ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 506 สุขและทุกข์(ต้น)

ตอนที่ 506 สุขและทุกข์(ต้น)

​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ม้วน​ผม​เป็น​มวย​และ​สวม​ชุด​อ่าว​สีเขียว​ลาย​ดอกไม้​ ​กำลัง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​ป้อน​ข้าวต้ม​เขา​อยู่

​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​ ​นาง​ก็​หันหน้า​มา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”

​รอยยิ้ม​ดู​อ่อนหวาน

​แต่กลับ​ทำให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​แปลกใจ

ไม่​เจอกัน​แค่​ไม่​กี่​ชั่ว​ยาม​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ดู​ไม่​เหมือน​คนที​่​เขา​เคย​รู้จัก

สีหน้า​ของ​นาง​ผ่อนคลาย​ขึ้น​ไม่น้อย​ ​อีกทั้ง​ท่าทาง​ยัง​ดูร​่า​เริง​ ​ราวกับ​ดอกไม้​ที่​ค่อยๆ​ ​เบ่งบาน​ก็​ไม่​ปาน

​สวี​ลิ่ง​อี๋​งุนงง​อยู่​ไม่น้อย

​สือ​อี​เหนียง​หันหน้า​กลับ​ไป​แล้ว​วาง​ช้อน​ลง​ ​ยื่น​จิ​่น​เกอ​ให้​แม่นม​กู้​แล้ว​เรียก​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​รับใช้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้าล้างตา​ ​จากนั้น​ตัวเอง​ก็​ไป​ช่วย​เขา​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่เป็นอะไร​ใช่​หรือไม่​ ​ท่าน​จะ​ทาน​อะไร​ก่อน​แล้ว​ค่อย​นอน​ ​หรือว่า​นอน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ตื่น​มาทาน​เจ้า​คะ​”

อยู่​ใน​พระราชวัง​พวกเขา​ล้วนแต่​เป็น​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ ​เขา​จะ​ทาน​อิ่ม​นอนหลับ​ได้​อย่างไร​!

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่านาง​เป็นห่วง​ ​เขา​กางแขน​ออก​ให้​นาง​ช่วย​ถอดเสื้อผ้า​แล้ว​พูด​สี​ยง​เบา​ ​“​ฮ่องเต้​เรียก​ข้า​ไป​คุย​ด้วย​ทั้งคืน​ ​เขา​ต้อง​ไปรา​ชสำ​นัก​เช้า​ ​ข้า​จึง​กลับมา​ก่อน​”​ ​แล้วก็​เห็น​ว่า​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​มี​อาหาร​วาง​อยู่​ ​เขา​จึง​พูด​ ​“​ทาน​ก่อน​ก็ได้​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​อาหารเช้า​เข้ามา​ใหม่​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ป้อน​ข้าวต้ม​เขา​ต่อ

​จิ​่น​เกอ​ยังคง​เป็น​เหมือน​เมื่อ​สักครู่​ ​ปิดปาก​แน่น​ ​ไม่ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​เกลี้ยกล่อม​เช่นไร​ก็​ไม่ยอม​ทาน​ ​ร้อง​โวยวาย​แล้ว​บิด​ตัว​ดิ้น​หนี​

​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​ท้อใจ

​แม่นม​กู้​เห็น​แบบ​นั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​เด็ก​ตัว​แค่นี้​ ​ทาน​แค่น​มก​็​ได้​…​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทานข้าว​ต้ม​เจ้าค่ะ​!​”

​ขณะที่​นาง​กำลัง​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​เดิน​ออกมา​ ​เขา​ได้ยิน​แค่​ครึ่ง​ประโยค​หลัง​ ​“​อะไร​นะ​ ​นม​ไม่พอ​จึง​ต้อง​ทานข้าว​ต้ม​?​”

​“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ไป​ ​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ยก​แขน​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ร้อง​ ​“​แอ​๊​ๆ​”​ ​ราวกับ​กำลัง​ทักทาย​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แล้ว​แขน​ยัง​เกือบจะ​ปัด​โดน​ชาม​ข้าวต้ม​บน​โต๊ะ

​สาวใช้​ที่​คอย​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​คน​หนึ่ง​รีบ​ไป​จับ​ชาม​ข้าวต้ม​ ​อีก​คน​หนึ่ง​รีบ​เดิน​เข้ามา​หา​สือ​อี​เหนียง​ ​ดู​วุ่นวาย​อลหม่าน

​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​กลับ​ชอบใจ​ ​เขา​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​คิดถึง​พ่อ​ใช่​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​ส่ง​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ทำเอา​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวใจ​ราวกับ​จะ​ละลาย​ ​เขา​หันกลับ​ไป​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เมื่อครู่นี้​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​เก็บ​ชาม​ข้าวต้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ ​“​อยาก​ป้อน​ข้าวต้ม​ซุป​ผัก​ให้​เขา​ ​แต่​เขา​ไม่ยอม​ทาน​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​แม่นม​กู้

​แม่นม​กู้​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​บ่าว​ทาน​ไก่​ ​ขา​หมู​และ​นก​พิราบ​ทุกวัน​…​น้ำนม​ยัง​เยอะ​อยู่​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ทาน​เช่นไร​ก็​ทาน​ไม่​หมด​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ในเมื่อ​น้ำนม​เยอะ​แล้ว​จะ​ทานข้าว​ต้ม​ทำไม​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​แล้ว​เขา​ก็​ไม่​ชอบ​ทานข้าว​ต้ม​!​”

เด็กน้อย​ที่​ครบ​เดือน​แล้ว​ต้อง​ทานอาหาร​บำรุง​ร่างกาย​เพื่อ​เสริม​ภาวะ​ขาดสารอาหาร

แต่​ใน​สมัยโบราณ​คิด​ว่า​อาหาร​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​น้ำนม​ ​เด็ก​บางคน​ทาน​นม​จนถึง​อายุ​เจ็ด​แปด​ขวบ​ด้วยซ้ำ

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ต้อง​ยอม​โอนอ่อน

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ไป​นั่ง​บน​เตียง​เตา

​สือ​อี​เหนียง​ตัก​ข้าวต้ม​ชาม​หนึ่ง​แล้ว​ยื่น​ตะเกียบ​ส่ง​ให้​เขา

​จิ​่น​เกอ​ก็​เริ่ม​ดิ้น​ไปมา​ ​เขา​บิด​ตัว​แล้ว​หันหน้า​ไป​ทาง​ผ้าม่าน​

​อากาศ​เริ่ม​อุ่น​ขึ้น​แล้ว​ ​เมื่อ​อากาศ​ดีสื​ออี​เหนียง​มักจะ​พา​เขา​ไป​เดินเล่น​ที่​สวน​หลัง​จวน​ ​แต่​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่​กี่​วัน​ ​เขา​กลับ​ไม่​อยาก​อยู่​ใน​เรือน​แล้ว​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่า​เขา​อยาก​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ตบ​ก้น​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยื่น​จิ​่น​เกอ​ให้​แม่นม​กู้​ ​“​พา​เขา​ออก​ไป​เดินเล่น​สักประเดี๋ยว​เถิด​!​”

​แม่นม​กู้​ย่อเข่า​คำนับ​ ​รับ​จิ​่น​เกอ​มา​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ออก​ไป​พร้อมกับ​สาวใช้​เจ็ด​แปด​คน

​“​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​ไป​เรียน​แล้ว​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​จัด​อาหาร​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​พึ่ง​จะ​ออก​ไป​ท่าน​ก็​กลับมา​พอดี​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อืม​”​ ​แล้ว​ไม่​ปริปาก​พูด​อะไร​อีก​ ​จากนั้น​ก็​ทานอาหาร​เช้า

​หลัง​ทาน​เสร็จ​ ​สือ​อี​เหนียง​รับใช้​เขา​เข้าไป​นอน​ใน​ห้อง​ข้างใน​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอน​ตัว​พิง​หัว​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​เล่าเรื่อง​ที่​ถูก​เรียก​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​ ​“​…ฝู​เจี​้​ยน​มี​ขนบธรรมเนียม​ที่​แตกต่าง​จาก​เรา​ ​มี​หมู่บ้าน​ที่​ชื่อว่า​หมู่บ้าน​ต้า​อาน​ ​ทั้ง​หมู่บ้าน​มี​ร้อย​กว่า​หลังคาเรือน​ ​ถูก​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​ปล้น​และ​สังหาร​ตาย​กัน​หมด​”

​“​ไอ​๊​หยา​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ด้วย​ความม​ตกใจ​ ​“​หมด​เลย​หรือ​เจ้า​คะ​?​”​

​“​ทั้งหมด​เลย​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​พึ่ง​จะ​รู้​ข่าว​ยาม​พลบค่ำ​ ​ฮ่องเต้​เรียก​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​และ​หวัง​ลี่​เข้าไป​ปรึกษา​แผน​รับมือ​ใน​พระราชวัง​ ​หลังจาก​พวกเขา​ออก​ไป​ ​ฮ่องเต้​ก็​ไม่สบาย​พระทัย​ ​จึง​เรียก​ข้า​ไป​พูดคุย​ด้วย​”

​แม้​สือ​อี​เหนียง​จะ​ตกใจ​ ​แต่​นาง​ก็​รู้สึก​โล่งใจ​มากกว่า​ ​พูด​ขึ้น​อย่าง​ลังเล​ ​“​เช่นนั้น​ ฝู​เจี​้​ยน​จะ​มี​การสู้​รบ​อย่างนั้น​หรือ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอ่ย​ถาม​ด้วย​ความสงสัย​ ​“​มัน​เกี่ยว​อะไร​กับ​การสู้​รบ​อย่างนั้น​หรือ​”

​“​มี​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​ขึ้นฝั่ง​มาสัง​หาร​คนใน​หมู่บ้าน​ ​ฮ่องเต้​จะ​ไม่สน​ใจ​เช่นนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​สงสัย

​“​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​ไม่​ใช้การ​สู้รบ​ประมือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้าใจ​ที่นาง​พูด​แล้ว​ ​“​แต่​ต้อง​คิด​หาวิ​ธีรั​บมือ​คนที​่​คัดค้าน​ใน​ราชสำนัก​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่เข้าใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อธิบาย​ ​“​เจ้า​ลอง​คิดดู​ ​ยัง​มี​เก๋อ​เหล่า​สอง​คนที​่​คัดค้าน​การ​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ถูก​คุมขัง​อยู่​ใน​เรือนจำ​ ​เกิดเรื่อง​ใหญ่​เช่นนี้​ขึ้น​ ​คน​เหล่านั้น​ก็​ต้อง​ถือโอกาส​เขียน​ฎีกา​ขอร้อง​ให้​ฮ่องเต้​ออกคำสั่ง​ปิด​การค้า​ทางทะเล​!​ ​ฮ่องเต้​กังวล​เรื่อง​ใน​ราชสำนัก​เช้า​วันนี้​ ​จึง​เรียก​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​และ​หวัง​ลี่​เข้าไป​ปรึกษา​ใน​พระราชวัง​”

​“​เช่นนั้น​เรื่อง​ของ​หมู่บ้าน​ล่ะ​เจ้า​คะ​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็นห่วง​เรื่อง​นี้​มากกว่า

​“​ถึงแม้ว่า​จะ​ปราบปราม​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​ ​แต่​ก็​จะ​ปราบปราม​ตอนนี้​ไม่ได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​“​ทันทีที่​เรื่อง​ของ​ ​หมู่บ้าน​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​มัน​ก็​จะ​กลายเป็น​ข้ออ้าง​ที่​ดี​ของ​คนที​่​คัดค้าน​การ​ยกเลิก​คำสั่ง​ปิด​ทะเล​ ​ประโยค​ที่​วว​่า​ ​’​คนที​่​ทำร้าย​ราษฎร​เมือง​ข้า​ ​ไกล​แค่ไหน​ก็​ต้องตาม​ไป​ฆ่า​’​ ​จะ​ทำให้​คนใน​ราชสำนัก​โมโห​ ​จากนั้น​ก็​จะ​เสนอ​ให้​ปิด​ประเทศ​ ​หาก​เป็น​เช่นนั้น​แล้ว​ฮ่องเต้​ยัง​จะ​ยืนหยัด​ต่อไป​เขา​ก็​จะ​ทำให้​ราษฎร​โกรธเคือง​ ​เช่นนี้​ ​ความตั้งใจ​ของ​ฮ่องเต้​จะ​สูญเปล่า​ทันที​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​พวกเขา​คิด​ถูก​ แต่​หาก​ยอมแพ้​เช่นนี้​…สือ​อี​เหนียง​ยังคง​รู้สึก​ไม่พอใจ​

​“​หรือว่า​ฮ่องเต้​อยาก​จะ​ปิดข่าว​เจ้า​คะ​?​”​ ​นาง​พึมพำ​ขึ้น​อย่าง​ไม่แน่ใจ

​“​ไม่มีทาง​ปิดข่าว​แน่นอน​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อย่างสงบ​ ​สายตา​ของ​เขา​เฉียบคม​ ​“​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​คือ​การพิสูจน์​ว่า​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​พวก​นั้น​เป็นตัว​ปลอม​ ​หาก​ดึง​สกุล​โอว​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ได้​ ​แล้วก็​ดึง​เก๋อ​เหล่า​คนอื่น​ใน​ราชสำนัก​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​ก็​จะ​เป็น​วิธี​ที่​ดีที​่​สุด​”

​ทันใดนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​ได้​ว่า​ ​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ตัวเอง​มีความรู้​ราวกับ​เด็กน้อย​ก็​มิ​ปาน

​นาง​ลังเล​ที่จะ​พูด

เพราะ​นาง​เป็น​สตรี​…

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​เช่นนี้​ก็​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่ว่า​คนที​่​ฆ่า​คนใน​หมู่บ้าน​จะ​เป็นตัว​จริง​หรือ​ตัว​ปลอม​ ​ราชสำนัก​ต้อง​มีคำ​อธิบาย​ให้​ราษฎร​แน่นอน​ ​ฮ่องเต้​เอง​ก็​ไม่สบาย​พระทัย​ ​เขา​จึง​อยาก​ให้​ข้า​ไปฝู​เจี​้​ยน​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ตกใจ​ ​นาง​จับมือ​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​เอ่ย​เรียก​เขา​ ​“​ท่าน​โหว​…​”

​สีหน้า​ของ​นาง​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความหวาดกลัว

กว่า​จะ​ถอนตัว​ออกมา​ได้​ ​แต่​ตอนนี้​กลับ​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​อีกครั้ง

​ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กอด​นาง​แล้ว​ชิง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ปฏิเสธ​ฮ่องเต้​อย่าง​อ้อม​ๆ​ ​ไป​แล้ว​ ​แล้ว​โยน​งาน​นี้​ให้​เจี่ย​งอ​วิ​๋น​เฟย​แทน​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​อย่าง​โล่งอก

​“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เป็น​แบบนี้​ ​ก็​พลอย​รู้สึก​อุ่นใจ​ ​“​ในเมื่อ​ข้า​ถอย​ออกมา​แล้ว​ ​ก็​ไม่มีทาง​เข้าไป​ยุ่ง​อีก​แน่นอน​”​ ​พูด​จบ​ก็​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พึมพำ​ขึ้น​ ​“​แล้วยัง​มี​องค์​ไท่​จื่อ​…​อย่า​คิด​ว่า​เขา​เป็น​หลานชาย​แล้ว​จะ​ลืม​สถานะ​ของ​ตัวเอง​…​ผ่าน​ด่าน​นี้​ไป​ได้​ ​ถึง​จะ​ถือว่า​ผ่าน​ไป​ได้​จริงๆ​…​”

คำพูด​เหล่านี้​ล้วนแต่​เป็น​คำพูด​ที่​ฝัง​อยู่​ใน​ใจ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กระมัง​!

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​เจ้าค่ะ​ ​ข้า​จะ​สั่งสอน​ลูก​ๆ​ ​เป็น​อย่างดี​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่า​ภรรยา​เข้าใจ​เจตนา​ของ​ตัวเอง​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​อย่าง​โล่งใจ

​สือ​อี​เหนียง​ช่วย​เขา​จัด​หมอน​แล้ว​พูด​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​เมื่อวาน​ท่าน​โหว​ไม่ได้​นอน​ทั้งคืน​ ​รีบ​นอน​เถิด​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ประเดี๋ยว​ค่อย​ว่า​กัน​ก็​ไม่​สาย​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​ล้ม​ตัว​นอนลง​แล้ว​หลับ​ไป​อย่างรวดเร็ว

​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ข้าง​เตียง​ครู่หนึ่ง​ ​มองดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​นอนหลับ​สนิท​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​เห็น​ว่า​สีหน้า​ตอน​นอนหลับ​ของ​จิ​่น​เกอ​กับ​เขา​คล้ายคลึง​กัน​อย่างมาก

​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​มัด​มุม​ผ้าห่ม​แล้ว​ ​แต่​นาง​ก็​ยัง​จัด​ผ้าห่ม​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

​แม่นม​กู้​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่​หลับสนิท​เดิน​เข้ามา

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​รับ​ตัว​เขา​มา​ ​วาง​ลง​บน​เตียง​เตา​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ ​หอม​แก้ม​เขา​ ​จากนั้น​ก็​ห่ม​ผ้า​ให้​

​จู๋​เซียง​เดิน​เข้ามา​อย่างเงียบเชียบ

​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​ว่า​ตัวเอง​จะ​ถูก​ส่ง​ไป​อยู่​ที่​อาราม​ต้า​เจ​วี​๋ย​ ​ตอนนั้น​สีหน้า​ของ​นาง​ซีด​ขาว​ ​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ร้องไห้​แล้ว​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​อาราม​ต้า​เจ​วี​๋​ยดี​หรือไม่​ ​มีชื่อเสียง​เช่นไร​ ​ไม่มีใคร​รู้ดี​ไป​กว่า​เฉียว​อี๋​เหนียง​ ฮู​หยิน​ไม่​สู้​เชิญ​เฉียว​อี๋​เหนียง​มาถา​มดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​…​”​ ​แต่​นาง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​แล้ว​

​จู๋​เซียง​จึง​เชิญ​หยาง​อี๋​เหนียง​กลับ​ไป​พักผ่อน​ที่​เรือน​ทันที

​แต่​หยาง​อี๋​เหนียง​ไม่ยอม​แพ้​ ​นาง​ดึง​แขน​เสื้อ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​อยาก​จะ​พูด​อะไร​อีก​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​หันหลัง​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​ด้วย​ท่าที​ที่​หนักแน่น​

​แต่​นาง​ก็​ยัง​ไม่ยอม​ออก​ไป​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จึง​เรียก​ป้า​รับใช้​สอง​คน​มาลาก​นาง​ออก​ไป

​สือ​อี​เหนียง​ก็​อยาก​เจอ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เหมือนกัน

​นาง​ออก​ไป​ที่​ห้อง​ปีก​ทาง​ทิศตะวันออก

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​หน้าซีด​เซียว​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​นาง​ก็​คุกเข่า​ลง​ทันที​ ​“ฮู​หยิน​ ​เรื่อง​เมื่อวาน​ล้วนแต่​เป็นความ​บุ่มบ่าม​ของ​ข้าเจ้า​ค่ะ​…​”

ได้รับ​บทเรียน​ก็ดี​แล้ว​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทำให้​นาง​ไม่มีทาง​หนี​ที​ไล่​ขนาด​นั้น​

​นาง​บอก​ให้​จู๋​เซียง​พยุง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ลุกขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​นาง​นั่ง

​“​เหตุใด​ฮ่องเต้​ไท่​จง​ถึง​ต้อง​ตั้ง​ศิลาจารึก​ที่ว่า​ ​’​วังหลัง​ห้าม​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​การเมือง​’​ ​ไว้​ที่​ตำหนัก​เจียว​ไท่​ ​ก็เพราะว่า​สตรีที​่​อยู่​แต่​ใน​เรือน​อย่าง​เรา​มักจะ​ไม่รู้​เรื่องราว​ข้างนอก​ ​แต่กลับ​ทำ​อะไร​ออกนอกหน้า​ ​สุดท้าย​ก็​ทำให้​เสีย​เรื่อง​ ​ถึงขั้น​ทำลาย​รากฐาน​ของ​บรรพบุรุษ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดเป็นนัย​ ​“​ต่อไป​อี๋​เหนียง​ทำ​อะไร​ก็​ต้อง​คิด​ให้​มาก​ๆ​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​ได้ยิน​มา​ว่า​บิดา​ของ​ชิว​หงก​ลับ​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​มี​ข่าวดี​อะไร​หรือไม่​”

ไม่​พูด​เรื่อง​นี้​อีก​ ​ถือว่า​ไว้หน้า​นาง​ที่สุด​แล้ว​

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ละอายใจ​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ท่าน​แม่​รู้เรื่องราว​ทั้งหมด​แล้ว​ ​บอก​ให้​บิดา​ของ​ชิว​หงมา​รายงาน​ข้าว​่า​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​เรื่อง​ของ​สกุล​เดิม​ ​ให้​ข้า​ตั้งใจ​รับใช้​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​ ​สำหรับ​เรื่อง​ที่จะ​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​ต้อง​ปรึกษา​กับ​ท่าน​ลุง​สาม​ก่อน​ ​ท่าน​ลุง​สาม​เคารพ​ท่าน​แม่​มาต​ลอด​ ​จู่ๆ​ ​ท่าน​แม่​ก็​จะ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​เขา​กลัว​ว่า​ท่าน​แม่​จะ​ถูก​ผู้คน​หัวเราะเยาะ​ ​จึง​ต้อง​ค่อยๆ​ ​คิด​”​ ​นาพูด​ ​“​ร้าน​ก็​ขาย​ออก​ไป​แล้ว​ ​บิดา​ของ​ชิว​หงก​็​ไม่มี​อะไร​ทำ​ ​ข้า​ให้​เขา​ไป​ที่​หยาง​โจว​ ​ไปรับ​ใช้​ท่าน​แม่​ก่อน​ชั่วคราว​ ​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​เขา​จะ​ได้​ช่วย​รับมือ​”

ไม่ต้อง​พูดถึง​แค่​หยาง​โจว​ ​แม้แต่​ต้า​โจว​ ​สกุล​เหวิ​นนั​้น​ถือเป็น​ตระกูล​ที่​มีชื่อเสียง​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ที่​เป็น​ม่าย​จะ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​วัด​กะทันหัน​เช่นนี้​ ​หาก​ไม่มี​คำอธิบาย​ที่​สมเหตุสมผล​ ​คงจะ​ทำให้​ชื่อเสียง​ของ​ตระกูล​ต้อง​เสียหาย

​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ปลอบใจ​นาง​ ​“​ในเมื่อ​เหวิน​ไท่ฮู​หยิน​รู้เรื่อง​แล้ว​ ​นาง​คงจะ​จัดการ​ได้​อย่างเหมาะสม​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พยักหน้า​ซ้ำๆ

​พวก​นาง​สอง​คนพูด​คุย​กัน​อีก​ครู่หนึ่ง

​จากนั้น​อวี​้​ป่าน​ก็​เข้ามา

​“​ไท่ฮู​หยิน​ถาม​ว่า​ ​เทศกาลซาน​เย​่ว​์​ซานจะ​เชิญ​คณะ​เต​๋​ออิน​ปาน​ ​คณะ​ฉัง​เซิง​ปาน​หรือว่า​คณะ​เจี​๋ย​เซียง​ตู้​ดีเจ​้า​คะ​ ​ท่าน​จะ​ได้​บอก​ให้​คุณชาย​ห้า​ไป​เชิญ​มา​เจ้าค่ะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท