บทที่ 509 บ้าไปแล้ว เหตุใดข้าจึงไม่อาจหนีชะตากรรมของการถูก ‘ขี่’ ได้?
“หนึ่งร้อยครั้ง หนึ่งร้อยครั้ง!”
บนเตียงขนาดใหญ่ อสูรหมูหัวเราะออกมาเสียงดัง ดูสำราญเป็นอย่างมาก วันนี้มันทำกับภรรยาของมันทั้งวัน จำนวนรวมกันแล้วมากกว่าหนึ่งร้อยครั้งอย่างแน่นอน!
“ภรรยายังคงยอดเยี่ยมเช่นเคย ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเทียบ ทำเป็นร้อยครั้งก็ยังไม่เบื่อ!”
มันหัวเราะร่า พลางมองไปทางเซียวฮุ่ยอย่างหยาบโลน
อีกด้านหนึ่งของเตียง ใบหน้าของเซียวฮุ่ยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
เดรัจฉาน!
นางก่นด่าสาปแช่ง หทัยเต๋าของนางพังทลายไปหมดสิ้น ทั้งวันนางถูกอสูรหมูตัวนี้เคี่ยวกรำ!
แม้นางจะมีชีวิตมานานแสนนาน แต่นางก็ไม่เคย…ทำเรื่องอย่างว่ามาก่อน!
นางไม่เคยกระทั่งสนทนาแบบชายหญิงมาก่อน ไม่เคยสัมผัสชายใด แต่กลับถูกอสูรหมูอัปลักษณ์ทำลายครั้งแรกไป ทั้งยังทำติดต่อกันเกินกว่าหนึ่งร้อยครั้ง!
แม้ว่านางจะอยู่เหนือยิ่งกว่าเซียนทั่วไป นางก็ไม่อาจทนรับได้ สุดท้ายหัวใจพังทลายลง!
เหตุใดนางจึงต้องทุกข์ทนเช่นนี้!
เซียวฮุ่ยร้องไห้จนใกล้จะสิ้นลมแล้ว
“ภรรยา วันนี้ข้ารู้สึกว่าเจ้าเปลี่ยนไปมาก ดูแววตานั่นสิ อ่า เหมือนกับตอนที่พวกเราทำกันครั้งแรก! ข้าตื่นเต้นขึ้นมาอีกแล้ว!”
ดวงตาของอสูรหมูวาววับขึ้นมาอีกครั้ง
“!!!”
เซียวฮุ่ยบื้อใบ้ขึ้นมาทันที ยังจะทำอีกหรือ? อสูรหมูตนนี้ไม่กลัวเหนื่อยตายหรืออย่างไร!?
รอให้นางฟื้นตัวเองก่อนเถอะ หลังจากฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว นางจะเอาแม่หมูนับร้อยตัว ไม่สิ แม่หมูนับพันตัวมาพลัดกันบังคับนอนกับอสูรหมูจนมันแห้งเหี่ยวตาย!
ภายใจในนางเกลียดชังอสูรหมูเป็นอย่างมาก นางสาบานว่าจะต้องเอาคืนความแค้นครั้งนี้!
น่าเสียดายที่ตอนนี้นางไม่อาจต่อต้านได้เลย ได้แต่ปล่อยให้อสูรหมูกระทำกับนางอีกครั้ง
ทางฝั่งสามเณรน้อยก็มาถึงยังสถานที่แห่งนี้
ที่นี่เป็นฐานทัพหลักของอสูรหมู อสูรหมูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นับได้ว่าเป็นผู้ปกครองตนหนึ่ง มีสัตว์อสูรอยู่จำนวนมากใต้บัญชา
ทันทีที่สามเณรน้อยมาถึง สัตว์อสูรเหล่านี้ก็พุ่งเข้ามาหมายสังหารสามเณรน้อยทันที
แต่ทว่าสามเณรน้อยแข็งแกร่งกว่าพวกมันมาก สัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ใช่คู่มือของสามเณรน้อย ในไม่ช้าพวกมันทั้งหมดก็ถูกปราบลงไปอย่างรวดเร็ว
สามเณรน้อยไม่ได้สังหารสัตว์อสูรเหล่านี้ เป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาคือการรวบรวมพลังความศรัทธา การสังหารสัตว์อสูรเหล่านี้เลยจะเป็นการสูญเปล่า
อย่างไรเสียหากเขาสังหารสัตว์อสูรเหล่านี้ไปที่นี่ตั้งแต่ตอนนี้ พลังศรัทธาที่เขาจะได้รับย่อมมีจำกัด หากปล่อยให้สัตว์อสูรพวกนี้ออกไปก่อกรรมทำเข็ญ จากนั้นเขา ‘บังเอิญ’ ผ่านมาพอดี และกำจัดสัตว์ประหลาดเหล่านี้ท่ามกลางสายตาผู้คน เช่นนี้จึงจะได้รับพลังศรัทธาล้นหลาม ทั้งยังทำให้พุทธภูมิเก้าประทีปของเขามีชื่อเสียงขึ้นมา!
“ข้ากำลังเพลิดเพลินอยู่ แต่กลับถูกเจ้าสารเลวนี้ขัดจังหวะ วันนี้ข้าจะไม่ให้เจ้าได้ตายดี!”
อสูรหมูที่อยู่ด้านในมีสีหน้าดุร้าย มันยังไม่ทันเสร็จดี กำลังอยู่ในช่วงสำราญที่สุด แต่กลับถูกสามเณรน้อยขัดจังหวะจนหมดความสนุก!
ทั่วร่างของมันเปี่ยมด้วยจิตสังหาร ทันทีที่ออกมาก็โจมตีใส่สามเณรน้อยอย่างบ้าคลั่ง ต้องการจะฉีกสามเณรน้อยออกเป็นชิ้น ๆ
“พระเก้าประทีปพุทธเจ้าเปี่ยมเมตตาต่อสรรพสัตว์ วันนี้นับเป็นโชคดีของเจ้าแล้วอสูรหมู ที่ข้ามาโปรดเจ้า!”
สามเณรน้อยกล่าวด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่ได้เอ่ยอมิตาพุทธอีกต่อไป เขาศรัทธาเพียงตนเอง วันข้างหน้าเขาจะกล่าวว่าตนเป็นพระพุทธเจ้าเพียงองค์เดียวในพุทธภูมิเก้าประทีป
อสูรหมูไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาแม้แต่น้อย เพียงพริบตาเดียวเขาก็สามารถกำราบมันจนสูญเสียความสามารถในการต่อสู้
เขาไม่ได้สังหารอสูรหมูเหมือนกัน
อสูรหมูเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำให้เขาได้รับพลังความศรัทธาจำนวนมาก เขาจะสังหารมันเลยได้อย่างไร จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ก่อน
“ยังเหลืออยู่หนึ่ง เจ้าเองก็ออกมาด้วย!”
สามเณรน้อยยื่นมือออกไป ทันใดนั้นก็ปรากฏพลังอันมหาศาลดึงเซียวฮุ่ยออกมาจากข้างในห้อง
เขาจะไม่ปล่อยสัตว์อสูรที่นี่ให้รอดไปได้สักตัว จะนำพวกมันทั้งหมดไปด้วย เพราะพวกมันล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งที่มาของพลังความศรัทธาให้เขา
“หืม เจ้าไม่เลวเลย!”
ดวงตาของสามเณรน้อยเปล่งประกายระหว่างจับจ้องมาทางเซียวฮุ่ย เขาสัมผัสได้ว่าวิญญาณของเซียวฮุ่ยแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แตกต่างจากสัตว์อสูรตนอื่น
หากสัตว์อสูรตนนี้ได้รับการฝึกฝน จะต้องแข็งแกร่งกว่าอสูรตนอื่นอย่างแน่นอน
“นับตั้งแต่นี้ไปเจ้าจะต้องเป็นสัตว์ขี่ของข้า”
เขากระโดดขึ้นไปนั่งบนร่างของเซียวฮุ่ย ร่างของนางไม่ใช่หมู แต่เป็นหมาป่าสีขาวตนหนึ่ง
ตอนนี้เขามีเพียงตัวคนเดียวลำพัง จำเป็นต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชาดี ๆ จึงอยากฝึกเซียวฮุ่ยให้กลายเป็นมือขวาของเขา
เหตุใดนางถึงโชคร้ายถึงเพียงนี้?
เหตุใดจึงไม่อาจหลบหนีจากชะตากรรมเช่นนี้ได้!?
เซียวฮุ่ยร่ำร้องในใจ นางอึดอัดคับข้องใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าการเป็นสัตว์ขี่จะดีกว่าสถานการณ์ก่อนหน้าเป็นอย่างมาก แต่นางก็ไม่สามารถทนรับได้
นางจะทนรับได้อย่างไรกัน?
นางคือผู้ใด?
นางเป็นถึงผู้อาวุโสตระกูลเซียว หนึ่งในเก้าตระกูลใหญ่แห่งภพเซียน ทั้งยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซียนทั่วไป ก่อนหน้านี้ก็ถูกอสูรหมูข่มเหง ตอนนี้ก็ถูกสามเณรน้อยขี่!
ผู้ใดจะต้องทนทุกข์มากเท่านาง!?
ภายในใจของนางเต็มไปด้วยความโกรธ รอให้นางฟื้นตัวกลับมาเสียก่อน อสูรหมูและสามเณรน้อยผู้นี้จะต้องจ่ายราคาชดเชยให้นางอย่างหนัก!
นางจะไม่มีวันปล่อยอสูรหมูกับสามเณรน้อยไปง่าย ๆ!
“ไม่เลว นั่งสบายมาก”
สามเณรน้อยเอ่ยพลางหัวเราะ เขาดีใจที่ตนเองได้สัตว์ขี่ที่นั่งสบายเช่นนี้ หากแต่หารู้ไม่ว่าในอนาคตชะตากรรมอันน่าเศร้าของเขาถูกตัดสินเอาไว้แล้ว…
“ไป ไปทำเรื่องที่สมควรทำได้แล้ว!”
เขาตีก้นของหมาป่าขาว เร่งให้ออกจากสถานที่แห่งนั้นไปพร้อมกับพาอสูรหมูและสัตว์อสูรตนอื่น ๆ ไปด้วย เตรียมตัวไปรวบรวมพลังศรัทธาของตนเอง
เซียวฮุ่ยร่ำไห้ วิ่งพาเณรน้อยออกไปด้วยน้ำตาคลอเบ้า นางถูกปีศาจหมูรังแกมาทั้งหมด ยังไม่ทันได้พักหายใจก็ต้องมาให้สามเณรน้อยนั่งขี่
ในขณะนั้นเอง ความเกลียดชังที่นางมีต่อสามเณรน้อยเพิ่มพูนขึ้นไปอีกขั้น วันข้างหน้าเมื่อนางฟื้นตัวได้แล้ว นางจะต้องให้สามเณรน้อยชดใช้คืนกลับมาเป็นร้อยเป็นพันเท่า
…
ขณะเดียวกัน ตงฟางเวิ่นและพวกเมิ่งจีก็รวมตัวกันแล้ว
“ไป”
พวกเขาออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังตำหนักย่อยของกองกำลังฮวงเฉวียน
ตงฟางเวิ่นรู้แจ้งว่าตำหนักย่อยแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ด้านในยังมีสมาชิกที่สำคัญของกองกำลังฮวงเฉวียนหลายคนหลับใหลอยู่ภายใน ทำให้ตำแหน่งที่ตั้งไม่อาจเคลื่อนย้ายได้โดยง่าย
แน่นอน สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือกองกำลังฮวงเฉวียนไม่รู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งน่ากลัวเพียงใด จึงทำให้เขามั่นใจว่าตำหนักย่อยจะไม่ย้ายสถานที่ตั้งโดยง่าย
หากกองกำลังฮวงเฉวียนล่วงรู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งน่ากลัวขนาดไหน เกรงว่าต่อให้อุปสรรคจะมากมายยุ่งยากเพียงใด กองกำลังฮวงเฉวียนก็ต้องย้ายที่ตั้งตำหนักย่อยอย่างแน่นอน
ด้วยการนำทางของตงฟางเวิ่น พวกเขาก็มาถึงตำหนักย่อยอย่างรวดเร็ว
ปรากฏว่าสิ่งที่ตงฟางเวิ่นคิดเอาไว้นั้นถูกต้อง
ตำหนักย่อยยังคงไม่เคลื่อนย้าย ทุกอย่างล้วนเหมือนเดิม!
“จ้าวตำหนัก ข้าตงฟางเวิ่นกลับมาแล้ว!”
ตงฟางเวิ่นตะโกนด้วยรอยยิ้มมุมปาก แม้จะรู้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวมากมาย ทว่าเขาก็ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย
ทุกคนที่นี่ล้วนแต่เป็นคนของคุณชาย เพียงแค่ตำหนักย่อยเล็ก ๆ แห่งเดียวจะสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้อย่างไร?
ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน!
“ไร้ยางอาย!”
จ้าวตำหนักย่อยทะยานออกมาทันที
ดวงตาของเขาทอประกายเย็นเยียบขณะกล่าวออกมา “เจ้าทรยศต่อกองทำลัง ทั้งยังนำคนมาที่นี่ วันนี้เจ้าอยากจะตายมากหรือไร!?”
ดูเหมือนว่าความรู้สึกก่อนหน้านี้ของเขาจะไม่ผิด หลี่จิ่วเต้ายังคงไม่ยอมปล่อยกองกำลังฮวงเฉวียนของพวกเขาไป
ตงฟางเวิ่นจึงนำคนมาที่นี่!
“น่าขันนัก ข้านึกว่าเจ้าจะพาหลี่จิ่วเต้ามา แต่เจ้ากลับพาคนแก่กับเด็กมา เจ้าเป็นบ้าหรือโง่งมกันแน่?”
หลังจากจ้าวตำหนักย่อยเห็นคนเบื้องหลังตงฟางเวิ่น เขาก็กล่าวออกมาด้วยความขบขัน คนแก่กับเด็กเหล่านี้จะสามารถต่อสู้อะไรได้?
ตงฟางเวิ่นกำลังส่งพวกเขามาตาย!