รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 519 พลัง ‘ต้าเหริน’ จุติยังไร้ผล หยุดยั้งมิได้เลย!

บทที่ 519 พลัง 'ต้าเหริน' จุติยังไร้ผล หยุดยั้งมิได้เลย!

บทที่ 519 พลัง ‘ต้าเหริน’ จุติยังไร้ผล หยุดยั้งมิได้เลย!

วิชาลับสำแดงฤทธิ์ อวกาศทั้งผืนประหนึ่งถูกพลิกผัน พลังพิศวงสยดสยองพลุ่งพล่านซัดสาดไปทั่ว และสสาร ‘พิศวง’ ที่เจ้าหลวงกล่าวถึงคล้ายว่าจะปรากฏกาย มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มีเม็ดสสารกำลังรวมตัว ลอยตัวขึ้นไป

“สิ่งเหล่านี้คืออะไรกันแน่!?”

เสี่ยวหยาชาไปทั้งหนังศีรษะ เส้นขนตามตัวลุกชัน

นางมิได้ ‘ไร้เดียงสา’ อีกต่อไป หัวใจมิได้เปราะบางเยี่ยงนั้นอีกแล้ว สามารถยอมรับวัตถุสยดสยองมากมายได้ด้วยความสงบ

ทว่าเมื่อนางรีดเร้นพลังในกายมาที่ดวงตา ภาพที่นางได้เห็นโดยข้ามพ้นขอบเขตของการมองเห็นของตาเปล่ายังเป็นสิ่งที่นางไม่อาจยอมรับได้ สะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียน!

เมื่อมองด้วยตาเปล่า เม็ดสสาร ‘พิศวง’ เหล่านั้นหาได้พิเศษแต่อย่างใด พวกมันมีสีเทา แต่ละเม็ดเล็กจิ๋วเสมือนเกลือ ทว่าเมื่อมองโดยข้ามพ้นขอบเขตของการมองเห็นของตาเปล่า ทำการพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียด จะเห็นได้ว่าสสาร ‘พิศวง’ เหล่านั้นชวนขนลุกเป็นที่สุด แต่ละเม็ดนั้นเปรียบดั่งผีร้าย อ้าปากกว้าง ฟันด้านในเปื้อนเลือด กำลังกัดขย้ำอย่างโหดร้าย!

สิ่งนี้คือสสารฝึกตนจริงหรือ ดูอย่างไรก็เป็นสสารชั่วร้ายที่พร้อมกลืนกินผู้ฝึกตน การเรียกมันด้วยคำว่า ‘พิศวง’ นับว่าเหมาะสมถูกต้อง!

สสาร ‘พิศวง’ ยั้วเยี้ยนับไม่ถ้วนเหล่านี้กำลังหลอมรวมลอยตัว แต่ละเม็ดอ้าปากขบเขี้ยวเปื้อนเลือด เคลื่อนไหวกันอย่างขวักไขว่และน่ากลัว!

หลิงอินสัมผัสถึงความผิดปกติได้แต่แรก เมื่อครั้งเจ้าหลวงเพิ่งเรียกคทาพิศวงเล่มนั้นออกมา นางก็รู้ว่าเจ้าหลวงตั้งใจปล่อยมหาวิชาบางอย่าง

นางมิได้ลังเล พุ่งเข้าไปทันที ไม่ต้องการให้เจ้าหลวงใช้มหาวิชาพิฆาตนี้

แม้นางจะเชื่อในอานุภาพหยกคุ้มกายของคุณชาย ต่อให้วิชาพิฆาตที่เจ้าหลวงใช้นั้นทรงพลังเพียงใด ก็ไม่มีทางแผ้วพานนางได้

กระนั้นนางยังต้องการขัดขวาง ไม่ยอมให้เจ้าหลวงใช้มหาวิชาพิฆาตสำเร็จ

อารัมภบทวิชาของเจ้าหลวงน่าพรั่นพรึงเกินไป นางกลัวว่าเสี่ยวหยาจะโดนลูกหลงไปด้วย หากมีแค่นาง นางคงไม่คิดขัดการใช้วิชาของเจ้าหลวงเยี่ยงนี้

น่าเสียดาย สุดท้าย นางก็เสียเปรียบในแง่ขอบเขตพลัง แม้ว่าเจ้าหลวงกำลังขับขานบทเพลง แม้ว่าเจ้าหลวงกำลังใช้วิชา กระนั้นก็ยังสยดสยอง ร่างกายถอยหลังเองไม่หยุด รักษาระยะห่างกับนางเสมอ จนนางไม่อาจเข้าใกล้ ไม่อาจหยุดยั้ง

หยกคุ้มกันปกป้องได้เพียงนาง ไม่สามารถโจมตีออกไปได้แต่อย่างใด นางจำต้องประชิดตัวเพื่อยับยั้งการใช้วิชาของเจ้าหลวง

นางไม่อาจเข้าใกล้ หยกคุ้มกันไม่อาจเปล่งพลานุภาพ สุดท้ายเจ้าหลวงก็ใช้วิชาลับนี้สำเร็จ!

ครืนคราน!

ผืนนภาแหลกลาญ สสารพิศวงชวนผวาหลอมรวมในพริบตา ร่างหนึ่งปรากฏกายที่นั่น

นั่นมันร่างแบบใดกัน

หลิงอินมิทราบ

ร่างนั้นพิลึกอย่างยิ่ง ทั้งที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับเหมือนไม่มีอยู่จริง ทั้งที่รู้สึกถึง และยังมองเห็นรูปร่างหน้าตาของมัน กระนั้นมองอย่างไรก็เหมือนว่ามองไม่ชัด คล้ายว่าถูกพลังบางอย่างกีดกั้น

ปริภูมิเวลารอบ ๆ ร่างนั้นบิดเบี้ยวยุ่งเหยิง ประหนึ่งว่ามันมาจากยุคสมัยเก่าแก่ และราวกับย้อนกลับมาจากยุคอนาคตห่างไกล พิศวงน่าเหลือเชื่อเกินไป!

“ฆ่า!”

นางมิได้ลังเล กระโจนตัวขึ้น เป็นฝ่ายบุกไปหาร่างนั้น ไม่อยากให้เสี่ยวหยาโดนลูกหลงไปด้วย

เสี่ยวหยาไม่มีหยกคุ้มกันติดตัว แม้จะมีฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินที่คุณชายประทาน ทว่า เสี่ยวหยายังไม่สามารถสำแดงพลังทั้งหมดของฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินออกมาได้ นางไม่รู้ว่าฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินจะเปล่งพลังคุ้มกันเสี่ยวหยาได้เองหรือไม่

หากฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินเปล่งพลังได้เอง ต่อให้วิชาลับนี้น่ากลัวปานใด เสี่ยวหยาไม่มีทางได้รับบาดเจ็บ

เพียงแต่นางไม่มั่นใจว่าฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินเปล่งพลังได้เอง

แม้ว่ามีโอกาสสูงที่ฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินเปล่งพลังออกมาคุ้มกันเสี่ยวหยาได้เอง แต่กระนั้นท้ายที่สุดก็ยังมีโอกาสที่ฉินปี้เทียนชางไห่และบันทึกเพลงฉินไม่อาจเปล่งพลังได้เองเช่นกัน

เพราะฉะนั้น ให้ดีที่สุดนางควรยับยั้งทุกอย่างนี้ไว้ ไม่ให้เสี่ยวหยาโดนลูกหลง เช่นนี้ถึงจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด!

“ไม่สำเหนียกตนเสียเลย! ‘พลังต้าเหริน’ จุติ หาใช่สิ่งที่เจ้าแผ้วพานได้!?”

เจ้าหลวงยิ้มเย็น เห็นหลิงอินริอ่านเข้าจู่โจม ‘ต้าเหริน’ มันพลันรู้สึกว่าหลิงอินกำลังรนหาที่ตาย

สาเหตุนั้นมิใช่อื่นใด เพราะมันตระหนักถึงความน่าประหวั่นพรั่นพรึงของวิชาลับนี้ดี ร่าง ‘ต้าเหริน’ ที่หลอมรวมขึ้นด้วยพลังพิศวง นำร่องพลัง ‘ต้าเหริน’ ลงมาจุติ หลิงอินไฉนเลยจะแผ้วพานได้!

แม้ว่าตัวมันนั้นยังไม่ทราบที่มาของ ‘ต้าเหริน’ ทว่า วิชาลับนี่ถูกส่งต่อมาพร้อมกับสสารพิศวง เป็นไปได้สูงว่า ‘ต้าเหริน’ คือสิ่งมีชีวิตพิศวงอย่างแท้จริง มาจากมาตุภูมิพิศวง!

พวกเขามิใช่สิ่งมีชีวิตพิศวงตัวจริง แต่เข้าโอบกอดความพิศวงในภายหลัง ต่างจากสิ่งมีชีวิตพิศวงตัวจริงอยู่มาก!

และการเป็นสิ่งมีชีวิตพิศวงตัวจริง คือเรื่องที่สิ่งมีชีวิตต้องการโอบกอดสสารพิศวง อย่างเช่นพวกเขาที่ปรารถนาแม้กระทั่งในยามหลับฝัน!

ทุกสิ่งที่พวกเขากระทำในยามนี้ ล้วนเพื่อให้ได้เป็นสิ่งมีชีวิตพิศวงอย่างแท้จริง!

หลิงอินมิได้สนใจเจ้าหลวง นางปรี่ตัวเข้าไป ปริภูมิเวลาด้านนั้นยุ่งเหยิงไปหมด กระนั้นยังมิอาจหยุดยั้งฝีเท้าของนาง นางก้าวเดินในปริภูมิเวลายุ่งเหยิงนี้ได้อย่างไร้อุปสรรค ไม่ได้รับผลกระทบสักนิด!

“ไม่ใช่แล้ว!”

เมื่อได้เห็นภาพนี้ สีหน้าเจ้าหลวงเปลี่ยนไป ปราศจากความราบเรียบอย่างก่อน

พลัง ‘ต้าเหริน’ จุติแล้วยังต่อกรกับหลิงอินไม่ไหวหรือ!?

เขาอดมีความคิดนี้ขึ้นมาไม่ได้

นั่นก็เพราะเรื่องที่หลิงอินไม่ได้รับผลกระทบจากปริภูมิเวลายุ่งเหยิงสร้างความตื่นตกใจแก่เขา จนเขามีความคิดเช่นนี้

อีกด้าน แรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นทับถมลงมา ร่างนั้นเริ่มลงมือ อ้าปากพ่นอสนีบาตสีเทา ราวกับได้ก้าวผ่านกาลเวลาอันเป็นอนันต์เข้ามา น่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินไป

ทว่า ภายใต้อาภรณ์กฎแห่งมหาเต๋าที่หยกคุ้มกันถักทอ อสนีบาตสีเทานี้สู้มิได้เลย ทันทีที่เข้าใกล้ก็ถูกลบล้าง ไม่อาจสร้างผลกระทบใด ๆ ได้เลย

ครืนคราน!

ร่างนั้นฟาดฝ่ามือลงมา ปรากฏการณ์ประหลาดน่าหวาดหวั่นก่อเกิด สุริยันจันทรา ดวงดารานับล้าน ล้วนแหลกเหลวในฝ่ามือของมัน สรรพสิ่งทั้งปวงถูกบดทำลาย!

ทว่าเมื่อมาถึงหลิงอิน ฝ่ามือนั้นไม่อาจแตะต้องแม้แต่ชายเสื้อหลิงอิน ก็ระเบิดแหลกลาญในพริบตา สสาร ‘พิศวง’ กลายเป็นผงธุลี!

“!!!”

เจ้าหลวงนิ่งค้าง เป็นไปได้อย่างไรกัน…

หยกคุ้มกันที่หลิงอินห้อยคอไว้สยดสยองปานนี้เชียวหรือ!?

นี่มันของวิเศษระดับใดกัน!?

“เหอะ จงสลายไปเสียเดี๋ยวนี้!”

เวลานั้น หลิงอินบุกเข้าไปประชิดตัวร่างนั้น ไม่มีพลังใดกีดขวางนางได้ นางตบบ่าร่างนั้นเบา ๆ

เพียงเสี้ยววินาที ร่างนั้นพังครืนลงอย่างสิ้นเชิง สสาร ‘พิศวง’ ทั้งหมดถูกกำจัด สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง!

“นี่มัน…นี่มัน…นี่มัน!”

บุรุษวัยกลางคนขนขาวตกใจจนทรุดตัวกับพื้น เสียงตะกุกตะกัก แบบนี้น่ากลัวไปแล้ว!

“ไป ๆ! นครแห่งนี้เราไม่เอาแล้ว!”

เจ้าหลวงเด็ดขาดมาก เมื่อรู้ว่าเขาสู้หลิงอินมิได้ ก็มิได้ต่อสู้ยืดเยื้ออีก คิดจะหนีจากที่นี่

เขามองออกแล้วว่าหยกคุ้มกันบนตัวหลิงอินทำได้แค่คุ้มกันหลิงอิน ไม่อาจสร้างแรงโจมตีให้หลิงอินได้

หากหยกคุ้มกันนั้นสร้างแรงโจมตีให้หลิงอินได้ หลิงอินไม่จำเป็นต้องเหนื่อยเข้าใกล้ ขอเพียงโจมตีครั้งเดียวก็จัดการได้ทุกสิ่ง

“พา ‘ทาส’ ทุกตนไปให้หมด!”

เขาออกคำสั่ง ให้สมาชิกในสถานที่แห่งนี้เริ่มปฏิบัติการ พาตัว ‘ทาส’ ทุกตนหลบหนี

ส่วนตัวเขาเอง หนีไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่คิดพา ‘ทาส’ ไปด้วยแม้แต่น้อย

หลิงอินและเสี่ยวหยาพิสดารเกินไป มองไม่ออกเลย เขากลัวจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีก จนตัวเขาเองพลอยจบสิ้นไปด้วย

แม้ว่า ‘ทาส’ เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เกี่ยวพันถึงแผนการในอนาคตของพวกเขา

ทว่าสำคัญเพียงใดก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของตน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท