คนที่พูดคุยถึงเพลงวันนี้ปีหน้ามีมากเหลือเกิน!
ถึงขั้นที่มีคนรู้สึกว่าเพลงวันนี้ปีหน้าไพเราะกว่าเวอร์ชันภาษากลาง!
ส่งผลให้แฟนคลับซึ่งชื่นชอบเพลงสิบปีไม่พอใจ
ทั้งสองฝั่งจึงมีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้ากัน
และความตื่นเต้นที่มากกว่านั้นเริ่มต้นจากเมื่อนักเขียนเนื้อเพลงหลายคนออกโรงกลางดึก
ใช่แล้ว ลำพังการเปลี่ยนเนื้อร้องและภาษาของเพลงวันนี้ปีหน้าก็ก่อกำเนิดพลังชีวิตใหม่ให้เพลงนี้ได้ และนั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด!
และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภาษานั้นส่งผลต่อทัศนะของมืออาชีพ การเปลี่ยนแปลงซึ่งคนทั่วไปสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือเนื้อเพลง!
เนื้อเพลง นี่เป็นวิชาชีพของนักเขียนเนื้อเพลง!
เพราะฉะนั้น นักเขียนเนื้อเพลงหลายคนจึงเริ่มวิเคราะห์เพลงสิบปี ไม่รู้ว่าพวกเขาทำเพราะความกระตือรือร้นในอาชีพหรือเพราะชื่นชมในฝีมือการเขียนเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋กันแน่
ในนั้น คำพูดเปิดของนักแต่งเพลงบางคนที่สะดุดตาที่สุดคือ
‘ทุกคนอาจรู้สึกเพียงว่าเพลงวันนี้ปีหน้าหลังจากเปลี่ยนเนื้อเพลงและภาษาแล้วแตกต่างจากต้นฉบับมาก แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงความตั้งใจจริงของเซี่ยนอวี๋ในการเขียนเนื้อเพลงใหม่!’
นักเขียนเนื้อเพลงคนนี้มีชื่อว่า [ทู่เอ้อร์丶]
ทู่เอ้อร์เป็นนักเขียนเนื้อเพลงแนวหน้าในวงการ เคยเขียนเนื้อเพลงให้กับราชาราชินีเพลง คำวิจารณ์ที่ได้รับอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาโดยตลอด
และในวันนี้หลังจากที่เพลงวันนี้ปีหน้าปล่อยออกมา ทู่เอ้อร์ก็เปิดเผยตัวตนในฐานะนกฮูกกลางคืน แสดงความคิดเห็นออกมาอย่างอดไม่ได้!
ปรากฏว่าทันทีที่เขาพูดออกไป ก็ดึงดูดความสนใจของแฟนคลับของเขา รวมไปถึงชาวเน็ตอีกจำนวนมาก
‘ความตั้งใจจริงของเซี่ยนอวี๋?’
‘หมายความว่ายังไง’
‘ทั้งสองเพลงมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน’
‘อาจาร์ทู่เอ้อร์รู้สึกว่าเพลงไหนดีกว่ากันครับ’
‘ตื่นเต้นๆ ปูเสื่อรอคำอธิบายของอาจารย์ทู่เอ้อร์’
‘ดึกแล้วอาจารย์ถู่เอ้อร์ยังไม่นอน รอฟังเพลงวันนี้ปีหน้าของอาจารย์เซี่ยนอวี๋’
‘ฮ่าๆๆๆ อาจารย์ทู่เอ้อร์ติดตามเซี่ยนอวี๋ตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่เซี่ยนอวี๋ไม่ติดตามกลับก็แค่นั้น ใครๆ ก็รู้ว่าสามเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มปิด’
‘…’
ทู่เอ้อร์ตอบกลับชาวเน็ตซึ่งเดาว่าทั้งสองเพลงนี้มีความเชื่อมโยงกัน ‘คุณพบจุดบอดแล้ว’
จุดบอดอะไร
ดูคุณพูดเข้าสิ!
ชาวเน็ตอดรนทนไม่ไหว
เนื่องจากทู่เอ้อร์เป็นนักเขียนเนื้อเพลง สถานะในวงการสูง เพราะฉะนั้นทุกคนจึงให้ความสนใจคำพูดของเขา คำพูดของคนดังมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
ทู่เอ้อร์ทิ้งกับดักไว้ให้ทุกคนร้อนใจ ก่อนจะเผยแพร่คำอธิบายยาวเหยียด
[ผมจะไม่พูดถึงเรื่องอื่น ต่อจากนี้ผมจะลองวิเคราะห์จากอธิบายเนื้อหาในเนื้อเพลง รวมไปถึงความรู้สึกและความหมายที่ถ่ายทอดออกมา
มาพูดถึงเพลง ‘วันนี้ปีหน้า’ กันก่อน
เพลงนี้เล่าถึงคนอกหักคนหนึ่งซึ่งนอนไม่หลับและกระวนกระวาย ความโศกเศร้าที่ยากควบคุมทำให้ความคิดของเขาปั่นป่วน ดิ้นรนอยู่ในบ่อน้ำแห่งความรักที่ไม่สมหวัง
แรกเริ่มเขาอยากให้ตัวเขาหายไปจากโลกนี้ จะได้ไม่ต้องแบกรับความเจ็บพวกที่เธอคนนั้นจากไป หลังจากนั้นเขาคิดต่อว่า ถ้าหายไปจากโลกนี้ไม่ได้ กลายเป็นคนเขลาเสียสติก็คงดี หากเป็นเช่นนั้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีความรู้สึก ไม่ต้องเจ็บปวดเหมือนเช่นในตอนนี้
ค่ำคืนอันแสนยาวนาน ความคิดนับไม่ถ้วนวนเวียนอยู่ในใจของเขา เขารู้สึกว่าคงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับการสูญเสียความรักอย่างกล้าหาญ ดังนั้นเขาจึงพยายามให้กำลังใจตัวเองว่าจะข่มตานอนให้หลับ คนที่นอนข้างกายจากไปแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนฟูกใหม่สักที…
คิดไปคิดมา เขาก็ตกอยู่ในวังวนแห่งความรู้สึกอีกครั้ง จู่ๆ ก็ลังเลที่จะเปลี่ยนแปลง จู่ๆ ก็รู้สึกอยากพบกันอีก คิดถึงแม้แต่เรื่องราวอีกหกสิบปีให้หลัง ก่อนตายก็อยากพบเจอกันอีก
พวกคุณคงสังเกตใช่ไหมล่ะครับว่า เพลงวันนี้ปีหน้าเขียนถึงความเจ็บปวดของความรักที่ไม่สมหวัง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมีการใช้คำว่าเจ็บปวดแค่คำเดียว
เซี่ยนอวี๋ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับความเจ็บปวดในใจของตัวละครโดยตรง แต่สร้างฉากชีวิตหลายฉากจากมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง
ลาลับจากโลกนี้ไป กลายเป็นคนเขลา พบหน้ากันในงานแต่งเพื่อน หรือแม้แต่พบกันอีกครั้งหลังจากนี้หกสิบปี
เขาถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งในหัวใจของคนอกหักที่นอนไม่หลับออกมาได้อย่างพิถีพิถัน ทำให้ผู้ชมเข้าถึง และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการดิ้นรนในความสัมพันธ์ที่ก้ำกึ่งกับคนรักเก่า
ย้อนกลับมามองเพลง ‘สิบปี’
ทั้งที่สูญเสียความรักเหมือนกัน แต่วิธีเขียนและถ่ายทอดความรู้สึกนั้นแตกต่างกับเพลงวันนี้ปีหน้าอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นตัวเอกของเพลงสิบปี…
ก็คือคนที่เลิกกับตัวเอกของเพลงวันนี้ปีหน้า!
นี่เป็นความเชื่อมโยงที่สำคัญที่สุดระหว่างทั้งสองเพลงนี้ นี่คือบทพูดคนเดียวของคู่รัก!
ถ้าไม่เชื่อ เราลองมาวิเคราะห์กัน
ในท่อนเวิร์สแรกของเพลงสิบปี ตอนที่เลิกรากับคนรัก เธอถึงรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วตัวเองก็รู้สึกเสียใจ จากนั้นยังบอกอีกว่าเมื่อพวกเขาจับมือกัน เหมือนชีวิตที่กำลังเดินทาง ความไม่สมบูรณ์สามารถเติมเต็มความหวังและความปรารถนาของเธอได้ เธอต้องไขว่คว้าชีวิตที่ดีกว่า ต่อจากนั้นจึงโน้มน้าวอย่างเยือกเย็นและมีเหตุผล ว่าในเมื่อไม่สามารถรั้งไว้ได้ การจากลานั้นยากที่จะไม่มีใครเสียน้ำตา งั้นก็มาตักตวงความรู้สึกในช่วงเวลาสุดท้ายของความสัมพันธ์จะดีกว่า
เข้าสู่ท่อนคอรัส ตัวเองก็พูดด้วยเหตุผลราวกับไม่เคยมีความรักเกิดขึ้นมาก่อน ใช้ช่วงเวลาที่เลิกรากันเป็นจุดเวลา จินตนาการเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อนและสิบปีให้หลัง
เมื่อสิบปีก่อนไม่มีใครรู้จักกัน ไม่ได้เดินมาจนถึงวันนี้เช่นนี้ สิบปีหลังจากนี้แม้จะพวกเราจะแยกจากกันไปแล้ว ถึงอย่างไรก็เคยรู้จักกันมาก่อน เมื่อพบหน้ากันก็สามารถทักทายกันเป็นมารยาท เคยรักกันแล้วอย่างไร สรุปออกมาเป็นหนึ่งประโยค ‘สุดท้ายคนรัก ต้องกลับไปเป็นเพื่อนกัน’ น่าเศร้าใจขนาดไหน แต่ก็มองอย่างเป็นกลาง เมื่อเผชิญหน้ากับการโน้มน้าวเช่นนี้ ก็ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไร แทบไม่เหลือที่ให้อีกฝ่ายถอยกลับ ราวกับว่าไม่เหลือเหตุผลของความเจ็บปวดอีกต่อไป
ประโยคสุดท้าย ‘ถึงเข้าใจว่าน้ำตาที่รินไหลไม่ใช่เพื่อเธอ ไม่ใช่เพื่อเธอคนเดียว’ มักจะมีคนเข้ามาในชีวิตฉัน จากนั้นก็เดินจากไป และบังเอิญว่าครั้งนี้เป็นเธอ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่มีอะไรควรค่าแก่การรั้งไว้ เห็นได้ชัดเจนว่าทั้งเยือกเย็นและมีเหตุผลจนเข้าขั้นเฉยชา
เพลงวันนี้ปีหน้านี้ถลำลึกลงไปเรื่อยๆ ในความเจ็บปวดจากการสูญเสียความรัก ส่วนเพลงสิบปีเป็นการอธิบายอย่างมีเหตุผลและเยือกเย็น เพลงวันนี้ปีหน้าใช้เรื่องราวอธิบายความรู้สึก ส่วนเพลงสิบปีใช้การวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล เพลงวันนี้ปีหน้าถ่ายทอดความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา ขอเพียงผู้ฟังเข้าถึงก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึก ส่วนเพลงสิบปีต้องใช้การขบคิดมากว่า
หากการคาดเดาของผมถูกต้อง เช่นนั้นทั้งสองเพลงนี้คงกำลังสะท้อนซึ่งกันและกัน เป็นบทสนทนาระหว่างความรู้สึกและเหตุผลของเซี่ยนอวี๋
คุณยังต้องถามอีกไหมว่าเพลงไหนดีกว่ากัน
ผมไม่ได้จงใจปัดภาระ ผมเพียงแต่อยากบอกทุกคน สรุปแล้วทั้งสองเพลงนี้เพลงไหนดีกว่ากันขึ้นอยู่กับว่าบุคลิกของคุณใกล้เคียงกับตัวละครฝั่งไหนมากกว่ากัน และในแต่ละช่วงชีวิตของคนเรา บางทีคุณอาจได้คำตอบที่ไม่เหมือนกัน]
การตีความนี้เปิดประตูอีกบานหนึ่งให้ผู้ฟังทันที!
ชาวเน็ตบางส่วนซึ่งเถียงกันว่าเพลงไหนดีก็ไม่เถียงกันอีกต่อไป
เมื่อมองจากการตีความนี้ การถกเถียงก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป
‘แม่เจ้า ที่แท้ทั้งสองเพลงก็มาจากมุมมองที่ต่างกันของคนรักสินะ’
‘เป็นแบบนี้ที่เอง! ฉันว่าแล้วเชียว ตอนฟังเพลงฉันก็รู้สึกว่าทั้งสองเพลงมีอะไรเชื่อมโยงกัน’
‘ชอบประโยคที่บอกว่า [เป็นบทสนทนาระหว่างความรู้สึกและเหตุผลของเซี่ยนอวี๋] ตาสว่างขึ้นมาทันที!’
‘อ้าปากก็ตีความแล้ว ตอนแรกฉันอยากบอกว่าบทความของอาจารย์ทู่เอ้อร์วิเคราะห์มากเกินไปหรือเปล่า แต่พออ่านแล้วก็รู้สึกคล้อยตาม สมแล้วที่เป็นบทวิเคราะห์ของนักเขียนเนื้อเพลง’
‘ฉันก็เพิ่งเข้าใจ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง เซี่ยนอวี๋แข็งแกร่งเกิ๊น!’
‘อาฮ่า ผมตอนที่ฟังเพลงก็คิดเยอะเหมือนกัน ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่า สุดยอดดดดด!’
‘ที่จริงซุนเย่าหั่วก็บอกใบ้ไว้แล้ว ว่าเพลงวันนี้ปีหน้าเป็นเพลงน้องสาวของเพลงสิบปี!’
‘…’
ในตอนนี้มีคนเข้ามาซักไซ้ทู่เอ้อร์ ว่าจะประเมินเนื้อเพลงของเซี่ยนอวี๋ในระดับไหน
ทู่เอ้อร์ตอบไปประโยคหนึ่งด้วยอารมณ์ขัน
‘ระดับที่ทำให้นักเขียนเนื้อเพลงหลายคนนอนไม่หลับทั้งคืนน่ะครับ’
หืม?
นี่คือเหตุผลที่คุณมานั่งบำเพ็ญเซียนตอนนี้ใช่ไหม?
……………………………………………….
ขอบคุณค่ะไรรออ่านตอนถัดไปเร็วๆนะคะ
สนุกมากๆๆๆติดเรื่องนี้สุดๆๆอยากได้วันละสิบตอน