ตอนที่ 467 กฎเกณฑ์สิบส่วน แล้วเจอกันใหม่
เมื่อเห็นร่างลึกลับนี้ หนิงฝานผงะไปด้วยความรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
แม้ทั้งสองจะมีความสัมพันธ์เป็นปฏิปักษ์ แต่ก็ไม่ควรมีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้
“ข้ารู้จักเจ้าหรือไม่?”
หนิงฝานมองร่างลึกลับขึ้นลง ทว่าปราณฮุ่นตุ้นที่ล้อมรอบตัวอีกฝ่ายทำให้มองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง ทั้งยังไม่มีภาพจำในเสียงเขาด้วย
“ตาย!!”
แต่เห็นได้ชัดว่า บุคคลลึกลับไม่ต้องการพูดจาไร้สาระกับหนิงฝาน ไอสังหารทั่วร่างเขามาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ตู้ม!
สิ้นคำว่าตาย ร่างลึกลับก็โบกมือ ชั่วพริบตานั้น แสงสีดำทำลายล้างโลกรอบตัวก็ก่อตัวขึ้นเป็นมังกรดำ มันร้องคำรามและพุ่งเข้าไปเด็ดหัวหนิงฝานทันที หมายจะกลืนกิน ฉีกเป็นชิ้น ๆ และบดขยี้เขา!
“ป้องกัน!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานก็ขมวดคิ้วและรีบเขย่ากงล้อโชคชะตาเหนือหัวของเขา
สี่สิบเก้ามหาวิถีที่แบกรับอยู่นั้น มีลำแสงจากมหาวิถีไร้สิ้นสุดหล่นลงมาปกป้องร่างของเขาทันที
ตู้ม!
เกิดเสียงระเบิด ลำแสงสีดำนั้นสลายพลังของสี่สิบกว่ามหาวิถีจนหมดสิ้น และจากนั้นก็ค่อย ๆ สลายหายไป
“ตะ…ต้านไว้ได้แล้ว?!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าจะเป็นสามราชาแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ คนอื่น ๆ หรือผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้ในระยะไกล ทุกคนต่างตื่นตกใจ
ลำแสงสีดำนั่นมีพลังต้านกฎเกณฑ์เจ็ดส่วน แม้แต่ห้าส่วนของพลังกฎเกณฑ์ที่ควบคุมโดยวิญญาณของราชาบรรพชนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ทว่าหนิงฝานกลับป้องกันมันไว้ได้!
“กงล้อโชคชะตา? เจ้ามีกงล้อโชคชะตาได้อย่างไร!!”
ตอนนี้ รูม่านตาของร่างลึกลับที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหดแคบลงอย่างกะทันหัน ดวงตาจับจ้องกงล้อแห่งโชคชะตาที่ลอยอยู่เหนือหัวของหนิงฝาน
หนิงฝานหยุดกงล้อแห่งโชคชะตาที่สั่นสะเทือน จากนั้นก็เอ่ยเย้ยหยันว่า “ไม่ว่าข้าจะมีกงล้อโชคชะตาหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า!”
“เศษสวะ!”
“สารเลว!”
“เจ้านับเป็นตัวอะไร บังอาจพูดกับท่านผู้นำของพวกข้าเช่นนี้!”
“แค่มดปลวกกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดกระจอก ๆ ข้าว่าเจ้าคงเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้ว!”
เวลานี้ กลุ่มผู้ฝึกยุทธ์ของพันธมิตรต้านสวรรค์อดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่หนิงฝานอย่างโกรธเคือง
บุคคลลึกลับเองก็เย้ยหยันขึ้นว่า “หนิงฝาน ข้าไม่สนว่าเจ้าเอากงล้อแห่งโชคชะตามาจากที่ใด แต่ข้าบอกได้ชัดเจนว่ากงล้อแห่งโชคชะตาวันนี้ปกป้องชีวิตเจ้าไม่ได้!!”
“ผนึกต้านสวรรค์!!”
ตู้ม!
สิ้นเสียงตะโกน พลังต่อต้านกฎเกณฑ์มหาศาลรอบตัวเดือดพล่านทันที และในพริบตา ผนึกโบราณขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้ก็ควบแน่นบนความว่างเปล่า
ผนึกโบราณสีดำสนิท และพลังต่อต้านกฎเกณฑ์บนนั้นกำลังจะทำลายเส้นทางราชันจักรพรรดิทั้งหมด!
ตู้ม!
ลมหายใจต่อมา ร่างลึกลับควบคุมผนึกต้านสวรรค์บีบอัดหนิงฝานอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด ไม่มีสิ่งใดไม่พังทลาย ไม่มีสิ่งใดไม่ถูกทำลายล้าง!
“หนิงฝานระวัง!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ซวินหวังรู้สึกหวาดกลัวแต่ไม่มีเวลาไปช่วยเขา
“เฮือก!”
“ผนึกนี้น่ากลัวนัก นอกจากระดับเดียวกันกับกฎเกณฑ์เส้นทางราชันจักรพรรดิไม่ใช่คู่ต่อสู้เลย!”
“แม้ว่าเด็กคนนี้จะครอบครองกงล้อโชคชะตาในตำนาน แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตาย!”
วิญญาณของราชาบรรพชนขมวดคิ้ว ในขณะที่คนอื่น ๆ ส่ายหัวและถอนหายใจ
คล้ายกับทุกคนมองเห็นฉากที่หนิงฝานจะพ่ายแพ้!
“ฮึ่ม!”
“กฏเกณฑ์ราชันจักรพรรดิ…ออกมา!”
ทว่าลมหายใจต่อมา หนิงฝานกลับแค่นเสียงเย็นและยกมือขึ้นสะบัด!
ตู้ม!
ชั่วพริบตา แสงสีทองไร้ที่สิ้นสุดปะทุออกมาจากกลางฝ่ามือของหนิงฝาน ขับไล่ความมืดออกไปในรัศมีหลายร้อยล้านลี้ทันที เมื่อแสงสีทองแพร่ขยายออกไป ม่านแสงสีดำที่ต่อต้านกฎเกณฑ์ก็ถูกทำลายล้างในพริบตา
“อ๊าก!”
“กฎเกณฑ์เส้นทางราชันจักรพรรดิ พลังแห่งกฎเกณฑ์สิบส่วน พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์แบบ!” วิญญาณของราชาบรรพชนเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ
ขณะที่ราชาทั้งสามแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ และสมาชิกของพันธมิตรต้านสวรรค์ต่างก็ส่งเสียงร้องเพราะสิ่งนี้ รูม่านตาสั่นไหวอย่างรุนแรง!
ในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์ปัจจุบัน มีเพียงซวินหวังและพันธมิตรต้านสวรรค์ชุดคลุมสีเทาเท่านั้นที่รู้ว่าหนิงฝานเคยใช้กฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิในด่านที่สิบ แต่ทั้งสองไม่เข้าใจกฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิเท่าใดนัก และพวกเขาก็คิดเสมอว่า หนิงฝานใช้กฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิเพียงหนึ่งหรือสองในสิบเท่านั้น!
แต่คำพูดของวิญญาณราชาบรรพชนทำให้พวกเขาตกใจทันที
สิบส่วน!
การควบคุมกฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิสิบส่วนคืออะไร ก็คือการอยู่ยงคงกระพันบนเส้นทางราชันจักรพรรดิอย่างไรเล่า!
ย้อนกลับไปเมื่อจิตวิญญาณของราชาบรรพชนอยู่ขั้นสุดยอดก็เพิ่งเข้าใจกฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิเพียงเก้าส่วนเท่านั้น!
“เป็นไปไม่ได้!”
“เจ้าเป็นเพียงกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด จะควบคุมกฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิสิบส่วนได้อย่างไร!”
ร่างลึกลับที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอดไม่ได้ที่จะอุทาน เขาตกใจยิ่งกว่าเห็นกงล้อแห่งโชคชะตาเสียอีก
สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือ เมื่อกฎเกณฑ์แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิผลิบานสิบส่วน พลังต่อต้านกฎเกณฑ์ในรัศมีหลายร้อยล้านลี้ก็เริ่มละลายราวกับน้ำแข็ง และหิมะต้องแสงแดดก็ไม่ปาน
พลังต่อต้านกฎเกณฑ์แม้จะเรียกว่าต่อต้านกฎเกณฑ์ แต่เจ็ดส่วนของพลังต่อต้านกฎเกณฑ์นั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้กฎเกณฑ์สิบส่วน!
ปัง!
สุดท้าย เมื่อพลังของกฎเกณฑ์ซึ่งมีแสงสีทองกลายเป็นมังกรทองหมื่นจั้งทะยานขึ้นปะทะ ผนึกต้านสวรรค์ที่กดลงมาพลันแตกสลายในทันที!
ฟุ่บ!
เมื่อผนึกต้านสวรรค์พังทลายลง ร่างลึกลับราวกับถูกฟ้าผ่า โลหิตเต็มปากถูกพ่นออกมา กลิ่นอายทั้งร่างอ่อนลงอย่างมาก
“ท่านผู้นำ!”
บรรดาผู้ฝึกยุทธ์ของพันธมิตรต้านสวรรค์กรีดร้องด้วยความสยดสยอง
คิดไม่ถึงเลยว่า ผู้นำที่พวกเขามองว่าเป็นเทพเจ้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากบุคคลที่เป็นเพียงกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด!
“สารเลว!”
“หนิงฝาน!!”
“ข้าทำลายเจ้า ข้าจะต้องทำลายเจ้าให้ได้!”
เวลานี้ ร่างลึกลับที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสดูเหมือนจะถูกกระตุ้นอย่างมาก เขาคำรามครั้งแล้วครั้งเล่า
จากนั้นแสงสีดำก็กลายเป็นดั่งทะเลโหมกระหน่ำพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง และพุ่งไปสังหารหนิงฝาน!
“หึ!”
“มาได้ดี!”
หนิงฝานแค่นเสียง และเผชิญหน้ากับการสังหาร
ปัจจุบันเขามีพลังแห่งกฎเกณฑ์สิบส่วน แม้เป็นราชันจักรพรรดิเซียนมาเอง เขาก็ไม่กลัว!
ตู้ม! ปัง!
เหนือเวหา ทั้งสองเข้าห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่ง พลังสองสายหนึ่งสีทองและหนึ่งสีดำปะทะกันอย่างต่อเนื่อง แล้วพลังที่ตามมานั้นก็สั่นสะเทือนโลก
ทว่าแม้บุคคลลึกลับจะแข็งแกร่ง แต่พลังต่อต้านกฎเกณฑ์ก็ถูกพลังแห่งกฎเกณฑ์ของหนิงฝานสยบโดยสิ้นเชิง!
เพียงครู่เดียว พลังต่อต้านกฎเกณฑ์ที่กวาดล้างรัศมีหลายร้อยล้านลี้ในตอนนี้ก็ถูกพลังกฎเกณฑ์ของหนิงฝานปราบจนไม่เหลือชิ้นดี
ร่างลึกลับถูกพลังแห่งกฎเกณฑ์โจมตีอย่างต่อเนื่อง โลหิตสาดกระเซ็นไปทั่ว
ท้ายที่สุด แม้แต่ปราณฮุ่นตุ้นที่วุ่นวายรอบตัวเขาก็ใกล้จะถูกปัดเป่า!
“หืม ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?”
หนิงฝานแค่นเสียงเย็นชา และโคจรพลังของกฎเกณฑ์ทั้งหมดเข้าสู่กระบี่ต้าหลัว เมื่อฟันกระบี่ออกไป ทุกหนทุกแห่งพลันถูกทำลายล้างทันที!
ก่อนที่กระบี่จะมาถึง ร่างลึกลับก็ส่งเสียงร้องโหยหวน และปราณฮุ่นตุ้นรอบตัวเขาก็เริ่มหายไปทีละนิด!
“แย่แล้ว!”
“รีบไปช่วยท่านผู้นำ!” สมาชิกของพันธมิตรต้านสวรรค์ตะโกนอย่างเร่งร้อน
ตู้ม!
ในหมู่พวกเขา ชายสองคนหน้าดำกับชุดเทาปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของระดับตระหนักวิถีออกมา และโจมตีหนิงฝานโดยตรง
หนิงฝานเลิกคิ้วขึ้นอย่างเย็นชา หันกระบี่ของเขาและฟันไปที่ผู้ฝึกยุทธ์สองคน!
ตู้ม! อ๊าก!
เมื่อฟาดฟันกระบี่ลงไป พลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ปะทุขึ้น แล้วผู้ฝึกยุทธ์ทั้งสองก็ส่งเสียงกรีดร้องทันที ร่างกายของพวกเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ วิญญาณเซียนของพวกเขาถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าเวลานี้ กระแสน้ำวนแห่งมิติไร้ขอบเขตด้านหลังร่างลึกลับได้เปิดออกแล้ว
“ท่านผู้นำ รีบหนีไป!”
ไป๋เวิง ตี้ถง และวาหวง ทั้งสามผู้ฝึกยุทธ์หันหลังกลับและหนีไปพร้อมกับร่างลึกลับ
“ข้าไม่ไป!”
“ข้าจะฆ่ามัน!”
“ข้าต้องฆ่ามันให้ได้!!”
แม้ว่าร่างลึกลับจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เจตนาฆ่าของเขาที่มีต่อหนิงฝานนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า!
“ท่านผู้นำ ความพ่ายแพ้ในวันนี้ไม่สามารถย้อนกลับได้ รีบไปกันเถิด!”
“ท่านผู้นำ ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา*[1]!”
“ท่านผู้นำ ความอัปยศในวันนี้ ในอนาคตพวกเราจะต้องให้เขาชดเชยสองเท่า!”
ทั้งสามพยายามเกลี้ยกล่อมครั้งแล้วครั้งเล่า และในที่สุด พวกเขาก็เพิ่มพลังบังคับร่างลึกลับ ก้าวเข้าไปในกระแสน้ำวนที่ไร้ขอบเขต!
ควับ!
เมื่อจมลงไปในกระแสน้ำวนที่ไร้ขอบเขต ร่างลึกลับพลันเอ่ยเสียงเย็นชา
“หนิงฝาน เราจะต้องพบกันใหม่ เมื่อถึงวันนั้นข้าจะบดขยี้เจ้าอย่างแน่นอน!!”
[1] ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผา (留 得青山在,不怕没柴烧) หมายถึง หากยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตก็ย่อมมีความหวัง