บทที่ 544 เรียกลมเรียกฝน อัญเชิญเหล่าเทียนตี้ออกมาช่วยเหลือ!
เมื่อเต่าเซียนเสวียนอู่กลับมา จมูกของเขาก็ถึงกับบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาได้ยินคำพูดทั้งหมดของบุตรชายเจ้าเมืองและพรรคพวก
หัวใจ ตับ และปอดของเขาแทบจะระเบิดออกมา ด้วยฐานะอันน่าภาคภูมิใจอย่างเต่าเซียนเสวียนอู่แล้ว กระทั่งเทียนตี้ก็ล้วนไม่กล้าดูหมิ่นเขา ต่างก็ต้องเคารพยำเกรง ทว่าตอนนี้เขากลับถูกด่าอย่างไม่กลัวเกรงว่าเป็นเต่าสารเลว จะให้เขาไม่โกรธได้อย่างไร?
ที่สำคัญคือเขาหนีไปจริง ๆ แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม…
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาโล่งใจก็คือแม่นางน้อยยังคงเชื่อในตัวเขา คิดว่าเขาไม่ใช่คนขี้ขลาดเช่นนั้น
“โอ้ ไอ้เต่ากลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ?”
บุตรชายเจ้าเมืองมองไปที่เต่าเซียนเสวียนอู่อย่างไร้ความกลัวเกรงแม้แต่น้อย ทั้งยังพูดด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “อ่า ข้าพูดผิดไป ต้องบอกว่าหลานชายกลับมาแล้วหรือ!”
เขาพูดโดยจงใจเน้นคำว่าหลานชายเป็นพิเศษ
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว หลานชายของพวกเรากลับมาแล้ว!”
“มา ไหนเรียกปู่ให้ฟังสิ หลานคนดีของข้า!”
บรรดาพรรคพวกของบุตรชายเจ้าเมืองต่างพากันหัวเราะเยาะตาม
บัดซบ!
สีหน้าของผู้เฒ่าเต่าน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด เขายกก้อนหินขึ้นมาแต่กลับหล่นทับเท้าของตนเอง ประหนึ่งกระโดดลงไปในหลุมที่ขุดขึ้นมาเอง!
ก่อนหน้านี้เขาประกาศกร้าวว่าผู้ใดหนีไปผู้นั้นเป็นหลานชาย!
สุดท้ายเป็นเขา…ที่หนีออกไป!
“ไอ้เวรสมควรตายสองคนนั้น รอข้าก่อนเถอะ!”
เขากล่าวในใจด้วยความเกลียดชัง เขาเกลียดชังลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาเป็นอย่างมาก การที่เขาต้องอับอายขายหน้าอย่างถึงที่สุดทั้งหมดเป็นเพราะสองคนนั้น
หลังจากเขาสะสางเรื่องราวทางนี้เรียบร้อยหมดแล้ว เขาจะกลับไปหาลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาแน่ ทั้งสองคนนั้นจะต้องชดเชยให้เขาอย่างสาสม!
“เหตุใดหลานชายจึงไม่ยอมพูดจา? เกิดอะไรขึ้น หรือว่าครั้งนี้ก็ต้องการกลับมาแสร้งทำเป็นวางมาดใหญ่โตก่อนจะหนีไปอีก?”
บุตรชายของเจ้าเมืองไม่รู้จักคำว่าความตายเลยจริง ๆ ไม่ได้มองเต่าเซียนเสวียนอู่ในสายตาแม้แต่น้อย ทั้งยังเอ่ยวาจาน่ารังเกียจออกมา
หากก่อนหน้านี้เต่าเซียนเสวียนอู่ไม่วิ่งหนีไป เขาอาจจะยังหวั่นกลัว ไม่กล้าจองหอง เก็บคำพูดเหล่านี้ไว้กับตนเอง
ทว่าเต่าเซียนเสวียนอู่กลับหนีไป แสดงให้เห็นว่าเต่าเซียนเสวียนอู่ไม่ได้มีฝีมืออย่างแท้จริง
ถ้าหากมีความสามารถอย่างแท้จริง เต่าเซียนเสวียนอู่จะหนีด้วยเหตุใด? จะยอมกลายเป็นหลานชายได้อย่างไร?
คิดอะไรอยู่!
จะมีผู้ใดทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าถึงเพียงนี้!
แม้เขาไม่รู้ว่าเหตุใดเต่าเซียนเสวียนอู่จึงกลับมา ทว่าเขาก็ไม่สนใจ
นี่คืออาณาเขตของเขา แม้ว่าเต่าเซียนเสวียนอู่จะมีความสามารถอย่างแท้จริง ก็ไม่อาจสร้างคลื่นลมอะไรขึ้นมาได้!
หรือไม่บางทีเต่าเซียนเสวียนอู่อาจทนไม่ได้หลังหนีไป จึงคิดอาศัยความเร็วนั้นมาช่วยเหลือหญิงสาวออกไป
“กลับมาแล้วก็อย่าคิดว่าจะจากไปได้อีก! วันนี้ข้าจะต้องตัดหัวของเต่าจอมหดหัวให้ขาด!”
เมื่อคิดว่าเต่าเซียนเสวียนอู่อาจกลับมาด้วยเหตุนี้ บุตรชายเจ้าเมืองจึงรีบออกคำสั่งให้เหล่ายอดฝีมือที่เขาพามาด้วยปิดล้อมสถานที่แห่งนี้ เพื่อไม่ให้เต่าเซียนเสวียนอู่สามารถหนีไปได้!
“รับทราบ!”
“ไอ้หลานชายอย่าคิดว่าจะหนีไปได้!”
เหล่ายอดฝีมือตอบรับคำ พลังอันน่าหวาดกลัวถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ขอบเขตของพวกเขาล้วนไม่ต่ำ แต่ละคนอยู่ขอบเขตนักบุญขึ้นไป เพียงพริบตาเดียวสถานที่แห่งนี้ก็ถูกปิดตายลงอย่างสมบูรณ์ ครั้งนี้ไม่ว่าเต่าเซียนเสวียนอู่จะรวดเร็วแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์
“ไอ้เต่าสารเลวนี้วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่เคยพบ เรียกเจ้าว่าไอ้เต่าสารเลวก็อาจไม่ถูกต้องอยู่บ้างจริง ๆ!”
หลังจากบุตรชายเจ้าเมืองเห็นว่าสถานที่แห่งนี้ถูกปิดกั้นแล้ว เขาก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีก เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มระรื่น “เอาล่ะ คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าจะวิ่งหนีได้อีกหรือไม่?”
สีหน้าของเต่าเซียนเสวียนอู่เขียวคล้ำ ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าเขาโมโหเพียงใด
ไอ้เต่าสารเลว!
หลานชาย!
เต่าจอมหดหัว!
ไอ้นี่ยิ่งพูดยิ่งทำให้คน ไม่สิ ยิ่งทำให้เต่าโมโห!
เขายังสงสัยเสียด้วยซ้ำว่าบุตรชายเจ้าเมืองรู้จักตัวตนของเขาหรือไม่ จึงพูดออกมาแต่คำว่าเต่า!?
“เพราะเรื่องเมื่อครู่ที่ข้าไม่ได้ตั้งใจทำด้วยตนเอง เจ้าจึงกล้าเอ่ยวาจาเหล่านี้ใส่ข้าหรือ!?”
เต่าเซียนเสวียนอู่เอ้ยด้วยเสียงเย็นชา “วันนี้เจ้าอย่าคิดว่าจบด้วยดี!”
หลังจากนั้น เขาก็ก้าวไปด้านหน้าเดินไปหาบุตรชายเจ้าเมืองทีละก้าว
“หาเรื่องตาย!”
“รนหาที่ตาย!”
เหล่ายอดฝีมือตะโกนออกมา พลังขอบเขตนักบุญโถมเข้าโจมตีเต่าเซียนเสวียนอู่
ทว่าไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเต่าเซียนเสวียนอู่จะดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง เขาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าปาก ก่อนจะตบฝ่ามือออกไปหนึ่งครั้ง!
แม้จะเป็นยอดฝีมือในขอบเขตนักบุญขึ้นไป ก็ไม่เพียงพอจะยืนอยู่ต่อหน้าเต่าเซียนเสวียนอู่!
ยอดฝีมือเหล่านี้ต่างล้มลงกับพื้นด้วยการโจมตีของเต่าเซียนเสวียนอู่ โดยไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย
“เด็กหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง!”
“สวรรค์!”
แขกด้านในเหลาอาหารต่างตกตะลึง นี่มันอะไรกัน? ยอดฝีมือขอบเขตนักบุญขึ้นไป เมื่ออยู่ต่อหน้าเต่าเซียนเสวียนอู่ก็ราวกับเป็นเพียงเด็กน้อย นี่มันน่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว!
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่ชายจะต้องไม่ได้คุยโว! ความแข็งแกร่งของพี่ชายเป็นของจริง!”
เด็กสาวผู้งดงามกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามานะ!”
บุตรชายเจ้าเมืองตกใจกลัว ทั้งร่างสั่นสะท้านไม่หยุด คำพูดที่ออกมาตะกุกตะกัก “บิดาของข้าคือเจ้าเมืองแห่งนี้ หากเจ้าแตะต้องตัวข้า จุดจบของเจ้าจะต้องไม่ลงเอยด้วยดี!”
“บิดาของเจ้าเป็นเจ้าเมืองอย่างนั้นหรือ!? หากแตะต้องตัวเจ้า จุดจบจะต้องไม่ลงเอยด้วยดีอย่างนั้นหรือ!?”
เต่าเซียนเสวียนอู่สนใจเรื่องนี้ที่ใดกัน เขาทุบตีบุตรชายเจ้าเมืองอย่างรุนแรงจนกระอักเลือดออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฟันร่วงออกมาหมดปาก ใบหน้าปูดบวมเหมือนหมู
“บังอาจ!”
ในตอนนั้นเอง ด้านนอกก็มีเสียงตะโกนเข้ามาอย่างเย็นชา เจ้าเมืองได้มาถึงที่นี่แล้ว!
เขารู้สึกได้ว่ามีขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัวกระเพื่อมอยู่ที่นี่ ดังนั้นจึงรีบมาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น สุดท้ายกลับเห็นบุตรชายของตนเองถูกเต่าเซียนเสวียนอู่ทุบตีอย่างรุนแรง!
เขาเกรี้ยวกราดขึ้นมาทันใด ลมปราณระเบิดออกมา ยกฝ่ามือพุ่งเข้าใส่เต่าเซียนเสวียนอู่!
แม้ว่าเมืองแห่งนี้จะไม่ใช่เมืองระดับสูงมาก แต่ความแข็งแกร่งของเจ้าเมืองก็ไม่ได้อ่อนแออยู่ถึงขั้นสูงสุด!
อาณาจักรอวี้ซวีก็คืออาณาจักรอวี้ซวี สมกับเป็นหนึ่งในอาณาจักรเก้าตอนบน!
ทว่าเพียงพริบตาต่อมา เสียงตบก็ดังขึ้น แต่ฝ่ายที่ถูกตบกระเด็นล้มลงไปกับพื้น เป็นเจ้าเมือง!
เฮือก!
เสียงสูดหายใจอย่างหนาวเหน็บดังขึ้นมา ผู้ที่เห็นฉากนี้ต่างตกใจกลัว
ขั้นสูงสุดผู้หนึ่งถูกตบครั้งเดียวล้มกระเด็นไปบนพื้น นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
“เจ้าสมควรตาย!”
เจ้าเมืองกระโจนจากพื้นด้วยความโกรธจัด ต้องการจะโจมตีเต่าเซียนเสวียนอู่อีกครั้ง
แต่ทว่าเขายังไม่ได้ทำเช่นนั้น เต่าเซียนเสวียนอู่ก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นก็ตบเขาลงไปบนพื้นอีกรอบ!
“คานบนไม่ตรงคานด้านล่างก็พลอยเบี้ยวไปด้วย*[1] คนชราอย่างเจ้าไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีอะไร!”
เต่าเซียนเสวียนอู่ตวาดอย่างเย็นชา “ปล่อยให้บุตรชายทำเรื่องชั่วในเมือง เจ้าย่อมไม่ใช่เจ้าเมืองที่นี่ เช่นนั้นก็ลงตำแหน่งไปได้แล้ว!”
บุตรชายเจ้าเมืองเป็นทรราชในเมืองแห่งนี้ ทำเรื่องราวชั่วร้ายมาแล้วทั้งหมด แต่แทนที่จะสั่งสอนและลงโทษบุตรชาย เจ้าเมืองกลับไม่เอ่ยอะไร ทั้งยังปกป้องลูกชายอีกด้วย เขาเคยสังหารคนจำนวนมากที่ไม่ยอมลูกชายตน
เขายกมือขึ้น พลันมีแรงมหาศาลดูดเจ้าเมืองขึ้นมาจากพื้น ตามด้วยพลังที่ระเบิดออกมา สังหารเจ้าเมืองทิ้งจนร่างกายเป็นหมอกโลหิต สิ้นชีพไปโดยสิ้นเชิง
“สำหรับเจ้า ยิ่งไม่อาจให้มีชีวิตอยู่ต่อได้!”
เขาลงมืออีกครั้งสังหารบุตรชายของเจ้าเมือง
หากเจ้าเมืองกับบุตรชายไม่ถูกฆ่าตาย เกรงกว่าในอนาคตสิ่งมีชีวิตในเมืองจะต้องถูกข่มเหงอีกเป็นแน่
นั้นคือขั้นสูงสุดผู้หนึ่ง!
พูดจะฆ่าก็สามารถฆ่าได้เลย!
สิ่งมีชีวิตที่เห็นต่างตกใจเป็นอย่างยิ่ง เต่าเซียนเสวียนอู่ทรงพลังมากจนทำให้ผู้คนครั่นคร้าม
“ขอบคุณ พี่ชาย!”
เด็กสาวผู้งดงามกล่าวขอบคุณเต่าเซียนเสวียนอู่ เต่าเซียนเสวียนอู่สามารถจัดการปัญหาให้นางได้จริง ๆ
“ไม่เป็นไร!”
เต่าเซียนเสวียนอู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “น้องสาวรอข้าอยู่ด้านในเมืองก่อน พี่ชายมีเรื่องบางอย่างจำต้องออกไปทำ
เด็กสาวผู้งดงามพยักหน้า “ตกลง ข้าจะรอพี่ชายกลับมา!”
หลังจากนั้นเต่าเซียนเสวียนอู่ก็กลายเป็นเส้นแสงพุ่งออกไป
เขายังไม่ได้กลับไปหาลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาโดยตรง
“รวมคน!”
เขาทะยานตรงไปยังยอดเขาแห่งหนึ่ง ก่อนจะหยิบศาสตราสื่อสารออกมาใช้ติดต่อกับเหล่าเทียนตี้ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นนำไพ่ตายติดตัวมาช่วยเหลือเขาด้วย
เทียนตี้เหล่านี้ล้วนเคยได้รับคำชี้แนะสั่งสอนจากเขา จึงเคารพเลื่อมใสเขาเป็นอย่างมาก เทียนตี้เหล่านี้จะต้องมาช่วยเหลือตามการเรียกของเขาอย่างแน่นอน
ผลเป็นดั่งคาด เทียนตี้เหล่านั้นตอบรับเขาอย่างรวดเร็ว รับปากทันทีว่าจะไปพร้อมกับไพ่ตายที่แข็งแกร่งสุดของตนโดยไม่ถามเหตุผลสักคำ
ในอาณาจักรอวี้ซวีบารมีของเขาสูงเป็นอย่างยิ่ง สามารถทำได้ทุกสิ่งเพียงเรียกขาน!
“เท่านี้ก็มั่นใจได้แล้ว!”
เขาเอ่ยพร้อมดวงตาที่หรี่ลง
แม้เขาจะจงเกลียดจงชังลั่วสุ่ยและมัจฉาสัตมายาอย่างถึงที่สุด มากเสียจนทนจะสังหารทั้งสองลงไม่ไหว ทว่าเขาก็ยังไม่โกรธจนขาดสติ มีความนึกคิดครบถ้วน
ลั่วสุ่ยสามารถหย่อนเบ็ดตกเขาจนไม่อาจขัดขืนได้ แสดงให้เห็นว่านางไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ง่ายเลยที่จะรับมือ!
ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ลงมือเพียงลำพัง เรียกให้เหล่าเทียนตี้มาช่วยเหลือ
เพียงไม่นานหลังจากนั้น บนอากาศกันพลันเกิดความบิดเบี้ยว ตามมาด้วยเทียนตี้คนแล้วคนเหล่าปรากฏกายออกมา
พวกเขาไม่ได้มาแต่ตัวเองเท่านั้น ยังพาผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมากมาด้วย แต่ละคนล้วนแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิขึ้นไป!
“ท่านผู้เฒ่าเต่า ครั้งนี้ข้านำขวานเทพสุริยันมาด้วย นี่คืออาวุธเทียนตี้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด ข้าจะกวาดมันออกไปเพียงแค่ครั้งเดียว!”
“ผู้อาวุโสสั่งให้นำไพ่ตายออกมา ผู้น้อยย่อมไม่กล้าละเลย นำค่ายกลระดับเทียนตี้มาด้วย สิ่งนี้ผ่านการเสริมกำลังมาจากเทียนตี้รุ่นแล้วรุ่นเล่า ผ่านการปรับปรุงมานับไม่ถ้วน เพียงแค่เปิดใช้ก็สามารถสังหารเทียนตี้ทั้งหมดได้!”
…
เทียนตี้แต่ละคนต่างกล่าวว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคำของเต่าเซียนเสวียนอู่ นำเอาไพ่ตายแข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาออกมา
เต่าเซียนเสวียนอู่มีอายุขัยยาวนานจนไม่อาจนับ ทั้งยังเก่งในการชี้แนะคนรุ่นหลัง เทียนตี้เหล่านี้ล้วนเคยได้รับการชี้แนะจากเต่าเซียนเสวียนอู่ พวกเขาจึงพร้อมทำทุกสิ่งเพื่อเต่าเซียนเสวียนอู่ด้วยความเต็มใจ!
หากมีคนนอกมาเห็นฉากนี้เข้าจะต้องตกใจกลัวจนแทบตายอย่างแน่นอน เทียนตี้เกือบเก้าในสิบส่วนของอาณาจักรอวี้ซวีมารวมตัวกัน นับเป็นเรื่องใหญ่อย่างถึงที่สุดแน่นอน ไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในอาณาจักรอวี้ซวีมาก่อน!
“ดี ดี ดี! มีพวกเจ้าอยู่ ข้าก็รู้สึกวางใจ!”
คล้ายมีกระแสน้ำอุ่นไหลเวียนในใจของเต่าเซียนเสวียนอู่ เขารู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ความดีที่เขาเคยทำไปในครั้งอดีตไม่ทำให้เขาผิดหวัง ทั้งยังเผยผลออกมาให้ได้ยลแล้วในตอนนี้
“ไป ไป ไป ข้าอยากให้พวกเขาได้รู้ว่าชายชราผู้นี้ไม่อาจรังแกได้โดยง่าย! วันนี้พวกเขาจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปอย่างสาสม!”
เต่าเซียนเสวียนอู่เดินนำหน้า ราวกับว่าเขาได้กลับไปยังช่วงวัยเยาว์ เต็มเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิม ต้องการให้ลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาจ่ายค่าชดใช้!
วันนี้ไม่ว่าใครก็ล้วนไม่อาจปกป้องลั่วสุ่ยกับมัจฉาสัตมายาได้!
[1] คานบนไม่ตรงคานด้านล่างก็พลอยเบี้ยวไปด้วย (上梁不正下梁歪) หมายถึง ผู้ใหญ่ที่ตำแหน่งสูง หรือ อายุมากไม่ประพฤติตนในทางเหมาะสม ผู้ที่อยู่ตำแหน่งต่ำลงมาหรือคนรุ่นหลังก็พลอยเป็นเช่นนั้นไปด้วย