รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 542 ขึ้นไปบนท้องฟ้าสูง หย่อนเบ็ดล่อผู้เฒ่าเต่า!

บทที่ 542 ขึ้นไปบนท้องฟ้าสูง หย่อนเบ็ดล่อผู้เฒ่าเต่า!

บทที่ 542 ขึ้นไปบนท้องฟ้าสูง หย่อนเบ็ดล่อผู้เฒ่าเต่า!

ขอบเขตของผู้เฒ่าเต่าไม่ธรรมดา ล้ำลึกเกินหยั่งถึง ลานเต๋าเองก็แปลกประหลาดเต็มไปด้วยข้อจำกัดมากมาย จนไม่อาจใช้ญาณสัมผัสตรวจสอบได้ว่าสถานการณ์ในลานเต๋าเป็นเช่นไร

แต่ลั่วสุ่ยไม่ได้ร้อนรน เพราะนางมีแผนการอยู่ในใจแล้ว

นางกับมัจฉาสัตมายาออกไปด้านนอกเกาะ ลอยขึ้นไปสูงบนท้องฟ้า ยืนอยู่ด้านบนเหนือหมู่เมฆ

หลังจากนั้นนางก็นั่งลงแล้วหยิบอุปกรณ์ตกปลาทั้งหมดออกมา

ใช่แล้ว นางกำลังวางแผนจะตกผู้เฒ่าเต่า!

หลังจากกลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว คุณชายก็ใจดีกับนางเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะศิลปะศาสตร์ทั้งสี่ การล่าสัตว์ การแกะสลัก รวมทั้งการตกปลา คุณชายล้วนเคยสอนนางมาหมดแล้ว

นางเป็นผู้ใช้เวลาอยู่ในลานของคุณชายนานที่สุด ได้รู้ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังได้กินของเหนือล้ำอย่างยิ่งนับไม่ถ้วนจากคุณชาย ยามที่นางเรียนรู้ ย่อมสามารถก้าวหน้าขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว ประสบความสำเร็จสูงยิ่งในทุกด้าน

“เบ็ดตกปลา?”

มัจฉาสัตมายาตกตะลึง “นี่สามารถทำได้ด้วยหรือ?”

ผู้เฒ่าเต่าสามารถถูกตกขึ้นมาได้ด้วยหรือ?

ลั่วสุ่ยหยิบอุปกรณ์ตกปลาออกมาอย่างครบครัน เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าลั่วสุ่ยคิดจะทำสิ่งใด ทว่าก็เป็นดังที่เขาพูดไปว่าผู้เฒ่าเต่าจะสามารถถูกตกขึ้นมาได้ด้วยหรือ?

“เจ้าคิดอะไรอยู่ คิดว่ามันเป็นเพียงการจับปลาอย่างนั้นหรือ?”

ลั่วสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สิ่งที่คุณชายสอนข้าไม่ใช่การจับปลา แต่เป็นการหย่อนเบ็ดล่อ! การหย่อนเบ็ดล่อนั้นไม่ใช่ทักษะธรรมดา ไม่ใช่การตกปลา ความหมายลึกล้ำไร้ที่สิ้นสุด กล่าวง่าย ๆ ก็คือสามารถตกได้ทุกสิ่ง!” นางอธิบายให้กับมัจฉาสัตมายาฟัง

ด้วยทักษะการหย่อนเบ็ดที่พัฒนาขึ้น จะเป็นสมบัติล้ำค่า ยอดศาสตรา ผู้แข็งแกร่งในโลกหล้า หรือกระทั่งดวงดาราทั้งท้องฟ้าก็สามารถตกมาได้

“แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น!!!”

มัจฉาสัตมายาตกตะลึงอย่างยิ่ง การหย่อนเบ็ดยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว!

คิดพินิจดูอีกที เขาเองก็ช่างตื้นเขินเสียจริง นายท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น ทักษะการหย่อนเบ็ดจะธรรมดาจนจับได้เพียงปลาได้อย่างไร!

“พี่ลั่วสุ่ยโชคดียิ่งนัก!”

เขาอดรู้สึกอิจฉาขึ้นมาไม่ได้ ลั่วสุ่ยมีความสามารถสูงเสียดฟ้า เกรงว่ากระทั่งเซียนที่แท้จริงก็ไม่อาจเทียบเคียงลั่วสุ่ยได้

“หลังจากเข้าไปในสระน้ำ อนาคตของเจ้าก็ไม่อาจดูเบาได้แล้ว ต้องกล่าวว่า พวกเรานั้นโชคดีจริง ๆ ที่สามารถติดตามคุณชายได้!”

ลั่วสุ่ยถอนหายใจจากก้นบึ้งหัวใจ

นางกล่าวต่อ “คุณชายแข็งแกร่งอย่างแท้จริง เพียงแค่เบ็ดคันเดียวก็สามารถตกปลาจากอาณาจักรนับหมื่นได้ เกรงว่าต่อให้เป็นภพเซียน หากคุณชายต้องการก็สามารถตกได้ ตัวข้านั้นยังอยู่ห่างไกลจากระดับนั้น สามารถหย่อนเบ็ดล่อได้แต่เพียงสิ่งที่อยู่ในอาณาจักรเดียวกัน ไม่อาจหย่อนเบ็ดข้ามอาณาจักรได้ แม้กระทั่งอาณาจักรที่ใกล้เคียงที่สุดยังไม่อาจทำได้”

“คุณชายอยู่ขอบเขตใดกันแน่!”

มัจฉาสัตมายาอดพูดขึ้นมาไม่ได้ ยิ่งได้รู้เกี่ยวกับคุณชายมากเท่าใด ยิ่งตกตะลึงมากเท่านั้น คุณชายสามารถทำได้ทุกสิ่ง โดนเมินเฉยต่อกฎเกณฑ์อย่างสิ้นเชิง ความสามารถต่าง ๆ ล้วนน่าเหลือเชื่อเกินไป!

ในตอนแรกเขาเข้าใจว่าคุณชายเป็นเพียงเซียนผู้หนึ่ง แต่ต่อมาเขาก็ได้รู้ว่าความคิดนี้ช่างโง่เขลา เกรงว่าเซียนยังไม่อาจเป็นได้แม้แต่ที่รองเท้าของคุณชาย!

ยิ่งตอนนี้ เขายิ่งรู้สึกว่ากระทั่งจักรพรรดิในหมู่เซียน หรือบรรพจารย์ของเหล่าเซียนก็ไม่อาจเทียบกับคุณชายได้!

แม้จะไม่เคยพบเห็นจักรพรรดิในหมู่เซียน และบรรพจารย์ของเหล่าเซียน ทั้งยังไม่รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นแข็งแกร่งเพียงใด ทว่าเขาก็ยังรู้สึกว่าคุณชายอยู่ขอบเขตสูงยิ่งกว่าคนเหล่านั้น!

“ข้าเองก็ไม่กระจ่างชัด”

ลั่วสุ่ยส่ายหน้าแล้วกล่าวออกมา “เอาละ พวกเราเริ่มลงมือกันเถอะ”

หลังจากนั้นนางก็แขวนเหยื่อไว้บนตะขอก่อนโยนเบ็ดออกไป

อุปกรณ์ตกปลาทั้งหมดรวมกระทั่งเหยื่อล้วนเป็นสิ่งที่คุณชายมอบให้นาง ทุกอย่างล้วนไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง เปี่ยมด้วยเต๋าสูงสุดไหลเวียน

“เหยื่อล่อจะเปลี่ยนตนเองกลายเป็นสิ่งที่เป้าหมายต้องการมากที่สุด ก่อนจะส่งพลังบางอย่างออกไปให้เป้าหมายรับรู้ได้” ลั่วสุ่ยเอ่ย

แต่ทว่านางก็ต้องคาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก หลังจากนางโยนเบ็ดหย่อนเหยื่อล่อไปแล้วกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น เหยื่อเองก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นี่แสดงให้เห็นว่านางสามารถหย่อนเหยื่อล่อผู้เฒ่าเต่าได้

“สมคำกล่าวว่าอายุยืนยาวนับเป็นทุนอันดี! ประโยคนี้ไม่ผิดเลย ภายใต้การขาดแคลนสิ่งไว้ใช้ฝึกฝนอย่างรุนแรง ผู้เฒ่าเต่ากลับใช้เวลามาชดเชย มุ่งมั่นปรับปรุงขอบเขตการฝึกฝนของตนเองขึ้นมา นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ”

ลั่วสุ่ยอดประหลาดใจไม่ได้ เกรงว่าความแข็งแกร่งของผู้เฒ่าอาจถึงระดับเซียนแล้ว นางหย่อนเบ็ดโดยกำหนดเป้าหมายเป็นผู้เฒ่าเต่าในใจ ทว่ากลับไม่ได้ผล แสดงให้เห็นว่าพลังของผู้เฒ่าเต่าสูงเป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นอะไร”

ลั่วสุ่ยยิ้ม นี่ยังไม่ใช่ปัญหา นางยังมีอีกวิธีการช่วยให้สามารถล่อผู้เฒ่าเต่ามาติดเบ็ด

นางหยิบพู่กันหยกออกมาก่อนจะเขียนตัวอักษรขนาดใหญ่บนอากาศ

‘รวม’!

เมื่อตัวอักษรถูกเขียนขึ้นมาเสร็จสิ้น กฎเกณฑ์บางอย่างก็ปรากฏขึ้น แสงสว่างนับไม่ถ้วนเปล่งประกายก่อนจะกลายเป็นละอองคล้ายแสงดาวร่วงลงบนร่างลั่วสุ่ย

พู่กันหยกของนางเองก็เป็นสิ่งที่คุณชายมอบให้ นางใช้เต๋าแห่งอักษรเพื่อรวมพลังของนางเข้ากับทักษะการหย่อนเบ็ด

“เล่น ‘เพลงเจิ้งฟู่*[1]’ เสีย”

ลั่วสุ่ยเอ่ยเสียงเบา มีฉินลอยออกมาจากร่างของนาง ในขณะเดียวกันก็มีแสงสว่างจ้าลอยออกมจากฉิน กลายเป็นแมวสีขาวใสราวกับหิมะ

“สวัสดีเจ้านาย!”

มันกระโดดไปมารอบตัวลั่วสุ่ย คลอเคลียไปมาพร้อมหางกระดิก

นี่คือญาณของฉิน

หลังจากนั้นแมวขาวก็บินกลับไปหาฉิน ก่อนจะทำตามคำสั่งของลั่วสุ่ย เริ่มเล่นเพลงเจิ้งฟู่

เสียงฉินดังขึ้น กฎเกณฑ์โผล่ออกมาจากฟ้าดินอย่างต่อเนื่อง เสริมพลังให้กับลั่วสุ่ยจนความแข็งแกร่งทุกด้านเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว!

ด้วยพลังที่ถูกเสริมเข้ามา ความมั่นใจของลั่วสุ่ยก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นางเริ่มทำการหย่อนเบ็ดอีกครั้งโดยกำหนดเป้าหมายถึงผู้เฒ่าเต่าในใจ

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน คันเบ็ดทั้งคันเปล่งแสงสดใสงดงาม เหยื่อบนเบ็ดก็เริ่มเปลี่ยนสภาพ กฎเกณฑ์พิเศษบางอย่างไหลเวียน ราวกับเกิดการเลื่อนขั้นขึ้น

ห่างออกไปนับหมื่นลี้ ด้านในเมืองอันกว้างใหญ่

มีหนุ่มรูปงามคนหนึ่งกำลังนั่งกินดื่มในเหลาแห่งหนึ่งด้วยท่าทางมีความสุขเป็นอย่างมาก

ข้างกายของเขามีชายฉกรรจ์หลายคนทรุดอยู่บนพื้นด้วยร่างกายสั่นเทา

“บอกมาเสียว่านายของพวกเจ้าอยู่แห่งใด? เหตุใดจึงช้าถึงเพียงนี้? พวกเจ้าบอกว่านายของพวกเจ้าเป็นบุตรของเจ้าเมืองไม่ใช่หรืออย่างไร? หรือว่าคนผู้นั้นจะกลัวข้าที่เป็นเพียงผู้ฝึกตนธรรมดา?”

เด็กหนุ่มผู้นั้นกล่าวกับเหล่าชายฉกรรจ์อย่างไม่สนใจใยดี

หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังเด็กสาวผู้งดงามที่นั่งอยู่บนโต๊ะเดียวกัน แล้วกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “แม่นางไม่ต้องกลัวไป ข้าจะจัดการเรื่องราวทั้งหมดเอง ไม่มีผู้ใดสามารถพาตัวเจ้าไปได้! แม้ว่าบิดาของเขาผู้เป็นเจ้าเมืองมาเองก็ไม่อาจทำได้!”

เด็กสาวผู้นั้นดูหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย นางเอ่ยกับเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าเปี่ยมความกังวล “ขอบคุณพี่ชาย แต่ว่า…จะไม่เป็นอะไรจริง ๆ หรือ? พวกเราควรจะรีบจากไปกันดีหรือไม่!”

“เอาคำว่า ‘หรือ’ ออกไปเสีย! มีข้าอยู่ เรื่องราวทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย! ต่อให้บิดาของเขาที่เป็นเจ้าเมืองมาด้วยตัวเอง ข้าก็ไม่กลัว! พวกเราไม่จำเป็นต้องจากไป ไม่จำเป็นต้องขยับไปไหนสักก้าว เพียงแค่รอให้พวกเขามา! ถ้าหากบิดาของเขามาจริง ๆ เช่นนั้นก็ดี ข้าจะได้ให้ทั้งสองคนขอขมาเจ้าด้วยกันเสียเลย!”

เด็กหนุ่มพูดด้วยความมั่นใจ

ทว่าเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า เพียงแค่ออกไปหาอะไรทานเรื่อยเปื่อยกลับต้องกลายมาเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้สาวงาม!

ชายฉกรรจ์เหล่านี้เป็นคนของบุตรชายเจ้าเมือง คนผู้นั้นต้องตาเด็กสาว จึงส่งชายฉกรรจ์เหล่านี้มาเอาตัวเด็กสาวกลับไปเล่นสนุก แต่ถูกเขาเห็นเข้า เลยลงมือยับยั้งชายฉกรรจ์เหล่านั้น ก่อนจะปล่อยไปหนึ่งคนเพื่อให้แจ้งข่าวกับบุตรชายเจ้าเมือง

เขาไม่หวาดกลัว

ไม่คิดว่ามันน่ากลัวแม้แต่น้อย

อย่าว่าแต่บุตรชายของเจ้าเมืองแห่งนี้เลย กระทั่งบุตรชายของเมืองอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรอวี้ซวีมาที่นี่ เขาก็ไม่กลัวเลยสักนิด

ตลกน่า ตัวเขาเป็นถึงเต่าเซียนเสวียนอู่ที่มีขอบเขตการฝึกฝนลึกล้ำเกินหยั่งถึง กระทั่งเทียนตี้ก็ไม่กล้ากำแหงต่อหน้าเขา ทั้งยังต้องเคารพยำเกรงเป็นอย่างมาก

นี่คือเมืองของผู้ฝึกตนที่ใหญ่กว่าเมืองขนาดกลางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาแค่ถ่มน้ำลายออกมาก็สามารถจมเมืองนี้ลงไปได้อย่างง่ายดาย

อย่างง่ายดาย?

ไม่เลว ไม่เลว!

วันนี้พวกเรามาเล่นเกม ‘แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ’ กันเถอะ!

เต่าเซียนเสวียนอู่คิดขึ้นมาในใจอย่างมีความสุข

เขาชื่นชอบการเที่ยวเล่นอย่างสนุกสนาน ดังนั้นจึงมักไม่อยู่ในลานเต๋า ออกมาเที่ยวเล่นยังที่ต่าง ๆ เสียส่วนใหญ่

‘เฮ้อ ดูสีหน้าท่าทางของแม่สาวน้อยผู้นี้สิ เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจถึงเพียงนี้ เมื่อข้าจัดการกับบุตรชายของเจ้าเมืองได้แล้ว นางจะต้องรู้สึกหวั่นไหวกับข้าอย่างแน่นอน!’

เต่าเซียนเสวียนอู่คิดขึ้นมาในใจ เฝ้ารอคอยการมาถึงของบุตรชายเจ้าเมืองมากกว่าเดิม

“ตอนนี้เจ้าผยองอวดดีไปเสียเถอะ รอนายน้อยมาถึง อย่าได้หวาดกลัวจนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเสียเล่า!”

ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเอาชนะความหวาดกลัวในใจ กล่าวใส่เต่าเซียนเสวียนอู่อย่างดุดัน

นี่คืออาณาเขตของพวกเขา เหตุใดจึงต้องหวาดกลัวผู้ฝึกตนอิสระผู้หนึ่งด้วย?

ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเลย!

“หวาดกลัวจนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน!?”

เต่าเซียนเสวียนอู่แย้มยิ้มขบขัน “พวกเจ้าช่างพูดจาไร้สาระ นายน้อยผู้นี้ไม่มีทางวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน! ถ้าหากนายน้อยผู้นี้วิ่งหนีจะยอมกลายเป็นหลานชายของพวกเจ้าเลย!”

น่าตลก!

น่าตลกเหลือเกิน!

ภายในอาณาจักรอวี้ซวี ผู้ที่สามารถทำให้เต่าเซียนเสวียนอู่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนยังไม่ถือกำเนิดออกมาเสียด้วยซ้ำ!

“พี่ชาย ข้าเชื่อในตัวท่าน!”

เด็กสาวผู้งดงามด้านข้างมองที่เต่าเซียนเสวียนอู่ด้วยความชื่นชม ความกังวลภายในใจของนางสลายหายไปโดยสิ้นเชิง

เต่าเซียนเสวียนอู่มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดเจนว่าเขามีไพ่บางอย่างอยู่ในมือ จึงไม่เกรงกลัวบุตรชายของเจ้าเมือง ไม่เช่นนั้นแล้วไยเขาถึงกล้าขนาดนี้ ถึงกับกินข้าวรอคอยการมาถึงของบุตรชายเจ้าเมืองด้วยความสงบไร้กังวล

ไม่มีทาง!

ไม่มีผู้ใดโง่งมถึงเพียงนั้น

นางดีใจเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนว่านางจะได้พบพานผู้ยิ่งใหญ่ในวันนี้

“เชื่อใจข้าได้”

เต่าเซียนเสวียนอู่ยิ้มอย่างมั่นใจ “เจ้ารอดูฝีมือของพี่ชายได้เลย พี่ชายสัญญาว่าจะทำให้บุตรชายเจ้าเมืองไม่กล้าคิดสิ่งใดกับเจ้าอีก!”

“ขอบคุณพี่ชาย!”

เด็กสาวผู้งดงามเอ่ยด้วยความเบิกบาน

“ไอ้เต่าสารเลวที่ไหนกล้ามาทำลายเรื่องดี ๆ ของนายน้อยผู้นี้ลง? วันนี้นายน้อยจะสับมันให้กลายเป็นชิ้น ๆ!”

ตอนนั้นเอง ด้านนอกก็พลันมีเสียงสบถด่าดังลั่นเข้ามา

ไอ้เต่าสารเลว!?

บัดซบ!

ใบหน้าของเต่าเซียนเสวียนอู่ถึงกลับเปลี่ยนสี

[1] เจิ้งฟู่ (增幅) หมายถึง เพิ่ม เสริม บวกเข้าไป

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท