เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 503 ความขมปนหวานของเตาหนูผู้ขโมยเคล็ดลับ (2)

ตอนที่ 503 ความขมปนหวานของเตาหนูผู้ขโมยเคล็ดลับ (2)

โชคดีที่นางไม่ใช่สาววาย และโชคดีที่นางรู้ถึงความรู้สึกที่หนิงเซ่าชิงมีต่อตัวเอง มิฉะนั้นนางคงได้คิดว่าหนิงเซ่าชิงกำลังถูกใจถงจื่อจิ้งเป็นแน่!

ว่ากันว่าชอบใครก็มักจะไม่ถูกชะตากับคนๆ นั้นก่อนและเริ่มต้นด้วยการจับผิดคนๆ นั้นมิใช่หรือ

แรกๆ นางกับหนิงเซ่าชิงก็เริ่มต้นด้วยการไม่ถูกชะตากันไม่ใช่หรือไร

มั่วเชียนเสวี่ยมองหนิงเซ่าชิงตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า

จู่ๆ กลับทำให้หนิงเซ่าชิงมึนงงไปหมด เขาหุบยิ้มกระแอมแห้งๆ คำหนึ่ง ก่อนถูปลายจมูกตัวเองอย่างกระอักกระอ่วน

คนผู้นี้หน้าตาดีเกินไปก็เป็นโทษเช่นกัน

สืออู่วิ่งพรวดเดียวไปถึงห้องด้านหลังแล้ว

ยามนี้ขอแค่นางนึกถึงที่วันนั้นคุณหนูบอกว่าจะรับหมั้นเตาหนูให้นาง ใจนางก็เต้นระส่ำแล้ว!

ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เกี่ยวกับชอบไม่ชอบ

เดิมทีนางก็ไม่มีประสบการณ์ความรักอะไรนี่อยู่แล้ว และไม่เคยคิดเรื่องระหว่างชายหญิงมาก่อนเลย นางเอาแต่คิดจะรับใช้คุณหนูใหญ่ให้ดี อยู่ข้างกายคุณหนูใหญ่ไปชั่วชีวิตไม่แยกจากไปไหน

แม้ว่าหลายคราที่จะได้พูดคุยกับเตาหนู แต่นั่นเป็นเพราะนิสัยของบุรุษผู้นี้เงียบขรึม ทำให้นางอยากแกล้งอย่างอดไม่ได้

ทว่า…ทว่ายามนี้…

“สืออู่”

กรี๊ด!

สืออู่กำลังคิดคนเดียวอย่างใจลอยอยู่ จู่ๆ ด้านหลังมีเสียงเตาหนูลอยมา

แม้เสียงเตาหนูจะนุ่มทุ้ม แม้ว่าจะระมัดระวัง แต่สุดท้ายก็ทำนางตกใจอยู่ดี

สืออู่รีบหันหลังกลับมาถลึงตาใส่เตาหนูอย่างอดไม่ได้!

คนผู้นี้ไม่เฝ้าเจ้านายดีๆ วิ่งมานี่ทำไม

นางจึงโมโหขึ้นมา “เจ้าทำอะไรน่ะ ไม่รู้หรือไรว่าคนเราสามารถตกใจจนตายได้น่ะ”

จนถึงตอนนี้ดวงใจนางก็ยังเต้นตึกตักอย่างแรง นางตกใจนัก!

เตาหนูเห็นแววตาตำหนิของสืออู่ดวงใจก็พลันละลายลง…

“สืออู่…เจ้าเห็นข้าแล้ววิ่งหนีทำไมเล่า”

แม้ว่าใจจะอ่อนยวบเพราะแววตานาง แต่ก็ยังหงุดหงิดที่ทุกครั้งสืออู่เห็นเขาก็มักจะวิ่งหนีเหมือนหนูเห็นแมวร่ำไป

หากเป็นเช่นนี้เขาหงุดหงิดมากเลยทีเดียว

เดิมทีใจสืออู่ก็วิตกหนักแล้ว ยามนี้ได้ยินเตาหนูถามตนเช่นนี้อีก นางพลันวิตกหนักขึ้นไปใหญ่

นางรีบใช้มือข้างหนึ่งผลักเตาหนูที่ยืนอยู่ตรงหน้านาง ก่อนตะโกนเสียงดังว่า “ข้าวิ่งที่ไหนกันล่ะ! ข้าก็แค่อยากจะมาดูทิวทัศน์ตรงนี้เท่านั้นเอง จะได้เก็บผักป่ากลับไปฝากคุณหนูใหญ่ด้วย คุณหนูใหญ่ชอบกินโจ๊กผักป่าเป็นที่สุด!…เจ้า…เจ้าอยู่ห่างๆ ข้าหน่อย!”

สืออู่ที่ดันเตาหนูออกเอ่ยจบก็แสร้งทำเป็นหาผักป่าบนพื้น

เตาหนูได้ยินดังนั้นสีหน้าพลันทะมึนขึ้นมา

อยู่ห่างๆ นางหน่อยอย่างนั้นรึ

ยามนี้เขาก็ไม่ได้อยู่ใกล้สืออู่เลยนะ หากต้องห่างออกไปอีก ภรรยาเขาคงได้บินหนีไปเลยกระมัง

อีกทั้งตรงนี้มันมีผักป่าอยู่ที่ไหน แถวนี้โดนหวังเทียนซงให้คนมาจัดการตั้งหลายหนแล้ว หญ้าสักต้นยังไม่มีเลย

เตาหนูคิดมาถึงตรงนี้ก็เหมือนเด็กน้อยดื้อรั้น เพิ่งจะถูกสืออู่ผลักออกก็พลันก้าวไปหาก้าวหนึ่ง

เขากางแขนออกพร้อมกับตรงไปหา

พอสืออู่ลนลานก็รีบลุกขึ้น เดิมทีหมายจะหลบหลีก

จนใจที่ด้านหลังเป็นต้นไม้

พอนางหลบไป หลังนางก็พิงไปกับต้นไม้ เตาหนูเดินไปหา สองแขนโอบเข้าหากันจึงแทบจะกดสืออู่เอาไว้ระหว่างอ้อมอกเขากับต้นไม้

“ข้าไม่ไป!” เตาหนูหอบหายใจ เขาจะถามให้กระจ่างแจ้งไปเลยว่ามีตรงไหนของตนที่ทำให้นางไม่ชอบเช่นนี้

หากยังเอาแต่เดินตามต้อยๆ อยู่เงียบๆ ไม่พูดไม่จาเหมือนเมื่อก่อน เกรงว่าภรรยาคงได้ลอยหายไปจริงๆ แน่

“เจ้าจะทำอะไรน่ะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!”

การกระทำนี้ของเตาหนูและคำว่า ‘ไม่ไป’ ยิ่งทำให้สืออู่ลนหนัก

สีหน้านางพลันแดงขึ้นมา หมายจะผลักเขาออกอีก

ทว่าตรงหน้านางคือแผ่นอกของบุรุษ ซ้ำทั้งสองฝั่งก็เป็นแขนของเตาหนู

นางเขินที่จะแตะต้อง มือที่ยื่นออกไปชักกลับอย่างลังเล

ในระหว่างที่กำลังพิพักพิพ่วนนั้น สืออู่ก็ขดตัวของตัวเอง พยายามไม่แตะต้องร่างกายเตาหนู สองมือไม่รู้จะวางตรงไหน จำต้องดึงชายเสื้อตัวเองไว้ ตะโกนแหบๆ อย่างไร้เรี่ยวแรงว่า

“เจ้าปล่อยนะ…”

สืออู่ยามปกติไม่อินังขังขอบอย่างนั้น แต่ความจริงแล้วภายในใสเป็นเด็กน้อยซื่อบริสุทธิ์ยิ่งและขี้อายมากด้วย

“สืออู่! เจ้าชอบข้าบ้างหรือไม่” สืออู่ปฏิกิริยารุนแรงเกินไป ทำเอาเตาหนูค่อนข้างเสียใจ

เขาไม่เข้าจริงๆ ว่าตัวเองไม่ดีตรงไหน นึกไม่ถึงว่าจะทำให้สืออู่รังเกียจเช่นนี้

ชายหยาบกระด้างคนหนึ่งไหนเลยจะไปคิดถึงสภาพจิตใจของเด็กสาวได้ ที่สืออู่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะเขินอายต่างหากเล่า

“ชอบไม่ชอบอะไรกันล่ะ! เจ้าพูดได้ไม่อายปากบ้างรึ รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ อีกเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะอธิบายอย่างไร”

“ก็ไม่ต้องอธิบายสิ! ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นภรรยาข้า!” คนพูดจาไม่เป็นให้พูดด้วยกี่ครั้งก็ยังเป็นประโยคเดิม

“ใครเป็นภรรยาเจ้ากัน เจ้าหุบปากเลยนะ เจ้า…เจ้าไปเลย…อื้อ…”

สมกับเป็นนายบ่าวกันจริงๆ วิธีปราบสตรีใช้กันแต่วิธีนี้ทั้งสิ้น!

ใช้จูบปิดปาก!

ทว่าสถานการณ์จริงนั้น

เตาหนูเงอะๆ งะๆ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ควรจะพูดอะไรต่อดี

เขาถูกบังคับให้ฟังเจ้านายสองคนมาไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว มักจะได้ยินคุณหนูใหญ่โกรธขึ้นมา แล้วก็เอาแต่พูดๆๆๆ ไม่หยุด นายท่านไม่เถียงสักคำ แต่ใช้ไม้นี้แทน

ดังนั้น…

เขาจึงแอบลอกเลียนมา!

อันที่จริงใจเตาหนูยามนี้ลนลานจะแย่

ไม่ว่าจะทำเป็นหรือไม่ อย่างไรเสียเขาก็ไม่อาจให้สืออู่พูดต่ออีกแล้ว! ยามที่สตรีนางนี้เวลาฉะคนนั้น ทำเอาโมโหจนตายได้เลย!

แต่สืออู่กลับมึน…งง…สมองละเลือนไปหมด…

ด้านนี้อากาศแจ่มใสดี อีกด้านหนึ่งอุณหภูมิกลับต่ำลงเล็กน้อย

“ท่านว่าอะไรนะ” มั่วเชียนเสวี่ยลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง ก่อนมองหนิงเซ่าชิงอย่างเหลือเชื่อ

ถงจื่อจิ้งกลับไปแล้ว หนิงเซ่าชิงหุบยิ้ม ก่อนจะเริ่มพูดเรื่องสำคัญ

ทว่าข่าวที่เขานำมาให้นางมันช่างใหญ่หลวงนัก ทำเอาใจนางที่สงบนิ่งอยู่ดีๆ พลันพลุ่งพล่านขึ้นทันใด

หนิงเซ่าชิงพยักหน้าแสดงให้เห็นว่ามั่วเชียนเสวี่ยไม่ได้หูฝาดไป

“เจิ้นหนานอ๋องถูกฝ่าบาทเรียกไปพบอย่างลับๆ ข่าวนี้จริงแท้แน่นอน”

หนิงเซ่าชิงก็ตกใจสำหรับข่าวนี้เช่นกัน เขาไม่คาดคิดเลยจริงๆ ว่าฝ่าบาทจะเรียกเจิ้นหนานอ๋องเข้าเฝ้าในเวลานี้

ทว่า สามารถมองออกได้จากเรื่องนี้เลยว่า ฝ่าบาทร้อนพระทัยจริงๆ แล้ว ทรงรอเรื่องพวกนั้นไม่ไหวเสียแล้ว!

“แล้ว…ฝ่าบาทเรียกเจิ้นหนานอ๋องกลับมา จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึ” ยามนี้สิ่งที่มั่วเชียนเสวี่ยกำลังกังวลที่สุดก็คือเรื่องนี้นี่แหละ

เจิ้นหนานอ๋องผู้นี้น่ะจะว่าอย่างไรดีล่ะ…

แม้ว่ามั่วเชียนเสวี่ยจะไม่เคยพบมาก่อน แต่ก็ได้ยินคนอื่นๆ พูดถึงอยู่บ้างว่าเจิ้นหนานอ๋องผู้นี้เป็นคนที่ใช้วิธีเหี้ยมโหดทารุณยิ่งนัก

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท