รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!

บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!

บทที่ 504 ครั้นอ้าปาก…เอ่ยสิ่งใดได้สิ่งนั้น!

เด็กหญิงลงมือ หมายจะกำราบหยวนอี เพื่อให้ได้รู้เรื่องที่ตนเองอยากรู้

นางเจิดจรัสเกินไป ประกายนับล้านห้อมล้อมรอบตัว พลังปราณล้นฟ้าแผ่พุ่งออกมากระแสแล้วกระแสเล่า มิติแทบถล่ม สายโซ่รักษาระเบียบกฎวิถีฟ้าดินแหลกเหลวด้วยแรงกระเทือน

นางอยู่ในขอบเขตใดกัน เป็นถึงเซียนจริงหรือ

หยวนอีไม่รู้ สัมผัสความนิรันดร์จากตัวเด็กหญิงมิได้ เรียกว่ามีก็ได้ แต่นั่นไม่สมบูรณ์ มันเป็นความนิรันดร์ที่ขาดช่วงตอน

เป็นมาอย่างไรกัน?

เคยถูกปกคลุมด้วยวัตถุนิรันดร์ แต่แล้วต่อมาขาดช่วงไปหรือ นางสัมผัสถึงปราณนิรันดร์อันขาดช่วงได้ แปลกมาก ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิด

ต้องเคยเกิดปัญหาบางอย่างกับเด็กหญิงเป็นแน่!

ครืนคราน!

ฟ้าดินกู่ก้อง เด็กหญิงชี้นิ้วออกไป ดูคล้ายแสงแห่งกาลอวสาน ทิ่มแทงไปหาหยวนอี!

“สี่กระบี่ประหารเซียน!”

หยวนอีมิกล้าลังเล เรียกกระบี่ประหารเซียนออกมาในบัดดล!

กระบี่ประหารเซียนสี่เล่มเหินออกจากกล่องไม้ แสงเซียนรายล้อม ปราณเซียนซัดสาด จากที่เคยมีขนาดเท่าของประดับเล็ก ๆ พลันขายตัวออกมา กลายเป็นกระบี่ยาวเล่มแล้วเล่มเล่า บดขยี้ลำแสงกาลอวสานที่ทิ่มแทงมาหาหยวนอีจนสิ้น!

“กระบี่เซียนสี่ด้ามหรือ!”

ม่านตาเด็กหญิงหรี่ลง สัมผัสถึงจังหวะแห่งเซียนอย่างแรงกล้าจากกระบี่ทั้งสี่เล่มได้ สี่เล่มนี้คือกระบี่เซียนอย่างแท้จริง ซ้ำยังทรงพลังกว่ากระบี่เซียนธรรมดามากโข บางทีอาจมีระดับขั้นสูงยิ่งกว่านั้น!

“อย่างที่คิด! ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าจุติลงจากภพเซียนจริงด้วย!”

เด็กหญิงยิ้มเย็น ไม่นานนักก็กลับมาสงบเยือกเย็นอีกครั้ง “ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้าอยู่ที่ใด แถวนี้หรือ”

นางคลี่แผ่ประสาทสัมผัสเซียนออกไป ปกคลุมออกไปหลายร้อยลี้ในชั่วพริบตา ซ้ำในพริบตานี้ นางสืบค้นทุกสิ่งในรัศมีหลายร้อยลี้นี้ได้หมด!

ในเมื่อจุติลงจากภพเซียน ซ้ำยังหานางจนพบ ไม่มีทางไม่รู้ในความสามารถของนาง หยวนอีเพิ่งอยู่ขอบเขตใด มีหรือจะต่อกรกับนางด้วยกระบี่เซียนสี่เล่มนี้ได้

เป็นไปได้อย่างไร!

นางรู้สึกว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังหยวนอีหลบอยู่ใกล้ ๆ นี้!

ทว่าเรื่องที่นางคิดไม่ถึงคือ นางสัมผัสไม่ถึงความผิดปกติแต่อย่างใด ทุกสิ่งทุกอย่างในรัศมีหลายร้อยลี้นี้เป็นปกติ!

“คงมิได้คิดจริง ๆ ว่าประทานกระบี่ยาวสี่เล่มนี้แก่เจ้าแล้วเจ้าจะจัดการข้าได้กระมัง”

นางมีสีหน้าอึมครึม “ไม่มีทางไม่อยู่ ข้าจะโจมตีจนกว่าเจ้าจะยอมปรากฏตัว!”

จากนั้น นางลงมืออีกครั้ง พลังสยดสยองถาโถมสู่ปฐพี นางใช้วิชาเซียนเข้าบดขยี้!

พลังที่เหนือจินตนาการเดือดพล่าน กฎระเบียบในฟ้าดินนี้ลุกเป็นไฟ ประกายแดงฉานทาบทับฟ้าดิน ทะเลเพลิงจุติลงจากฟากฟ้า แผดเผาทุกสิ่ง!

ไม่ทันได้จุติลงมา ทุกอย่างในแถบนี้ก็ถูกหลอมละลายจนสิ้น นี่คือเพลิงเซียน น่ากลัวเกินไป วัตถุธรรมดาไม่อาจหยุดยั้งได้!

แม้กระทั่งมิติผืนนี้ยังไม่อาจแบกรับทะเลเพลิงนี้ไวได้ หลอมละลายเป็นแถบ หลุมโหว่มโหฬารปรากฏบนนภาหลุมแล้วหลุมเล่า พลังมิติอันยุ่งเหยิงไหลหลาก ภาพการณ์น่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด!

“ไปเถิด!”

หยวนอีคำรามเบา ๆ ตัวนางไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด กล่องไม้ซึ่งบรรจุสี่กระบี่ประหารเซียนมิใช่ของธรรมดา มีประกายนุ่มนวลฉายออกมา ขวางกั้นทุกสิ่งจากนาง

สี่กระบี่ประหารเซียนส่งเสียงกู่ร้อง พุ่งขึ้นไปอย่างพร้อมเพรียง เข้าปะทะกับทะเลเพลิงซึ่งจุติลงจากฟากฟ้า!

ทะเลเพลิงซัดสาดดุดัน เปลวไฟน่าสะพรึง พริบตาเดียวก็กลืนกินสี่กระบี่ประหารเซียนเข้าไป!

“เจ้ายังมิได้บรรลุเป็นเซียน ขอบเขตต่ำต้อยเป็นหนักหนา ต่อให้มีกระบี่เซียนสี่เล่มในมือแล้วอย่างไร! เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เจ้ายังคงต้อยต่ำดั่งมดปลวก!”

เด็กหญิงยิ้มเย็น “มีสมองให้มากกว่านี้หน่อย อย่าได้ทะเล่อทะล่าเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อผู้อื่น เจ้าหรือจะต่อกรกับข้าได้ โง่เขลาจนน่าขัน!”

สี่กระบี่ประหารเซียนถูกกลืนกิน ไร้ซึ่งแสงกระบี่ส่องประกายออกมาอีก ราวกับถูกทะเลเพลิงกำราบไปแล้ว

“นายท่านเกรียงไกรทรงพลัง!”

มังกรดำตะโกนเสริมบารมีอยู่ข้าง ๆ ประจบประแจงเด็กหญิง

จากนั้น มันหันไปมองหยวนอี เนตรมังกรสองข้างเปี่ยมไปด้วยความดูแคลน “สี่กระบี่ประหารเซียนอันใดกัน เมื่ออยู่ต่อหน้านายท่าน ก็เป็นเพียงเศษเหล็กสี่ชิ้นเท่านั้น มิได้ยิ่งใหญ่เลยสักนิด!”

“อย่าเพิ่งใจร้อนไป”

หยวนอีมีสีหน้าสงบ มั่นใจในสี่กระบี่ประหารเซียนอย่างยิ่งยวด ไม่มีทางที่สี่กระบี่ประหารเซียนจะพ่ายแพ้ทั้งอย่างนี้

“ยังจะเสแสร้งแกล้งอยู่อีกหรือ อย่างไร ยังหวังให้เศษเหล็กสี่ชิ้นของเจ้าเปล่งแสงออกมาอีกครั้งหรืออย่างไร คิดอะไรอยู่!”

มังกรดำขำพรืด

ทว่า ทันทีที่สิ้นเสียงของมัน แสงกระบี่เจิดจรัสพวยพุ่งออกจากทะเลเพลิง ทะยานสู่นภา!

สีหน้ามังกรดำเปลี่ยนไป นี่มันเรื่องอันใดกัน ตบหน้ากันหรือ

เมื่อครู่มันเพิ่งกล่าวว่าสี่กระบี่ประหารเซียนไม่มีทางเปล่งแสงได้อีก ผลปรากฏว่าสี่กระบี่ประหารเซียนเปล่งแสงในพริบตาต่อมา!

“เปล่าประโยชน์ ลำพังเศษเหล็กสี่ชิ้นของเจ้า คิดว่าจะทลายวิชาเซียนของนายท่านได้หรืออย่างไร เจ้าเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว!”

มันเอ่ยต่อ ไม่เชื่อว่าสี่กระบี่ประหารเซียนสามารถทลายวิชาเซียนของนายท่านได้

แต่พริบตาต่อมามันก็ต้องนิ่งอึ้ง ค้างอยู่ที่เดิมราวกับกลายเป็นหินไปแล้ว

ไฉนเอ่ยถึงสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นเล่า!

แสงกระบี่เจิดจ้า สี่กระบี่ประหารเซียนพุ่งออกจากทะเลเพลิง เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน กวาดตวัดหนึ่งครั้ง ลบล้างทะเลเพลิงได้ในพริบตา ไม่เหลือแม้แต่ประกายไฟเล็ก ๆ!

“นะ นายท่าน คือว่า…ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับข้า!”

มังกรดำตกใจแทบแย่ เมื่อเห็นสายตาเขียวปั๊ดของเด็กหญิงมองมาทางมัน

มันร้องไห้ มันก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเป็นเช่นนี้ หากรู้อย่างนี้ อย่างไรมันก็ไม่ขอกล่าววาจาเยี่ยงนั้น!

“หุบปาก!”

เด็กหญิงแค่นเสียงเย็น ฟาดฝ่ามือใส่มังกรดำ เจ้าปากอีกาเดนตาย พูดอะไรเป็นอย่างนั้น พ่นน้ำลายให้น้อย ๆ หน่อยไม่ได้หรือไร

มังกรดำถูกฟาดกระเด็น เสียงกระดูกในกายหักดัง ‘เปรี๊ยะปร๊ะ’ ไม่หยุด เลือดเนื้อในร่างกายมังกรเละรวมกันเป็นหนึ่ง อย่าให้พูดเลยว่าอนาถาปานใด

ยังดีที่เด็กหญิงมิได้ต้องการปลิดชีพ มิฉะนั้นด้วยฝ่ามือนี้ มังกรดำต้องตายลงอย่างแน่นอน!

“มิใช่กระบี่เซียนธรรมดาจริงด้วย…”

เด็กหญิงพึมพำเสียงเบา เหนือความคาดหมายไปจริง ๆ สี่กระบี่ประหารเซียนสำแดงพลานุภาพได้ยิ่งใหญ่เพียงนี้ ทั้งที่อยู่ในมือผู้ฝึกตนกระจอกขอบเขตต้อยต่ำเป็นหนักหนาอย่างหยวนอี ช่างน่าทึ่งจริง ๆ

ทว่าทั้งหมดนี้ไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่

นางยกมือเรียกธงกระดูกออกมาด้ามหนึ่ง ตัวธงนั้นยึดด้วยกระดูกยาวท่อนหนึ่ง หน้าธงสร้างจากหนังของอสูรร้ายไม่ทราบเผ่าพันธุ์ มีอักขระแปลกประหลาดถูกวาดไว้ด้วยโลหิตแดงฉาน หากพินิจอย่างละเอียด คล้ายว่าเพิ่งถูกวาดด้วยโลหิตเมื่อครู่ เลือดนั้นยังไหลรินได้อยู่!

“นี่คือธงกระดูกเซียน สร้างจากกระดูกของเซียน หนังของอสูรเซียน! วิญญาณของยอดฝีมือผู้ตายด้วยธงกระดูกเซียนถูกผนึกไว้ภายในทั้งหมด! วันนี้ให้พวกมันได้เล่นกับกระบี่สี่เล่มนี้ของเจ้าหน่อยแล้วกัน!”

นางสะบัดธงกระดูกเซียน ฟ้าดินพลันมืดมัว สายลมแห่งผีสางพัดพา เสียงครวญครางของผีดังขึ้น

นี่คือของศาสตราเซียนโบราณชิ้นหนึ่ง เลื่องชื่อในภพเซียนอย่างยิ่ง สิ่งมีชีวิตที่ตายด้วยธงกระดูกเซียนล้วนมิใช่คนไร้นาม ทั้งหมดต่างเป็นคนเก่งกาจ นางเองได้มาด้วยโอกาสบังเอิญ และเข่นฆ่าศัตรูทรงพลังไปมากด้วยธงกระดูกเซียนนี้!

ท่ามกลางธงกระดูกที่ปลิวสะบัด วิญญาณร้ายตนแล้วตนเล่าพุ่งออกมา มีทั้งวิญญาณของอสูรร้าย ทั้งวิญญาณรูปร่างมนุษย์

ทว่าวิญญาณร้ายทุกตนต่างสยดสยองเป็นที่สุด ไม่มีตนใดแตกต่างออกไป พลังที่ปะทุออกมาแกร่งกล้ากว่าวิชาเซียนที่เด็กหญิงใช้เมื่อครู่มาก!

เรียกได้ว่าเทียบไม่ได้เลย มิได้อยู่ในระดับเดียวกัน!

วิญญาณยั้วเยี้ยเต็มท้องฟ้าไปหมด ลำพังวิญญาณตนน้อย ๆ มังกรดำยังรู้สึกว่ากำจัดตนได้ง่ายดาย น่ากลัวว่าเหล่านี้คงเป็นวิญญาณเซียน และอสูรเซียนทั้งหมด!

วิญญาณร้ายมากมายตะครุบเข้ามา สี่กระบี่ประหารเซียนยังเริ่มต้านทานไม่ไหว แสงกระบี่ที่ตวัดออกไปถูกวิญญาณร้ายเหล่านี้กลืนกินในพริบตา!

ในไม่ช้า สี่กระบี่ประหารเซียนจมไปในกองวิญญาณร้าย ประกายทั้งหมดหม่นหมอง!

‘คราวนี้คงไม่มีปัญหาแล้วกระมัง’

มังกรดำพึมพำในใจ

การโจมตีของธงกระดูกเซียนในครานี้รุนแรงกว่าวิชาเซียนตั้งไม่รู้กี่เท่า สี่กระบี่ประหารเซียนทรงพลังเพียงใดก็ไม่มีทางต้านทานได้ไหว เป็นไปไม่ได้ที่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลง

“พี่ใหญ่เกรียงไกรทรงพลัง!”

มันตะโกนเสียงดังอีกครั้ง เอาอกเอาใจเด็กหญิง หวังจะชดเชยความผิดทั้งหลายที่มันได้ก่อก่อนหน้านี้

“เห็นหรือยัง! เมื่อศาสตราเซียนอันแท้จริงออกโรง เศษเหล็กของเจ้าก็สิ้นฤทธิ์ในบัดดล!”

มังกรดำมองหยวนอีด้วยความดูถูก “เมื่อครู่นายท่านเพียงแต่หยอกเจ้าเล่นเท่านั้น หาได้สู้เต็มกำลังไม่ ก่อนหน้านี้มดปลวกอย่างเจ้ายังมีหน้ายินดีกับตัวเอง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยจริง ๆ!”

จากนั้น มันคลี่ยิ้มกว้าง เอ่ยกับเด็กหญิงอย่างพะเน้าพะนอ “นายท่านว่าจริงหรือไม่!”

ยอดฝีมือต้องการคำชื่นชม ต้องการเสียงยินดี ตอนนี้มันกำลังทำเรื่องนั้นอยู่

‘เลียแข้งเลียขารอบนี้คงไม่มีปัญหาแล้ว ต้องเป็นที่ชอบใจของนายท่านแน่!’

มันคิดในใจอย่างเบิกบาน

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท