำสั่งสอนเมื่อครู่ของลุงเก๋อไปใส่ใจ
หารู้ไม่ ลุงเก๋อมิได้สนใจกังจื่อ เขาตะโกนขึ้น “สองล้านสองแสน!”
“ลุงเก๋อ นี่ท่าน…?”
กังจื่อสับสน เมื่อครู่ลุงเก๋อยังเกลี้ยกล่อมเขาอยู่เลยมิใช่หรือ
ไฉนลุงเก๋อถึงบิดราคาเสียเอง
“สองล้านสามแสน!”
คนผู้นั้นไม่ยอมแพ้ บิดราคาต่อ
“สองล้านห้าแสน!”
ลุงเก๋อเพิ่มราคาขึ้นไปอีก!
“สามล้าน!”
คนผู้นั้นมีภูมิหลังไม่ธรรมดา รากฐานหนาแน่น คล้ายว่ามาด้วยความแน่วแน่ต้องครอบครองนารีจิ้งจอกสวรรค์ให้ได้ บวกขึ้นไปอีกห้าแสนหินเทวะ หมายจะข่มลุงเก๋อให้อยู่ ประมูลนารีจิ้งจอกสวรรค์มาจนได้
“สามล้านหนึ่งแสน!”
หารู้ไม่ ลุงเก๋อไม่คิดยอมแพ้เช่นกัน บวกราคาขึ้นไปอีก
“สามล้านห้าแสน!”
“สี่ล้าน!”
…
ทั้งคู่ไม่มีผู้ใดคิดถอนตัว บวกราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ราคาบิดพุ่งไปถึงหกล้านหินเทวะอย่างรวดเร็ว!
กังจื่อนิ่งค้าง คนรอบ ๆ กังจื่อก็นิ่งค้าง
พวกเขาต่างได้ยินวาจาที่ลุงเก๋อสั่งสอนกังจื่อเมื่อครู่ ลุงเก๋อกล่อมให้กังจื่อยอมรามือ แต่พวกเขากลับคิดไม่ถึงว่าลุงเก๋อบิดราคาได้ดุเดือดยิ่งกว่ากังจื่อเสียอีก พับผ่าสิ!
“กังจื่อ เกลี้ยกล่อมลุงเก๋อของเจ้าเร็วเข้า!”
“ใช่แล้วกังจื่อ ราคาใกล้เฉียดแปดล้านหินเทวะแล้ว!”
ผู้คนรอบ ๆ ขอให้กังจื่อช่วยกล่อมลุงเก๋อ
ราคาจากหกล้านจนพุ่งไปเกือบถึงแปดล้านแล้ว
“ลุงเก๋อ เลิกบิดเถิด ราคาสูงเกินไปแล้ว!”
กังจื่อรีบเข้าไปกล่อมลุงเก๋อ
ทว่า ลุงเก๋อผลักกังจื่อไปอีกด้าน ไม่แยแสกังจื่อแม้แต่น้อย บิดราคาสู้กับคนผู้นั้นต่อ
คนรอบข้างขอให้กังจื่อเกลี้ยกล่อมลุงเก๋อต่อ ถึงอย่างไรราคาตอนนี้ก็สูงเกินไป ใกล้จะถึงสิบล้านหินเทวะแล้ว
กังจื่อเข้าไปกล่อมอีก ผลคือถูกลุงเก๋อผลักออกไปอีกครั้ง ซ้ำร้ายลุงเก๋อยังถลึงตาใส่กังจื่อ ทำเอากังจื่อตกใจแทบแย่!
“พวกท่านหยุดบอกให้ข้าไปกล่อมเสียที ข้ากล่อมไม่ได้จริง ๆ ข้าบงการผู้ใดมิได้ทั้งนั้น ข้าบงการได้เพียงตัวเอง…”
กังจื่อเอ่ยเสียงร่ำไห้
หลังภาพนี้เกิดขึ้น คนอีกมากนิ่งค้างไป
สุดยอดเลย!
ลุงเก๋อกลายร่างเป็นกังจื่อ กังจื่อกลายร่างเป็นลุงเก๋ออย่างนั้นหรือ
ลุงเก๋อกลายเป็นเก๋อจื่อ กังจื่อกลายเป็นลุงกัง?
ผู้เกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จกลับกลายเป็นสิ่งที่ตนกล่อมเสียเอง???
นักรบปราบมังกรย่อมกลายเป็นมังกรร้ายในที่สุด???
ท้ายที่สุด คนผู้นั้นก็บิดสู้ลุงเก๋อไม่ไหว ลุงเก๋อปิดประมูลนารีจิ้งจอกสวรรค์ในราคาสิบห้าล้าน
“ไหนลุงเก๋อบอกว่าสตรีนั้นเสมือนความวิบัติ ล้วนไม่จีรัง คุมไม่อยู่อย่างไรเล่า?”
กังจื่อร้องไห้ขณะกล่าว
“กังจื่อ เจ้ายังเยาว์ เจ้าคุมไม่อยู่ ลุงเก๋อของเจ้าไม่เหมือนกัน ลุงเก๋อของเจ้าอยู่มานาน คุมได้อยู่! สตรีนั้นคือความวิบัติ ทว่าลุงเก๋อของเจ้าไม่กลัว ลุงเก๋อของเจ้าคือมหาสมุทร ไม่กลัวว่าจะจมดิ่งไปกับมัน!”
ลุงเก๋อเอ่ย ชื่อเต็มของเขาคือเก๋อไห่
“ฮะ…คือ…คือ…”
หลังกังจื่อได้ฟังวาจาของลุงเก๋อ งงเสียยิ่งกว่างง
แบบนี้ก็ได้หรือ?
“เฮ้อ เจ้าอย่าโกรธลุงเก๋อเลย ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้นารีจิ้งจอกสวรรค์ยวนตายวนใจปานฉะนี้ ซ้ำยังมีถึงเก้าตนด้วยกัน! ลุงเก๋ออยากลิ้มรสความสุขีเก้าเท่าบ้าง!”
ลุงเก๋อถอนหายใจพลางกล่าว