รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 527 วิชามวยชั้นยอด มวยไทเก๊กสำแดงพลัง!

บทที่ 527 วิชามวยชั้นยอด มวยไทเก๊กสำแดงพลัง!

บทที่ 527 วิชามวยชั้นยอด มวยไทเก๊กสำแดงพลัง!

พลังของเทียนตี้สั่นสะเทือนฟ้าดิน พื้นสมุทรเดือดพล่าน มู่ขุยลงมืออย่างบ้าคลั่งด้วยสีหน้าไม่แยแส จิตสังหารเปี่ยมล้นหนักหน่วง

ฝ่ามือของเขาเปล่งแสง ปรากฏแสงแวววาบดั่งอสนีบาต ประหนึ่งสามารถทำลายท้องนภาได้ภายในครั้งเดียว!

ตู้ม!

ทะเลเหนือระเบิด ก่อให้เกิดคลื่นพุ่งสูงเสียดฟ้า!

ลั่วสุ่ยกระโจนออกจากก้นทะเล มู่ขุยพุ่งตามมาสังหาร เขาสำแดงวิชาอันยอดเยี่ยมออกมา ฟ้าดินคล้ายตอบรับ อักขระมากมายรายล้อม ราวกับเป็นร่างจำแลงของจักรพรรดิของสวรรค์และโลก บงการได้ทุกสรรพสิ่ง พลังที่แผ่ออกมาจากร่างสามารถบดขยี้ได้กระทั่งท้องนภา

ความว่างเปล่าระเบิดออก อสนีบาตฟาดลงมา ฟ้าดินเปลี่ยนเป็นสีมืดมิดดำสนิท น่ากลัวเสียยิ่งกว่าวันโลกาวินาศ!

สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่ไม่ใช่สายฟ้าจริง ทว่ามันก็น่ากลัวยิ่งกว่าสายฟ้าจริงนับหมื่นเท่า บนอสนีบาตแต่เส้นสลักดด้วยอักขระอันสลับซับซ้อน พลังที่ไหลเวียนอยู่ด้านในน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง!

สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ กฎวิถีสวรรค์ก็คล้ายกับจะเกี่ยวข้องกับอสนีบาตเหล่านี้ ราวกับมันสั่นพ้องกับอักขระบนสายฟ้า เกิดเป็นระลอกคลื่นพลังงานอันผันผวนที่แสนน่ากลัว!

ด้วยเคล็ดวิชานี้ เกรงว่ากระทั่งเทียนตี้ทั่วไปยังไม่กล้าจะต้านรับ เลือกหลบหลีก มิเช่นนั้นพวกเขาอาจถูกกลบฝังส่งใต้สายอสนีบาตเหล่านี้!

เสียงฟ้าร้องดังสั่นกึกก้อง ลั่วสุ่ยยืนนิ่งอยู่บนท้องนภา ใบหน้าของนางสงบนิ่งไร้ร่องรอยแห่งอารมณ์

ร่างของนางถูกรายล้อมด้วยแสงอันเจิดจ้างดงาม ชุดสีขาวพลิ้วไหวตามสายลม ใบหน้างดงามไร้ที่ติ ประหนึ่งนางเซียนจุติลงมาจากสรวงสวรรค์

อสนีบาตพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เพียงแค่เสียงฟ้าร้องก็สามารถทำให้หลายคนไม่อาจทนรับได้ วิญญาณแตกดับพังทลายลงไป ทว่าลั่วสุ่ยยังคงยืนสงบนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด

มันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แต่เมื่อมันกำลังจะถึงตัวของลั่วสุ่ย นางก็เริ่มเคลื่อนไหว!

หญิงสาวไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรมากมาย เพียงแค่วาดแขนตัวเองออกเบา ๆ เป็นวงราวกับกำลังจะออกวิชามวยสักอย่าง!

ลมหายใจของนางสงบนิ่ง ไม่มีการปะทุพลังออกมายกใหญ่ เป็นดั่งสายน้ำอ่อนที่ไหลริน

แต่แขนที่นางกวัดแกว่งกลับมีกฎเกณฑ์บางอย่างปรากฏขึ้น อสนีบาตอันน่าสยดสยองเมื่อสัมผัสแขนของนางก็สลายไปหลงเหลือเพียงอักขระ ก่อนจะเลือนหายไปอย่างสมบูรณ์!

“นี่มัน…อะไรกัน!?”

รูม่านตาของมู่ขุยหดลงอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา บนใบหน้าชราเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!

นี่มันวิชามวยอะไรกัน? หรือว่าจะเป็นวิชามวยระดับเซียน? เหตุใดจึงน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ เพียงอีกฝ่ายวาดท่ามือก็สามารถสลายสายฟ้าของเขาหายไปจนหมดสิ้น!

มันเป็นเรื่องไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งสำหรับเขา วิชามวยที่ลั่วสุ่ยแสดงออกมานั้น เขาสัมผัสได้ถึงเจตจำนงมวยที่เหนือยิ่งกว่าระดับเทียนตี้ หรือว่านี่จะเป็นวิชามวยระดับเซียน!?

“เป็นไปไม่ได้!”

เขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นวิชามวยระดับเซียน! จะเป็นวิชามวยระดับเซียนได้อย่างไร! ตั้งแต่ไหนแต่ไรเซียนเป็นเพียงตำนานเล่าขาน ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นจริง เช่นนั้นจะไปมีวิชามวยระดับเซียนได้อย่างไร!

แต่ไม่ว่าอย่างไร วิชามวยนี้จะต้องเหนือชั้นไม่ธรรมดาเป็นอย่างมากแน่นอน ชั่วพริบตานั้นเองดวงตาของเขาก็ปรากฏประกายวาววับ ความคิดโลภบังเกิด เขาต้องการวิชามวยนี้!

ครืน!

น้ำทะเลกระเพื่อมอย่างรุนแรง เขายื่นมือข้างหนึ่งออกไป ก่อนจะมีบางสิ่งลอยออกมาจากก้นทะเล มันคือทวนยาวเล่มนี้ที่มีแสงสว่างลอยวนเวียนพร่างพราว!

มันคือศาสตราวิเศษล้ำค่าของเผ่ามัจฉาสัตมายา นามว่าสยบคีรี ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นถึงหนึ่งในเก้ามหาศาสตราของอาณาจักรอวี้ซวี ถูกจัดไว้ว่าอยู่ลำดับที่หก มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง!

หากไม่ใช่เพราะทวนเล่มนี้ มู่ขุยคงไม่กล้าจะสู้กับลั่วสุ่ยต่อ เนื่องจากวิชามวยที่ลั่วสุ่ยใช้ทรงพลังมากเกินไป!

สิ่งนี้ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อเป็นอย่างมาก ลั่วสุ่ยอายุน้อยถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก!?

จนกระทั่งตอนนี้ เขายังไม่อาจทราบได้ว่าลั่วสุ่ยนั้นอยู่ขอบเขตใด!

“ไม่เป็นไร!”

เขากระชับทวนสยบคีรีไว้ในมือ พลังของเขาพุ่งสูงขึ้นทันที ไม่ว่าลั่วสุ่ยจะแข็งแกร่งเพียงใด ภายใต้ทวนสยบคีรีก็ล้วนต้องพ่ายแพ้ปราชัย!

นอกจากนี้เพื่อความปลอดภัย เขายังเปิดใช้ค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้ของเผ่าเพื่อใช้จัดการลั่วสุ่ย!

ทั้งทวนสยบคีรีและค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้รวมเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือแข็งเกร่งแค่ไหนก็จะต้องถูกปราบปรามลง ไม่สามารถเกิดเหตุไม่คาดฝันใดได้!

ตู้ม!

ค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้ที่ถูกเปิดใช้งานเคลื่อนไหวอย่างสุดกำลัง พลังของมันอยู่เหนือเกินกว่าจินตนาการ จิตสังหารแผ่กระจายทั่วฟ้าดิน!

“ฆ่า!”

มู่ขุยถือทวนพุ่งไปด้านหน้า อีกด้านหนึ่งก็เรียกใช้พลังของค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้ ระดมโจมตีใส่ลั่วสุ่ย!

ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีของมู่ขุย หรือการโจมตีของค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้ ก็ล้วนน่ากลัวทั้งสิ้น หากเป็นเทียนตี้ทั่วไปคงถูกสังหารตายลงในทันที

ทว่าท่าทางของลั่วสุ่ยยังคงสงบนิ่ง ไม่มีความผันผวนใด ๆ

นางยังคงร่ายท่าวิชามวยต่อไปจนครบ สติรับรู้ของนางก้าวกระโดดขึ้นไปอีกขั้นทันที บรรลุถึงขอบเขตเหนือชั้นอันน่าอัศจรรย์!

นี่คือมวยไทเก๊ก มวยที่คุณชายจะตื่นมาชกตอนเช้าทุกวัน วันละรอบสองรอบ นี่ก็เป็นสิ่งที่นางได้เรียนรู้มาจากคุณชาย

คุณชายบอกว่านี่เป็นมวยชนิดหนึ่งในบ้านเกิดของคุณชาย ทั้งลึกล้ำและลึกซึ้ง ผสมผสานหยินหยางและการเปลี่ยนแปลงของธาตุทั้งห้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฝึกฝนทั้งภายในและภายนอก มีทั้งแข็งและอ่อน เป็นวิชามวยที่คุณชายถ่ายทอดให้นางเป็นพิเศษ

นางตื่นตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อได้ฝึกฝนวิชามวยนี้เป็นครั้งแรก แม้การเคลื่อนไหวของวิชามวยนี้จะดูแช่มช้าเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นดังที่คุณชายกล่าว ภายในเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงอันไร้ที่สิ้นสุด มีทั้งแข็งและอ่อน ทรงพลังจนไม่รู้จะบรรยายความน่าหวาดกลัวออกมาอย่างไร!

มวยไทเก๊กมีประวัติอันยาวนานในดาวเคราะห์สีฟ้า ไม่เพียงแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่ยังสามารถฝึกฝนจิตใจ กล่าวได้ว่าเป็นวิชามวยชั้นยอด หลี่จิ่วเต้ารู้สึกว่าหากลั่วสุ่ยฝึกฝนมวยไทเก๊ก อาจสามารถช่วยเหลือลั่วสุ่ยด้านการฝึกตนได้ จึงสอนวิชานี้ให้กับนาง

สำหรับตัวเขาเองนั้น ได้ฝึกฝนมวยไทเก๊กจนถึงจุดสูงสุดสมบูรณ์แล้ว นับได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งด้านมวยไทเก๊ก

มวยไทเก๊กถูกร่ายท่าอย่างแช่มช้า ลั่วสุ่ยกำลังซึมซับความลึกซึ้งของมวยไทเก๊กอย่างเต็มที่ ทั้งยังสังเกตการณ์ไหลเวียนของหยินหยาง ทำลายการโจมตีของค่ายกลสังหารระดับเทียนตี้ทิ้งไปจนหมดสิ้นในทันที โดยไม่เกิดแม้แต่แรงกระเพื่อมของคลื่นพลัง!

ส่วนอีกด้านมู่ขุยพุ่งมาพร้อมกับทวนสยบคีรีในมือ ไม่ต้องกล่าวเลยเขาน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงใด เพียงแค่แทงทวนสยบคีรีออกมาเบา ๆ ก็สามารถนำระดับพลังอันเหนือจินตาการออกมาได้ มันมากพอที่จะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ควรค่าแก่ชื่อมหาศาสตราอันดับหกแห่งอาณาจักอวี้ซวี!

ทว่าน่าเสียดาย ภายใต้วิชามวยไทเก๊กของลั่วสุ่ยแล้ว ทวนสยบคีรีก็คล้ายกลายเป็นทวนธรรมดา ๆ พลังที่ระเบิดออกมาทั้งหมดถูกวิชามวยไทเก๊กสลายไปสิ้น!

ตู้ม!

ลั่วสุ่ยชกออกมาเบา ๆ แลดูคล้ายไม่มีความแข็งแกร่งแม้แต่น้อย ทว่าแท้จริงแล้วหมัดนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก ทวนสยบคีรีที่มู่ขุยยกขึ้นมาต้านรับถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ด้วยหมัดของลั่วสุ่ย!

“เป็นไปได้อย่างไร!?”

มู่ขุยส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกตะลึง บนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ!

เพียงหนึ่งหมัดก็สามารถทำลายทวนสยบคีรีได้ จะให้เขายอมรับได้อย่างไร!?

สวรรค์! นี่คือมหาศาสตราอันดับที่หกของอาณาจักรอวี้ซวี!

พริบตานั้นเอง ร่างกายของเขาเย็นยะเยือก ความหนาวเหน็บแล่นไล่จากฝ่าเท้าไปจนถึงเหนือหัว ภายในใจของเขาตื่นตะลึงหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด!

ลั่วสุ่ยสามารถทำลายทวนสยบคีรีได้ด้วยหมัดเดียว แล้วตัวเขาจะเอาอะไรมาเป็นคู่ต่อกรของลั่วสุ่ยได้?

ความต่างชั้นมีมากจนเกินไปจนไม่อาจเปรียบเทียบได้!

เขา…เขาได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ควรยั่วยุเสียแล้ว!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท