ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 505 พัวพัน(ปลาย)

ตอนที่ 505 พัวพัน(ปลาย)

​สือ​อี​เหนียง​มองดู​หยาง​อี๋​เหนียง​เงียบๆ

​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​กลับ​เริ่ม​เหงื่อ​ออก​หลัง

หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่ได้​มาร​้​อง​ขอ​ความเมตตา​ ​แต่​นาง​มาย​อมรับ​ผิด​ชัดๆ​!

เหมือนกับ​ที่ฮู​หยิน​พูด​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ทำ​อะไร​กัน​แน่​ ​แต่​นาง​ไม่เคย​พูด​ให้​ตัวเอง​ฟัง

ไม่​แปลกที่​หยาง​อี๋​เหนียง​ต้อง​พานา​งมา​หาฮู​หยิน​ด้วย​

ความไว้วางใจ​ที่ฮู​หยิน​มีต​่​อนาง​ ​ทุกคน​ใน​จวน​ต่าง​รู้ดี​ ​หาก​ไม่มี​นาง​ ​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​เช่นนี้​ ​ไม่ต้อง​บอกว่า​มาหาฮู​หยิน​ ​แม้แต่​เดินผ่าน​ห้องโถง​นั้น​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ไม่มีทาง​ทำได้

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​โมโห​จน​หน้าแดง

ฮู​หยิน​ไม่เคย​ยอมรับ​น้ำใจ​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​มาต​ลอด​ ​ที่แท้ฮู​หยิน​ก็​มองยัย​หมาป่า​ตาขาว​อย่าง​นาง​ออก​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​มี​แค่​ตน​ที่​ราวกับ​คนตาบอด​ ​คิด​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​เหมือน​ตัวเอง​ ​ล้วนแต่​เดือดร้อน​เพราะ​ครอบครัว​ ​จึง​เห็นใจ​นาง​…​ถูก​นาง​มองว่า​เป็น​เครื่องมือ​ยัง​ไม่พอ​ ​แล้วยัง​ทำให้ฮู​หยิน​ลำบาก​อีก​…

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​อยาก​จะ​ตบหน้า​ตัวเอง​สัก​สอง​ฉาด

นาง​อยู่​ใน​จวน​มานา​นก​ว่า​สิบ​ปี​ ​แต่กลับ​ต้อง​มาต​กม​้า​ตาย​เพราะ​หยาง​อี๋​เหนียง​คน​นี้​…

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เบิกตา​กว้าง​มอง​ไป​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง

​ตอนนี้​หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่มีเวลา​มาสน​ใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​นาง​สนใจ​แค่​สือ​อี​เหนียง

การ​แก่งแย่งชิงดี​ของ​ภรรยา​เอก​และ​อนุภรรยา​ ​ใช่​ว่า​ตน​จะ​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​นาย​หญิง​บางคน​โมโห​อนุภรรยา​แค่ไหน​ก็​ต้อง​ยอม​อดทน​อดกลั้น​ ​ใช่​ว่า​ไม่มี​วิธี​จัดการ​อนุภรรยา​ ​และ​ก็​ใช่​ว่า​เพราะ​ชื่อเสียง​ ​แต่​เป็น​เพราะ​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้​สามี​ไม่พอใจ​ ​ถูก​สามี​ทอดทิ้ง​ ​ถึงขั้น​ส่งผล​กระทบ​ต่อ​ตำแหน่ง​ของ​บุตร​และ​การ​แบ่งแยก​ทรัพย์สมบัติ

สือ​อี​เหนียง​เป็น​ภรรยา​เอก​คนเดียว​ ​แต่​ตน​คือ​อนุภรรยา​ที่​ไม่เคย​รับใช้​ท่าน​โหว​เข้านอน​ ​สถานะ​แตกต่าง​กัน​ราวกับ​ฟ้า​และ​เหว​ ​และ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ทำท่า​ที​ไม่สน​ใจใส​่​ตน​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​ตอนนี้​ ​สายตา​ที่​สือ​อี​เหนียง​ใช้​มอง​ตน​นั้น​ทั้ง​เย็นชา​และ​เฉียบแหลม​

เรื่องราว​ชัดเจน​ขนาด​นี้​แล้ว​ ​ตอนที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​เขา​ก็​คง​เล่า​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​หมด​แล้ว​ ​แล้ว​อาจจะ​เล่า​ว่า​ตน​นั้น​ทำ​อะไร​และ​พูด​อะไร​ไป​บ้าง​…​

​คิด​มาถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​น้ำตาไหล

​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​ ​ข้า​ได้ยิน​คนใน​ครอบครัว​บอกว่า​ ​ตั๋ว​ยืม​เงิน​สอง​สาม​พัน​ตำลึง​ของ​ท่าน​พ่อ​ต้อง​คืนเงิน​ตั้ง​สาม​หมื่น​ตำลึง​…ฮู​หยิน​ ​ท่าน​ลอง​คิดดู​สิ​เจ้า​คะ​ดอกเบี้ย​ที่ไหน​จะ​เยอะ​ขนาด​นี้​กัน​”​ ​นาง​พูด​พร้อมกับ​พยายาม​เค้น​น้ำตา​ให้​ออกมา​ ​“​เดิมที​ข้า​คิด​ว่า​คน​เหล่านั้น​ถือโอกาส​โจมตี​ครอบครัว​ของ​ข้า​เพราะ​เห็น​ว่า​ท่านปั​๋ว​สอง​คน​ของ​สกุล​ข้า​ถูก​คุมขัง​อยู่​ใน​ศาล​ต้า​หลี​่​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​มัน​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​ ​แต่ว่า​ท่าน​พ่อ​ไป​แจ้งความ​ที่​ศาล​แล้ว​ ​แต่​ศาล​กลับ​ไม่สน​ใจ​เลย​สักนิด​…​”​ ​นาง​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคียดแค้น​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ชาวบ้าน​ใน​ชนบท​ล้วน​ไม่รู้​เรื่อง​ของ​ราชสำนัก​ ​ลม​พัด​ต้น​อู๋ถง​จน​โค่นล้ม​ ​ต้น​ไหน​โค่นล้ม​ก็​เหยียบย่ำ​ต้น​นั้น​ ​แต่ว่า​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ก็​จะ​ไม่รู้​เช่นกัน​หรือ​เจ้า​คะ​ ​ท่านปั​๋ว​สอง​คน​ของ​ข้า​ ​หนึ่ง​ไม่มี​โทษ​ ​สอง​ไม่ได้​ถูกจับ​เข้า​คุก​ ​เหตุใด​ถึง​มั่นใจ​ว่า​พวกเขา​จะ​กลับมา​มีอำนาจ​อีกครั้ง​ไม่ได้​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​พวกเขา​ต้อง​ทำตาม​คำสั่ง​ใคร​สัก​คน​ ​เห็น​ว่า​สกุล​หยาง​ถูก​กวาดล้าง​จึง​มาซ​้ำ​เติม

ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ตอนนั้น​ไท่​เฮา​มอบ​หลานสาว​สกุล​เดิม​ให้​เป็น​อนุภรรยา​ของ​ท่าน​โหว​ ​ก็​เพื่อ​กระชับ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​สอง​ตระกูล​ ​ตีสุนัข​ยัง​ต้อง​ดู​เจ้าของ​มัน​ ​แต่​คน​เหล่านั้น​กลับ​ไม่สน​ใจ​ ​ราวกับ​มั่นใจ​ว่า​ท่าน​โหว​ไม่มีทาง​ออกหน้า​ช่วย​ข้า​…​ข้า​คิดดู​แล้ว​ ​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​มี​ลับลมคมใน​”​ ​นาง​ทำ​สีหน้า​เคร่งขรึม​และ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนักแน่น​ ​“​บางที​อาจจะ​มี​คน​คิดร้าย​กับ​สกุล​สวี​อยู่​ก็ได้​เจ้าค่ะ​ ​อยาก​ถือโอกาส​นี้​โค่นล้ม​สกุล​สวี​ ​เดิมที​ข้า​อยาก​มา​ขอร้องฮู​หยิน​ ​แต่​คิด​ว่าฮู​หยิน​ไม่สบาย​ ​ท่าน​โหวก​็​เป็นห่วงฮู​หยิน​ ​แม้แต่​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ใน​จวน​ก็​ยัง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คน​จัดการ​แทน​ ​หาก​ข้า​เดา​ถูก​ก็​เป็นเรื่อง​ดี​ ​แต่​หาก​เดา​ผิด​ ​เกรง​ว่า​ข้า​จะ​กระต่ายตื่นตูม​ไป​เอง​ ​ทำให้ฮู​หยิน​เป็นกังวล​ ​หาก​ท่าน​โหวตำ​หนิ​ขึ้น​มา​ ​ข้า​คง​ต้องตาย​แน่นอน​เจ้าค่ะ​

​ลังเล​อยู่​ตั้ง​นาน​ ​ข้า​จึง​ตัดสินใจ​ไปหา​ท่าน​โหว​”

​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ร้องไห้​ ​แล้ว​โขก​หัว​ลง​บน​อิฐ​สีฟ้า​อีกครั้ง​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​โปรด​ช่วย​ข้า​ด้วย​เถิด​!​ ​ข้า​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​จึง​ถูก​เลือก​ให้​มา​เป็น​อนุภรรยา​ของ​ท่าน​โหว​ ​แต่​ข้า​ไม่เคย​คิด​อะไร​ไม่ดี​เลย​ ​แค่​อยาก​ตั้งใจ​รับใช้ฮู​หยิน​ ​รับใช้​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ตัวเอง​ไม่​ลำบาก​ก็​พอแล้ว​…ฮู​หยิน​ ​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​ล่ะ​เจ้าค่ะ​ ​ชาติหน้า​ไม่ว่า​ข้า​จะ​เกิด​เป็น​อะไร​ข้า​ก็​จะ​มาต​อบ​แทน​บุญคุณ​ของ​ท่าน​!​”

​บ่าว​รับใช้​ใน​ห้อง​กลั้นหายใจ​ตั้งแต่​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​อ้า​ปาก​ถาม​หยาง​อี๋​เหนียง​แล้ว​ ​ทุกคน​ล้วน​ยืน​ก้มหน้าก้มตา​ราวกับ​เสา​ไม้​ ​ทำให้​เสียง​โขก​หัว​ที่​กระแทก​กับ​พื้น​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ดัง​เป็นพิเศษ​ ​บรรยากาศ​ก็​ยิ่ง​อึดอัด​ ​ทำเอา​ผู้คน​หวาดกลัว​จน​ตัวสั่น​

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​จู๋​เซียง​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง

​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เอน​ตัว​พิง​หมอน​บน​เตียง​เตา​ ​ถือ​กระจก​ที่​มีด​้าม​จับ​ที่​แกะสลัก​ลาย​ดอกไม้​และ​วิหค​โบยบิน​อยู่​ใน​มือ​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เรียบ​เฉย​ ​ความเสียใจ​ ​ความโมโห​ ​ความ​เคร่งขรึม​และ​ความกังวล​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่มีผล​อะไร​กับ​นาง​เลย​แม้แต่น้อย

​พวก​นาง​สอง​คน​ต่าง​ก็​ตกใจ​

​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​นิ่งเฉย​ ​“​ไม่รู้​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​ทำ​อะไร​ผิด​ ​ถึง​ได้มา​ขอร้อง​ให้​ข้า​ให้อภัย​เจ้า​?​”

​เพียงแค่​ประโยค​เดียว​กลับ​ทำให้​การกระทำ​ทั้งหมด​เมื่อ​ครู่​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ดู​เป็น​ส่วนเกิน​และ​ไม่จำเป็น​โดยทันที

​หยาง​อี๋​เหนียง​กระวนกระวายใจ

สือ​อี​เหนียง​ ​บุตรี​ของ​อนุภรรยา​ที่สามา​รถ​แต่ง​เข้ามา​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ ​ต้อง​เป็นที่ชื่นชอบ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​สาวใช้​ใน​จวน​ ​นาง​ไม่ใช่​คนธรรมดา​จริงๆ​ ​พอ​มีโอกาส​ก็​ทำให้​ตน​ลำบากใจ​ ​คิด​ว่า​จะ​ลงโทษ​ตน​เช่นไร​…

​นาง​ยก​หน้าผาก​ที่​แดงก่ำ​ขึ้น​มา​แล้ว​พูด​ทั้ง​น้ำตา​ ​“​ท่าน​โหวตำ​หนิ​ว่า​ข้า​ไม่รู้​จัก​หน้าที่​ ​วิพากษ์วิจารณ์​เรื่อง​ของ​ราชสำนัก​ ​ไม่​จงรักภักดี​ต่อสกุล​สวี​ ​ข้า​ไม่มีทาง​คิด​เช่นนั้น​แน่นอน​ ​แต่​ข้า​ไม่ได้ตั้งใจ​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​เกิด​ใน​ชนบท​ ​แต่ว่า​ข้า​ก็​รู้จัก​คำพูด​ที่ว่า​ ​‘​หาก​ตะกร้า​ไข่​คว่ำ​ ​ไข่​ทั้งหมด​ก็​ย่อม​แตก​’​ ​ข้า​ไม่มีทาง​ไม่​จงรักภักดี​ต่อสกุล​สวี​เพราะ​เรื่อง​สกุล​เดิม​ของ​ตัวเอง​แน่นอน​เจ้าค่ะ​…​ ​“

​ไม่เพียงแต่​ตอบ​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​แต่กลับ​ใช้​จิตวิทยา​เล่าเรื่อง​ที่​ทุกคน​ชอบ​ฟัง​เพื่อ​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​เล่า​ถึง​เหตุการณ์​หลังจากที่​นาง​ไป​เจอ​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แล้วยัง​เล่า​สาเหตุ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​โมโห​ ​สาเหตุ​นั่น​ก็​คือ​นาง​พูด​ใน​สิ่ง​ที่​ไม่​ควร​พูด​ออก​ไป

หาก​ไม่​มั่นใจ​ใน​ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หาก​ตน​เป็น​คน​ขี้สงสัย​ ​ตน​คงจะ​ถาม​ตาม​คำพูด​ของ​นาง​กระมัง

​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​นาง​ถึง​กล้ามา​หา​ตัวเอง​

ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​แค่​การ​พูด​การ​จา​ที่​ฉลาดเฉลียว​ของ​นาง​ ​ก็​คง​ทำให้​นาง​มี​ความมั่นใจ​อยู่​ไม่น้อย​

​“​หยาง​อี๋​เหนียง​”​ ​นาง​วาง​กระจก​ที่​มีด​้าม​จับ​ใน​มือ​ลง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​แล้ว​ขัดจังหวะ​การ​พูด​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​“​เจ้า​พูด​มาตั​้​งมา​กมาย​ ​แต่​ข้า​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ว่า​เจ้า​อยาก​ให้​ข้า​ให้อภัย​เจ้า​เรื่อง​อัน​ใด​ ​หาก​จะ​บอกว่า​กลัว​ข้า​จะ​ตำหนิ​ที่​เจ้า​แอบ​ไปหา​ท่าน​โหว​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​เมื่อ​ครู่​เจ้า​ก็​บอก​ชัดเจน​แล้ว​ ​ว่า​กลัว​ข้า​จะ​กังวล​ ​จึง​ไม่ได้​มาบ​อก​ข้า​ก่อน​ ​หาก​จะ​บอกว่า​เพราะว่า​ท่าน​โหวตำ​หนิ​เจ้า​แล้ว​กลัว​ท่าน​โหว​จะ​ตำหนิ​เจ้า​อีก​ ​แต่​ท่าน​โหว​ไม่ได้​กักบริเวณ​เจ้า​ ​แล้วก็​ไม่ได้​บอก​ให้​ป้า​ตู้​ลงโทษ​เจ้า​ ​ข้า​เลย​ไม่เข้าใจ​จริงๆ​ ​ว่า​เหตุใด​หยาง​อี๋​เหนียง​ถึง​ต้อง​มา​เจอ​หน้า​ข้า​แล้ว​อ้อนวอน​ให้​ข้า​ช่วย​เจ้า​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​อย่าง​ฉับพลัน​ ​แล้ว​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ข่มขู่​ ​ ​“​หรือว่า​เรื่อง​ทั้งหมด​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​เล่า​มาคือ​เรื่อง​ที่​อยาก​ทำให้​คนอื่น​ตื่นตระหนก​!​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​ท่าน​โหว​พูด​มีเหตุผล​ ​เจ้า​ทำ​เกินหน้า​ที่​และ​ไม่​จงรักภักดี​ต่อสกุล​สวี​ ​เจ้า​รีบ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​กลับ​ไป​ไตร่ตรอง​คำพูด​ของ​ท่าน​โหว​ให้​ดี​ ​ต่อไป​จะ​ได้​รู้​ว่า​เรื่อง​อัน​ใด​ควร​ทำ​ ​เรื่อง​อัน​ใด​ไม่​ควร​ทำ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ยื่นมือ​ออก​ไป​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ

​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​แบกรับ​ความผิด​ทั้งหมด

​ตั้งแต่​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รู้​ถึง​เจตนา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ผิด​มาโดยตลอด​ ​รู้สึก​ผิด​จนถึง​ตอนนี้​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ ​คิด​ว่านาง​เป็น​คน​พา​หยาง​อี๋​เหนียง​มา​ ​นาง​จึง​รีบ​เดิน​เข้าไป​กอด​แขน​หยาง​อี๋​เหนียง​ราวกับ​ชดใช้​ความผิด​ของ​ตัวเอง​ ​“​น้อง​หญิง​ ฮู​หยิน​พูด​ถูก​ ​เรื่อง​พวก​นี้​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​สตรี​อย่าง​เรา​ ​เจ้า​ทำ​เช่นนี้​มัน​ไม่เหมาะสม​จริงๆ​ ​ในเมื่อฮู​หยิน​บอก​ให้​เจ้า​กลับ​ไป​ไตร่ตรอง​ให้​ดี​ ​เช่นนั้น​เรา​ก็​อย่า​รบกวนฮู​หยิน​พักผ่อน​เลย​…​”

หาก​กลับ​ไป​เช่นนี้​ ​แล้ว​ทำไม​ตัวเอง​ต้อง​พยายาม​มาหา​สือ​อี​เหนียง​เล่า​ ​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​หาก​ตน​เสียโอกาส​นี้​ไป​ก็​อาจจะ​ไม่มี​โอกาส​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​แล้ว

ตอนนี้​เรื่อง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​คือ​ตน​ต้อง​อยู่​ที่นี่

หาก​ยัง​มี​ภูเขา​เขียวชอุ่ม​ ​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​จะ​ไม่มี​ฟืน

​หยาง​อี๋​เหนียง​รีบ​ดัน​แขน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ออก​ทันที​ ​แล้ว​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความกังวล​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คำพูด​ของ​ท่าน​ข้า​จะ​จำ​เอาไว้​ ​แต่ว่า​ท่าน​โหว​…​ ​“​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ปิดหน้า​ร้องไห้​ ​“​ท่าน​โหว​จะ​ส่ง​ข้า​ไป​อยู่​ที่​วัด​เพราะ​เรื่อง​นี้​เจ้าค่ะ​!​”

ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​การ​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ส่ง​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​ก็เพราะว่า​ตัวเอง​พูด​เรื่อง​ที่​สตรี​อย่าง​นาง​ไม่​ควร​พูด​ ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พอใจ​

​จู๋​เซียง​และ​คนอื่นๆ​ ​ที่​รู้​ต่าง​ก็​ก้มหน้าก้มตา​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​คนอื่น​ที่​ไม่รู้​ต่าง​ก็​มีสี​หน้า​ตกใจ

​สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​อย่าง​แผ่วเบา

หาก​นาง​ไม่รู้​จัก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​หาก​นาง​ไม่ไว้วางใจ​สวี​ลิ่ง​อี๋​…​นาง​คงจะ​หลงเชื่อ​คำพูด​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​แล้ว​กระมัง​!

​“​หาก​เจ้า​พูด​เช่นนี้​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จับจ้อง​ไป​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​ด้วย​สายตา​ที่​เฉียบแหลม​ ​“​ท่าน​โหว​จะ​ส่ง​เจ้า​ไป​อยู่​ที่​วัด​แต่กลับ​ไม่​ให้​ข้า​ลงโทษ​เจ้า​ ​เจ้า​ไม่พอใจ​เช่นนั้น​หรือ​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​เหตุใด​เจอ​ข้า​ก็​ขอร้อง​ให้​ข้า​ช่วย​เจ้า​!​”

​“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​ไม่ใช่​ไม่พอใจ​เจ้าค่ะ​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​รีบ​แก้ตัว​ ​“​แต่​ข้า​แค่​กลัว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​พร้อม​กลับ​คุกเข่า​ลง​แล้ว​ขยับ​ไป​จับ​ขอบ​เตียง​เตา​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ท่าน​เกิด​ใน​สกุล​นักปราชญ์​ ​กฎเกณฑ์​เคร่งครัด​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เคย​ไป​วัด​กับ​บิดา​มารดา​หรือ​พี่น้อง​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ​แต่​ก็​ต้อง​เลือก​สถานที่​สงบสุข​และ​มีชื่อเสียง​ ​ดื่ม​ชา​และ​ทานอาหาร​ที่​ลานวัด​ ​จะ​รู้เรื่อง​สกปรก​ของ​คนที​่​มี​เจตนาร้าย​พวก​นั้น​ได้​เช่นไร​กัน​…​”

​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หน้าแดง

​“​มี​คนที​่​เห็น​ว่าการ​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​แม่ชี​เหมือน​พระภิกษุ​ ​พวกเขา​ก็​ชอบ​ไปดู​ ​เจอ​กับ​บรรดา​สตรีที​่​ไป​จุด​ธูป​ไม่เพียงแต่​ไม่​หลบ​แล้วยัง​วิพากษ์วิจารณ์​พวก​นาง​ ​มอบ​เงิน​ให้​ทำ​เรื่องส่วนตัว​พวก​นั้น​ ​แล้วยัง​มี​คนที​่​จิตใจ​ชั่วช้า​ถึงขั้น​หาวิ​ธี​ลักพาตัว​พวก​นาง​ไป​ขาย​ ​ไม่​ก็​ลักพาตัว​ไป​เป็น​อนุภรรยา​…​แล้ว​พวก​นาง​ก็​ยัง​เป็น​คนที​่​มีครอบครัว​ ​มีบิ​ดามา​รดา​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​หาก​เจอ​แม่ชี​ที่อยู่​ตัว​คนเดียว​อีกทั้ง​ยัง​ไร้ค​รอบ​ครัว​ ​ก็​อาจจะ​วางยา​แล้ว​พา​พวก​นาง​ไป​ขาย​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​เจ้าค่ะ​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​หลานสาว​ของ​นักโทษ​ที่​ถูก​สกุล​สามี​ทอดทิ้ง​อย่าง​ข้า​”

​พูด​จบ​ประโยค​นาง​ก็​สะอื้น​ไห้​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​อีก

​“​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​ต่ำต้อย​ ​แต่​ก็​ยัง​เคย​อ่าน​ ​‘​บัญญัติ​สตรี​’​ ​และ​ ​‘​ตำนาน​ปีศาจ​สาว​’​ ​ข้า​ไม่​กลัว​ความยากลำบาก​ใน​วัด​ ​แต่​กลัว​ว่า​จะ​เจอ​เรื่อง​เลวร้าย​พวก​นั้น​…​”​ ​เดิมที​นาง​อยาก​พูดว่า​ ​‘​หาก​เป็น​เช่นนั้น​ ​นาง​ยอม​ตาย​เสียดี​กว่า​’​ ​แต่​คิดดู​แล้ว​ ​หาก​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฆ่า​นาง​ ​นาง​ก็​คง​หา​เหา​ใส่​หัว​ตัวเอง​ ​นาง​จึง​หยุดชะงัก​ไป​สักพัก​หนึ่ง​ ​ก้มหน้า​เช็ดน้ำ​ตา​แล้ว​ไม่​พูด​ประโยค​นั้น​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​บอกว่า​จะ​ส่ง​ข้า​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​ข้า​ไม่กล้า​ปฏิเสธ​ ​แต่​ขอให้ฮู​หยิน​อนุญาต​ให้​ข้า​ไป​อยู่​ที่​วัด​ของ​วงศ์สกุล​ได้​หรือไม่​ ​ข้า​จะ​ได้​ไม่ต้อง​ไป​อยู่​ใน​สถานที่​ที่​ราวกับ​ตายทั้งเป็น​เช่นนั้น​ ​ทำให้ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหวต​้​อง​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า​ ​แล้ว​ข้า​ยัง​จะ​ได้​บำเพ็ญ​เพียร​ให้ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​น้อย​และ​คุณหนู​ ​ขอให้​พระโพธิสัตว์​ปกป้อง​สกุล​สวี​ให้​เจริญ​รุ่ง​เริง​ ​ลูก​เต็ม​บ้าน​หลาน​เต็ม​เมือง​เจ้าค่ะ​”

​“​วัด​ของ​วงศ์สกุล​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มองดู​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ของ​นาง

นี่​คือ​จุดประสงค์​แท้จริง​ของ​นาง​ใช่​หรือไม่​ ​หาทาง​อยู่​ใน​สกุล​สวีต​่อ​ให้​ได้​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน

แต่​หลังจาก​เห็น​ฝีมือ​ของ​นาง​แล้ว​ ​ตน​จะ​กล้า​ให้​นาง​อยู่​ที่​สกุล​สวีต​่อ​ได้​เช่นไร

บ้าน​นั้น​ควร​เป็น​ที่พักผ่อน​ ​ไม่ใช่​สนามรบ​!

​“​อุโบสถ​ใน​สวน​หลัง​จวน​มี​หญิง​เฒ่า​ที่​ดูแล​ธูปเทียน​อยู่​คน​หนึ่ง​ ​ไม่​ถือว่า​เป็น​สถานที่​สงบสุข​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจ้า​ไป​อยู่​ที่​อาราม​ต้า​เจ​วี​๋ย​ที่​เฉียว​อี๋​เหนียง​เคย​ไป​อยู่ดี​กว่า​…​เฉียว​อี๋​เหนียง​เคย​ไป​ ​เรื่อง​อื่น​ข้า​ไม่รู้​ ​แต่​อย่างน้อย​ตอนนี้​นาง​รู้จัก​ทำตาม​กฎเกณฑ์​แล้ว​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ที่นั่น​น่าจะเป็น​สถานที่​ที่​สงบสุข​และ​มีชื่อเสียง​ที่​ดี​ใช่​หรือไม่​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท