รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 497 เห็นหรือไม่? นี่คือการถ่อมตัวของตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด!

บทที่ 497 เห็นหรือไม่? นี่คือการถ่อมตัวของตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด!

บทที่ 497 เห็นหรือไม่? นี่คือการถ่อมตัวของตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด!

“เจ้าพูดว่าอย่างไรนะ!?”

เมื่อกุ้งยักษ์ได้ยินหลิงอินกล่าวหัวเราะเยาะ มันก็พลันเดือดเป็นไฟขึ้นมาทันที ไม่ต้องกล่าวเลยว่ามันโมโหถึงเพียงใด

เดิมทีหลังจากได้ยินเก๋อไห่กล่าวออกมา มันก็ตั้งใจจะถอนตัวออกไป

แม้ว่านาวาล่องนภาจะสำคัญ แต่ตอนนี้ดินแดนบรรพโกลาหลกำลังจะปรากฏขึ้น การรักษากำลังเอาไว้ใช้สำหรับการเข้าไปยังแดนบรรพโกลาหลมีความสำคัญกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

เพื่อนาวาล่องนภาหนึ่งลำ ไม่มีความจำเป็นจะต้องต่อสู้ฆ่าฟันเพื่อแย่งชิงถึงเพียงนั้น

มีกองกำลังมากมายเฝ้ารอคอยอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังคงไม่วุ่นวายจนเกินไป หากมีกองกำลังใดได้นาวาล่องนภาไป กองกำลังอื่น ๆ ก็จะถอนตัว และจะไม่เกิดการแย่งชิงอันไม่จบไม่สิ้น

แต่หลิงอินทำตัวกำเริบเสิบสานเช่นนี้ ทั้งยังหัวเราะเยาะมัน มันไม่สามารถอดทนได้!

“เอ๋ กุ้งฝอยไม่มีหูหรอกหรือ? ไยจึงไม่เข้าใจที่ข้าพูดกัน?”

หลิงอินพูดพร้อมกับสีหน้าประหลาดใจ

หลังจากนั้นนางก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางจริงจังเป็นอย่างยิ่ง “ข้ารู้สึกเวทนาเจ้าเหลือเกิน เจ้าไม่มีหูแต่กลับต้องเห็นคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งต่าง ๆ กระทั่งหนอนแมลงยังสามารถได้ยิน ฮ่าฮ่าฮ่า การที่เจ้าไม่มีหูช่างน่าเวทนาเสียจริง”

“เจ้าเรียกผู้ใดว่าหนอนแมลงกัน!?”

อีกด้านหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้า ‘หนอนแมลง’ ที่เดิมทีรู้สึกขบขันเป็นอย่างมากนิ่งค้างไปในทันที บนร่างกายเต็มไปด้วยจิตสังหาร!

เรียกมันว่าเป็นหนอนแมลง!?

มันเป็นถึงแมลงสวรรค์อินทนิล สายเลือดของมันได้รับการเคารพอย่างถึงที่สุด เบื้องหลังของมันก็คือเผ่าแมลงสวรรค์อินทนิลที่เป็นหนึ่งในเผ่าเรืองอำนาจสูงสุดเช่นเดียวกัน กำลังรบของพวกมันมีกระทั่งขั้นเทียนตี้นั่งรักษาการณ์อยู่!

ทว่าหลิงอินกลับกล้าเรียกมันว่าหนอนแมลง มันจะทนได้อย่างไร!?

ไม่เคยมีผู้ใดกล้าฉีกหน้าเผ่าของมันเช่นนี้มาก่อน!

“ไม่เห็นต้องโวยวาย ที่นี่ยังจะมีหนอนแมลงตัวอื่นอีกหรือ? อ๊ะ ด้านนอกก็มีเพียงแค่หนอนแมลงแก่ ๆ อย่างเจ้าอยู่ แต่ว่าระยะทางคงไกลเกินไป เจ้าคงได้ยินที่ข้าพูดไม่ชัด! แน่นอนว่าหนอนแมลงย่อมหมายถึงเจ้า”

หลิงอินมองไปที่แมลงสวรรค์อินทนิลแล้วเอ่ยออกมา

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ท้องฟ้าด้านนอกเมือง ‘หนอนแมลงแก่ ๆ’ ตัวนั้นเต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธจัด พลังอันน่าสะพรึงกลัวสั่นสะเทือนฟ้าดิน ความว่างเปล่าระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง กระแทกเข้ากับภูเขาลูกหนึ่งจนถล่มลงมา ก้อนหินกลิ้งกระดอนไปทั่ว!

มันเป็นถึงตี้จวินผู้หนึ่ง!

กลับถูกหลิงอินเรียกว่า ‘หนอนแมลงแก่ ๆ’!

นี่เป็นการสบประมาทมันอย่างถึงที่สุด!

ในตอนนั้นเอง มันต้องการจะสังหารคนเป็นอย่างมาก ต้องการจะฉีกหลิงอินออกเป็นชิ้น ๆ!

แต่เมืองนภาไม่ใช่เมืองธรรมดาทั่วไป ไม่กล้าลงมือตามใจ

“เจ้าหัวเราะอะไร? มีสิ่งใดให้เจ้าหัวเราะกัน เจ้าก็เป็นเพียงหินก้อนหนึ่งที่เต็มไปด้วยรูพรุน เลวร้ายเสียยิ่งกว่าหนอนแมลงนั่น!”

หลิงอินมองไปที่ก้อนหินก้อนหนึ่งแล้วพูดขึ้นมา

หลังจากที่ได้ยินหลิงอินกล่าว หินก้อนนั้นก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที!

มันคือศิลาสวรรค์เก้าหลุม!

หนึ่งในศิลาที่หาได้ยากที่สุดในโลก!

เผ่าศิลาสวรรค์เก้าหลุมที่อยู่เบื้องหลังมันก็เป็นหนึ่งในเผ่าเรืองอำนาจสูงสุดในอาณาจักรอวี้ซวี!

“อย่า…อย่าทำเช่นนี้!”

ลุงเก๋อหวาดกลัวจนแทบจะสิ้นสติ

เหล่าสิ่งมีชีวิตที่หลิงอินยั่วยุล้วนมาจากเผ่าเรืองอำนาจสูงสุด ความแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าตระกูลเก๋อของพวกเขา!

ขนาดตัวของผู้นำตระกูลพวกเขาเองยังไม่กล้ายั่วยุอีกฝ่ายตามอำเภอใจเช่นนี้!

“ผู้อาวุโสหวาดกลัวสิ่งใดกัน? พวกเขาล้วนแล้วแต่น่าเกลียดอัปลักษณ์ ดูแล้วล้วนมาจากเผ่าเล็ก ๆ ทั้งสิ้น ไม่อาจเทียบตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดอย่างพวกเราได้!”

หลิงอินพูดต่อ “เหตุใดพวกเราจึงต้องสุภาพกับพวกเขาด้วย หากทำเช่นนี้ต่อไป พวกเราจะต้องสูญเสียสง่าราศีของตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นยังอาจทำให้พวกอัปลักษณ์พวกนี้ได้ใจจนหยิ่งยโส!”

“บัดซบ!”

“เจ้ากำลังพูดถึงผู้ใดกัน!?”

ทันใดนั้นเหล่าผู้ที่จับจ้องมาต่างก็เต็มไปด้วยจิตสังหาร

พวกอัปลักษณ์!?

หลิงอินถึงกับกล้ากล่าวออกมาเช่นนี้!

“ก็พูดถึงพวกเจ้าอย่างไรเล่า!”

หลิงอินกล่าวออกมาอย่างไม่ลังเล “ผู้อาวุโสเก๋อพูดว่าตระกูลเก๋อเป็นตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด ใต้หล้านี้มิมีกองกำลังใดที่สามารถเทียบเคียงได้! ถ้าพวกเจ้ารู้แล้วก็รีบไสหัวออกไปเสีย! ไม่เช่นนั้นหลังจากที่ยอดฝีมือของตระกูลเก๋อมา แม้พวกเจ้าต้องการจะไปก็ไม่สามารถไปได้ พวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตายอยู่ที่นี่!”

ลุงเก๋อต้องการความสุขไม่ใช่หรือ?

ดีเลย

นางจะมอบ ‘ความสุข’ ให้ลุงเก๋อเอง!

นี่ยังเป็น ‘ความสุข’ เพียงส่วนหนึ่ง!

หลิงอินผู้นี้โง่จริงหรือโง่ปลอมกันแน่!

คิดว่าตระกูลเก๋อไร้พ่ายอย่างนั้นหรือ?

ลุงเก๋อจวนเจียนจะร้องไห้ นึกสงสัยว่าเมื่อครู่ตนเองอวดโอ้ตระกูลเก๋อมากเกินไปหรือไม่? ทำให้หลิงอินเกิดความคิดว่าตระกูลของพวกเขาไร้พ่าย?

“มะ…ไม่ได้แข็งแกร่งถึงปานนั้น”

เขารีบกล่าวกับหลิงอิน

“ถ่อมตัว! ถ่อมตัวเป็นอย่างยิ่ง! พวกเจ้าเห็นหรือไม่? นี่คือความถ่อมตัวของตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด ไม่มีเหมือนพวกเจ้าที่แสร้งอวดโอ้!”

หลิงอินพูดขึ้นมาเสียงดัง

หมายถึงใครกันที่แสร้งอวดโอ้!

หลังจากที่ได้ยินหลิงอินกล่าวเช่นนั้น ผู้ที่มาจากตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดต่างโกรธเป็นอย่างมาก

บัดซบ!

สารเลวเก๋อไห่นั่นคุยโวเกี่ยวกับตระกูลเก๋อให้หลิงอินฟังเช่นไรบ้าง

ถึงกลับทำให้หลิงอินผยองดูหมิ่นทุกสิ่งได้ถึงเพียงนี้!

เผ่าและตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดของพวกเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลเก๋อ!

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ในตอนนั้นเอง ความว่างเปล่าภายนอกเมืองนภาก็เกิดการบิดเบี้ยว ก่อนจะปรากฏร่างยอดฝีมือจากตระกูลเก๋อออกมา

“สวัสดีสหายทุกท่าน!”

ยอดฝีมือจากตระกูลเก๋อยิ้มพร้อมกล่าวทักทาย

“สวัสดี…สวัสดีมารดาเจ้าเถอะ!”

ไม่ทันให้ยอดฝีมือตระกูลเก๋อได้ตั้งตัว ทันทีหลังจากพวกเขาปรากฏออกมา ก็ถูกแววตาแดงก่ำจับจ้องมาราวกับกำลังมองศัตรู

พวกเขาก่นด่าออกมา หลังจากนั้นก็รุมทึ้งยอดฝีมือตระกูลเก๋ออย่างดุร้าย!

พวกเขาจะไม่คับแค้นได้อย่างไร?

หลิงอินตกอยู่ภายใต้คำคุยโวของเก๋อไห่ ดูหมิ่นพวกเขาด้วยความโอหัง วันนี้พวกเขาจะต้องทำให้หลิงอินได้รับรู้ถึงฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

ตระกูลเก๋อบัดซบนั่นไม่อาจช่วยเหลืออะไรหลิงอินได้!

“บังอาจ! เจ้าพวกอัปลักษณ์รนหาที่ตาย ถึงกลับกล้าโจมตียอดฝีมือตระกูลเก๋อ หรือคิดว่าชีวิตของตนเองยืนยาวเกินไปจริง ๆ!”

ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าหลิงอินนอกจากจะไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย กลับตะโกนเข้าใส่ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าเรืองอำนาจสูงสุดเหล่านั้นด้วย

หลังจากนั้นนางก็หันไปมองเหล่ายอดฝีมือจากตระกูลเก๋อ “เหล่าผู้อาวุโสตระกูลเก๋อ แม้ว่าพวกเราจะเปี่ยมด้วยคุณธรรม แต่ด้วยความภาคภูมิของตระกูลเก๋อก็ไม่อนุญาตให้พวกอัปลักษณ์เหล่านี้มายั่วยุตามใจชอบ! ผู้อาวุโสตระกูลเก๋อโปรดอย่ายั้งมือ จัดการเหล่าพวกอัปลักษณ์รนหาที่ตาย ให้พวกเขาได้รับรู้ถึงฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”

“ใช่แล้ว! พวกเราไม่รู้จักตระกูลเรืองอำนาจสูงสุด! วันนี้ให้พวกเราได้เห็นว่าตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดทรงพลังเพียงใด!”

“ตระกูลเก๋อของเจ้าช่างคุยโว! ฟ้าดินกว้างใหญ่แต่ตระกูลเก๋อของพวกเจ้าใหญ่กว่า! ตระกูลเก๋อใต้หล้าล้วนไร้พ่าย!”

หลังจากได้ยินที่หลิงอินพูดเหล่ายอดฝีมือจากเผ่าและตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดก็ยิ่งโกรธมากขึ้น การลงมือต่อยอดฝีมือตระกูลเก๋อก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น!

บัดซบ!

นี่มันอะไรกัน!

ยอดฝีมือตระกูลเก๋อร้องไห้ออกมาอย่างไร้น้ำตา ตระกูลเก๋อของพวกเขาไปทำอะไรไว้! เหตุใดจึงตกเป็นเป้าหมายของฝูงชน กลายเป็นเสมือนเป้าโจมตี?

ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกตึงเอาไว้ทุบตี สภาพย่ำแย่ไปทีละคนทีละคน

ยอดฝีมือจากเผ่าและตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดจำนวนมากเข้ามาลงมือพร้อมกัน พวกเขาจะสามารถต้านรับได้อย่างไร?

นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้!

“นี่หรือคือตระกูลเรืองอำนาจสูงสุดไร้พ่ายตามคำพูดของเจ้า? ไม่เห็นจะมีอะไรเลย!”

“ยังจะหยิ่งผยองอยู่อีกหรือไม่?”

ด้านในเมืองนภา สมาชิกของเผ่าและตระกูลเรืองอำนาจต่างพากันเยาะเย้ยหลิงอิน

“พวกจะพูดสิ่งใดก็พูดไป หากยังไม่ถึงลมหายใจสุดท้ายของการต่อสู้ อะไรก็ล้วนเกิดขึ้นได้! เพิ่งจะได้เปรียบเล็กน้อยก็อย่าทำเป็นวางท่าไป!”

หลิงอินกล่าวอย่างเหยียดหยาม

หลังจากที่เหล่ายอดฝีมือนอกเมืองนภาได้ยิน พวกเขาก็พากันโกรธมากขึ้น!

พวกเขาลงมือแรงยิ่งขึ้น ทุบตีจนเหล่ายอดฝีมือตระกูลเก๋อร่ำไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท