ตอนที่ 456 ยันต์ไร้ขอบเขต แม่ทัพเสิ่นเหย้า!
“ภารกิจอันใดจึงต้องรีบร้อนเพียงนี้” หนิงฝานเอ่ยถาม
จินเลี่ยอธิบายว่า “สภาผู้พิทักษ์นำสมบัติออกมาจากดินแดนสุดท้าย และศาลาตรวจตราของเรารับผิดชอบในการพามันกลับมายังด่านที่หนึ่งร้อยเพื่อทำการประมูล แต่เราถูกนักล่าโลหิตซุ่มโจมตีระหว่างทาง เบื้องบนสั่งให้ผู้ตรวจตราชุดทองไปสนับสนุน!”
“ดินแดนสุดท้าย? ประมูลสมบัติ? นักล่าโลหิต?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็เลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า “เอาอย่างนี้ พวกเราจะไปกับเจ้า!”
“ได้เลย!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จินเลี่ยพลันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ต้องรู้ว่าความแข็งแกร่งของทุกคนในตอนนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหนิงฝาน ถ้าพวกเขาไปด้วยกัน ย่อมมีโอกาสมากอย่างแน่นอน
“เวลาไม่คอยท่า ไปกันเถอะ!”
หลังจากหนิงฝานเอ่ยปาก จินเลี่ยก็นำคนกลุ่มหนึ่งลงไปที่จัตุรัสหยกขาวทันที
บนจัตุรัสหยกขาว ประตูไร้พรมแดนนั้นเก่าแก่และสูงสง่า กระแสน้ำวนดูลึกลับ เปล่งประกายแสงอันงดงามของกาลเวลาและอวกาศ
“ทุกท่าน การเข้าสู่มิติเวลาไร้ขอบเขตเป็นครั้งแรกอาจจะอึดอัดนิดหน่อย ถ้าชินแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง!”
เวลานี้ จินเลี่ยเอ่ยเตือนและก้าวเข้าไปในประตูไร้ขอบเขตก่อนทันที ส่วนหนิงฝานและพรรคพวกของเขาก็ตามไปติด ๆ
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
สภาพแวดล้อมกำลังเปลี่ยนไปชั่วขณะ เวลาและสถานที่เปลี่ยนไป เมื่อพวกเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทุกคนก็เข้าสู่โลกอีกด้านหนึ่งแล้ว
โลกแห่งนี้ไม่มีความแตกต่างระหว่างบน ล่าง ซ้าย ขวา ไม่มีความรู้สึกของพื้นที่และระยะห่าง ดังนั้นร่างกายของมนุษย์และวิญญาณเซียนของทุกคนจะมีความรู้สึกว่างเปล่าเหมือนไม่มีอยู่จริง ซึ่งแปลกพิศดารอย่างมาก!
“หืม! ที่นี่คือมิติเวลาไร้ขอบเขตหรือ?” หนิงฝานมองดูโลกด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันทีที่เขาเข้ามา
แม้จะไม่มีฉากใดในโลกนี้ แต่หากเจ้าจ้องมองที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างละเอียด จะมองเห็นความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดของฟ้าดิน ฉากที่รวมทุกสรรพสิ่ง!
“โอ้! ข้าเห็นประตูสวรรค์ในด่านที่หนึ่งแล้ว มันถูกสร้างใหม่แล้ว!”
“จุ๊จุ๊ ข้าเห็นด่านที่สิบที่ครั้งหนึ่งเคยถูกฝูงสัตว์ร้ายลอบทำร้าย!”
“ข้าเห็นตระกูลเทียนในด่านที่ห้าสิบ!”
“นั่นคือเศษชิ้นส่วนชะตาราชันจักรพรรดิ!”
“…”
เวลานี้ เหลยเหมิง ฝูเทียน และคนอื่น ๆ ต่างพูดกันขึ้นมา พวกเขาได้เห็นทิวทัศน์ของเส้นทางราชันจักรพรรดิและทางผ่านนับร้อย!
เมื่อเห็นเช่นนี้ จินเลี่ยจึงอธิบายว่า “ในมิติเวลาไร้ขอบเขต ไม่มีความแตกต่างระหว่างฟ้าดิน บนเส้นทางราชันจักรพรรดิทั้งหมด ยกเว้นดินแดนสุดท้าย ผ่านมิติเวลาไร้ขอบเขต สามารถไปที่ใดก็ได้!”
ในขณะที่ทุกคนกำลังมองไปรอบ ๆ จินเลี่ยก็เริ่มถือป้ายคำสั่งทองเพื่อกำหนดมิติเวลาไปยังสถานที่ที่เหตุการณ์เกิดขึ้น
“ระบบ ลงชื่อเข้าใช้!” หนิงฝานสื่อสารกับระบบในใจของเขา
ลมหายใจต่อมา ระบบก็ส่งเสียงเตือน [ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้มิติเวลาไร้ขอบเขตสำเร็จ ได้รับยันต์ไร้ขอบเขต! ตราบใดที่ท่านเปิดใช้งานยันต์นี้ จะสามารถก้าวเข้าสู่มิติเวลาไร้ขอบเขตได้ทุกที่ทุกเวลา!]
“โอ๊ะ!”
เมื่อมองไปที่การแนะนำยันต์ไร้ขอบเขต หนิงฝานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสุขใจ
มิติเวลาไร้ขอบเขตไม่สนใจขอบเขตของสวรรค์และโลก ในอนาคตเมื่อมียันต์ไร้ขอบเขตนี้ เขาสามารถไปที่ใดก็ได้บนเส้นทางราชันจักรพรรดิทุกที่ทุกเวลา!
หึ่ง!
และหลังจากที่หนิงฝานลงชื่อเข้าใช้สำเร็จ จินเลี่ยก็เปิดช่องการเดินทางได้สำเร็จ!
“ท่านหนิงฝาน ไปกันเถอะ!”
ลมหายใจต่อมา จินเลี่ยนำหนิงฝานและพรรคพวกออกจากมิติเวลาไร้ขอบเขต ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็มาถึงความว่างเปล่าของฟ้าดิน!
เห็นเพียงร่องรอยของการต่อสู้ทุกที่ในสถานที่นี้ ความว่างเปล่าพังทลาย ท้องฟ้าและแผ่นดินแตกแยก อุกกาบาตมีอยู่ทั่วไป และมีซากศพของสิ่งมีชีวิตมากมายลอยอยู่รอบ ๆ ทั้งหน่วยลาดตระเวนและนักล่าโลหิต
“ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะดุเดือดไม่น้อย!”
หนิงฝานกวาดสายตาไปทั่วสนามรบพลางเลิกคิ้วขึ้น
จินเลี่ยมองไปรอบ ๆ และขมวดคิ้วพลางพูดว่า “ผู้คุ้มกันสมบัติมีหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนและยามลาดตระเวนหลายร้อยนาย แม้ว่านักล่าโลหิตจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน การต่อสู้ก็ไม่มีทางจบลงเร็วเช่นนี้!”
พลันดวงตาของซวีคุนสว่างวาบ และเขาชี้ไปในทิศทางนั้น “ห่างออกไปหลายร้อยล้านลี้ ในทิศทางนั้น มีความว่างเปล่าที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา สนามรบน่าจะอยู่ที่นั่น!”
“ไปกัน!”
หนิงฝานและพรรคพวกพุ่งตรงไปยังทิศทางนั้นทันทีโดยไม่ลังเล!
เมื่อทุกคนเข้ามาใกล้ ความผันผวนที่ว่างเปล่าตรงนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และเสียงกึกก้องของสมรภูมิก็ดังมาแต่ไกล
ไม่นานนัก ทุกคนก็มาถึงสนามรบ
เห็นเพียงเรือรบขนาดใหญ่ลำหนึ่งจอดอยู่ใจกลางสนามรบ รอบ ๆ มีกลุ่มคนสองกลุ่มกำลังต่อสู้อย่างดุเดือด กลุ่มหนึ่งเป็นสมาชิกทั้งหมดของสภาผู้พิทักษ์ และอีกกลุ่มมีรูปร่างที่แตกต่างกันปะปนกันไปทั้งมนุษย์ ปีศาจ และวิญญาณ มีหลายคนที่เปล่งประกายด้วยแสงล่าโลหิต!
ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายไม่ได้อ่อนแอ ผู้ที่อยู่ต่ำสุดคือกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ถึงจุดสูงสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเก้า!
ตึง! โฮกก!
ยามนี้ในสนามรบ การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด ทั้งสองฝ่ายต่างล้มตายอย่างต่อเนื่อง ได้ยินเสียงคำราม ตะโกน และกรีดร้องไม่รู้จบ!
“แย่แล้ว! เรือรบกำลังจะไร้การคุ้มกัน!”
ตอนนี้เอง สีหน้าของจินเลี่ยได้แปรเปลี่ยนไป
บนเรือรบขนาดใหญ่ นักล่าโลหิตกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามาบนเรือแล้ว หน่วยลาดตะเวนที่แข็งแกร่งบนเรือเกือบถูกฆ่าตาย และเรือรบกำลังจะเปลี่ยนผู้ควบคุม!
“ลงมือ!” หนิงฝานออกคำสั่ง แล้วฝูเทียนกับคนอื่น ๆ ก็ไปที่เรือรบทันที
พรึ่บ พรึ่บ!
ระหว่างทาง ฝูเทียน และคนอื่น ๆ ได้เปิดแผนที่ค่ายกลทำลายเต๋าโดยตรง และในขณะที่รูปแบบหมุนวนนั้น แรงระเบิดของแผนที่ค่ายกลทำลายเต๋าก็ระเบิดออกมาฆ่านักล่าโลหิตรอบ ๆ ตัวพวกเขาอย่างแม่นยำ!
เมื่อฝูเทียน และคนอื่น ๆ รีบรุดไป หนิงฝานก็ตามหลังไปอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็ไม่มีนักล่าโลหิตคนใดขวางกั้นปราณกระบี่ของเขาได้!
เพียงชั่วพริบตา หนิงฝานและพรรคพวกของเขาพุ่งเข้าใส่ฝูงสัตว์ราวกับพยัคฆ์ เข่นฆ่านักล่าโลหิตรอบข้างอย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็รีบไปที่หน้าเรือรบ
บนเรือรบตอนนี้ ชายวัยกลางคนซึ่งสวมเครื่องแต่งกายของแม่ทัพหน่วยลาดตระเวนตะโกนออกมา
“เดี๋ยวก่อน!”
“คุ้มกันเรือให้ดีที่สุด!”
“วันนี้คนอยู่เรืออยู่ คนตายเรือก็ตาย!!”
เสียงคำรามดังก้องไปทุกสารทิศ แล้วตัวเขาเองก็ปลดปล่อยพลังกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเก้าออกมา สังหารนักล่าโลหิตที่ล้อมรอบจากทุกทิศทุกทางอย่างต่อเนื่อง!
อย่างไรก็ตาม มีนักล่าโลหิตอยู่รอบ ๆ มากเกินไป และหน่วยลาดตระเวนรอบตัวเขาก็กำลังตายตกไม่หยุด!
แม้แต่ตัวเขาเองยังได้รับบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลิ่นอายรุนแรงนั้นเริ่มค่อย ๆ จางหายไป!
“ท่านเสิ่นเหย้า พวกเรามาแล้ว!”
เวลานี้ จินเลี่ยตะโกนเสียงดัง พลางนำฝูเทียนและคนอื่น ๆ ไปที่ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนทันที
เมื่อเห็นเช่นนี้ หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนที่จินเลี่ยเรียกว่าท่านเสิ่นเหย้าก็ดีใจขึ้นมาทันที “พี่น้อง กำลังเสริมของเรามาถึงแล้ว ยืนหยัดเข้าไว้ ฆ่าศัตรู!”
“ฆ่า!”
ด้วยเสียงคำสั่ง แม่ทัพเสิ่นเหย้าพยายามคุมพลังของเขาอีกครั้ง และเริ่มการต่อสู้นองเลือด!
และเมื่อการรบบนเรือรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ร่างหลายร่างก็ลอยอยู่เหนือความว่างเปล่า
ผู้นำเป็นสตรีงดงามนางหนึ่ง ทั้งร่างสวมชุดคลุมสีขาวนวล นางมีใบหน้างดงามหาใดเปรียบ รูปร่างอ้อนแอ้นอรชรเป็นที่สุด
ทว่าสิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนมากที่สุดก็คือ พลังที่ปะทุออกมาจากร่างของนางได้มาถึงจุดสูงสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเก้าแล้ว!
นี่คือสตรีนางหนึ่งที่มิมีผู้ใดเทียบเคียงได้ทั้งความงามและความแข็งแกร่ง!