Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 355 เส้นทางสู่ราชาเพลง

ตอนที่ 355 เส้นทางสู่ราชาเพลง

ถูกต้อง เพลง ‘สิบปี’

เป็นที่รู้กันว่า เพลงนี้ยังมีเวอร์ชันภาษากวางตุ้งซึ่งใช้ชื่อว่า ‘วันนี้ปีหน้า’

และเฉินอี้ซวิ่นกลายเป็นที่โด่งดังในฮ่องกงได้ก็เพราะเพลง ‘วันนี้ปีหน้า’

ทว่าในตอนนี้ ชื่อเสียงของเฉินอี้ซวิ่นยังคงจำกัดอยู่ในพื้นที่เล็กๆ อย่างฮ่องกง ไม่ได้โด่งดังมากนักในแดนมังกร

จนกระทั่งในสักเดือนหนึ่งของปี 2003

บริษัทต้นสังกัดของเฉินอี้ซวิ่นอย่างอิงหวงตัดสินใจให้เฉินอี้ซวิ่นร้องเพลงนี้เวอร์ชันภาษาจีนกลางในชื่อเพลงว่า ‘สิบปี’

แรกเริ่มเดิมทีเฉินอี้ซวิ่นปฏิเสธ

เขารู้สึกว่าตนร้องเพลงวันนี้ปีหน้าเวอร์ชันภาษากวางตุ้งมาไม่รู้กี่พันรอบ แต่ผู้บริหารของอิงหวงต้องการให้เขาร้องเป็นภาษาจีนกลาง สำหรับเขาแล้ว การทำแบบนี้ให้ความรู้สึกเหมือนนำสินค้ามือสองมาขาย

ทว่าทางอิงหวงยังคงไม่ยอมแพ้ ยังเสนอเค้กชิ้นใหญ่ให้กับเฉินอี้ซวิ่น วาดภาพอนาคตอันยั่วยวนใจหลังจากเฉินอี้ซวิ่นร้องเพลงนี้ พร้อมทั้งบอกว่าเฉินอี้ซวิ่นต้องร้องเพลงนี้ เมื่อร้องแล้วจะต้องขยายฐานผู้ฟังในจีนแผ่นดินใหญ่ได้อย่างแน่นอน!

เฉินอี้ซวิ่นทนต่อความรบเร้าไม่ไหวจึงตอบตกลงขับร้องเพลงนี้

ส่วนผลที่เกิดขึ้นทุกคนต่างก็รู้แล้ว เมื่อเพลงนี้ปล่อยออกไป เฉินอี้ซวิ่นก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในแดนมังกร

หลังจากนั้น เพลงสิบปีนี้ ก็มาคู่กับเฉินอี้ซวิ่นราวกับเป็นฝาแฝดตัวติดกัน

ตราบใดที่มีคอนเสิร์ตของเฉินอี้ซวิ่น ย่อมต้องมีเพลงสิบปี

และเมื่อใดที่มีทำนองเพลงสิบปีดังขึ้น กำแพงความความรู้สึกในส่วนลึกของจิตใจผู้ฟังก็พลันแตกละเอียดในทันที เรื่องราวของความรู้สึกนับไม่ถ้วนค่อยๆ ไหลรินไปตามดนตรี ทำให้ผู้ฟังเคลิ้มตามไป

กล่าวได้ว่า เพลงสิบปีเป็นหนึ่งในเพลงเศร้าสุดคลาสสิกของฮ่องกง

เพลงที่ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องร้องในห้องคาราโอเกะ สิบปีเป็นเพลงที่ขาดไม่ได้

เพลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือกที่ได้รับความนิยมของผู้เข้าประกวดความสามารถ แต่ยังเป็นเสียงสะท้อนในโลกแห่งอารมณ์ของคนวัยกลางคนหรือคนหนุ่มสาวอีกด้วย

ในแง่ของทำนอง เพลงสิบปีนั้นไม่ได้ปลุกเร้าอารมณ์

ต่างกับเพลงตะวันฉาย ที่ท่วงทำนองดังกระหึ่มกระตุ้นผู้ฟังทั้งฮอลล์

แต่เพลงสิบปีเป็นความเศร้าโศกที่นิ่งสงบ ซึ่งแสดงถึงความสับสนวุ่นวายและความขมขื่นที่ไม่มีสิ้นสุดของจิตใจ

สไตล์ของทั้งสองเพลงแตกต่างกัน แต่กลับเป็นบทเพลงคลาสสิกเหมือนกัน!

เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของซุนเย่าหั่วแล้ว หลินเยวียนรู้สึกว่าเพลงนี้เหมาะสมจริงๆ

ก็เป็นเพลงที่โด่งดังไง รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วยังต้องการความ ‘โด่งดัง’ เหมือนกัน

โชคดีที่ซุนเย่าหั่วเคยร้องเพลงกุหลาบแดงมาก่อน

เพลงนั้นก็เป็นบทเพลงคลาสสิกของเฉินอี้ซวิ่นเช่นกัน

ด้วยสไตล์การตีความเพลงที่คล้ายกัน ซุนเย่าหั่วนับว่าคุ้นเคยและสามารถรับมือได้

ส่วนเจียงขุย…

หลินเยวียนกำลังใคร่ครวญว่าจะมอบเพลง ‘ร้อนรน’ ให้กับเจียงขุยดีไหม

เพลงร้อนรนนี้ หลินเยวียนเปิดได้จากกล่องสมบัติทองแดง

ถึงอย่างไรก็เป็น ‘บทเพลงเทวดา’ เรื่องคุณภาพของบทเพลงย่อมไม่มีปัญหา

สำหรับแดนมังกรในโลกเดิม ‘บทเพลงเทวดา’ นั้นมีความหมายเชิงลบ

ทว่าเพลงร้อนรนนี้ ถึงแม้จะถูกเรียกว่าบทเพลงเทวดา แต่อันที่จริงทุกคนกำลังสัพยอกว่าเพลงนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ

เพียงแต่การขับร้องบทเพลงนี้ยากเหลือเกิน

ราชินีสวรรค์อย่างเฟย์ หว่องเคยพยายามร้องเพลงนี้ สุดท้ายแล้วก็ยอมจำนน ทั้งยังโพสต์เวยปั๋วเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

หลินเยวียนไม่มั่นใจว่าเจียงขุยจะร้องเพลงนี้ได้หรือไม่

ถ้าหากเจียงขุยสามารถรับมือได้ เพลงนี้จะเป็นบทพิสูจน์ทักษะการร้องเพลงของเจียงขุยที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เพราะฉะนั้นหลินเยวียนจึงคิดว่าประเดี๋ยวจะให้เจียงขุยลองร้องดู

ถ้าหากเจียงขุยร้องไม่ไหว หลินเยวียนก็จะคิดวิธีและจัดหาเพลงอื่นมาให้เจียงขุย

……

แผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้า บรรดานักประพันธ์เพลงกำลังทำงาน จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากปากประตู

“โครม”

ผู้คนชะงัก ต่างคนต่างเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นซุนเย่าหั่วลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างกระอักกระอ่วน แสร้งปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าด้วยความสุขุม

“ขอโทษครับ รบกวนทุกท่านแล้ว”

ทันที่ที่ได้รับโทรศัพท์จากอู๋หย่ง เขาก็รีบมายังบริษัท รีบร้อนเสียจนเกือบฝ่าไฟแดง

เมื่อมาถึงแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้า ก็สะดุดล้มคะมำเข้าอย่างแรง เพราะรีบเดินจนเกินไป

“…”

ในขณะนี้อู๋หย่งกำลังสนทนากับนักประพันธ์เพลงสักคนหนึ่งที่ระเบียงทางเดิน เมื่อหันไปเห็นสภาพของซุนเย่าหั่ว ก็อดคลึงขมับไม่ได้

หมอนี่มีดีอะไรให้ตัวแทนหลินเห็นความสำคัญถึงขนาดนั้นนะ?

ไม่ได้มีท่าทางของคนเป็นศิลปินเอาซะเลย

เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ตัวแทนหลินรอคุณอยู่ข้างใน”

“ครับๆ”

ซุนเย่าหั่วเค้นรอยยิ้ม สาวเท้าไปยังประตูห้องทำงานของตัวแทนอย่างรวดเร็ว กระแอมครั้งหนึ่ง จัดแจงเสื้อผ้า ก่อนจะเคาะประตู

“เชิญครับ”

เสียงดังมาจากในห้อง

ซุนเย่าหั่วจึงผลักประตูเข้าไป และก่อนผลักประตูเข้าไป เขาก็ได้ยินเสียงเบาๆ ดังมาจากด้านหลัง และนั่นทำให้ฝีเท้าของซุนเย่าหั่วหนักอึ้งขึ้นมา

สมาชิกแผนกประพันธ์เพลงชั้นเก้ามองตามแผ่นหลังของซุนเย่าหั่ว พลางส่งเสียงหัวเราะ

“บริษัทมีนักร้องชายตั้งเยอะแยะ ทำไมตัวแทนหลินดันไปเลือกปั้นเขานะ”

“เพลงดังคนไม่ดังอะเนอะ”

“เสียดายเพลงของตัวแทนหลิน ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นร้องคงดังไปนานแล้ว”

“…”

เสียงซุบซิบนินทาเหล่านี้ไม่ได้หลบซ่อน

ขณะที่พูด มีบางคนชำเลืองมองอู๋หย่ง เห็นได้ชัดว่าทุกคนรู้ว่าอู๋หย่งไม่พอใจซุนเย่าหั่ว

ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือ ทันใดนั้นอู๋หย่งก็คำรามเสียงต่ำ

“เงียบเดี๋ยวนี้!”

อู๋หย่งสีหน้าจริงจัง สายตากวาดไปยังทุกคน เอ่ยด้วยเสียงเย็นเยียบ “ต่อไปถ้ามีใครกล้านินทาซุนเย่าหั่วอีก ก็ไสหัวไปเลย!”

ผู้คนได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ต่างคนต่างมองหน้ากัน ก่อนจะก้มหน้าหลบหลีกสายตาของอู๋หย่ง ในใจรู้สึกตุ๊มๆ ต่อมๆ

เกิดอะไรขึ้น?

อู๋หย่งไม่ชอบซุนเย่าหั่วไม่ใช่หรือ?

ทำไมทุกคนบ่นถึงซุนเย่าหั่ว แล้วรองหัวหน้าจะต้องโกรธด้วย?

อู๋หย่งเดินกลับห้องทำงานของตนไปอย่างเดือดดาล

ผู้ช่วยของอู๋หย่งตามเข้าไปอย่างระแวดระวัง เห็นได้ชัดว่าในใจก็มีความสงสัยเหมือนกัน เอ่ยถามเสียงเบา “หัวหน้าอู๋​ คุณไม่ชอบซุนเย่าหั่วไม่ใช่เหรอครับ”

“ผมจะชอบไหมไม่สำคัญ​ ที่สำคัญคือตัวแทนหลินชอบ!”

อู๋หย่งว่าพลางเหลือบมองผู้ช่วย “ซุนเย่าหั่วเป็นคนที่ตัวแทนหลินเลือก ผมเองยังไม่กล้าพูดมากเลย ถ้าหลุดออกไปข้างนอก เจ้าพวกนั้นเอาไปพูดพล่อยๆ จะทำยังไง”

ผู้ช่วยอึ้งไป

และในห้องทำงาน

ซุนเย่าหั่วกำลังหยิบของหลายอย่างออกมา

“รุ่นน้อง นาฬิกาข้อมือสีขาวเรือนนี้ให้น้องสาว สีแดงให้พี่สาว ส่วนกำไลข้อมือนี่ ฉันว่าเหมาะกับคุณน้ามาก”

หลินเยวียนรู้สึกเกรงใจ “ของพวกนี้แพงหรือเปล่าครับ”

ซุนเย่าหั่วพูดกลั้วหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ที่จริงสำหรับฉันแล้ว เงินเป็นแค่ตัวเลข ที่สำคัญคือคนที่บ้านนายชอบ ครั้งก่อนพี่มากินข้าวที่ร้านหม้อไฟฉัน บอกว่าน้องสาวไม่มีนาฬิกาข้อมือ ตอนสอบเลยไม่สะดวก ฉันคิดว่านาฬิกาดิจิทัลเอาเข้าห้องสอบไม่ได้…”

“ขอบคุณครับรุ่นพี่”

หลินเยวียนเอ่ยขอบคุณ​จากนั้นก็หยิบเพลงสิบปีและเพลงเดโมซึ่งเตรียมไว้แล้วออกมา

“เพลงนี้ให้รุ่นพี่ สองสามวันนี้ต้องทำความคุ้นเคยนะครับ เราจะรีบปล่อยเพลงเดือนกันยา”

“ไม่ไหวมั้ง”

รอยยิ้มของซุนเย่าหั่วเจื่อนลง “รุ่นน้อง ที่จริงนายไม่ต้องเอาเพลงมาให้ฉันทุกครั้งเพื่อดูแลฉันก็ได้นะ ในบริษัทมีคนที่เหมาะสมกว่าฉันอีกตั้งเยอะ ฉันไม่อยากทำให้เพลงดีๆ ของนายเสียเปล่า”

หลินเยวียนแปลกใจ

ถ้าเป็นเมื่อก่อน รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วจะต้องรับไว้โดยไม่ลังเล จากนั้นก็รีบไปฝึกซ้อมด้วยความตื่นเต้น!

หลินเยวียนเชื่อว่าความตื่นเต้นแบบนั้นเสแสร้งกันไม่ได้หรอก

รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วมีใจรักดนตรีจากใจจริง ก็​เหมือนกับตนตอนที่เส้นเสียงยังไม่พัง

แต่มาวันนี้ รุ่นพี่ซุ่นเย่าหั่วกลับนึกสงสัยในตัวเอง?

ปัญหานี้หนักหนาทีเดียว

แววตาของหลินเยวียนเองก็พลันหนักแน่นขึ้นมา พูดอย่างจริงจัง “รุ่นพี่เป็นคนที่เหมาะกับเพลงนี้ที่สุดแล้วครับ”

“รุ่นน้อง ที่จริงฉันน่ะ ยังไงก็ได้”

สีหน้าของซุนเย่าหั่วแลดูซับซ้อน “ฉันเพียงแต่ไม่อยากให้นายถูกคนนินทา พอฉันลากขามาที่ชั้นเก้า ชั้นอื่นเขาก็ปั้นนักร้องแนวหน้าได้อย่างน้อยหนึ่งคนแล้ว นายเอาโอกาสนี้ไปให้เจียงขุยเถอะ ฉันไม่อยากถ่วงเวลานายอีกแล้ว เป็นคนก็ต้องรู้จักพอใช่ไหมล่ะ ถ้ายังคอยเกาะรุ่นน้องกินแบบนี้ต่อไป ฉันก็คงจะโลภมากเกินไป อีกอย่างฉันเองก็ไม่ได้เหมาะสมมาตั้งแต่แรก เพียงแต่ฉันไม่ยอมจำนนก็เท่านั้นเอง…”

“รุ่นพี่”

หลินเยวียนเอ่ยปาก “รุ่นพี่เชื่อผมไหม”

ซุนเย่าหั่วพยักหน้า

นับตั้งแต่ตอนนั้นที่หลินเยวียนยืนกรานให้ตนร้องเพลงกุหลาบแดง ซุนเย่าหั่วก็ไม่สงสัยในตัวหลินเยวียนอีกต่อไป

หลินเยวียนเอ่ย “งั้นก็ร้องเพลงนี้”

ซุนเย่าหั่วเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ฉันจะร้อง”

“อื้ม”

หลินเยวียนผุดรอยยิ้มอันเป็นธรรมชาติ

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[มอบหมายภารกิจใหม่แก่โฮสต์]

[ชื่อภารกิจ: เส้นทางสู่ราชาเพลง]

[เป้าหมายภารกิจ: ทำให้ซุนเย่าหั่วเป็นราชาเพลงภายในสี่ปี]

[รางวัลภารกิจ: กล่องสมบัติทอง]

[หมายเหตุภารกิจ: ยิ่งระดับความสำเร็จของภารกิจสูงขึ้นเท่าไหร่ รางวัลในกล่องสมบัติทองจะสูงขึ้นตาม]

หลินเยวียนตกตะลึง

อันที่จริง เดิมทีเขาเองก็คิดจะช่วยให้รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วกลายเป็นราชาเพลง นึกไม่ถึงว่าจะได้รับภารกิจจากระบบมาฟรีๆ?

รุ่นพี่ซุนเย่าหั่วสุดยอดไปเลย!

…………………………………………………

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท