รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 526 ขอดเกล็ด ถอดเส้นเอ็น มัจฉาสัตมายาโมโหถึงขีดสุด!

บทที่ 526 ขอดเกล็ด ถอดเส้นเอ็น มัจฉาสัตมายาโมโหถึงขีดสุด!

บทที่ 526 ขอดเกล็ด ถอดเส้นเอ็น มัจฉาสัตมายาโมโหถึงขีดสุด!

การได้ชี้นิ้วไปทางลั่วสุ่ยอย่างหยิ่งผยอง ช่างรู้สึกสุขสมอย่างมาก!

สุขสมจริง ๆ!

มู่จวินเริงร่า ยิ้มกว้างอย่างไม่สามารถหุบลงได้ ตอนนี้เป็นเพียงแค่ ‘อาหารเรียกน้ำย่อย’ หลังจากที่ปู่ของเขาจัดการลั่วสุ่ยแล้ว เขาจะยิ่งสุขสม จะยิ่งยินดีมากกว่านี้!

เมื่อคิดแล้ว เขาก็รีบกล่าวขึ้นมากับปู่ของตนเอง “ท่านปู่ลงมือเบาหน่อยเถิด อย่าเพิ่งสังหารนางทันที ไม่เช่นนั้นมันจะไม่สาสมสำหรับนาง!”

มู่ขุยรักเอ็นดูมู่จวินเป็นอย่างมาก เขาจึงกล่าวกับมู่จวินด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยน “ได้”

“มู่ชวนนั่นด้วย ท่านปู่ก็อย่าเพิ่งสังหารมัน! พวกเขาทั้งสองคนน่ารังเกียจเป็นอย่างมาก พวกเราไม่สามารถปล่อยให้ตายไปอย่างง่ายดาย!”

มู่จวินพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่มีปัญหา ข้าจะมอบทั้งสองคนให้เจ้าจัดการ”

มู่ขุยพยักหน้า “ใครก็ตามที่กล้ามารังแกหลานชายของข้า ล้วนแล้วแต่ต้องชดใช้อย่างสาสม!”

“ขอบคุณท่านปู่” มู่จวินมีความสุขอย่างมาก

“เหตุใดพวกเจ้าเอาแต่พูดเองเออเอง? หรือคิดว่าจะจัดการพวกเราลงได้อย่างง่ายดาย สามารถทำสิ่งใดกับพวกเราก็ได้ตามใจชอบ?”

มัจฉาสัตมายามองไปทางคู่ปู่หลาน สองคนนี้ช่างรนหาที่ตายเสียจริง โดยเฉพาะมู่จวิน ทันทีที่เห็นปู่ของตนเอาถึง ก็แสดงท่าทางหยิ่งยโส กำเริบเสิบสานมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า

ใช่แล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับมู่ขุย เขาไม่สามารถต่อต้านอะไรได้

ทว่าเขายังมีพี่ลั่วสุ่ยอยู่!

พี่ลั่วสุ่ยได้รับความรักความเอ็นดูจากคุณชาย ได้กินของดีทุกสิ่งอย่าง หลังจากกลายเป็นร่างมนุษย์แล้ว ยังได้รับคำชี้แนะด้วยความใส่ใจจากคุณชาย

ตอนนี้พี่ลั่วสุ่ยไปถึงขอบเขตใดแล้ว มีพลังแบบไหน ไพ่อะไรบ้างที่อยู่ในมือ กระทั่งเขาเองยังไม่แน่ใจ!

แม้ว่ามู่ขุยจะบรรลุระดับเทียนตี้ ยืนอยู่บนยอดของการฝึกฝนบนโลก พลังมหาศาลล้นฟ้า ทว่าต่อหน้าพี่ลั่วสุ่ยแล้ว แม้จะเป็นตัวมู่ขุย ก็ไม่อาจคุกคามพี่ลั่วสุ่ยได้แม้แต่น้อย

สำหรับจุดนี้ เขามั่นใจเป็นอย่างยิ่ง

เขารู้สึกเสียด้วยซ้ำ ว่าพี่ลั่วสุ่ยในตอนนี้ หากลงมีอย่างเต็มกำลังใช้ทุกอย่างที่มี เกรงว่ากระทั่งเซียนคงยังไม่อาจคุกคามพี่ลั่วสุ่ยได้

มู่ขุยยังไม่ทันลงมือก็คิดว่าสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ช่างเพ้อฝันเสียจริง

“หุบปาก!”

มู่ขุยมองไปที่มัจฉาสัตมายาด้วยดวงตาเป็นประกายเย็นเยือก “เจ้าช่างเหมือนพ่อของเจ้าเสียจริง มองสถานการณ์ไม่ออก ชอบรนหาที่ตาย!”

เมื่อเขาบังคับให้ผู้นำตระกูลสละตำแหน่ง สมาชิกคนอื่น ๆ ในเผ่าต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรและเลือกที่จะยอมจำนนต่อเขา

มีเพียงสายเลือดของบิดามัจฉาสัตมายาเท่านั้นที่รนหาที่ตาย ไม่สามารถมองสถานการณ์ออก ยังคงเป็นปรปักษ์ต่อเขา ยืนเคียงข้างผู้นำเผ่าคนก่อนจนถึงที่สุด

“ข้าอุตส่าห์คิดถึงสายสัมพันธ์ร่วมเผ่า จึงไม่อยากทำร้ายพ่อแม่ของเจ้ามากเกินไป แต่ผู้ใดจะรู้ว่าพวกมันกลับไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี! เมื่อเรื่องราวทุกอย่างสิ้นสุด สถานการณ์ทุกอย่างตัดสินแล้ว พ่อแม่ของเจ้ายังไม่ยอมจำนน ทั้งบังอาจมายั่วยุข้า! ข้าจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องขอดเกล็ดทั้งหมดของพ่อแม่เจ้าออก ก่อนจะดึงเส้นเอ็นทั้งหมดออกมาแล้วแขวนเอาไว้ในคุกใต้ดิน ไม่ให้ผู้อื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง!”

มู่ขุยมองไปทางมัจฉาสัตมายา “คิดไม่ถึงเลย ตอนนี้ยังมีเจ้าอีกคนที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี! เหมือนกับครอบครัวของเจ้าไม่มีผิด! เช่นนั้นก็ดี หลังจากที่จวินเอ๋อร์ระบายความโกรธเสร็จแล้ว ข้าจะเอาเจ้าไปห้อยไว้เคียงข้างพ่อแม่ของเจ้า ให้ครอบครัวของพวกเจ้าได้อยู่ร่วมกันอย่างสมบูรณ์!”

“อะไรนะ!”

ดวงตาของมัจฉาสัตมายาเป็นประกายวาววาบ ทั้งร่างสั่นสะท้านอย่างแรงด้วยโทสะ

เดิมทีเขาคิดเพียงว่าพ่อและแม่ของเขาถูกคุมขังเอาไว้ด้านในคุกใต้ดินเฉย ๆ ไม่คาดว่าพ่อแม่ของเขาจะถูกทรมานอย่างโหดร้าย ทั้งยังถูกแขวนเอาไว้ในคุกใต้ดิน!

ลั่วสุ่ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ นางเองก็คาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าพ่อแม่ของมัจฉาสัตมายาจะถูกทรมานอย่างโหดร้ายถึงเพียงนี้

พลทหารกุ้งและปูบอกเพียงว่าพ่อแม่ของเสี่ยวชีถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดิน ไม่ได้บอกรายละเอียดอื่น เกรงว่า พวกเขาไม่ต้องการจะกระตุ้นความรู้สึกของเสี่ยวชีมากเกินไป จึงไม่ได้เล่าออกมา

ถึงอย่างไร ตอนนั้นพลทหารกุ้งและปูต่างก็กังวลว่าจะเกิดเรื่องกับเสี่ยวชี พวกเขาจึงต้องการให้เสี่ยวชีจากไปก่อน หากพูดเรื่องเหล่านี้เสี่ยวชีคงยิ่งอารมณ์รุนแรงมากกว่าเดิม ยากที่จะยอมจากไป

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

ดวงตาของมัจฉาสัตมายาเป็นสีแดงก่ำ เขาโกรธมากจนไม่อาจควบคุมตนเองได้ ตอนนี้เขาคิดได้เพียงแค่จะสับมู่ขุยออกเป็นชิ้น ๆ!

ถูกทรมานเช่นนั้นจะต้องเจ็บปวดมากเพียงใด มู่ขุยช่างน่าชิงชัง!

“ปล่อยให้ข้าจัดการ!”

ลั่วสุ่ยหยุดมัจฉาสัตมายาเอาไว้ไม่ให้พุ่งเข้าไป นางเกรงว่าจะเกิดเรื่องกับมัจฉาสัตมายา เสี่ยวชีในตอนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่ขุยแม้แต่น้อย

“หลังจากจัดการแล้วข้าจะส่งมอบให้เจ้า”

นางกล่าวกับมัจฉาสัตมายา

หลังจากนั้นนางก็เตรียมลงมือกับมู่ขุย สิ่งที่มู่ขุยพูดก็ทำให้นางโกรธเช่นกัน

“พูดจาไร้สาระอะไร! ยังคิดว่าจะสามารถจัดการท่านปู่ได้! เจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้ใดกัน!?”

มู่จวินตะคอกออกมาอย่างเหยียดยาม สีหน้าเต็มไปด้วยการดูหมิ่น ลั่วสุ่ยช่างกล้าพูดออกมา นางจะสามารถต่อกรกับปู่ของเขาได้อย่างไร?

ช่างน่าขันเหลือเกิน!

“หนวกหู!”

แววตาของลั่วสุ่ยเฉยเมย ทั้งยังทอประกายเย็นเยือก

ก่อนหน้านี้นางทำลายร่างกายของมู่จวิน ก็เพื่อสั่งสอนบทเรียนมู่จวิน ไม่ให้เขาผยองและกำเริบเสิบสานถึงเพียงนั้น

ทว่าดูจากตอนนี้แล้ว มู่จวินยังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนใดแม้แต่น้อย!

นางชี้นิ้ว ลำแสงเจิดจ้าเส้นหนึ่งพุ่งออกมาตรงเข้าใส่มู่จวิน

“เจ้าจะสามารถทำอะไรข้าได้หรือ? น่าขันเหลือเกิน!”

มู่จวินไม่ใส่ใจ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ท่านปู่อยู่ด้านข้างเขาเช่นนี้ ลั่วสุ่ยจะสามารถทำอะไรเขาได้?

แม้กระทั่งเส้นผมของเขาสักเส้น ลั่วสุ่ยก็ไม่อาจแตะต้องได้!

“บังอาจ!”

มู่ขุยตวาดออกมาอย่างเย็นชา ก่อนจะลงมือทันที ลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง หมายโจมตีสกัดลำแสงจากลั่วสุ่ย

แสงทั้งสองเส้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพียงพริบตาเดียวก็ปะทะเข้ากับลำแสงของลั่วสุ่ย

ทว่าลำแสงทั้งสองเส้นกลับไม่อาจทำสิ่งใดได้ พลังของลำแสงต่างชั้นกันมากอย่างเห็นได้ชัด ทันทีที่สัมผัสกันพวกมันก็ถูกสลายไปในทันที ไม่อาจทำได้กระทั่งชะลอลำแสงของลั่วสุ่ยให้ช้าลงเสียด้วยซ้ำ

“ไม่มีทาง!”

ใบหน้าของมู่จวินแปรเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาอยากจะตะโกนออกมาว่า ‘ท่านปู่ช่วยข้าด้วย’ แต่ยังไม่ทันไรลำแสงนั้นก็พุ่งถึงตัวเขาแล้ว!

บึ้ม!

เลือดสาดกระเช็น ร่างกายของมู่จวินทั้งหมดระเบิดออก เศษเลือดและเนื้อกระเด็นใส่ใบหน้าของมู่ขุยที่อยู่ด้านข้าง!

ทว่าอย่างไรมู่ขุยก็เป็นเทียนตี้ผู้หนึ่ง เขาตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว รีบปกป้องวิญญาณของมู่จิวนเอาไว้ทันที ไม่ให้สลายหายไป!

“รนหาที่ตาย!”

มู่ขุยโกรธเป็นอย่างมาก ลั่วสุ่ยเกือบจะลงมือฆ่าหลายชายของเขาต่อหน้าเขา มู่ขุยโกรธเสียจนดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ

นอกจากนี้ ภายในใจของเขาเองก็รู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ลั่วสุ่ยเป็นใครกัน? เหตุใดจึงน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้!?

แม้ว่าเมื่อครู่เขาจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของตนเอง แต่ก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ลั่วสุ่ยสามารถต้านทานได้!

ทว่าเมื่อครู่เขากลับไม่อาจสกัดกั้นการโจมตีของลั่วสุ่ยได้!

“หากยังกล้าพูดอีกสักคำ เจ้าจะไม่รอดอย่างแน่นอน!”

ลั่วสุ่ยมองดูวิญญาณของมู่จวินด้วยความเย็นชา “อย่าคิดว่าปู่ของเจ้าจะปกป้องเจ้าได้ หากข้าต้องการจะสังหาร แม้กระทั่งปู่ของเจ้าก็ไม่อาจปกป้องเจ้าเอาไว้ได้!”

มู่ขุยไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ลั่วส่ยเองก็ไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดเช่นเดียวกัน

เป็นดั่งที่นางกล่าว หากนางต้องการจะสังหารมู่จวิน แม้ว่ามู่ขุยจะทุ่มพลังทั้งหมด เกรงว่าก็ไม่อาจจะช่วยมู่จวินเอาไว้ได้!

วิญญาณของมู่จวินสั่นสะท้าน ภายในใจเกิดความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ครั้งนี้เขาหวาดกลัวจริง ๆ เขาเกือบจะตายลงไปโดยสมบูรณ์แล้ว!

เขาไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป ปิดปากตนเองแน่นสนิท

“ฆ่า!”

มู่ขุยกระตุ้นพลังทั้งหมดในร่างขึ้นไปอยู่ในสภาวะสูงสุด ก่อนจะพุ่งใส่ลั่วสุ่ยด้วยความต้องการฆ่า

เขาจะต้องทำให้ลั่วสุ่ยชดใช้อย่างสาสม!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท